xs
xsm
sm
md
lg

เปิดกรุเจ้าแม่ Comme Des Garçons “มณฑ์ลัชชา สกุลไทย”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เดรสสไตล์เอี๊ยมสีดำกับเสื้อแขนกุดตัวในสีแดงลายจุดของ Comme Des Garçons รองเท้าส้นตึกแบรนด์ Comme Des Garçons  กระเป๋ารุ่น Kelly ของ Hermes
>>กับภาพคุ้นตาของผู้หญิงผมบ็อบ ใส่เสื้อผ้าดีเทลล้ำหลุดกรอบแฟชั่นดูจะเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้เราจดจำได้ดีกับสไตล์เธอคนนี้ “อุ๊-มณฑ์ลัชชา สกุลไทย” หรือที่ใครๆ เรียกติดปากว่า “แม่อุ๊ สกุลไทย” ซึ่งเธอเป็นแฟนตัวยงของแบรนด์ Comme Des Garçons เป็นลูกค้าในลิสต์อันดับต้นๆ ที่เมื่อมีคอลเลกชันใหม่ออกมาปุ๊บ ทางแบรนด์ต้องส่งแค็ตตาล็อกมาให้เลือกทันที! และวันนี้เราจะมาเปิดตู้เสื้อผ้าดูสไตล์ Comme Des Garçons ที่เธอบอกว่าจะแต่งตัวสไตล์นี้ไปถึงวัย 80 เลยทีเดียว!!

อัปเดตความเคลื่อนไหวของเจ้าแม่ Comme Des Garçons คนนี้สักเล็กน้อยกับงานล่าสุดที่คุณแม่อุ๊ร่วมลงทุนเปิด “ศูนย์ศัลยกรรมทางการแพทย์” กับหุ้นส่วนจากประเทศเกาหลี ซึ่งได้ข่าวมาว่ามูลค่าโปรเจกต์นี้อลังการกว่า 200 ล้านบาท โดยเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมขนาดกลางสเกลประมาณ 4 ชั้น 30 เตียง โลเกชั่นตั้งอยู่ที่ CDC คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี 2560 แต่ตอนนี้ได้เปิดออฟฟิศให้คำปรึกษาการทำศัลยกรรมอยู่ที่ “เซ็นทรัล เอ็มบาสซี” ในชื่อ “วอนจิน” (ไทยแลนด์)

“เราเป็นคนไม่อยู่นิ่งพยายามหาโครงการใหม่ๆ ทำ กระทั่งมาได้โครงการนี้ โดยตอนนี้กำลังเตรียมสร้างโรงพยาบาลเกี่ยวกับการทำศัลยกรรม ที่มีหุ้นส่วนเป็นศูนย์ศัลยกรรมวอนจิน ซึ่งถือเป็นศูนย์ศัลยกรรมอันดับ 1 และดังที่สุดของประเทศเกาหลี เป็นจังหวะดีที่เขาอยากมาทำธุรกิจที่เมืองไทยพอดี ถือว่าเป็นพาร์ตเนอร์ที่ลงตัว ตำแหน่งเราคือประธานกรรมการบริหาร ดูภาพรวมและคอยตรวจตราเวลาใครเสนออะไรมาก็เป็นคนฟันธง ซึ่งมี CEO ช่วยดูแลอยู่ด้วย แต่ทุกคนจะเรียกแม่อุ๊ว่า “ท่านประธานที่เคารพ” (หัวเราะ)
เสื้อสูทสีเขียวลายพรินต์ กับกางเกงสีดำทั้งชุดจาก Comme Des Garçons  กระเป๋า Hermes Constance Bag สีส้ม
ในระหว่างที่โรงพยาบาลกำลังดำเนินการ คิดว่าน่าจะมีศูนย์เพื่อให้คำปรึกษาก่อน ก็เลยเปิดศูนย์ศัลยกรรม “วอนจิน” (ไทยแลนด์) เป็นศูนย์ปรึกษาความงามในการทำศัลยกรรม โดยให้คำปรึกษาสำหรับคนที่อยากทำศัลยกรรม โดยเราจะสรุปการทำศัลยกรรมที่เมืองไทย ก่อนจะส่งไปทำที่เกาหลี คือลูกค้าไปแต่ตัวได้เลย เราดูแลให้หมดทุกอย่าง และเรายังเซ็นสัญญากับทางศูนย์ศัลยกรรมวอนจินให้เราเป็นฮับของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เวลามีลูกค้าในแถบนี้เขาจะส่งมาประสานงานกับเราอีกด้วย

เนื่องจากพื้นที่ที่เรามีอยู่ตอนนี้ใช้เป็นเพียงที่ปรึกษาศัลยกรรมเท่านั้น คิดว่าก็น่าจะใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น จึงเปิดบริการตกแต่งคิ้ว ปาก และตา อีกด้วย โดยทางศูนย์ศัลยกรรมวอนจิน ส่งช่างมาประจำที่สาขาเอ็มบาสซีด้วย”

