ในยุคที่โลกโซเชียลฯ เฟื่องฟู ใครใคร่โชว์ โชว์ หรือใครใคร่อวด อวด หากมีดีมากความสามารถก็แจ้งเกิดกันไป แต่ที่น่าตกใจ นมหก นมหล่น เปิดเนินสยิว กลับได้รับความสนใจ สร้างยอดไลค์ให้แฟนคลับหนุ่มๆ ได้ติดตาม เป็นหมื่นเป็นแสนในเวลาไม่นาน ซ้ำร้ายสื่อบางช่องยังดึงตัวมาออกรายการ ขวักเงิน เรียกงานให้ติดต่อเข้ามา นี่หรือคือเน็ตไอดอลที่ควรจะได้รับการยกย่อง ชวนให้สังคมตั้งคำถาม จริงๆ แล้ว แบบนี้ควรจะเรียกว่าเน็ตไอดอล หรือแบดไอดอลกันแน่?!
เน็ตไอดอล ความหมายที่เปลี่ยนไป
คำว่า เน็ตไอดอล หรือ Net idol ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นเป็นที่ชื่นชอบของคนในโลกออนไลน์ หากมีพรสวรรค์หรือความสามารถ แล้วอัดคลิปผ่านสื่อโซเชียลฯ อย่างเฟซบุ๊ก ยูทิวบ์ หรือโซเชียลแคม ถ้าบรรดาชาวเน็ตชมแล้วชอบจนเกิดกระแสกดแชร์ กดไลค์สนั่นโลกออนไลน์ ก็กลายเป็นบุคคลที่โด่งดังในชั่วข้ามคืน พร้อมๆ กับถูกยกให้เป็นเน็ตไอดอล
เมื่อมีเน็ตไอดอลในด้านดี ย่อมมีเน็ตไอดอลในทางเสื่อมๆ หรือดังในทางไม่ดีเกิดขึ้นด้วยเหมือนกัน เห็นได้จากที่ผ่านๆ มา หลายคนแจ้งเกิดจากการโชว์หวิว เต้นยั่ว บอกรักผัว หรือแค่ปล่อยคลิปหลุดสุดหยิวก็ถูกยกให้เป็นไอดอลในโลกอินเทอร์เน็ตกันแล้ว แม้บางคนจะถูกแอนตี้จากสังคม แต่พอได้มีพื้นที่ชี้แจง และออกมาขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป กลับมีงาน มีเงินเข้ามา จนใครหลายคนตั้งคำถามว่า เน็ตไอดอลที่แท้จริงคืออะไรกันแน่
เรื่องนี้ ซี-ฉัตรปวีณ์ ตรีชัชวาลวงศ์ อดีตเน็ตไอดอลแห่งวงการไอที เคยเขียนสะท้อนให้อ่านผ่านคอลัมน์คนดังนั่งเขียนในเว็บข่าวชื่อดัง โดยทีมข่าว ASTVผู้จัดการ Live ขออนุญาตหยิบยกบางส่วนบางตอนมานำเสนอต่อ
"...เน็ตไอดอล ก็คือคนธรรมดาที่กล้าทำอะไรจนดังบนเน็ต แต่ยุคแรกๆ ของคำว่า Net Idol นิยามไม่เหมือนสมัยนี้ คำว่า 'เน็ตไอดอล' สมัยก่อน หมายถึงคนหน้าตาสวยหล่อที่เรตติ้งดี มีรูปโพสต์ตามเว็บไซต์ เวบบอร์ดต่างๆ จนมีแฟนคลับเยอะ หลายคนมาเป็นดาราดังในปัจจุบัน ยุคเริ่มต้นที่ได้ยินคำนี้ก็ตั้งแต่ น้องโฟร์ (โฟร์มด) หรือ น้องเบเบ้ ตั้งแต่เข้าวงการใหม่ๆ" ซี ฉัตรปวีณ์ บอก ก่อนจะโยงมาถึงยุคปัจจุบันว่า
"โลกออนไลน์ทำให้คนธรรมดาๆ ก็กลายเป็นเน็ตไอดอลได้ แค่แสดงความถนัด หรือสิ่งที่ตัวเองรัก ถ้าคนดูเห็นแล้วชอบก็เกิดกระแส กดแชร์ กดไลค์ บอกต่อ จนดังในชั่วข้ามคืน หรืออาจไม่ทันข้ามคืนคนก็พูดกันกระจายได้" นี่คือสิ่งที่เธอมอง ส่วนเน็ตไอดอลในทางเสื่อมๆ หรือดังจากเรื่องไม่ดี อดีตเน็ตไอดอลคนนี้ ไม่ขอนับว่าเป็นเน็ตไอดอล
เน็ตไอดอลรุ่นเก่ามองรุ่นใหม่
