xs
xsm
sm
md
lg

ล้วงตับ! เรื่องลับๆ "ไฮโซม่านฟ้า" ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เป็นผู้หญิงที่สังคมจับจ้อง มุ่งจับผิดจนสื่อต่างๆ ให้ความสนใจ และดึงตัวไปสัมภาษณ์ถึงประเด็นฉาว สำหรับ "ม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา" อาจจะด้วยความสวย ขับรถหรู มีของแบรนด์เนมใช้ แถมยังเป็นเจ้าของธุรกิจมากมายในวัย 25 ปี เลยชวนให้ใครหลายคนเกิดความสงสัยปนๆ กับความหมั่นไส้ถึงขนาดสืบประวัติ ลามไปถึงต้นตระกูล และแฉอะไรหลายต่อหลายเรื่องในอดีต

M-Lite สัปดาห์นี้ ได้มีโอกาสพูดคุยกับเธอ แม้จะบอบช้ำจากการซักถามของกองทัพสื่อ ไม่นับรวมที่ไปออกรายการอีกหลายรายการ แต่เธอยอมรับนัด และยินดีให้ล้วงลึกเรื่องราวลับๆ ในชีวิตส่วนตัว การทำงาน และความรัก รวมไปถึงบางส่วนของชีวิตที่ไม่เคยเปิดเผยจากสื่อไหนมาก่อน

"ม่านฟ้า" มาตรงตามเวลานัดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพระราม 9 กับลุกเซ็กซี่แบบผู้หญิงทำงานในชุดสายเดี่ยวสีดำ กระโปรงลายเส้นขาวดำเข้ารูป ถือกระเป๋า Hermes Ombre Lizard Kelly พร้อมด้วยเครื่องประดับหรูเป็นนาฬิกา Rolex ฝังเพชรทั้งเรือน สวมกำไล Hermes รุ่นใหม่ล่าสุด ต่างหู Chanel และรองเท้า Roger Vivier แต่ที่โดดเด่นดึงดูดสายตาสุดๆ เห็นจะเป็นแหวนเพชร 10 กะรัตที่นิ้วชี้ข้างซ้ายของเธอ


ทีมงานเปิดบทสนทนาแรกด้วยคำถามเกี่ยวกับการเดินทาง "วันนี้ขับลัมบอร์กินีสีทองมาเองไหม" เธอค่อยๆ สะพัดผมไปข้างหลังแล้วหันมาตอบด้วยรอยยิ้มที่สดใส พร้อมน้ำเสียงนุ่มๆ ฟังระรื่นหู "วันนี้ไม่ได้ขับมาค่ะ แต่มีคนขับรถมาส่ง ส่วนม่านก็หลับอย่างเดียวเลยค่ะ (ยิ้ม)"


เราพาเข้าประเด็นคำถามถึงการดำเนินชีวิตหลังถูกกระแสข่าวรุมเร้า โดยเธอบอกด้วยน้ำเสียงโล่งใจว่า ชีวิตตอนนี้มีความสุขมากขึ้นแล้ว


"ตอนนี้ก็แฮปปี้แล้วค่ะ หลังจากได้มีการเคลียร์ในประเด็นต่างๆ รวมไปถึงการโชว์หลักฐานเพื่อแสดงความจริงต่อสังคมว่าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เว็บไซต์พันทิปกล่าวหา ซึ่งกระทู้ต่างๆ ก็ลบออกไปหมดแล้ว เพราะเราบอกแล้วว่า ถ้าเรื่องไม่จริงอย่าเขียน ไม่เช่นนั้นเราจะฟ้อง ส่วนตัวไม่ได้อยากฟ้องร้องหรอกนะคะ อยากให้ออกมายอมรับ และขอโทษมากกว่า จนพอเรื่องมันบานปลาย คุณกลับไม่รับผิดชอบในคำพูดของคุณเลย


สุดท้ายพอเราจะฟ้องจริงๆ ก็ยอมออกมาขอโทษ 18 คน แต่ยังไม่ใช่คนต้นคิด เป็น 18 คนที่ไปคอมเมนต์ตามสิ่งที่ได้ดูมาแล้วก็ใส่อินเนอร์ลงไป พอเขามาขอโทษ เราก็ขอบคุณ และรู้สึกดี หลายคนกลายเป็นแฟนคลับเราไปหมดแล้ว (ยิ้ม) ในขณะที่หลายคนก็เริ่มเข้าใจเรามากขึ้น"




- หลังมีข่าวแบบนี้ ทำให้การใช้ชีวิตยากลำบากขึ้นไหม


"ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า คนรอบข้างเรา ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ เพื่อน หรือคนที่ทำงานด้วยกัน พอเขาได้ยินข่าว เขาก็ขำกัน เพราะรู้สึกเหมือนกันว่า บ้าไปแล้ว ซึ่งมันไม่มีเค้าของความจริงเลยแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว แต่หลังจากนั้น 3 วัน ชักจะไม่ขำละ (หน้าจริงจัง) คอมเมนต์ไปเป็นพันๆ พอเราเห็น ผู้ใหญ่ก็บอกให้เรานิ่ง แต่ตอนนั้นมันนิ่งไม่ได้ค่ะ เพราะเราไม่ได้เป็นแบบที่ใครๆ กล่าวหา ม่านจึงต้องออกมาชี้แจงรายละเอียด


พอออกมาชี้แจงก็กลายเป็นว่าอวดรวยอีก หนักกว่าเก่าเลยทีนี้ (ทำหน้าเซ็งๆ) ทั้งๆ ที่จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะอวด แต่เป็นสิ่งที่คนทั่วประเทศอยากรู้ เราก็แค่ชี้แจงในความจริงว่าเราเป็นใคร มาจากไหนจนค่อยๆ คลี่คลายทุกประเด็น ส่วนคนไม่เชื่อก็ยังคงมีอยู่ เราจะไปทำให้คนทุกคนรักเราไม่ได้ แต่สิ่งที่เราทำ เราสามารถทำให้ทุกคนเห็นในความจริงที่เราเป็นได้"


