สั่นคลอนความเชื่อมั่นของลูกค้าห้างฯ ดังครั้งใหญ่!! เมื่อหญิงสาวตั้งกระทู้เตือนภัยเหตุถูกคนร้ายกระหน่ำหมัดไม่ยั้งใส่หน้าจนกรามเบี้ยว ณ ลานจอดรถขณะกำลังลงจากรถ ล่าสุด ถึงแม้จะจับกุมคนร้ายได้สำเร็จด้วยภาพจากกล้องวงจรปิด
แต่ดูเหมือนทาง “เมกาบางนา” จะยังไม่หลุดพ้นสถานะ “จำเลยสังคม” ชาวโซเชียลมีเดียเข้าไปรุมประณามในหน้าแฟนเพจโทษฐานไม่มีคำตอบดีๆ ให้ลูกค้าเกี่ยวกับเรื่องความรับผิดชอบและมาตรการรักษาความปลอดภัย!!
เกือบเอาชีวิตไม่รอด!! ที่ห้างเมกาบางนา
“เกือบเอาชีวิตไม่รอด!! ที่ห้างเมกาบางนา MEGA Bangna เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16/10/57 (วันพฤ.ที่ผ่านมา)” คือชื่อกระทู้ที่ “สมาชิกหมายเลข 1786343” ของเว็บบอร์ดพันทิปตั้งเอาไว้ เธอบอกเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับเหตุมิจฉาชีพทำร้ายร่างกาย ณ ลานจอดรถของห้างฯ เมกาบางนาขณะกำลังลงจากรถเอาไว้อย่างละเอียด พร้อมฝากคำเตือนเอาไว้ว่า “สละเวลาอ่านสักนิด ภัยใกล้ตัวที่เกิดขึ้นจริงกับตัวเราเอง ที่เกือบเอาชีวิตไม่รอดเพราะมิจฉาชีพ!!!”
(กระทู้ต้นกำเนิด เปิดโปงเหตุการณ์ ณ ลานจอดรถ)
เจ้าของกระทู้คือหญิงสาววัย 40 ปี เธอถูกคนร้ายเข้ามาทางหลังรถ เปิดประตูฝั่งคนขับ จากนั้นกระหน่ำหมัดเข้าใส่หน้าไม่ยั้ง “เราสู้ ทั้งถีบ ทั้งตะโกน ทั้งบีบแตรรถ ทั้งขอความช่วยเหลือ ไม่มีใครเดินเข้ามา ไม่มีใครเข้ามาช่วย จนเวลาผ่านไปประมาณ 1 นาที ผู้ชายคนดังกล่าวเห็นว่าท่าไม่ดี และเราก็สู้ไม่ถอย จึงรีบวิ่งหนีไป หลังเกิดเหตุเราก็รีบปิดประตูรถ ล็อครถ เพื่อเช็คหน้าตัวเอง มีเลือดไหลทั้งปาก จมูก และหน้าบวม และรอในรถสักพักจนแน่ใจว่า ผู้ชายคนดังกล่าวไม่อยู่แถวนั้นแล้ว จึงลงมาจากรถ
และเห็นแม่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณนั้น จึงถามแม่บ้านว่า "หนูโดนทำร้าย พี่ไม่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ หรือเสียงบีบแตรเลยหรอคะ” แม่บ้านตอบว่า "ได้ยิน แต่คิดว่าวัยรุ่นทะเลาะกันเลยไม่ได้สนใจ" เราจึงบอกให้แม่บ้านพาไปหาหัวหน้ารปภ. เพื่อขอดูกล้องวงจรปิด”
ประเด็นสำคัญคือใจความในกระทู้ที่ระบุเอาไว้ว่า ทางเมกาบางนาขับรถไปส่งเธอที่โรงพยาบาล โดยมี รปภ.แจ้งว่า "ทางห้างฯ ของเราจะจ่ายค่ารักษาให้กับคุณครั้งนี้เท่านั้น หากมีค่าใช้จ่ายหรือค่ารักษาเกิดขึ้นหลังจากครั้งนี้ คุณจะต้องเป็นผู้ออกเอง ไม่เกี่ยวกับทางห้างฯ" และหลังจากที่เธอแจ้งความไปแล้ว ก็ได้รับข้อมูลจากทางห้างฯ ว่า “ได้ดูกล้องวงจรปิดแล้ว แต่จุดที่เกิดเหตุไกลจากจุดที่กล้องสามารถเห็นได้ จึงไม่สามารถเห็นตอนที่คุณโดนทำร้าย แต่เห็นภาพตอนคนร้ายวิ่งหนี” และจะประสานงานกับทางห้างฯ และทางสน.บางแก้วและร้อยเวรที่รับผิดชอบต่อไป แต่หลังจากนั้น 24 ชั่วโมงก็ไม่มีการติดต่อกลับผู้เสียหายแต่อย่างใด เธอจึงตัดสินใจโพสต์ข้อความทั้งหมดนี้บนโลกออนไลน์ จนกลายเป็นเรื่องราวที่ถูกแชร์มากที่สุด ณ ขณะนี้
“**เราต้องการให้ตำรวจจับคนร้ายคนดังกล่าวได้โดยเร็ว เราต้องการให้ทางห้างฯ เมกาบางนาออกมา**
1.แสดงความชัดเจนในมาตรการรักษาความปลอดภัยของทางห้างฯ