ท่ามกลางสังคมที่ผู้คนสมาทานให้กับการกดไลค์ หรือคอยให้ใครมากดไลค์อยู่ตลอดเวลา แค่ทำตัวเด่นๆ โป๊ๆ เรียกยอดไลค์ ก็สามารถแจ้งเกิดในโลกออนไลน์ได้แล้ว แต่สำหรับยุคแรกๆ เน็ตไอดอลไม่ได้เป็นกันง่ายๆ ต้องสวย และหล่อ การันตีด้วยความสามารถจริงๆ ไม่ว่าจะเรื่องเรียน รวมไปถึงผลงานที่ถูกยอมรับจากสังคม
บอกเล่าได้จาก แพท-ณปภา ตันตระกูล อดีตเน็ตไอดอลในยุคแรกๆ กว่าจะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ ต้องถ่ายนิตยสารวัยรุ่นชื่อดังหลายฉบับอยู่เหมือนกัน ต้องเล่นมิวสิกวิดีโอหลายเรื่อง และได้รับการยอมรับในสังคม เพราะสมัยนั้นไม่มีสื่อโซเชียลมีเดียเหมือนกับยุคนี้
เช่นเดียวกับ โฟร์- ศกลรัตน์ วรอุไร นักร้อง นักแสดง อดีตเน็ตไอดอลรุ่นแรกๆ เธอให้ทัศนะผ่านทีมข่าว ASTVผู้จัดการ Live ว่า ยุคนี้ใครๆ ก็เป็นเน็ตไอดอลกันได้ เพราะมีช่องทางการแสดงออกที่หลากหลาย ต่างจากสมัยก่อน เน็ตไอดอลต้องสวย ต้องหล่อ แถมยังต้องมีความสามารถจริงๆ และที่สำคัญการจะโพสต์ภาพหรือข้อความต้องรักษาภาพลักษณ์ที่ดีด้วย
"เน็ตไอดอลสมัยนี้ โฟร์มองว่า เน้นโชว์ เน้นโป๊นิดนึง พอคนกดไลค์เยอะๆ มียอดตามเยอะๆ ก็กลายเป็นเน็ตไอดอลทั้งๆ ที่ความสามารถอาจจะไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก รวมไปถึงหน้าตาที่ไม่ได้มีเอกลักษณ์ ส่วนตัวก็ไม่รู้ตัวเองมาก่อนว่าเป็นเน็ตไอดอล พอหลังๆ มารู้ว่า อ๋อ พอมีคนทำตามเรา นั่นแหละถึงเรียกว่าเน็ตไอดอล อย่างสมัยนั้นโฟร์เป็นเด็กดัดฟัน เด็กวัยรุ่นก็จะบอกว่า ดัดฟันดีกว่าเหมือนโฟร์ หรือช่วงนั้นจะไว้ผมหน้าม้าตลอดเวลา คนก็ทำตาม ซึ่งเอาเข้าจริงแล้ว โฟร์ไม่ได้ตั้งใจให้ใครทำตาม เพราะที่ดัดฟันก็เพราะฟันโฟร์ไม่สวย หรือที่ตัดผมหน้าม้า ก็เพราะว่าอายหน้าผาก"
อดีตเน็ตไอดอลชื่อดัง ให้เหตุผลต่อไปถึงการเป็นเน็ตไอดอลว่า ส่วนตัวไม่ได้เป็นคนติดเทคโนโลยี แต่พี่ชายจะเป็นคนสร้าง Hi5 ขึ้นมา เวลาไปแคสติ้งงาน หรือถ่ายแบบตามนิตยสารต่างๆ พี่ชายจะเป็นคนเอาภาพไปลง จนกลายเป็นที่ติดตามของกลุ่มวัยรุ่นบนโลกออนไลน์
"ที่เป็นเน็ตไอดอล มีคนให้ความสนใจ หรือติดตามเราในตอนนั้น ต้องบอกว่า เกิดได้เพราะพี่ชาย ซึ่งสมัยนั้น เน้นใสๆ น่ารักๆ แต่สมัยนี้โฟร์มองว่า มันดูน่ากลัวขึ้น เน้นโป๊ เน้นหวิวมากขึ้น บางคนไปออกรายการ เราก็งงว่า คนนี้คือใคร มาออกรายการได้อย่างไร โฟร์ก็ต้องหาดูว่า เขาเป็นใคร ซึ่งเข้าใจว่าถ้าคนๆ นั้นเป็นกระแสขึ้นมา นักข่าว หรือรายการเองก็ต้องรีบจับมา แต่ไม่ใช่มาสนับสนุน ต้องสอนให้คนดูได้คิดว่า มันไม่ควรเลียนแบบนะ มันไม่ดี" โฟร์ให้ทัศนะ
ขณะที่ บอลลูน-พินทุ์สุดา ตันไพเราะห์ อดีตเซ็กซี่ สตาร์-เน็ตไอดอล สมัยก่อนความน่ารักของบอลลูนไม่ต้องพูดถึง เมื่อถามในประเด็นเดียวกัน เธอบอกว่า เน็ตไอดอลทุกวันนี้มี 2 แบบ แบกแรกคือ แบบไม่โชว์ ดูใสๆ มีความสามารถ แล้วดังขึ้นมาในโลกออนไลน์ ส่วนอีกแบบเป็นแนวเซ็กซี่ สร้างยอด สร้างวิว ซึ่งก็เป็นสิทธิเสรีภาพของเขา แต่ต้องมีขอบเขตที่เหมาะสมด้วย