แม้ว่าความสวยของคุณอุ๊ตอนนี้จะเป็นความสวยโดยปราศจากศัลยกรรม แต่เมื่อกำลังจะเปิดโรงพยาบาลเกี่ยวกับการทำศัลยกรรม ก็ทำให้เริ่มสนใจเรื่องการทำศัลยกรรมขึ้นมาบ้างแล้ว

“เรื่องสวยๆ งามๆ เป็นสิ่งที่เราชอบอยู่แล้ว คิดอยู่ว่าวันหนึ่งอาจจะต้องทำ ที่ผ่านมายังไม่เคยทำศัลยกรรมอะไรเลย แต่ด้วยอายุที่มากขึ้นตอนนี้จึงเริ่มมีปรึกษาคุณหมอบ้างแล้ว ซึ่งคุณหมอบอกว่าเราเป็นคนมีปัญหาที่ตา ถ้าสังเกตจะเห็นว่าตาข้างขวาเล็กกว่าข้างซ้าย บางครั้งถ่ายรูปมาแล้วรู้สึกว่าไม่สวย รู้สึกไม่มั่นใจ แต่ก็ไม่รีบ เพราะช่วงนี้กำลังยุ่งอยู่กับการทำโรงพยาบาล ก็เลยคิดว่าอาจจะทำศัลยกรรมช่วงปฐมฤกษ์โรงพยาบาลก็ได้ (หัวเราะ) อย่างน้อยๆ ถ้าเราดูแลตัวเองดี เวลาใครมาปรึกษาเขาก็จะมีความเชื่อถือ ซึ่งเชื่อได้เลยว่าดีจริง เพราะรู้นิสัยตัวเองคือต้องดี และต้องมั่นใจเราถึงจะกล้าใช้ กล้าทำ”

ว่ากันด้วยเรื่องสไตล์การแต่งตัวที่เราเชิญคุณอุ๊มาโฟกัสในวันนี้ ด้วยเอกลักษณ์อันจดจำง่ายกับภาพของผู้หญิงผมบ็อบในชุดเสื้อผ้าสุดครีเอต มีความแปลกแตกต่างไม่เหมือนใคร ซึ่งความจริงแล้วเธอเป็นแฟนตัวยงของแบรนด์ญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างแบรนด์ Comme Des Garçons เพราะ 90% ในตู้เสื้อผ้าของเธอคือ “Comme Des Garçons”

“เป็นคนชอบแต่งตัวมานานแล้ว เมื่อก่อนสไตล์ก็จะหลากหลายตามแฟชั่น แรกๆ เป็นแฟนพันธุ์แท้ DKNY, CK, Armani, Marni จนกระทั่งไปเจอน้องที่สนิทกัน ซึ่งเป็นเจ้าของร้านแว่นตานำเข้าจากต่างประเทศ แนะนำให้รู้จักแบรนด์ Comme Des Garçons ซึ่งเมื่อก่อนเรารู้จักแบรนด์นี้จากเสื้อยืดเท่านั้นเอง ไม่รู้ว่ามีเสื้อผ้าแฟชั่น แรกๆ ก็รู้สึกว่ามันแปลกไปนะ (หัวเราะ) แต่ก็ลองซื้อมาใส่ชุดนึง ปรากฏว่าใส่ไปมีแต่คนชมว่าชุดเท่มาก ทำให้เรามีความมั่นใจ จากนั้นก็ซื้อไปเรื่อยๆ จนตอนนี้เป็นแฟนพันธุ์แท้แบรนด์ Comme Des Garçons มา 8 ปีแล้ว ประทับใจตรงความเป็นอาร์ตของแบรนด์กอมฯ ทำให้เราสนุกกับการแต่งตัวมากขึ้น เชื่อมั้ยว่าคอลเลกชันเมื่อ 8 ปีที่แล้วทุกวันนี้หยิบมาใส่เมื่อไหร่ก็ยังเท่เมื่อนั้น”