- ในบรรดาข่าวฉาว มีเรื่องไหนได้ยินแล้วไม่สบายใจที่สุด


"เรื่องการเป็นเมียน้อย แล้วก็ขายตัวค่ะ เป็นเรื่องที่พวกคุณมโนขึ้นมาแล้วเขียนกันเอง เราก็เลยบอกว่า ถ้าเป็นเมียน้อยใคร ระบุเลยนะคะ จะได้ชัดเจน จะได้รู้ด้วยว่า อ๋อ ฉันเคยเป็นเมียน้อยเขามาก่อน บอกตรงๆ ว่าตกใจกับข่าวนี้มาก มากล่าวหาแบบนี้กันได้อย่างไร ตัวม่านเอง มีแฟนมาน้อยมาก แล้วแฟนก็เป็นที่หนึ่งตลอด พอได้ยินข่าวว่าเป็นเมียน้อยเขาบ้าง สูบเงินจากเขาบ้าง อื้ม! เมียน้อยตอนไหน (คิ้วเริ่มขมวดเป็นปม)"


- คำถามจากสื่อที่ถามแล้วเกิดอาการจุกสุดๆ คือประเด็นอะไร


"ไม่มีค่ะ ม่านเข้าใจสื่อทุกสื่อ เข้าใจนักข่าวทุกคน เพราะต้องทำในประเด็นที่สังคมอยากรู้ ซึ่งคำถามบางคำถามแรงไหม แรงค่ะ แต่เขาจำเป็นต้องถามเพื่อให้ความกระจ่างต่อสังคม บางคนไม่ได้อยากถามหรอก แต่มันเป็นคำถามที่ประชาชนอยากรู้ ในเมื่อเรามายืนอยู่เบื้องหน้าแล้ว เราก็ต้องรับฟังความเห็นของคนอื่น ตัวม่านไม่เคยมองว่า เฮ้ย! ไม่โอเค นักข่าวถามแบบนี้ได้อย่างไร ม่านฟ้าเคารพสื่อทุกสื่อ เคารพคนทุกคน เรารักนักข่าวทุกคนด้วยซ้ำ ม่านต้องขอบคุณที่เป็นตัวกลางในการไขข้อข้องใจ โดยให้พื้นที่เราตอบแบบเคลียร์ๆ"


- ถ้าอย่างนั้น อยากให้เคลียร์คำกล่าวหาที่ว่า คุณเอา "นามสกุล" คนตายมาใช้


"เรื่องนามสกุลนี่ก็กล่าวหากันแรงเหมือนกันนะคะ หนักเลยเรื่องนี้ หาว่าไปเอาของคนตายมาใช้ ทั้งๆ ที่ความจริง เราคือลูกหลานของนามสกุล 'จันทรสาขา' จริงๆ เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเลยด้วยซ้ำ คุณตาเราชื่อคุณตาเอก จันทรสาขา ม่านฟ้าเป็นหลานแท้ๆ (เน้นเสียง) เลยค่ะ ซึ่งมีการคุยกันในวงศ์ตระกูล และก็งงเหมือนกัน เพราะเรามีญาติเป็นร้อยๆ คน ไม่มีใครรู้หรอกค่ะว่าคุณนามสกุลอะไร คนส่วนใหญ่จะจำว่า อ้าว! ม่านฟ้า หรือคุณเอ คุณบี คุณซี ไม่มีใครถามหรอกค่ะว่า คุณม่านฟ้านามสกุลอะไรคะ นอกจากคุณเป็นดารา นักแสดง หรือเป็นคนที่มีชื่อเสียง


เหมือนตัวม่านเอง ม่านก็ไม่ได้รู้จักญาติทุกคนนะคะ รู้จักญาติจันทรสาขาจริงๆ แค่ 4-5 คนเอง แต่พอเป็นข่าวขึ้นมา มันก็ดีค่ะ (ยิ้ม) จริงๆ ก็ต้องขอบคุณพันทิปที่ทำให้เราได้รวมญาติของเราหมดเลย ส่วนนามสกุลนี้เป็นนามสกุลพระราชทาน ต้นตระกูลมาจากฝั่งอีสานค่ะ"




- เคลียร์ชัดๆ อีกทีได้ไหม กรณีกระแสข่าวที่บอกว่ามีคนซื้อรถลัมบอร์กินีให้คุณ


"ลัมบอร์กินีสีทอง เป็นของม่านฟ้าร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ เงินของเรา รถของเรา ชื่อของเราค่ะ ไม่ได้มีการไปขโมยใครเขามา หรือไปสูบเงินใครเขามา หรือมีนักการเมืองคนไหนซื้อให้ ไม่ใช่นะคะ ม่านฟ้าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับนักการเมืองนะคะ ยืนยันชัดเจนแล้วนะคะ


บอกตรงๆ เรารู้สึกแย่นะ ตรงที่ว่า ทำไมอ่ะ การเป็นผู้หญิงหน้าตาโอเค อายุน้อย และมีตังค์เนี่ย สังคมมองว่าต้องเป็นเมียน้อยเหรอคะ ต้องมีผู้ชายเลี้ยงเหรอคะ คนไหนเลี้ยงคะ ออกมาหน่อยค่ะ ไม่มีใครกล้าออกก็เพราะว่ามันไม่มีอ่ะ มันไม่มีข้อมูลใดๆ เลยว่า เราเป็นเด็กใคร หลายคนบอกว่าเป็นเด็ก พพ. เราเป็นอดีตแฟนกันนะคะ ไม่ใช่เป็นเด็ก คือตัวเขาเองก็ชัดเจนว่าคนนี้เป็นแฟนนะ แล้วอีกอย่าง เราไม่เคยมีอะไรเกี่ยวข้องกันทางธุรกิจเลย ต่างคนต่างทำงาน คุณ พพ.ก็ทำงานของเขาไป เราก็ทำงานของเราไป จากนั้นก็เลิกรากันไป โห! ตั้งหลายปีมาแล้ว"


