“มอลล์” ปรับใหญ่รับคู่แข่ง / “ซีพีเอ็น” เสริมแม็กเน็ต “เวสต์เกต”

ASTVผู้จัดการรายวัน - “เดอะมอลล์” อัด 200 ล้านบาทแก้เกมศึกค้าปลีกฝั่งบางแค-บางกะปิ พร้อมทุ่มอีก 200 ล้านบาทอัด 100 แคมเปญกระตุ้นโค้งท้าย หวังทราฟฟิกเพิ่ม 20% ฟากเจ้าตลาดกรุงเทพฯ ฝั่งเหนือ “ฟิวเจอร์พาร์ค” เทสู้ 25 ล้านบาท ส่งแคมเปญใหญ่ฉลอง 19 ปี ตั้งเป้าทราฟฟิกเพิ่ม 20% เช่นกัน ด้าน “ซีพีเอ็น” เร่งเครื่องเสริมทัพแม่เหล็กโครงการ “เวสต์เกต” เต็มที่ พร้อมทุ่มเพิ่ม 300 ล้านบาททำทางเชื่อมเข้าศูนย์ฯ

นางสาวดวงตา พงษ์วิไลย์ ผู้จัดการใหญ่การตลาด คอร์ปอเรต มาร์เก็ตติ้ง บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ศูนย์การค้าย่านกรุงเทพฯ ตะวันตก หรือฝั่งบางแค เดิม “เดอะมอลล์” เป็นผู้ให้บริการใหญ่เพียงรายเดียว แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาพบว่าเมืองมีการขยายตัวและมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาเป็นจำนวนมาก ทั้งกลุ่มค้าปลีกขนาดใหญ่และคอมมูนิตี้มอลล์ เช่น เดอะวอล์ก, คริสตัล ปาร์ก, เดอะ เซอร์เคิล และเซ็นทรัล ศาลายา เป็นต้น ส่งผลให้ “เดอะมอลล์” ต้องมีการปรับตัวมากขึ้น โดยยังคงชูจุดแข็งในเรื่อง “วันสตอปเซอร์วิส” เน้นการปรับ Tenant Mix รองรับกลุ่มลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงานและครอบครัวคนรุ่นใหม่ ล่าสุดได้มีการรีโนเวต “เดอะมอลล์ บางแค” ไปแล้วกว่า 55% พร้อมเพิ่มร้านอาหารชั้นนำเพื่อเป็นแม่เหล็กเข้าไปอีกมากมาย เช่น Kagonoya, Tudari และร้านหัวปลาหม้อไฟจูเนียร์ เป็นต้น คาดว่าภายในปีหน้าจะรีโนเวตครบทั้ง 100% หลังปีก่อนได้มีการปรับพื้นที่สวนน้ำไปแล้ว

นอกจากนี้ ยังพบว่าฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันออก ตั้งแต่บางกะปิไปจนถึง ถ.เกษตรนวมินทร์ เป็นอีกทำเลหนึ่งที่มีการแข่งขันของค้าปลีกเติบโตมากขึ้นเช่นเดียวกับฝั่งบางแค ดังนั้นบริษัทฯ จึงได้ทำการรีโนเวต “เดอะมอลล์ บางกะปิ” ไปพร้อมๆ กับ “เดอะมอลล์ บางแค” ซึ่งทำได้กว่า 50% ในปีหน้าคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์เช่นกัน โดยมั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มทราฟฟิกเข้ามาอีกอย่างน้อย 20% จากปัจจุบันอยู่ที่ 1 แสนคนต่อวัน และในวันเสาร์-อาทิตย์อยู่ที่ 2 แสนคนต่อวันในแต่ละสาขา โดยทั้ง 2 สาขาใช้งบรีโนเวตในส่วนชอปปิ้งมอลล์ไปกว่า 200 ล้านบาท แบ่งเป็น “เดอะมอลล์ บางแค” 60% และ “เดอะมอลล์ บางกะปิ” 40% โดยในปีหน้าเตรียมที่จะมีการรีโนเวตสาขางามวงศ์วานและนครราชสีมาเป็นลำดับต่อไป

นางสาวดวงตา กล่าวต่อว่า ในไตรมาสสุดท้ายนี้บริษัทฯ พร้อมใช้งบประมาณกว่า 200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30-40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งในแง่จำนวนเงินและจำนวนงานสำหรับจัดอีเวนต์และโปรโมชั่นร่วม 100 งานในทุกสาขาเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย หลังจากพบว่าไตรมาสสุดท้ายสถานการณ์การเมืองนิ่ง ผู้บริโภคมีกำลังซื้อดีขึ้น มีอารมณ์ในการใช้จ่ายมากขึ้น เช่น แคมเปญ The Mall Shopping Grand Sale “Happy Surprise” ลดจัดหนัก เซอร์ไพรส์จัดเต็ม ระหว่างวันที่ 2-31 ต.ค. ในการลดสูงสุดถึง 80% และลุ้นรางวัลใหญ่รวมมูลค่าของรางวัลกว่า 1.6 ล้านบาท

*** “ซีพีเอ็น” เสริมแม่เหล็ก “เวสท์เกต” ***
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานพัฒนาธุรกิจ ออกแบบและก่อสร้าง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ “ซีพีเอ็น” เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการศูนย์การค้า “เซ็นทรัล เวสท์เกต บางใหญ่” ว่า ขณะนี้โครงการฯ มีความคืบหน้าด้านการก่อสร้างแล้ว 60-70% ในส่วนของโครงสร้างอาคาร ส่วนพื้นที่นั้นมีการจองพื้นที่แล้วกว่า 80% ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดบริการได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2558

นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับรายใหญ่ที่จะเข้ามาใช้พื้นที่อีกด้วย เช่น ในส่วนของธีมปาร์กสวนสนุกขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาคาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญาได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะอยู่ในส่วนพื้นที่ของเวิลด์คลาสเอนเตอร์เทนเมนต์ ที่มีพื้นที่ส่วนนี้ประมาณ 2.3 หมื่นตารางเมตร เช่น โรงภาพยนตร์กลุ่มเมเจอร์ และคอนเวนชั่นฮอลล์ เป็นต้น

รวมไปถึงยังอยู่ระหว่างการทำเรื่องเพื่อขออนุญาตจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมทางหลวง และองค์การรถไฟฟ้ามหานคร เพื่อทำทางเชื่อมทั้งทางรถยนต์ลอยฟ้า ทางรถยนต์ลอดอุโมงค์ และทางเดินสกายวอล์ก เพื่อเชื่อมทางสาธารณะเข้าสู่โครงการด้วย คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณก่อสร้างเพิ่มเติมส่วนนี้กว่า 300 ล้านบาท

หลังจากที่ “เซ็นทรัล เวสต์เกต”เปิดบริการแล้วมั่นใจว่าจะมีผู้เข้ามาใช้บริการประมาณ 1-1.2 แสนคนต่อวัน มีค่าเช่าพื้นที่เฉลี่ย 1-1.4 พันบาทต่อตารางเมตรต่อเดือน คาดว่าจะเป็นโครงการที่ทำรายได้ในอันดับต้นๆ และใกล้เคียงกับศูนย์ขนาดกลางอย่าง “เซ็นทรัล ลาดพร้าว” ที่มีพื้นที่เล็กกว่าแต่ค่าเช่าสูงกว่า จึงทำให้อยู่ในลำดับใกล้กัน

“บริษัทฯ มั่นใจกับโครงการนี้มาก จึงทุ่มงบลงทุนมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท สร้างให้เป็นซูเปอร์รีจินัลมอลล์ที่ดีที่สุดในเอเชีย ขนาด 5 แสนตารางเมตร บนพื้นที่ 100 ไร่ เนื่องจากมีทำเลดีคือ แยกบางใหญ่ ที่จะเป็นซีบีดีแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นจุดตัดของถนนกาญจนภิเษก ขนาด 12 เลน และถนนรัตนาธิเบศร์ ขนาด 10 เลน รองรับรถยนต์มากกว่า 85 ล้านคันต่อปี และยังมีเส้นทางแห่งอนาคตรองรับเออีซีคือ มอเตอร์เวย์สายตะวันตก บางใหญ่-บ้านโป่ง-กาญจนบุรี เชื่อมต่อท่าเรือทวาย ทะเลอันดามัน มีทางด่วนขั้นที่ 3 เชื่อมวงแหวนตะวันตกและมอเตอร์เวย์ชลบุรี และรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายกว่า 13 ล้านคน ในรัศมีเดินทาง 1 ชั่วโมง รวม 8 จังหวัด”

นางสาววัลยา กล่าวว่า ซีพีเอ็นยังคงเดินตามเป้าหมายเดิม 5 ปีที่เริ่มตั้งแต่ปี 2557 สร้างการเติบโต 10-15% ต่อปี ลงทุนเฉลี่ย 1-1.5 หมื่นล้านบาทต่อปี เปิดโครงการใหม่ 4 แห่งต่อปี

*** ฟิวเจอร์พาร์คอัดแคมเปญเพียบ ***
ด้าน นางรัตนา อนันทนุพงศ์ ผู้อำนวยการด้านการตลาด ศูนย์การค้า “ฟิวเจอร์พาร์ค” กล่าวว่า สำหรับศูนย์การค้า “ฟิวเจอร์พาร์ค” ถึงแม้ว่าช่วงที่ผ่านมาภาพรวมของเศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงชะลอตัว แต่ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากกลยุทธ์ด้านการตลาดที่ตอกย้ำความเป็นศูนย์การค้าที่สร้างสีสัน มีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยเฉลี่ยเดือนละ 10-12 งาน ครอบคลุมทุกพื้นที่ ตอบสนองความต้องการทุกกลุ่มลูกค้า ทำให้ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คมีผู้มาใช้บริการเฉลี่ย 1.5 แสนคนต่อวัน

ล่าสุดในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ในโอกาสที่ศูนย์การค้าฯ ครบรอบ 19 ปี ใช้งบประมาณ 25 ล้านบาท ส่งแคมเปญฉลองครบรอบ 19 ปีอย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่อ “Future 19th Anniversary Grand Splendor” ลดท้าฟ้า โชว์ท้าฝน Super Sale Super Show ลดราคายิ่งใหญ่ทั้งศูนย์การค้าฯ และห้างร้านชั้นนำ เช่น Central, Robinson, Big C, B2C, Super Sport, Power Buy, Home Work, Tops Market ฯลฯ สูงสุด 80% พร้อมลุ้นชิงรถยนต์ Toyota All New Vios มูลค่า 5.89 แสนบาท