xs
xsm
sm
md
lg

จบเห่! “Youlike คลิปเด็ด” ดูดคลิปมั่ว สมควรถูกปิด!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เพจดัง “Youlike คลิปเด็ด” หายตัวลงอย่างไร้ร่องรอย ท่ามกลางความแคลงใจชวนสงสัย อาจเป็นเพราะถูกบล็อกจากการละเมิดลิขสิทธิ์หรือถูกสั่งปิดจากหน่วยงานภาครัฐ? ล่าสุดแม้เพจดังกล่าวจะกลับมาแล้ว แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ สำหรับเพจจอมดูด-จอมละเมิดสิทธิ์ ให้เลิกพฤติกรรมเช่นนี้เสียที

เพจยักษ์ใหญ่ถูกปิด เพื่อรอวันเปิด?
สะเทือนโลกออนไลน์! ปิดตำนานเพจ "Youlike คลิปเด็ด" ที่มียอดกดไลค์มากถึง 8,061,190 ยูเซอร์ หายไปอย่างไร้ร่องรอย ตกเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอยู่ในขณะนี้ บ้างก็ว่าเพจโดนบล็อกเกิดจากการละเมิดลิขสิทธิ์ บ้างก็ว่าเพจโดนปิดจากหน่วยงานภาครัฐ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่สามารถระบุคำตอบที่ชัดเจนได้






เฟซบุ๊กแฟนเพจ “Drama-Addict” กล่าวยืนยันว่าเพจ Youlike คลิปเด็ด ได้หายไปแล้วจริง เป็นอันว่าจบตำนานทางด้าน “มันแกว-น.ส.รุ่งตะวัน ชัยหา” เน็ตไอดอลคนดังที่กำลังมีประเด็นกับทาง Youlike คลิปเด็ด กรณีการขโมยคลิปวิดีโอมาลงในแฟนเพจโดยที่เจ้าของคลิปไม่อนุญาต และได้มีการรายงานการละเมิดลิขสิทธิ์ไปยังเฟซบุ๊ก โดยมันแกวได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า “YouLike โดนปิดแล้ว สมหน้า (หัวเราะ) ปกติใครล้มแกวไม่เคยไม่ยุ่งไม่ซ้ำเติมนะ แต่ไอ้ ... นี่ ขอแก้ผ้าขำเลย แจ้งลิขสิทธิ์นมไป (หัวเราะ) แต่ไม่รู้เกี่ยวกับแกวป่าวนะ”




นอกจากนี้ มันแกวยังได้โพสต์สถานะส่วนตัวตามมาภายหลังอีกว่า “กูแจ้งลิขสิทธิ์คลิปกู นมกู กล้องกู รายการก็กูจัด ไม่เคยแชร์คลิปจากเพจ ขอก็ไม่เคยขอ แคปชันจุดประสงค์หัวข้อที่กูเขียนก็เอาไปตั้งชื่อใหม่ ให้ลูกเพจถล่ม ส่วนมันนอนตีพุง ดูดคลิป ปั่นยอดวิวยอดไลค์ให้มัน ไม่รวมคลิปละเมิดอีกหลายๆ คลิป ถ้าบางคนยังบูชามัน ก็เรื่องของมึง แต่เพจ YouLike คือเพจ ... สำหรับกู”




จากการที่มันแกวได้โพสต์ไปแล้วนั้น ทำให้มันแกวถูกแฟนคลับของเพจ Youlike รุมกระหน่ำว่ากล่าวอย่างหนัก เพราะ เธอเป็นหนึ่งในผู้ที่กดรายงานการละเมิดลิขสิทธิ์ ต่อมาทางแอดมินเพจ Youlike คลิปเด็ด ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "บอกเลย ไม่เกี่ยวกับมันแกว"




หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ได้มีสมาชิกเฟซบุ๊กหลายคนฉวยโอกาสนี้เปิดแฟนเพจใหม่ โดยใช้ชื่อที่ใกล้เคียงกับคำว่า “YouLike” (คลิปเด็ด) อาทิ Youlike คลิปดึง และ Youlike คลิปเด็ด v.2 แอบอ้างความเป็นเจ้าของว่าเปิดแฟนเพจใหม่แทนของเดิม ทำให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนใหญ่เกิดความสับสน
ทางด้านเพจ "Contrast" วาดการ์ตูนล้อเลียน ซึ่งมักจะหยิบยกประเด็นของเพจ Youlike ขึ้นมาต่อต้านอยู่เสมอ ถึงคราวนี้ได้มีความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้เช่นกัน โดยได้โพสต์เนื้อหาราวๆ ว่าเพจนี้ปิดไม่ได้นาน เดี๋ยวก็ผุดขึ้นมาใหม่