- อีกเรื่องที่คนสงสัย ทำไมไม่ยอมให้ไปเปิดบ้าน พยายามจะปกปิดอะไรหรือเปล่า


"บ้านมันคือที่ส่วนตัวหรือเปล่าคะ สำหรับตัวม่าน ที่ทำงานเปิดเผยได้ค่ะ จริงๆ ก็ไม่ได้อยากเปิดเผยหรอกค่ะ แต่ในเมื่อคนอยากรู้ เรายอมเปิดเผยให้ดูก็ได้ เพื่อความสบายใจ แต่เรื่องบ้าน ม่านอยากปกป้องความเป็นส่วนตัวของเราบ้าง เพราะตอนนี้มีคนสนใจชีวิตเรามาก เราควรมีพื้นที่ที่ปลอดภัย และอุ่นใจ ถ้าคุณอยากจะรู้ คุณดูในอิสตาแกรมเราคุณก็น่าจะรู้หมดแล้ว คุณจะอยากรู้เรื่องของเรามากขนาดนั้นเลยเหรอคะ รอให้เป็นนางเอกก่อนไหมแล้วค่อยมาอยากรู้ หรือบางคนบอกให้เรามาชี้แจงทรัพย์สิน เดี๋ยวก่อนนะคะ (ยกมือเบรก) ม่านฟ้าไม่ใช่นักการเมืองนะคะ ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้หรือเปล่าคะ เราแค่นักธุรกิจคนหนึ่ง


ดังนั้น อยากให้เข้าใจม่านด้วยนะคะ ถ้าเป็นตัวคุณ คุณอยากจะให้คนอื่นๆ ก้าวเข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัวของคุณมากมายขนาดนี้ไหมคะ แค่เราเอาทรัพย์สินบางอย่างมาเปิดเผย มันก็เยอะแล้วนะ หากจะให้เราระบุที่มาของรถคันนี้มาจากที่นี่ๆ จดทะเบียนมาอย่างนี้ๆ โอ้! ขอความเห็นใจเราบ้างเถอะค่ะ"


- ถึงวันนี้ บอกได้ไหมว่าทรัพย์สินที่มีมูลค่ามากที่สุดคืออะไร


"บอกไม่ได้ค่ะ (ยิ้ม) บอกแค่ว่า ทุกอย่างซื้อเองค่ะ ทั้งบ้าน ทั้งรถ เครื่องประดับ เสื้อผ้า และอื่นๆ เอาเป็นว่าทุกวันนี้มีทรัพย์สิน และเงินมากพอที่คนๆ หนึ่งจะสามารถดูแลคนอีกเป็นร้อยๆ ชีวิตได้ เท่านี้ก็น่าจะตอบเพียงพอแล้วนะคะ เพราะถ้าตอบไปมากกว่านี้ คุณก็มาหาว่าเราอวดรวยอีก ขอตอบแบบรวมๆ ก็แล้วกันค่ะ"




- ชื่อ "ม่านฟ้า" คุณได้แต่ใดมา


"จริงๆ ไม่ได้ชื่อนี้มาตั้งแต่เกิดค่ะ ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้คือ สรญา ชื่อเล่นชื่อนันค่ะ แต่ตอนนั้นมีเพลงดังๆ อย่างเพลงแนนซี่ เพื่อนๆ ก็เลยเรียกว่าเรานันนี่ หลังจากนั้นพอเรียนชั้นมัธยมก็เปลี่ยนมาเป็นม่านฟ้า เพราะไปดูดวงกับโหราศาสตร์ท่านหนึ่ง และเป็นคนที่ตั้งชื่อให้กับบุคคลหลายๆ คน


ตอนนั้นท่านบอกกับเราว่า เราควรเปลี่ยนชื่อนะ เพราะส.เสือ เป็นตัวกาลกิณีกับวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันเกิดของเรา ถ้าเปลี่ยนเราจะประสบความสำเร็จในทุกๆ เรื่อง มันจะไม่มีการขัดกัน หมอก็เลยมอบชื่อให้ใหม่เป็น ม่านฟ้า อรปภัตร (แปลว่าผู้หญิงรัศมีงาม) เพราะม่านฟ้ากับชื่อจริงบวกเลขกันแล้วได้เลขที่เป็นศิริมงคล ส่วนอีกชื่อที่ท่านเสนอให้ก็คือ ใบเฟิร์น ส่วนตัวมองว่าชื่อนี้มีเยอะมากในสังคม สุดท้ายก็เลยเลือกชื่อม่านฟ้าค่ะ"


- รู้สึกอย่างไรกับชื่อใครหลายคนเรียกกันติดปากว่า "ไฮโซม่านฟ้า"


"ขอบคุณค่ะ (ยิ้มหวาน) เป็นฉายาที่เราต้องขอบคุณจริงๆ เพราะการจะตั้งฉายาๆ หนึ่งได้นั้น ต้องเป็นสิ่งที่คนหมู่มากมองแล้วว่ามันใช่ สิ่งแรกเลย เราต้องขอบคุณ ถามว่ายอมรับไหม ถ้าคุณตั้งมาให้ เราก็ยอมรับ ไม่มีใครไม่อยากได้ฉายานี้ ซึ่งเราก็ไม่ได้มองว่ามันขัด ส่วนฉายาม่านฟ้าไฮโซพันล้าน มันก็แค่ฉายาค่ะ ไม่ได้แปลว่าเรามีเงินพันล้าน ถ้ามีพันล้านนี่ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ สาธุ (ยกมือขึ้นไหว้เหนือหัว)”


- จริงๆ แล้ว คุณคือ "ไฮโซ" จริงไหม


"ต้องถามก่อนว่า ไฮโซของแต่ละคนคืออะไร ไฮโซของคุณคืออะไร (เอามือมาแตะและถามผู้สัมภาษณ์ที่นั่งอยู่ข้างๆ) ถ้าถามม่านฟ้า ไฮโซคือคนที่ประสบความสำเร็จ คนที่สามารถใช้ของแบรนด์เนมโน่นนี่นั่นเท่าที่คุณอยากใช้โดยไม่ได้เดือดร้อนใคร ไม่ได้ไปขอเงินใครมาซื้อ สำหรับเรามันก็โอเคนะ ชาติตระกูลก็โอเคนะ

ส่วนตัวไม่ได้ให้ค่ากับคำว่าไฮโซนะคะ คือใครจะเรียกหรือไม่เรียก เราไม่แคร์เลย ขอให้คุณมองเราในแง่ดี หรือมองเราในแง่ข้อเท็จจริงก็พอแล้ว แต่ถ้าเมื่อไรที่บอกว่าม่านฟ้าเป็นไฮโซเก๊ ไฮโซปลอม ตรงนี้เราไม่โอเค มันเป็นคำพูดที่ไม่จริง และแรงเกินไป ถ้าม่านฟ้าปลอม ม่านคงมายืนเป็นม่านฟ้าในวันนี้ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะของทุกอย่างมันพิสูจน์ได้ว่าจริงหมด"