2.แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบริเวณห้างฯ ของท่าน มากกว่าการไปส่งที่โรงพยาบาลและออกค่ารักษาพยาบาลเพียงครั้งแรกครั้งเดียว เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าท่านอื่นๆ ด้วย
3.การมีเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือ บีบแตร ที่เกิดขึ้นในลานจอดรถ และมีพนักงานของท่านได้ยิน แต่ไม่สนใจ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้างฯ ของท่านเป็นปกติหรือ ถึงไม่มีใครเข้ามาดูหรือให้ความช่วยเหลือในทันที”
(ภาพจากกล้องวงจรปิด - ขอบคุณภาพจาก เดลินิวส์)
หลังเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นดัง ทางตำรวจก็สามารถทำตามความต้องการของผู้เสียหายได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว จับกุมคนร้ายได้แล้ว คนร้ายสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจริง โดยสาเหตุมาจากบันดาลโทสะ เนื่องจากในวันเกิดเหตุในช่วงบ่าย ก่อนหน้าจะเกิดเหตุ ขณะที่กำลังขี่มอเตอร์ไซค์อยู่บนถนนบางนา-ตราด ได้ถูกรถเก๋งคันหนึ่งซิ่งมาด้วยความเร็ว ก่อนจะเฉี่ยวชนรถจนล้มคว่ำได้รับบาดเจ็บ แต่รถคันดังกล่าวไม่ยอมจอดรถลงมาดูเพื่อสอบถามอาการ แถมยังขับต่อไปอีก คนร้ายจึงเก็บความโมโหไว้
กระทั่งต่อมาเวลา 18.00 น. ได้ขี่รถพาแฟนสาวซึ่งเป็นพนักงานห้างฯ มาส่ง จึงพบรถเก๋งซึ่งจำได้ว่าเป็นรถคันที่เฉี่ยวชนและไม่ยอมลงมาดู ด้วยความฉุนเฉียวจึงวิ่งปรี่เข้าไปชกต่อย ก่อนจะวิ่งมาขึ้นรถมอเตอร์ไซค์หนีไป ส่วนรถคนที่เฉี่ยวชนจะใช่รถคันเดียวกันกับที่เข้าไปชกต่อยหรือไม่นั้น ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้ว
แฟนเพจโกลาหล ลูกค้ารุมยำขอความรับผิดชอบ!!
ถึงตอนนี้ ทางตำรวจได้ออกมาแถลงข่าวจับกุมคนร้ายในคดีนี้อย่างเป็นทางการแล้วพร้อมกับผู้เสียหาย มีเพียงฝั่งห้างฯ เมกาบางนาเท่านั้นที่ยังคงไม่มีคำแถลงการณ์ใดๆ ออกมาอย่างเป็นทางการ แม้กระทั่งบนหน้าแฟนเพจ “Megabangna” เองก็ไม่มีโพสต์ใดๆ ออกมาพูดถึงกรณีนี้ให้ชัดเจน
แต่ความเงียบกลับไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น เพราะชาวโลกออนไลน์ทั้งหลายต่างรับไม่ได้ที่ทางห้างฯ ไม่มีความชัดเจนใดๆ ออกมา จึงเกิดการรวมตัวกันบนหน้าแฟนเพจอย่างเป็นทางการของห้างฯ โดยมิได้นัดหมาย คอมเมนต์ตอบทุกโพสต์บนหน้าแฟนเพจด้วยกระทู้ “เกือบเอาชีวิตไม่รอด!! ที่ห้างเมกาบางนา MEGA Bangna เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16/10/57 (วันพฤ.ที่ผ่านมา)” ให้เต็มหน้าเพจไปหมด ไม่ว่าทางแอดมินเพจจะโพสต์เกี่ยวกับโปรโมชันหรือกิจกรรมใดๆ ของทางห้างฯ ก็ไม่มีคนสนใจ มีแต่ถ้อยคำกระแหนะกระแหนจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก กระตุกให้กลับมาคิดถึงเหตุทำร้ายร่างกาย ณ ลานจอดรถที่เกิดขึ้น
(ทุกโพสต์บนแฟนเพจ เมกาบางนา ถูกถล่มด้วยกระทู้)
ซ้ำร้ายกว่านั้น มีคนเอาเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เคยเกิดขึ้นในห้างฯ มาฟื้นฝอยหาตะเข็บกันอีกรอบเพื่อสะท้อนถึงความไม่รับผิดชอบของทางห้างฯ เมื่อความโกลาหลเกิดบนหน้าแฟนเพจอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เช่นนี้ ทางแอดมินจึงเลือกใช้วิธีโต้กลับด้วยการคอมเมนต์ตอบตามโพสต์ต่างๆ ด้วยข้อความดังต่อไปนี้
“ทางเมกาบางนากำลังอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้เราไม่ได้นิ่งนอนใจแน่นอนค่ะ”
“ในกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ต.ค.นั้น ทางเมกาบางนาได้มีการพูดคุยเพิ่มเติมกับทางลูกค้าแล้ว ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินงานและรวบรวมข้อมูล ได้ความคืบหน้าอย่างไรจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งค่ะ ส่วนกระทู้ไม้หล่นเมื่อปี 2555
ทางเมกาบางนาได้ดูแลรักษาลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ติดตามอาการ และเจรจากับทางลูกค้าเรียบร้อยแล้วค่ะ จนลูกค้ามีความพึงพอใจค่ะ”
“ต้องขออภัยอีกครั้งค่ะ แอดมินยังให้ข้อมูลอะไรมากไม่ได้ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการเรื่องคดีอยู่ค่ะ หากมีความคืบหน้ายังไงจะรีบแจ้งนะคะ”
“ขอยืนยันว่าทางห้างมีการพูดคุยกับลูกค้าเจ้าของเรื่องแล้วแน่นอนค่ะ ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างการดำนินงานเรื่องคดีของตำรวจ เดี๋ยวมีความคืบหน้ายังไง แอดมินจะนำมาแจ้งแน่นอนค่ะ”
(ชาวไซเบอร์รวมตัวถล่มผ่านคอมเมนต์)
เมื่อทางผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังห้างสรรพสินค้าเจ้าของกรณีเพื่อขอคำอธิบาย ทางประชาสัมพันธ์ของห้างฯ ให้ข้อมูลว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและรับผิดชอบทางฝ่ายนี้ออกไปงานแถลงข่าวที่ สภ.บางแก้ว ซึ่งเป็นสถานีตำรวจที่รับผิดชอบในเขตพื้นที่เกิดเหตุ แต่เมื่อทีมข่าวโทร.สัมภาษณ์ พ.ต.อ.สง่า ธีรศรัณยานนท์ ผกก.สภ.บางแก้ว หัวหน้าสถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ กลับได้ข้อมูลที่ต่างไป ปรากฏว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ของทางห้างฯ แม้แต่คนเดียวเข้าร่วมงานแถลงข่าวในครั้งนี้ “ไม่มีใครมานะครับ วันนี้เป็นเรื่องของตำรวจ”
เมื่อถามว่าทางตำรวจได้มีการตกลงกับทางห้างฯ หรือไม่ว่า ขอให้ทางห้างฯ อย่าเพิ่งโพสต์หรือออกมาแสดงความรับผิดชอบอะไรอย่างเป็นทางการ พ.ต.อ.สง่า ผู้รับผิดชอบคดีนี้ตอบว่า “ไม่เลยครับ ตำรวจจำกัดแค่เรื่องเดียวคือเรื่องของผู้ต้องหา เรื่องของคนร้ายว่าอย่าเพิ่งเปิดเผยในรายละเอียดการสอบสวน ส่วนเรื่องอื่น เราไม่เกี่ยวครับ ทางตำรวจไม่เกี่ยวเลย ถ้าเขาจะทำอะไร สามารถทำได้เลยทันที”
“ในวันพรุ่งนี้ ผมจะลองหาทางพูดคุยดูว่าจะมีวิธีการเรียกความเชื่อมั่นได้ยังไงบ้าง ขอลองพูดคุยกับเขาก่อน ตอนนี้ยังไม่ได้คุยเลยครับ เพราะตั้งแต่คดีเกิด เราก็ได้แต่ดำเนินการหาตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้จงได้ ส่วนเรื่องมาตรการการป้องกันและรักษาความปลอดภัย เราจะทำกันต่อไปครับ ก็คงต้องดูโอกาสที่เหมาะสมว่าจะคุยกับทางห้างฯ ยังไงบ้าง
ในห้างฯ เมกาบางนาเป็นห้างฯ ชั้นนำเรื่องความปลอดภัยห้างฯ หนึ่งเลย เนื่องจากมี รปภ.ในวันธรรมดาเกือบ 100 คน มีกล้องวงจรปิดประมาณ 570 กว่าตัว คนเข้าออก รถเข้าออกทั้งหมด สามารถบันทึกไว้ได้ทั้งหมด การที่เราติดตามจับกุมตัวได้ ก็คือได้จากส่วนของทางห้างฯ นี่แหละครับ เป็นหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ทางห้างฯ มีสิทธิต่างๆ ครอบคลุมทั้งหมด แต่ในการก่อเหตุของคนร้าย เขาก็ใช้ช่องว่างในการก่อเหตุ ซึ่งในวันพรุ่งนี้เราจะพูดคุยกันในเรื่องมาตรการการอุดช่องว่างจากเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุเกิดขึ้นอีก
