xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจ! “Koki aki” ชาวญี่ปุ่นผู้แฉแท็กซี่สุวรรณภูมิ “คนไทยต้องสู้ด้วยตัวเองก่อน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กลายเป็นดราม่าแท็กซี่ไทยที่จุดกระแสสังคมอีกระลอก เมื่อปัญหาที่ค้างคาถูกนำมาแฉผ่านมุมมองของชาวญี่ปุ่นผู้ใช้เฟซบุ๊กนาม “Koki aki” เรื่องราวเขาถูกแชร์พูดถึงจนกลายเป็นกระแสส่งผลสะเทือนไปถึงหลายฝ่าย กระทั่งคนไทยเองก็เริ่มตระหนักถึงปัญหาที่นับวันจะยิ่งเลวร้ายมากขึ้น วันนี้ ASTV ผู้จัดการ LIVE สัมภาษณ์เปิดใจถึงเหตุการณ์ทั้งหมด

มหากาพย์แท็กซี่สุวรรณภูมิ

หลังจากเรื่องราวปัญหาแท็กซี่สุวรรณภูมิที่มีการคิดค่าโดยสารแบบเหมาคันกับผู้โดยสารชาวญี่ปุ่น “Koki aki” จนกลายเป็นประเด็นใหญ่ที่สังคมหันมาจับตา เรื่องราวกลายเป็นดรามาหนักขึ้น ตั้งแต่ระดับผู้บริหารทั้งอธิบดีกรมขนส่งทางบก และผู้อำนวยการท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิต้องออกโรงจัดการ
 
แต่ล่าสุดปัญหาต่างๆ ดูท่าจะยิ่งทวีความร้อนแรงมากขึ้น เมื่อมีการแชร์ภาพประกาศ “งดรับผู้โดยสารชาวญี่ปุ่น” นอกจากนี้ยังมีข้อความจากเพจ เสียงจากแท็กซี่ - voice of taxi บอกเล่าถึงปัญหาดังกล่าวในมุมของคนขับแท็กซี่ที่ถูกเอาเปรียบ โดยเสนอว่าควรมีการแยกราคาโดยสารตามขนาดรถ อีกทั้งยังมีการขู่ชาวญี่ปุ่นที่ออกมาแฉว่าจะถูกฟ้องร้องกลับโดยบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) อีกด้วย โดยข้อความบางส่วนระบุไว้ดังนี้

 
“...ถึงเวลาหรือยังที่จะต้องมีการจำแนก แยกประเภทของรถ แยกอัตราราคามิเตอร์ตามชนิดของรถ แยกช่วงเวลาที่ให้บริการ อย่าให้คำว่า"รถยนต์สาธารณะไม่เกิน 7 ที่นั่ง" มันเหมารวมหมดทั้งรถเล็กรถใหญ่ มันคลุมเครือไม่ชัดเจนเป็นที่ถกเถียงกันไม่จบไม่สิ้น มันถึงเวลาที่จะต้องมีการแก้ไข พ.ร.บ.รถยนต์ ปี 2522 , พ.ร.บ.รถยนต์รับจ้างสาธารณะปี2522 รวมถึงฉบับแก้ไขเพิ่มเติมปี 2535 ที่เก่าคร่ำครึมานานแสนนานนั้นให้เป็นสากลเหมือนนานาประเทศเขาหรือยัง
 
“...มันถึงเวลาที่คนส่วนใหญ่จะเปิดใจยอมรับความจริงกันหรือยังว่าในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมานั้นรถแท็กซี่ได้มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงทั้งรุ่นรถ ขนาดของรถ ตามยุคตามสมัย แต่อัตรามิเตอร์ที่เป็นอยู่ไม่เคยได้มีการแก้ไขให้รองรับการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ เลย ยังคงได้รับการบังคับ ข่มขืน ข่มเหงให้ใช้อัตรามิเตอร์เดียวกันทั้งหมด ในขณะที่รถใหญ่ รถแวน ต้องบรรทุกสัมภาระเยอะแยะ แต่ก็ไม่ได้มีการอนุญาตคิดค่าระวางสัมภาระเลย

“แต่ถ้ากรมการขนส่งทางบกจะบอกว่าแล้วใครใช้ให้คุณออกรถใหญ่มาทำไม ก็จะย้อนถามกลับไปว่า แล้วคุณอนุญาตหรือเปิดช่องให้เขาจดทะเบียนเป็นรถแท็กซี่ทำไมล่ะครับ ถามว่าถ้าคุณมีรถ 10 ล้อ แล้วให้เอารถ 10 ล้อของคุณนั้นมารับจ้างบรรทุกข้าวสารเพียง 2-3 กระสอบ และได้ราคาค่าจ้างเท่ากับรถปิกอัพ แล้วคุณจะยอมไหม ซึ่งจริงๆ แล้วข้าวสารเพียง 2-3 กระสอบ รถปิกอัพคันเดียวก็บรรทุกได้หมด และราคาค่าจ้างก็ย่อมแตกต่างกันอย่างแน่นอน....ทีนี้คงพอจะรู้สาเหตุที่แท้จริงของปัญหาทั้งหมดทั้งมวลหรือยัง