เปิดเส้นทางการศึกษา "ไฮโซม่านฟ้า"




- บอกเล่าเส้นทางการศึกษาให้ฟังหน่อย


"อนุบาล ประถม จำไม่ได้แล้วค่ะ ไล่มาตั้งแต่มัธยมดีกว่า ม่านเรียนโรงเรียนโพธิสารพิทยากร จากนั้นมาเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต สาขาการโรงแรม และการท่องเที่ยวค่ะ พอจบปุ๊บก็ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเกริกในระดับปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ สื่อสารการเมืองการปกครอง ปัจจุบันกำลังศึกษาในระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยเกริก สาขาสื่อสารการเมืองการปกครอง ตอนนี้เหลือแค่ 3 บทสุดท้ายก็จะจบปริญญาเอกโดยสมบูรณ์ เรื่องหัวข้อในการทำป.เอก ม่านทำเรื่องการสื่อสารทางการเมืองของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตค่ะ"


- ทำไมถึงตัดสินใจเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต


"ตอนจะขึ้นมหาวิทยาลัย ตอนนั้นเล่นละครเรื่องแรก น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ พอเรามีโปรไฟล์ เวลาจะเข้ามหาวิทยาลัย เขาจะมีคอนเนกชั่นพิเศษ คือตัวม่านเอง ถูกจองตัวตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ ซึ่งมีหลายที่ติดต่อให้เราไปเรียน มีทั้งมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต มหาวิทยาลัยนอร์ท และอื่นๆ หลังจากติดต่อเข้ามา เขาบอกให้เราไปสัมภาษณ์เพื่อไปเป็นนักเรียนทุน ทั้งทุนเรียนดี และทุนนักแสดง ส่วนตัวอยากเรียนที่เอแบค ม.กรุงเทพ แต่พอเราเข้าไปปุ๊บ ส่วนตัวรู้สึกว่าเขาเป็นสังคมในเมือง ซึ่งไม่ตรงกับความต้องการในการเรียนของเรา


กระทั่งมาเจออาจารย์ท่านหนึ่งที่สอนอยู่มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ท่านก็ชวนเราไปเรียนที่นั่น พอม่านได้เข้าไปดู โอ้! ชอบมากเลยค่ะ อยู่ไกลพ่อแม่มากๆ (หัวเราะ) มาเรียนไกลๆ พ่อแม่จะได้ไม่ตาม เพราะที่บ้านจะหวงมาก สุดท้ายตัดสินใจเรียนที่นี่ เพราะมีทัศนียภาพที่ดี มีความเป็นธรรมชาติ ส่วนตัวชอบบรรยากาศการเรียนแบบนี้ ไม่อยากได้บรรยากาศที่มีการมานั่งถามกันว่า วันนี้เธอใช้กระเป๋าอะไร ขับรถอะไรมา"


- มีความคิดที่จะไปเรียนเมืองนอกบ้างไหม เพราะเท่าที่สังเกตดู ลูกคนมีเงินส่วนใหญ่ มักจะเลือกไปเรียนต่างประเทศกัน


"ถามว่าทำไมไม่ไปเรียนเมืองนอก สำหรับม่าน ที่เมืองไทยก็เรียนได้ เราเชื่อศักยภาพการเรียนการสอนในประเทศไทย อีกอย่าง ม่านเองก็ไม่ใช่เด็กเรียนแย่ มีความรับผิดชอบอยู่ในระดับสูงมาก เป็นคนทำอะไรแล้วต้องทำให้สำเร็จ จนจบปริญญาตรีออกมาด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2"




- แล้วทำไมถึงเลือกเรียนปริญญาโท และเอกที่มหาวิทยาลัยเกริก


"คอนเนกชั่นค่ะ" เธอตอบคำถามในทันที "ที่นี่มีนักการเมือง นักธุรกิจชั้นผู้ใหญ่หลายๆ ท่านมาเรียน ซึ่งเราก็มุ่งมาทางสายนี้อยู่แล้วด้วย บวกกับได้คุยกับอธิการบดี (ดร.นันทนา นันทวโรภาส) ซึ่งท่านเป็นผู้หญิงเก่งมาก ทั้งการพูด การวางตัว ทัศนคติ ม่านจึงเลือกเรียนที่นี่ค่ะ


ถามว่าทำไมเรียนเยอะจัง ส่วนตัวมองว่า การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าเว้นวรรคการเรียนเราจะขี้เกียจ ซึ่งการเรียนไม่ใช่จบกันง่ายๆ เราเรียนเหนื่อยมาก แค่ทำวิทยานิพนธ์ก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ส่วนตัวเป็นคนมุ่งมั่น อดทน ทำให้ผ่านมันมาได้ ประกอบกับม่านมีอาจารย์ที่ปรึกษาที่ดี มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ขยันเรียน และสัญญาว่าจะจับมือกันจบ สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจในการเรียน"


กว่าจะเป็นนักธุรกิจหญิงเก่ง


- มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร จุดที่สร้างธุรกิจมากมายทั้งๆ ที่อายุยังน้อย (25 ปี)


"ทุกอย่างมาจากตัวเอง แล้วก็สภาพแวดล้อมค่ะ ม่านถูกหล่อหลอมจากคนรอบข้างให้เป็นนักธุรกิจที่ดี ในชีวิตม่าน น้อยมากที่จะมีเพื่อนในรุ่นเดียวกัน มีแต่เพื่อนรุ่น 30, 40, 50 ซึ่งแต่ละคนเป็นนักธุรกิจทั้งนั้น พวกเขาทำให้ม่านรู้สึกว่า เขาเป็นได้ทั้งพี่ ทั้งเพื่อน ที่ปรึกษา ทุกคนทำธุรกิจมีปัญหาหมด เราก็มีปัญหา ลำพังจะไปปรึกษาเพื่อนในรุ่นๆ เดียวกัน มันไม่ได้อยู่แล้วค่ะ เราต้องปรึกษารุ่นผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ที่ดี และเคยผ่านน้ำร้อนมาก่อน เมื่อเราได้เรียนรู้จากท่านๆ พอเรามีธุรกิจ มันทำให้โอกาสที่เราจะก้าวพลาดนั้น มีน้อยมากๆ