จากสไตล์ของเสื้อผ้ายังส่งอิทธิพลมาถึงสไตล์ที่กลั่นตัวออกมาเป็น “อุ๊ สกุลไทย” ทุกวันนี้ ทั้งเรื่องของทรงผมและการแต่งตัว ที่มีแรงบันดาลใจมาจากเจ้าของแบรนด์ Comme Des Garçons ชื่อ “เร คะวะกุโบะ” (Rei Kawakubo) ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 10 ผู้หญิงที่มีอิทธิพลในวงการแฟชั่น
เดรสโค้ตสีดำและกระโปรงสุ่มของ Comme Des Garçons กระเป๋า Chanel รูปตุ๊กตาอินเดีย รุ่น Limited Edition รองเท้าของ Roger Vivier
“สไตล์ทุกวันนี้มีไอเดียเริ่มต้นจากการที่มาใส่เสื้อผ้ากอมฯ เมื่อก่อนเป็นคนเปลี่ยนทรงผมบ่อยมาก ทั้งไว้ยาว ตัดสั้น ม้วนปลาย แล้วก็มาตัดบ็อบ แต่ก่อนที่จะมาเป็นทรงปัจจุบันนี้เป็นบ็อบแต่แสกข้างตั้งกระบัง จนกระทั่งมาใส่เสื้อผ้าแบรนด์ Comme Des Garçons แล้วได้เห็นว่าเจ้าของแบรนด์กอมฯ เธอเป็นคนผมตรงและตัดหน้าม้า สไตล์ดูง่ายๆ แมตช์กับเสื้อผ้าที่มีรายละเอียดเยอะ

ซึ่งเราเองก็เคยลองตัดผมหน้าม้าแล้ว แต่ไม่เหมาะเพราะเป็นคนหน้าผากแคบ จึงลองแสกกลางดู พอทำแล้วก็มีคนชมเลยมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และทรงนี้ยังสะดวกกับการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย จึงเป็นทรงนี้มาประมาณ 7-8 ปีแล้ว เป็นช่วงเวลาที่สไตล์เริ่มนิ่ง ค้นพบสิ่งที่เป็นตัวเรา ที่สุดแล้วเพราะเสื้อผ้าเยอะแล้ว ฉะนั้นผมต้องเรียบ”

จนเรียกได้ว่าตอนนี้สไตล์ของคุณอุ๊เป็นสไตล์ของสาวญี่ปุ่นไปแล้ว เพราะไม่ใช่แค่ แบรนด์ Comme Des Garçons เท่านั้น เธอยังติดใจสไตล์ของแบรนด์ญี่ปุ่นแบรนด์อื่นๆ ด้วย

“ตอนนี้สไตล์เรานิ่งแล้ว และคิดว่าเราสามารถใส่แบบนี้ไปได้ถึงอายุ 80 ด้วย ส่วนใหญ่แล้วเวลาไปงานก็จะเป็นแบรนด์ Comme Des Garçons, Junya Watanabe (แบรนด์ในเครือกอมฯ สไตล์แมนๆ), โยจิ ยามาโมโต้, พลีทพลีท ซึ่งเราชอบแบรนด์ของญี่ปุ่นหลายแบรนด์ แต่ถ้าต้องไปงานราตรีกลางคืนจะเป็นแบรนด์ “บียาน” ของอินโดนีเซีย และแบรนด์นาการ่า แบรนด์ไทยสุดคลาสสิก”
เสื้อสูทและกางเกงขา 4 ส่วนลายทางเข้าชุด จากComme Des Garçons  กระเป๋า Delvaux (เดโว่) และรองเท้าคัตชูเชือกทำจากโซ่ คอลเลกชัน 2014 ของ Chanel
เห็นสไตล์การแต่งตัวดูวัยรุ่นอย่างนี้ความจริงแล้วคุณอุ๊ออกตัวเลยว่าตอนนี้วัยใกล้จะแซยิดเต็มที! จนหลายๆ คนที่พบเจอต่างพากันคิดว่าคุณอุ๊คงจะมีการบำรุงดูแลตัวเองอย่างดี ผิวพรรณและรูปร่างถึงได้ดูไม่เหมือนคนวัยเกือบ 60 แต่ความจริงแล้วเธอบอกกับเราว่า “เป็นคนที่ดูแลตัวเองน้อยมาก!!”

“ทุกคนทักว่าดูอ่อนกว่าวัย และคิดว่าเราดูแลประทินผิวเป็นอย่างดี แต่ความจริงแล้วยุ่งกับตัวเองน้อยมาก คงเป็นเพราะเราไม่ไปยุ่งกับผิวมากเกินไปละมั้งถึงไม่ค่อยมีปัญหาอะไร จะบอกความลับให้ว่าเป็นคนอาบน้ำเร็วมาก ครีมทาผิวยังไม่ค่อยทาเลย (หัวเราะ) เพราะไม่ชอบความเหนอะหนะ นอกจากวันไหนที่รู้สึกว่าคันผิวเพราะอากาศแห้งถึงจะทาสักที

อาจเป็นเพราะกรรมพันธุ์เราดี ผมหงอกไม่ค่อยมี สายตาก็ยังดีอยู่ ทุกวันนี้ทานอาหารปกตินะ ไม่ได้ระวังหรือเลือกรับประทานอะไรมากมาย ออกกำลังกายนิดๆ หน่อยๆ แค่นั้นเอง อย่าไปเยอะ (หัวเราะ)” :: Text by FLASH


กำลังโหลดความคิดเห็น