 
“มันก็จะไม่มีทางแก้ปัญหาเหล่านี้ได้แน่นอน ถ้าตราบใดที่หน่วยงานตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นและคนที่มีอำนาจหน้าที่เพียงไม่กี่คนไม่ลงมาดูและแก้ไข บอกอีกทีก็ได้ว่า แม้แต่เทวดาก็แก้ปัญหานี้ไม่ได้ ต่อให้รอไปถึงชาติหน้าก็แก้ไม่ได้ ป.ล. ฝากถามไปยังคนปากพล่อย หรือนักบุญใจบาปจอมแฉคนนั้นด้วยว่า ถ้าบริษัทผลิตรถยนต์โตโยต้า จำหน่ายรถยนต์โตโยต้า อินโนว่า ในราคาเดียวกับรถโตโยต้า อัลติสได้ พวกเราคนขับแท็กซี่ทุกคน ก็จะยอมไปส่งนาย Koki Aki ในราคามิเตอร์ได้เช่นกัน (อ้อ นายโดน ทอท.ฟ้องกลับแน่นอน เพราะเขาตรวจกล้องวงจรปิดแล้ว ไม่เป็นความจริงอย่างที่นายแฉเลย)”
 
อย่างไรก็ตาม ภายหลังป้าย “งดรับผู้โดยสารชาวญี่ปุ่น” ถูกแชร์ส่งต่อและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ ด้าน ศดิศ ใจเที่ยง นายกสมาคมผู้ขับแท็กซี่เพื่อไทยสุวรรณภูมิ กล่าวยืนยันว่าทางสมาคมฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการติดป้ายงดรับผู้โดยสารชาวญี่ปุ่นเพราะไม่สามารถเกี่ยงได้ว่า จะรับหรือไม่รับผู้โดยสารชาติใด ส่วนสาเหตุที่มีภาพแท็กซี่ติดป้ายดังกล่าว อาจเพราะผู้ขับรถแท็กซี่บางรายไม่พอใจ ซึ่งในฐานะของนายกสมาคมฯ ขอตำหนิการกระทำเช่นนี้ และไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบหาที่มาของภาพดังกล่าว ถ้าพบว่ามีสมาชิกของสมาคมติดป้ายจริงจะต้องรับผิดชอบเพราะถือว่าทำให้สมาคมฯ เสียหาย

เปิดใจ “koki aki”

ก่อนหน้าที่เขาจะเป็นที่รู้จักจากประเด็นแท็กซี่สุวรรณภูมิ “koki aki” เป็นที่รู้จักในแวววงคอสเพล หรือผู้แต่งกายเลียนแบบตัวละครจากการ์ตูนหรือภาพยนตร์จากกิจกรรมที่เขามักจะแต่งคอสเพลย์กับกลุ่มเพื่อนไปบริจาคสิ่งต่างๆ ให้แก่เด็กยากจนในประเทศไทยอยู่บ่อยครั้ง
 
ล่าสุดหลังจากเหตุการณ์ทั้งหมด เขายังคงหัวเราะได้บ้างระหว่างช่วงสนทนาและเขายังคงใช้แท็กซี่ไปไหนมาไหนอยู่เช่นเดิม


หลังจากเจอเหตุแท็กซี่ดังกล่าวและปฏิกิริยาของคนไทยที่สนับสนุน คุณรู้สึกกับเหตุการณ์ทั้งหมดนี้อย่างไรบ้าง?

คนไทยสนับสนุนผมเหรอ อืม! สิ่งแรกที่ผมอยากบอกคือผมไม่ใช่คนไทยและสิ่งที่เกิดนี้มันก็เป็นปัญหาธรรมดาที่พบได้ทั่วไปของสังคมไทย ซึ่งในมุมของผม เหมือนผมก็เป็นแค่คนต่างชาติ แต่ปัญหานี้เป็นปัญหาของคนไทยที่ควรจะมีการแก้ไขกัน

มองคนไทยเปลี่ยนไปมั้ย?

ไม่อย่างแน่นอน ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย ผมยังรู้สึกว่าที่นี่เหมือนเป็นบ้านหลังที่สองของผมเหมือนเดิม

ได้รับผลกระทบอะไรจากเหตุการณ์นี้?