นอกจากนั้น ยังมีต้นแบบที่ดีจากคุณพ่อ ซึ่งท่านจะเก่งเรื่องยานยนต์ ปัจจุบันคุณพ่อทำธุรกิจรถเช่า (แท็กซี่กับสองแถว) ที่จ.ภูเก็ต และกรุงเทพฯ ส่วนคุณแม่ทำหน้าที่ดูแลบัญชี สำหรับธุรกิจของบ้าน ทำกันมาเป็นสิบๆ ปีแล้วค่ะ คุณพ่อจะสอนเรื่องความซื่อสัตย์ เวลาท่านทำธุรกิจกับใครจะไม่มีปัญหาเลย ส่วนพี่ชาย (ลูกพี่ลูกน้องของพ่อที่ม่านฟ้านับถือเป็นพี่ชาย) จะสอนเรื่องเทคนิคการทำธุรกิจ ไล่มาตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะเราไม่รู้อะไรเลย ดังนั้น ม่านจะทำตัวให้เหมือนเป็นแก้วเปล่าที่พร้อมจะเติมน้ำอยู่ตลอดเวลา


สำหรับพี่ชายคนนี้ เป็นคนที่เก่งเรื่องธุรกิจมากๆ ดูแลธุรกิจประมาณ 50 ธุรกิจ เป็นคนเปลี่ยนความคิดเด็กผู้หญิงที่มีความฝันว่าอยากจะเป็นแอร์โฮสเตส นางงามมาเป็นนักธุรกิจ พี่เขาเชื่อมั่นในตัวเราสูงมากว่า ในอนาคตเราจะเป็นนักธุรกิจ และทำธุรกิจได้ดีมากๆ ถ้าเราเดินตามทางที่พี่สอน นับตั้งแต่วันนั้นมา เราก็ให้คำมั่นเลยว่า เราจะเดินตามขีดที่พี่ขีดไว้ให้เดิน จนเราประสบความสำเร็จทางธุรกิจหลายๆ อย่างในวันนี้"


- เริ่มมีธุรกิจเป็นของตัวเองตอนอายุเท่าไร


"เป็นคนชอบหาเงินตั้งแต่เด็ก รู้สึกว่าการหาเงินสำหรับเราไม่ใช่เรื่องยาก แต่ที่บ้านจะไม่ค่อยสนับสนุน พ่อกับแม่จะบอกให้เรียนเยอะๆ เรียนสูงๆ เพื่อมาบริหารงานของที่บ้าน แต่ในความคิดเรา มันไม่ใช่ กว่าจะจบแล้วไปบริหารงานของที่บ้าน มันนานนะคะ แต่ถ้าเราเก็บเงินได้ เราก็จะได้มีธุรกิจของตัวเอง ดังนั้น ตอนอายุ 19 จึงเริ่มทำงานเป็นพนักงานที่สถาบันเสริมความงามแห่งหนึ่ง ค่อยๆ เลื่อนขั้นมาเป็นผู้จัดการ เพราะว่าทำยอดเก่ง (ยิ้ม) ทำไปทำมาประมาณ 1 ปีก็ได้หุ้นของบริษัทมา เพราะเราตั้งใจจะออก แต่เจ้าของเห็นว่าเราทำงานได้ เขาจึงให้หุ้น


แต่กว่าจะเป็นที่ไว้วางใจของผู้ใหญ่ ก็ต้องรู้จักเข้าหา ไม่ประจบประแจงจนเกินไป ส่วนตัวม่านจะเป็นคนอยากรู้แล้วให้ผู้ใหญ่สอน เราจะไม่เถียง ไม่อะไรเลย เป็นเด็กที่ฟัง ชอบฟังมากๆ ฟังแล้วเอามาประมวลเป็นเหตุผลของเราเองว่า สิ่งที่เขาพูดมันถูกไหม มันโอเคไหม ซึ่งบางคนเข้าใจว่า ผู้ใหญ่ชอบคนประจบ ไม่จริงค่ะ ผู้ใหญ่ชอบเด็กที่ต้องการเรียนรู้จริงๆ กระหายที่จะเรียนรู้จริงๆ และที่สำคัญ ผู้ใหญ่ชอบเด็กที่มีมารยาทในการฟัง





ม่านฟ้ากับคุณแม่
กลับมาประเด็นธุรกิจ (หัวเราะ) พอได้หุ้นมา เราก็ขายหุ้น ได้เงินมาก้อนแรกในชีวิตประมาณหลักล้าน ส่วนพ่อแม่เห็นว่าลูกฉันเก่ง และมีแวว ท่านก็นำเงินส่วนหนึ่งของท่านมาให้เราลงทุน อยากทำอะไรก็เอาไปต่อยอดได้เลย ธุรกิจแรกที่ทำก็คือ ทำอาหารเสริม ต่อด้วยธุรกิจรถเช่า ทำเสื้อผ้า ทำของแบรนด์เนม

ปัจจุบัน เป็นประธานสหกรณ์รถแท็กซี่ คอลเซ็นเตอร์จังหวัดภูเก็ต, มีธุรกิจรถเช่า (รถสองแถว) ในนาม นภัสสร 555, บริษัทมาเฟลล่า อิตาลี กรุ๊ป จำกัด, ม่านฟ้า กรุ๊ป จำกัด, มาเฟลล่า เวดดิ้ง, เจ้าของบริษัท btbindustry และเจ้าของโครงการ Paradise beach club ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต (เปิดตัวในเร็วๆ นี้) ล่าสุดที่กำลังจะเปิดก็คือ ธุรกิจสปากระเป๋า ขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง โดยจะเปิดสาขาใหญ่ที่ห้างเซ็นทรัลพระราม 9 ชั้นล่างสุดค่ะ"