"ยุคนี้ไม่เหมือนยุคก่อน การลงรูปเกินงาม เปลืองเนื้อเปลืองตัวก็จะมีกลุ่มคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้วค่ะ บางคนถึงกับดับไปเลยก็มี" บอลลูนเผย
ดังนั้น เน็ตไอดอลยุคก่อนๆ สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ขายความใส ความบริสุทธิ์ ขายความเป็นวัยรุ่น แต่เน็ตไอดอล (บางคน) สมัยนี้ มักจะเน้นเรื่องนมหก นมหล่น หรือเปิดเนินสยิวแข่งกันฉาว แข่งกันโชว์ เพื่อสร้างยอดไลค์ให้คนติดตาม และเป็นอีกหนึ่งช่องทางการตลาดที่สามารถทำเงินให้แก่พวกเขาได้
ส่วนเน็ตไอดอลที่แจ้งเกิดในทางที่ดีมีหรือไม่ ตอบได้เลยว่า มีอยู่หลายคน ด้านความสามารถก็ไม่ธรรมดา เข้าตาผู้ใหญ่จนค่อยๆ มีงาน มีรายได้เข้ามา หรือบางคนมาแนวให้ความรู้ สอนร้องเพลง สอนแต่งหน้า หรือมาแนวพากษ์เสียงจนดังในช่วงข้ามคืน กลายเป็นบุคคลที่สื่อให้ความสนใจจนมีงานเข้ามาอยู่เรื่อยๆ
โปรดระวัง ดังได้ แต่ก็อาจดับได้
สุดท้ายนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า คนอยากดังเกิดได้ทุกวัน แต่ก็อาจดับได้โดยไม่ทันระวังเช่นกัน โดยเฉพาะคนที่ดังในทางเสื่อมๆ ตามที่ นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์ชื่อดัง ได้เคยให้สัมภาษณ์ในรายการล่า ทางช่องดิจิทัลชื่อดังเกี่ยวกับการใช้สื่อโซเชียลฯ โดยฝากไปถึงคนที่อยากจะเป็นเน็ตไอดอลไว้อย่างน่าคิดว่า
"สื่อโซเชียลฯ เหล่านี้ เราใช้มันเป็นเครื่องมือ มันก็ใช้เราเป็นเครื่องมือ เพราะสุดท้าย ผลสรุปจริงๆ อาจจะไม่ได้อะไรเลย เช่น เสียเวลา เหนื่อยมาก เครียดมาก แล้วก็ต้องอยู่กับความเสี่ยงตลอดเวลาว่าเขาจะชื่นชมเราไหม เพราะเดี๋ยวนี้มันไม่มีแค่ชื่นชม กดไลค์อย่างเดียว มันมีคอมเมนต์ แล้วก็ด่าด้วย เพราะฉะนั้น บางคนอาจจะเสียความมั่นใจไปเลยก็มี ในขณะเดียวกัน บางคนก็อาจจะประสบความสำเร็จไปเลย เช่น มีคนมาชื่นชม แล้วถูกทาบทามให้เข้าวงการ กลายเป็นคนมีชื่อเสียงก็คงเป็นส่วนหนึ่ง ถามว่าเป็นส่วนใหญ่หรือเปล่า ส่วนตัวมองว่าไม่
ดังนั้น การประสบความสำเร็จในชีวิต หากคุณจะต้องลงในโซเชียลมีเดียแล้วทำตัวเป็นศิลปิน หรือว่านายแบบนางแบบอะไรสักอย่างด้วยภาพลักษณ์ของตัวเอง แต่คุณไม่เรียนหนังสือ คุณไม่สนใจทำตัวเป็นเพื่อนที่ดี หรือลูกที่ดีของพ่อของแม่ หรือเป็นลูกศิษย์ที่ดีของคุณครู หรือไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แล้วถามว่า ชีวิตคุณประสบความสำเร็จจริงๆ หรือเปล่า คุณอาจจะได้สิ่งเหล่านี้แค่ชั่วคราว แต่สิ่งที่คุณลืมไปก็คือว่า วันที่คุณเกิด วันรุ่งขึ้นก็จะมีคนใหม่ๆ เกิดขึ้นๆ สุดท้ายคุณก็จะเก่าไปตามกาลเวลา"
ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Live
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754