(กล้องวงจรปิดภายในห้างฯ)
กรณีนี้ อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนที่ไปใช้บริการตามห้างสรรพสินค้าหรือในลานจอดรถที่เป็นลักษณะเดียวกันนี้ ในขณะจะนำรถไปจอด ควรจะเลือกจอดในจุดที่ปลอดภัย จุดที่ใกล้ทางเข้าห้างฯ จุดที่ใกล้ รปภ. หรือจุดที่มีคนพลุกพล่าน ไม่อยากให้ไปจอดในจุดเปลี่ยว
จากนั้นเมื่อจอดแล้ว ก่อนจะลงจากรถ ก่อนจะปลดล็อกประตู ควรจะดูบริเวณแวดล้อมดังกล่าวเสียก่อนว่ามีความปลอดภัยหรือไม่ เห็นว่าปลอดภัยถึงเปิดประตูลงไป เราจะต้องมีเป้าหมาย มองไว้ก่อนว่าถ้ามีคนร้ายเข้ามา เราจะไปพึ่งใครได้บ้าง ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญ ในขณะเดียวกัน หลังจากออกจากห้างฯ กำลังจะเปิดประตูเข้าไปในรถ ก็สำคัญเหมือนกัน ต้องดูด้วยว่ามีคนร้ายซุ่มอยู่บริเวณใกล้เคียงหรือไม่อย่างไร หากมีความไม่มั่นใจในความปลอดภัย ควรจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ดีกว่าเดินไปแต่เพียงลำพังครับ”
จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จากฝั่งห้างสรรพสินค้าเมกาบางนาออกมาอย่างเป็นทางการ คงต้องรอดูกันต่อไปว่าห้างฯ ที่เกิดเหตุจะแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและให้คำตอบเรื่องความปลอดภัยให้โดนใจลูกค้าและชาวไซเบอร์ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะวัดคร่าวๆ จากความคิดเห็นของพวกเขาในคอมเมนต์หน้าเพจแล้ว ดูเหมือนว่าทางห้างฯ คงต้องออกมาอธิบายอีกยาว
“ถ้าไม่มีการประจานถึงการกระทำแบบขอไปทีอย่างนี้ คุณคงไม่ออกมารับผิดชอบต่อสินะ หมดความเชื่อถือแล้วค่ะ เราและเพื่อนพี่น้องไม่ไปห้างฯ นี้อีกแน่ ทำดีค่ะทำดี!” Icece Sarocha
“ครั้งที่แล้วก็ไม้หล่นใส่หัวผู้ชายแล้วไม่รับผิดชอบใดๆ แล้วเจอเรื่องนี้อีก ห้างฯ คิดจะทำอะไรบ้างมั้ยคร้าบ หรือสูบเงินอย่างเดียว” Folk Lnwza Eiei
“ขอบายเหมือนกันค่ะ ห้างจะเอาแต่เงินลูกค้า แต่ไม่ดูแลลูกค้าให้ปลอดภัยเลย จะแชร์ต่อให้เพื่อนๆ ทราบค่ะ” Tikky Narumol Kitravee
“ฝากถึงผู้บริหารนะครับ ระวังไว้นะครับแถวนี้ห้างฯ เยอะ การแข่งขันสูง เดี๋ยว Bangkok Mall ของ The Mall มาจะยิ่งไม่มีคนไปนะครับ” Nutdanai Wattanachunechom
“ปกติไปเดินบ่อยๆ แบบนี้คงไม่กล้าแล้วล่ะ” Khun Tui
ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Live
ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754
ข่าวที่เกี่ยวข้อง (คลิก)
- หลีกให้พ้น! “ปล้นในที่จอด”
- เดินห้างฯ อย่าวางใจ! โจร ณ ที่จอดรถ
ลิงก์ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง (คลิก)
- เกือบเอาชีวิตไม่รอด!! ที่ห้างเมกาบางนา MEGA Bangna เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16/10/57 (วันพฤ.ที่ผ่านมา)
- เหตุเกิดที่ห้างดัง เมกาบางนา ทำให้ชีวิตครอบครัวนึงเปลี่ยนไปตลอดกาล อุบัติเหตุที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น