- บริหารธุรกิจอย่างไรในวัย 25 ปี


"การบริหารลูกน้องของม่าน ทำยากเนื่องจากเราอายุน้อย เราต้องใช้บารมีด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งบารมีไม่ได้สร้างแค่วันเดียว เราต้องมีทั้งพระเดชพระคุณกับลูกน้อง เราไม่ใช่เลี้ยงลูกน้องแค่เงินเดือนอย่างเดียว มันต้องมีเรื่องอื่นประกอบกันด้วย เช่น ความช่วยเหลือ การให้คำปรึกษา ส่วนหลักการบริหารของม่านฟ้า เราจะนิ่งๆ เงียบๆ รับฟังเขาก่อน ฟังความคิดของพวกเขาจากนั้นมาวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียว่าอันไหนมีมากกว่ากัน"


- อนาคตต่อจากนี้ วางแผนไว้อย่างไรบ้าง


"อยากขยายธุรกิจให้มีความมั่นคง แข็งแรงมากกว่านี้ ตอนนี้มีกลุ่มธุรกิจพาสติกที่ส่งออกบ้าง แต่อยากทำในประเทศไทยให้แข็งแรงก่อน แค่ในประเทศก็ยากแล้วค่ะ เพราะมีการแข่งขันกันสูงมากทั้งในเรื่องของเงินทุน การตลาด โอ้โห! เรียกว่าฆ่ากันตายเลยอ่ะค่ะ ดังนั้น เราจึงต้องมีความแข็งแรงมากพอสมควร ตัวผู้บริหารเองก็ต้องมีความแข็งเกร่งด้วย คือเราอยากให้ทุกอย่างมันโตไปด้วยกัน ให้มันแข็งแรงในทุกๆ ก้าวที่เราเดิน


ล้วงลับ "ความรัก" ม่านฟ้า


- เป็นข่าวกับหนุ่มๆ มากมาย ไม่ถามไม่ได้ถึงชายหนุ่มชื่อ "เป็ก รัฐภูมิ" เขาว่ากันว่าเป็นหวานใจตัวจริง

"กับเป็ก รัฐภูมิ ไข่นาค (นักแสดงช่อง 3) เราเป็นแค่เพื่อนสนิทค่ะ ยังไม่ใช่แฟน ตอนนี้ก็ยังเปิดโอกาส และมีคนเข้ามาจีบอยู่ค่ะ (ยิ้ม) สี่ห้องหัวใจยังไม่ได้ปิดนะคะ (พูดอ้อนๆ) ส่วนสถานะกับเป็กตอนนี้ ถือว่าเป็นผู้ชายที่สนิทที่สุด ซึ่งตรงตามสเปกเลย สูง ขาว หล่อ ตี๋ เกาหลีนิดนึง (ยิ้มเขินๆ)"


- ข่าวกับพระเอก ส.เสือ ตอนนี้เคลียร์กันหรือยัง

"เห็นสัมภาษณ์ล่าสุดไหมคะ แรงไหมคะ เขาแรงนะ ถ้าคนที่อ่านสัมภาษณ์ม่านตั้งแต่แรก ทุกคนยังบอกว่าทำไมคุณม่านฟ้าปกป้องเขาจังเลย ส่วนเรื่องแชตไลน์ที่หลุดออกมา คนบางคนไม่ชอบม่าน เพราะม่านเป็นคนตรง หาว่าม่านเป็นคนตัดต่อไลน์ แต่เราบอกแล้ว ความจริงคือความจริง ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรมันก็ต้องออกมาอยู่วันยังค่ำ ซึ่งวันนี้มันก็เป็นความจริงที่คลี่คลายไปเลยว่า ม่านฟ้าไม่ได้ทำนะคะ (เน้นเสียง)


แฟนคลับของทางฝั่งพระเอก ส.เสือ ก็อาจจะไม่เข้าใจว่า เฮ้ย! เราเกาะกระแสดังหรือเปล่า ตัดต่อไลน์แน่ๆ ซึ่งม่านก็ยังยืนยันว่า ไลน์ไม่ได้หลุดมาจากเรา แล้วมันหลุดมาจากใคร จากเขาหรือเปล่า อันนี้ไม่รู้ค่ะ แต่ข้อความมันมาจากฝั่งเขา มันคืออะไร แล้วเขาบอกว่าโทรศัพท์หาย แสดงว่ามันต้องหลุดมาจากม่านเหรอคะ ไม่ใช่นะคะ โทรศัพท์ม่านฟ้าก็อยู่กับม่านฟ้านะคะ


เอาจริงๆ นะ เหมือนที่เราเคยตอบไปแล้ว ม่านมีไลน์ต้นฉบับนะคะ ตัดต่อหรือไม่ตัดต่อ ถ้ามันถึงขั้นนั้นที่ต้องเปิดดู มันก็ต้องเปิดนะคะ เพราะเราเป็นคนตรง แล้วอีกอย่าง นักข่าวเขามีตา มีสมอง เขาดูได้ว่าใครโกหก หรือไม่โกหก เราปกป้องทุกคนที่เป็นข่าวกับเรา เหมือนคุณฟิล์ม รัฐภูมิ เป็นข่าวกัน ไม่เห็นต้องพูดถึงกันในแง่ไม่ดีเลย เขาก็เป็นผู้ชายที่ดีมากๆ คนหนึ่ง เราให้เกียรติเขา เขาทำธุรกิจกับเรา ก็แค่ตอบตามความเป็นจริง


พอเป็นข่าวกับพระเอก ส.เสือ เขาให้สัมภาษณ์ในเชิงที่ว่า ไปเกาะกระแสเขาดัง จริงๆ คุณตอบอย่างอื่นก็ได้นะคะ คุณส.ขา พูดแบบนี้ม่านเสียหายนะคะคุณส. (เธอก้มลงพูดใส่เครื่องอัดเสียงเพื่อส่งสารชัดๆ ไปถึงพระเอกส.ที่เป็นข่าวกับเธอ) ที่ม่านรู้สึกว่ามันไม่โอเค เพราะคุณเป็นผู้ชาย แมนๆ หน่อยค่ะ กล้าทำ กล้ารับ ไม่เห็นจะยากเลย เราอุตส่าห์รักษาภาพให้ เพราะคุณคือพระเอก คุณควรจะให้เกียรติผู้หญิงเช่นเดียวกัน คุณถึงจะเป็นพระเอกทั้งในจอและนอกจอ"