แค่ตอนนี้ก็เหมือนมีคนเข้ามาก่อกวนผมมากขึ้น(ในเฟซบุ๊ก)
 
ปรากฏภาพป้าย “งดรับผู้โดยสารชาวญี่ปุ่น” รู้สึกอย่างไรบ้าง?
 
ผมรู้สึกว่างเปล่า ไม่รู้สึกอะไรเลย รู้สึกว่างเปล่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นหากเขาทำอย่างนี้กัน ถึงตอนนี้ผมได้รับคำยืนยันจากแล้วว่าภาพนั้นไม่ใช่ภาพจากแท็กซี่สุวรรณภูมิเป็นภาพมีผู้ไม่หวังดีทำขึ้นมาเพื่อทำลายภาพลักษณ์ของแท็กซี่สนามบินครับ

มีความเห็นในทางลบจากคนไทยต่อการกระทำของคุณด้วย คุณรู้สึกเจ็บปวดหรือเปล่าเพราะคุณก็หวังจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น?

ถึงจะรู้สึกเจ็บปวดแต่ก็ต้องทำเพื่อคนอื่น ผมนับถือศาสนาพุทธก็เหมือนอย่างที่พระพุทธเจ้าสอนว่า เราควรจะต้องช่วยเหลือผู้อื่น

ถ้าเจอเหตุการณ์ที่เป็นปัญหาในประเทศไทยยังจะโพสต์บอกเล่าอีกมั้ย?

ก็ถ้าเขียนแล้วมันจะสามารถช่วยให้อะไรดีขึ้น สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ด้วย ผมก็ยังคงต้องเขียนเหมือนที่ผ่านมา

ข้อดีของคนไทยคืออะไร?

คนไทยช่วยเหลือผมไว้เยอะมาก

แล้วข้อเสียละ?

(หัวเราะ) ข้อเสียมีน้อยนิด ถ้ามีเยอะผมคงไม่มาบ่อยๆ หรอก ผมก็ยังชอบคนไทยโดยรวมๆ


คิดว่าทางออกสำหรับปัญหานี้คืออะไร?

ผมคิดว่า มันควรจะมีการพูดคุยระหว่างกรมหรือกระทรวงหรือหน่วยงานที่ดูแลแท็กซี่กับคนขับ เรื่องค่าโดยสารก็ควรมีการคุยและจัดการปัญหากัน ส่วนตัวคนขับแท็กซี่ก็ควรมีการอบรมเพื่อให้ได้เรียนรู้การปฏิบัติงานที่ถูกต้อง

พบปัญหาทำนองนี้บ่อยหรือเปล่า?

บ่อยครับ ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวเท่านั้น เพื่อนคนอื่นๆก็ด้วย เพื่อนคนญี่ปุ่นที่มาเมืองไทยหลายคนก็เจอปัญหาลักษณะเดียวกันนี้

งั้นมันก็เป็นปัญหาที่ควรจะเปลี่ยนแปลงใช่มั้ย?

แน่นอน ผมคิดว่ามันควรจะเปลี่ยนแปลง และผมเชื่อว่ามันจะเปลี่ยนแปลงได้ ผมเชื่อในคนไทย

ส่วนไหนที่ประทับใจในเมืองไทยที่ทำให้อยู่มายาวนาน?

ผมรู้สึกเหมือนที่นี่เป็นบ้านหลังที่สอง ผมเองก็อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมถึงชอบที่นี่ ความรักมันหาเหตุผลไม่ได้เหมือนกัน

คาดหวังให้คนมาติดตามเพิ่มขึ้นเยอะขนาดนี้มั้ย?

(หัวเราะ) ไม่เลยแม้แต่น้อย ผมไม่ได้คาดหวังอะไรแบบนี้เลย แค่รู้สึกเป็นห่วงประเทศไทยก็เลยเขียนลงไปแบบนี้ ผมก็ไม่คิดว่ามันจะดังขนาดนี้

อาจเพราะคนไทยก็ประสบปัญหาเดียวกันอยู่?

จริงๆ อย่ามายึดติดกับผมมากเลย เพราะแท้จริงแล้วปัญหานี้เป็นปัญหาของคนไทยด้วย คนไทยควรจะพูดออกมา ควรจะคุยกันและหาวิธีแก้ปัญหานี้ให้ได้

อยากฝากอะไรถึงผู้คนที่เข้ามาติดตามคุณเพิ่มมากขึ้น?

ก็ขอบคุณพวกเขาด้วยครับ ถ้ามีปัญหาอะไรผมอยากให้คนไทยสู้ด้วยตัวเองก่อนแล้วผมจะช่วยสนับสนุน และเราจะสู้ไปด้วยกันครับ

ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!

และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754








กำลังโหลดความคิดเห็น