"จู่ๆก็มีคนซิปมาบอกว่าเพจยูไลค์โดนปิด ให้ตายสิครับ เพจแบบนี้ปิดไม่ได้ครับ เดี๋ยวก็ผุดมาใหม่ เพจแบบนี้ เป็นเคสตัวอย่างชั้นดีเวลาแอดมิน นำเสนอเรื่องผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ถ้าไม่มีเพจนี้ การกระทำอันละเมิดลิขสิทธิ์คลิปในเฟซบุ๊กก็ไม่มีให้แอดมินพูดอีกครับ ดังนั้น มีต่อเถอะครับ มีอะไรเยอะในเพจนี้ บางทีเข้าไปอ่านก็ได้เจอตรรกวิบัติอะไรอีก ได้เรื่องเอามาเขียนรูป คุณจ่าก็เอาไปเขียนดรามา ดังนั้นทุกคนโปรดรอการกลับมาอีกครั้งของเพจนี้ได้เลยครับ"

เมื่อข้อความนี้ปรากฏขึ้น ทำให้มีผู้ใช้งานโซเชียลฯ จำนวนไม่น้อยต่างแสดงความคิดเห็นกันเข้ามาอย่างล้นหลามมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ด้านแอดมินเพจ Contrast จึงออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีนี้อีกครั้งในคอมเมนต์

"บางคนสงสัย ทำไมถึงต้องพูดเรื่องเพจนี้ละเมิดลิขสิทธิ์บ่อยๆ ง่ายๆ เลยครับ เป็นคนหนึ่งที่สงสารผู้ถูกละเมิดครับ เห็นใจผู้สร้าง เพราะตัวแอดมินเองก็อยู่ในฐานะผู้สร้างเช่นกันเลยเข้าใจความรู้สึกดี อีกข้อ คลิปที่แอดมินเคยตัดต่อเล่นกันเพื่อนๆ มันก็ดูดไปลงเพจเอาไปเรียกหาโฆษณาเข้าตัวเอง

โดยที่เจ้าของผลงานอย่างแอดมินเองไม่ได้อะไรเลย สรุปเพจที่ขโมยได้เงินโดยที่ไม่ต้องมาเสียเวลานั่งทำอะไรเลย นี่แหละครับ ถึงออกมาพูดเรื่องนี้บ่อยๆ คนที่ฟังบ่อยๆอาจจะเบื่อ แต่ก็อยากย้ำเตือนการกระทำแบบนี้บ่อยๆเผื่อใครยังไม่เข้าใจนั่นเอง ทีนี้สาวกเพจนั้น จะไม่ชอบที่แอดมินพูดแบบนี้ก็ไม่เป็นไรนะครับ ไว้วันหนึ่งคุณเห็นคุณค่าของผลงานที่สร้างเองกับมือมาได้ วันนั้นคุณจะเข้าใจผมครับ”

อย่างไรก็ตาม ภายหลังทางด้านแอดมินเพจ Youlike ได้มีการชี้แจงทิ้งท้ายว่า “จำคำนี้ไว้ มิติใหม่กำลังจะเกิด ที่รวดเร็ว การลงคลิปไว อลังการงานสร้างมีระเบียบไม่เคยดูดคลิปใคร คลิปที่ลงผู้คนส่งมาหมด จะลงให้ทุกคลิป ผมจะมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ซึ่งไม่มีใครทำตามผมได้หรอก แล้วพบกัน”




ทั้งนี้ ได้มีการรายงานว่าเพจ Youlike ได้กลับมาเปิดใช้งานอีกครั้ง โดยปิดเพจไปเป็นเวลา 20 ชม. โดยไม่มีการเปิดเผยสาเหตุของการปิดเพจที่แน่ชัดแต่ประการใด

เพจแบบนี้ ไม่ต่างจาก “เพจขยะ”
จากประเด็นดังกล่าวนี้เองทางทีมข่าวASTV ผู้จัดการLive จึงได้สอบถามไปยัง “ธาม เชื้อสถาปนศิริ” นักวิชาการ สถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ (สวส.)เพื่อให้ช่วยวิเคราะห์ปรากฏการณ์ในโลกออนไลน์ในครั้งนี้ เขามีความเห็นกรณีเพจ Youlike โดนปิด อาจเป็นเพราะ 3 สาเหตุใหญ่ๆ คือ

“1.ตัวลิขสิทธิ์ ในที่นี้คือมี 2 ส่วนหลักๆ คือ ลิขสิทธิ์ของคลิปวิดีโอที่มาจาก YouTube และลิขสิทธิ์ของบุคคลทั่วๆ ไป เช่น คลิปส่วนตัวในหน้าเพจส่วนตัวของเน็ตไอดอลหรือว่าแหล่งข่าว หรือของใครก็ตาม เพจอาจจะถูกรีพอร์ตว่าไปเอาคลิปมาโดยไม่ได้แจ้งหรือว่ามีการละเมิด มีการดัดแปลงตัดทอนข้อมูลบางส่วนอันนี้คือเป็นประเด็นที่ผมคิดนะ