- ถึงวันนี้หนักใจเรื่องไหนมากที่สุด


"เรื่องนี้แหละค่ะ เรื่องที่พระเอก ส.เสือ ให้สัมภาษณ์ในลักษณะบิดเบือน เรารู้สึกว่าจะตอบแบบนี้ไปเพื่ออะไร ถ้าเจอเขาก็คงถามค่ะ ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสได้เจอ ส่วนตัวก็อยากเจอเหมือนกันนะคะ อยากถามว่าพูดแบบนั้นไปเพื่ออะไร ต้องการให้คนมองว่าเราไม่ดีเหรอ หรือต้องการให้คนมองว่าเรามาเกาะกระแสคุณ"


ยอมรับ "สวยเป๊ะ" เพราะศัลยกรรม





ถ้าพูดถึงความสวยความงามของเธอต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะมีตำแหน่งการันตีมาแล้ว ทั้งตำแหน่งดาวคณะศิลปศาสตร์, นางนพมาศประจำปี 2553 ในการประกวดภายในของมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต นอกจากนี้เธอยังเคยร่วมเวทีมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2011 โดยผ่านเข้ารอบ 44 คนสุดท้าย ก่อนจะได้ตำแหน่งรองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์บีชอินเตอร์เนชั่นแนล (Miss Thailand Beach International 2011) มาครอง และได้เข้ารอบ 30 คนสุดท้ายมิสไทยแลนด์เวิลด์ แต่สละสิทธิ์ไปก่อน เนื่องจากติดสอบ

"เพิ่มเติมมาเยอะค่ะ (ยิ้ม) เริ่มที่จมูก ต้องบอกก่อนว่า ม่านไม่ได้ใส่ซิลิโคนนะคะ ม่านมีเนื้อจมูกอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่มีหยดน้ำ ม่านจึงไปทำกับหมอโดยเอากระดูกหลังหูมาใส่ เพราะไม่ค่อยอยากใช้ซิลิโคน ส่วนคาง อุ้ย! ไปทำมาหรือเปล่า เปล่าค่ะ หน้ายาวอยู่แล้ว ซึ่งการจัดฟันช่วยได้มาก แต่ก่อนมีเขี้ยว หน้าอวบมากกว่านี้ ตอนนี้กี่ปีแล้วคะ หน้ามันก็ต้องเปลี่ยนไปธรรมดา อีกอย่างม่านอัดโบท็อกกับฟิลเลอร์ ปัจจุบันปาเข้าไปหลายร้อยยูนิตแล้ว ชัดเจนนะคะ ส่วนอื่นๆ ก็ทำผม ทำผิวทั่วไป เน้นการดูแลจากการรับประทานอาหาร การบำรุงผิว การออกำลังกาย และการนอนหลับให้เพียงพอ


ดังนั้น ใครจะทำสวยในยุคนี้ คุณต้องมีตังค์ด้วยนะ ขยันหาตังค์ด้วยนะ เพราะความสวยต้องใช้เงินค่ะ สาวๆ ที่อยากทำสวย คุณก็ต้องทำงานก่อน ขยันทำมาหากินเพื่อให้มีเงินมาทำสวย มันถึงจะถูกต้อง"


ขณะที่ในแวดวงดนตรีก็อาจจะคุ้นหน้าเธอคนนี้อยู่บ้าง เพราะเจ้าตัวเคยคว้ารางวัลชนะเลิศในการประกวดร้องเพลงโครงการ Singing Camp Contest ปี 2548 ที่โรงเรียนดนตรีสยามกลการเป็นผู้จัด รวมถึงได้ตำแหน่งรองชนะเลิศในการประกวดร้องเพลง “พวงมาลัย” โครงการ ต้านยาเสพติด


เปิดมุมชีวิตที่ใครหลายคนยังไม่รู้


"ชีวิตของม่านฟ้าทำงานทุกวันค่ะ เห็นแต่งสวยออกไปโน่นไปนี่ ม่านฟ้าทำงานทุกวันค่ะ ประชุมๆ ทั้งวัน ถ้าคนที่โทร. มานัดคิวงานกับเลขาฯ จะรู้เลยว่า งานยุ่งมาก แต่ถ้าสื่อขอสัก 1 ชั่วโมงเราก็พยายามให้ความร่วมมือกับทุกสื่อ อย่างน้อยๆ ก็เป็นช่องทางให้เราได้ชี้แจงรายละเอียด และเป็นช่องทางให้คนรู้จัก และเข้าใจเรามากขึ้น


ถามว่ามีเวลาชอปปิ้งทุกวันไหม ไม่เลยค่ะ อาทิตย์นึงแค่วันสองวัน แค่นี้ก็เยอะแล้ว ซึ่งการซื้อของ มันกลายเป็นเรื่องลงทุนละ ไม่ได้ซื้อของฟุ่มเฟือย เพราะธุรกิจคือการต่อยอด ส่วนเวลาพักผ่อนม่านเต็มที่ค่ะ 8 ชั่วโมงต่อวัน เพราะการนอนหลับสำหรับเราสำคัญมาก



อีกอย่างที่ใครหลายคนยังไม่รู้ก็คือ ม่านไม่ค่อยเที่ยว และไม่ดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดด้วยค่ะ ม่านฟ้าไม่เคยดื่มเลยตั้งแต่เกิดจนถึงทุกวันนี้ (เน้นย้ำ) ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นยา ไม่เล่นการพนัน เรื่องนี้ที่บ้านไม่เคยห้าม แต่ม่านมองว่ามันเป็นสิ่งไม่ดี เราเลยไม่ยุ่งดีกว่า แต่ผู้ใหญ่หลายๆ ท่านบอกว่า การเข้าสังคมอาจจะต้องดื่มไวน์บ้าง เราคงจะต้องฝึกกินบ้าง ส่วนตัวพยายามเลี่ยง อันไหนเลี่ยงได้เราก็เลี่ยง

ส่วนเวลาว่างๆ อื่นๆ ม่านเป็นคนชอบทำบุญ แต่คนไม่รู้ เพราะเราไม่ได้ป่าวประกาศให้โลกรู้ เดี๋ยวจะหาว่าสร้างภาพอีก ซึ่งการทำบุญแต่ละครั้ง ม่านฟ้าทำหมด ไม่ว่าจะเป็นสร้างพระ ทำบุญกับสุนัข หรือคนที่มีปัญหา นอกจากนั้นยังชอบวางแผนธุรกิจให้คนอื่นด้วย

- ความสุขในวันนี้ของ "ม่านฟ้า" คืออะไร


"ประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจมากๆ (เน้นเสียง) เพราะอายุแค่นี้ ได้แค่นี้ เราว่ามันสุดแล้วนะ เราอยากใช้ชีวิตยังไงเราก็ใช้ ซื้ออะไรเราก็ซื้อ อยากทำอะไรก็ทำ เราอยากมีลูกน้องกี่คน ตอนนี้ก็มีหมดแล้ว ไม่มีอะไรในชีวิตที่เราอยากได้แล้ว อยากได้ตอนนี้ก็คือ อยากทำธุรกิจที่สามารถหล่อเลี้ยงชีวิตของพนักงานให้ทุกคนมีความสุข ให้สมาชิกในสหกรณ์ของเรามีความสุข ให้ลูกค้าของเราทุกคนมีความสุข


แต่กว่าจะมีวันนี้ ตัวม่านเองก็ต้องดิ้นรนเหมือนกัน ต่อให้พ่อแม่มีเงินล้นฟ้า แต่ถ้าลูกผลาญเอาๆ มันก็หมด ต่างกับครอบครัวที่พ่อแม่มีเงินแค่ส่วนหนึ่ง แต่ลูกนำมาต่อยอดให้มันมากขึ้น ม่านว่าอย่างหลังน่าภูมิใจกว่านะ แล้วอีกอย่าง ธุรกิจของที่บ้าน ม่านแทบไม่ได้เข้าไปยุ่งเลย ของคุณพ่อก็ของคุณพ่อ ส่วนของเราก็ของเรา ตอนนี้อยากให้คนโฟกัสไปที่ตัวงานมากกว่าว่าทำไมเขาถึงมีวันนี้ มีเส้นทางความสำเร็จอย่างไร"


- มีอะไรอยากจะพูด หรือฝากถึงใครในสังคมไหม


"ม่านอยากฝากถึงสังคมในโลกโซเชียลมากกว่าค่ะ เพราะมันกว้างมาก มันสามารถทำร้ายคนทุกคน ซึ่งไม่ใช่แค่ม่านคนเดียว ดารา คนมีชื่อเสียง หรือบุคคลอื่นๆ เขาก็โดนเหมือนกัน บางคนแค่ไม่อยากมาต่อร้องต่อเถียงด้วย เพราะมันเสียเวลา แต่ม่านกลับมองว่า มันเป็นส่วนที่เราจะต้องทำให้เป็นตัวอย่าง ถ้าสิ่งนั้นมันไม่จริง เราก็ไม่จำเป็นต้องยอมรับ แต่สังคมส่วนใหญ่มักจะมองว่ามันจริงเพียงแค่อ่านพาดหัวมาอย่างเดียว คนที่เสียหายมันคือตัวของเรา ครอบครัวของเรา ชื่อเสียงของบริษัทเรา ซึ่งเรายอมไม่ได้ค่ะ


คุณไม่รู้หรอกว่าเราเสื่อมเสียขนาดไหน คุณแค่นั่งอยู่หน้าจอคอมพ์แล้วพิมพ์ๆๆ ในสิ่งที่คุณอยากจะให้มันเป็น แต่มันไม่ใช่ความจริงอ่ะ เลิกเถอะค่ะ เลิกทำร้ายคนอื่นได้แล้ว ถ้าคุณโพสต์ข้อความในความเป็นจริง ไม่มีใครทำอะไรคุณได้หรอกค่ะ แต่ถ้าคุณโกหก คุณตั้งใจปั่นกระแสขึ้นมาเพื่อให้ม่านเสียหาย หรือให้คนอื่นๆ เสียหาย คุณก็ต้องยอมรับในผลกรรมอันนั้นของคุณด้วย


ดังนั้น อยากให้ทุกคนใช้โซเชียลฯ อย่างมีสติ อย่าไปเชื่อคนๆ หนึ่งที่คุณเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน แต่คุณไปเชื่อเขาแล้ว ตอนนี้ก็ได้แต่ขอบคุณแฟนคลับทุกๆ คนเลยที่เป็นกำลังใจ ม่านโอเคแล้วค่ะ ต่อจากนี้ก็มุ่งทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด และช่วยเหลือคนอื่นให้มากที่สุด"


ASTVผู้จัดการ Lite

เรื่อง : ปิยะนันท์ ขุนทอง
ภาพ : ธัชกร กิจไชยภณ และขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม @marnfha

//////////////////////////////////


ประวัติส่วนตัว


ชื่อ-นามสกุล : อรปภัตร จันทรสาขา (ชื่อเดิม : สรญา จันทรสาขา)

ชื่อเล่น : ม่านฟ้า (ชื่อเดิม : นัน)
วัน/เดือน/ปีเกิด : 27 สิงหาคม พ.ศ.2532
การศึกษา
- กำลังศึกษาในระดับปริญญาเอก สื่อสารการเมืองการปกครอง ม.เกริก
เส้นทางนางงาม
- ดาวคณะศิลปศาสตร์, นางนพมาศประจำปี 2553 ในการประกวดภายในของมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
- คว้ารองอันดับ 1 Miss Thailand Beach International 2011
- เข้ารอบ 30 คนสุดท้ายเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2011 แต่ขอถอนตัวเพราะติดปัญหาเรื่องเรียน
เส้นทางนักร้อง
- คว้ารางวัลชนะเลิศในการประกวดร้องเพลงโครงการ Singing Camp Contest ปี 2548
- ได้ตำแหน่งรองชนะเลิศในการประกวดร้องเพลง "พวงมาลัย" โครงการ ต้านยาเสพติด
เส้นทางบันเทิง
- น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์



มาสร้างแรงบันดาลใจไปด้วยกัน!!ตัวอย่างงานในเซ็กชั่นทั้งหมด>>>...

Posted by ASTV ผู้จัดการ Live on Friday, August 21, 2015

รายละเอียดเพิ่มเติม (คลิก)>>> ตัวอย่างงานในเซ็กชั่น "ASTVผู้จัดการ Live"




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น