อันที่ 2 ที่โดนปิดเนื่องจากเพจYoulike ในลักษณะของคลิปเป็นเพจที่รวมเอาคลิปที่เยอะแยะมากมาย เนื้อหามันค่อนข้างเยอะ และที่สำคัญที่ทำให้มันเด่นๆ ดังๆ มันมีคลิปที่เกี่ยวข้องในเรื่องของความรุนแรง ปัญหาเรื่องเซ็กซ์ เรื่องโป๊เปลือย เพราะฉะนั้น เมื่อมันมีสมาชิกอยู่เยอะเป็นหลักล้าน มันอาจจะมีคนรีพอร์ตเวลาเขาดูคลิปแล้วไม่พอใจในเนื้อหาความรุนแรงหรือลามกอนาจาร หรือแม้แต่กระทั่งคลิปตลกที่มีลักษณะเหยียดหยาม ล้อเลียน ถามว่าอันนี้มันเป็นคอนเทนต์ของการถูกปิดได้มั้ย ก็ได้นะเพราะมันเป็นคอนเทนต์ที่ทำให้มันดัง

อันที่ 3 ผมคิดว่ามันเกี่ยวข้องกับเรื่องของความน่าเชื่อถือ หรือว่าเกี่ยวข้องกับความสุ่มเสี่ยงกับสถาบัน เกี่ยวข้องกับรัฐ เช่น เจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ ที่มีการแฉกระทบต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนราชการ หรือว่าในหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง กรณีฉาวโฉ่ในวงการ หรือการทุจริต หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของราชการ”

เฟซบุ๊กแฟนเพจเหล่านี้มีความน่าสนใจกว่าเพจข่าวทั่วๆ ไป ในเรื่องของการเผยแพร่คลิป จึงเกิดเป็นกระแสและสร้างความดึงดูดของผู้ชมเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้น หากอยากให้เพจได้รับความน่าเชื่อถือต้องรักษาความเป็นต้นฉบับ




“เพจคลิปพวกนี้หลักๆ อาศัยความรวดเร็วเป็นกระแสที่จับอารมณ์ จับความดึงดูดใจของผู้ชม และที่สำคัญมันเป็นคลิปที่มักจะไม่ถูกสื่อมวลชนนำเสนอรายงานผ่านสื่อกระแสหลัก มันจะทำให้ตัวเพจมีความน่าสนใจมากกว่าเพจข่าวทั่วๆ ไป

เพจพวกนี้ใช้คลิปของประชาชนทั่วไป คลิปแฉนู่นนี่ คลิปขำๆ ฮาๆ คลิปเรื่องประหลาด หรือติดเรต เพราะฉะนั้น ลักษณะเด่นของมันคือต้องทำให้คนไว้วางใจที่จะทำให้คนมาโพสต์ให้ แต่ว่าปัญหาอย่างเดียวก็คือว่าคนที่เป็นเจ้าของเพจไปเอาคลิปมาโดยไม่ได้ขออนุญาต หรือเอามาแล้วไม่คงรักษาความเป็นต้นฉบับที่แท้จริงของเจ้าของ

มันก็จะทำให้เพจนั้นดูไม่น่าเชื่อถือ ที่สำคัญอาจจะถูกมองว่าทำทุกอย่างเพื่อหวังให้คนเข้ามาดูเพจของตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่บั่นทอนความน่าเชื่อถือว่ามันเป็นการทำเพื่อเรตติ้ง”

ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อสาธารณะทิ้งท้ายว่า การทำเพจต้องซื่อสัตย์อย่างตรงไปตรงมาเพื่อให้ประชาชนไว้วางใจ หากมีแต่เรื่องไร้สาระจะกลายเป็นเพจขยะเสียมากกว่า

“อย่าลืมว่าเพจพวกนี้ถูกตั้งขึ้นมาเป็นแหล่งพื้นที่กลางที่ทำให้คนอยากอ่าน ถ้าทำเพจดีๆ ต้องทำให้ประชาชนไว้วางใจพอที่จะส่งต่อให้แอดมินโพสต์หรือเผยแพร่เพื่อให้ประเด็นนั้นถูกพูดถึงหรือแก้ปัญหา แต่ถ้ามันถูกแชร์เน้นในเชิงดรามา ผมว่าเพจจะมีความสุ่มเสี่ยงต่อการมีปัญหาเรื่องการหมิ่นประมาท เรื่องกฎหมาย ก็อาจจะเป็นเพจไร้สาระ แบบนั้นมันจะกลายเป็นขยะมากเกินไป ก็จะไม่ใช่เป็นสิ่งที่ดี”



ข่าวโดยASTV ผู้จัดการLive




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!

และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น