xs
xsm
sm
md
lg

สาวๆ ที่ชอบใส่ส้นสูง! โปรดอ่านทางนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รู้หรือไม่ว่าภัยเงียบที่แฝงมากับความสวยสง่าด้วยรองเท้าส้นสูงนั้น ต้องแลกมากับโรคภัยไม่น้อยเลยทีเดียว หากใส่ส้นสูงไม่ถูกวิธี และดูแลรักษาเท้าของตนเองไม่ดีพอ โดยเฉพาะโรคที่เกิดกับ กระดูก ข้อเข่า ข้อเท้า ซึ่งเป็นปัญหาที่ทรมานพอสมควรเมื่ออายุมากขึ้น

นพ.ธนันท์ สมิทธรักษ์ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ รพ.ปิยะเวทช เตือนว่า สำหรับสาวๆ ที่ชอบใส่ส้นสูงติดต่อกันเป็นเวลานานๆ หรือใส่ตลอดเวลาในชีวิตประจำวัน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดขา ปวดเท้า ปวดหลัง หรือลุกลามไปเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมได้ในอนาคต และมีความเสี่ยงมากสำหรับสาวๆ ที่มีน้ำหนักตัวเกินและสาวๆ ที่ชอบวิ่งบนรองเท้าส้นสูง ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งตามรถเมล์ รถไฟฟ้า หรือแม้แต่ใส่ขึ้นลงบันไดก็ตาม

"การสวมใส่ส้นสูงทำให้เท้าต้องยืนเขย่งอยู่ตลอดทั้งวัน ทำให้กระดูกนิ้วเท้า เอ็นข้อเท้า เอ็นร้อยหวาย กล้ามเนื้อน่อง และเข่า ต้องเกร็งอยู่ตลอดเวลา ส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือด ทำให้เกิดอาการปวดน่องบ่อยๆ และเป็นตระคริว ซึ่งอาการเหล่านี้จะส่งผลให้เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมได้ก่อนวัยอันควร หากใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสมกับรูปเท้า ก็อาจเกิดการกดทับและเสียดสี ก็อันตรายเช่นกัน อาทิ การสวมใส่รองเท้าที่มีหน้าแคบเกินไป อาจบีบรัดอุ้งเท้าจนเกิดบาดแผลได้" นพ.ธนันท์เผย

นอกจากอาการที่เกิดกับเท้าแล้ว การสวมรองเท้าส้นสูงยังส่งผลกระทบต่อกระดูกสันหลังทำให้มีอาการปวดเกร็งที่หลัง เนื่องจากแกนของกระดูกสันหลังและแผ่นหลังจะโน้มไปข้างหน้า เพื่อให้ร่างกายสามารถตั้งตรงและทรงตัวได้บนรองเท้าส้นสูง ทำให้กระดูกบริเวณบั้นเอวรับน้ำหนักมาก เมื่อสะสมเป็นเวลานาน หมอนรองกระดูกอาจจะเคลื่อนออกมา และกดทับเส้นประสาท จนอาจเกิดอาการปวดหลังอย่างรุนแรงได้

"สาวๆ ที่หลงรักการใส่ส้นสูงควรเลือกใส่เฉพาะเวลาที่จำเป็นและไม่ควรใส่ที่ส้นสูงมากเกิน 1.5 นิ้ว ถ้าเป็นไปได้ให้เลือกแบบส้นหนาหรือที่เรียกกันว่าส้นตึกจะดีกว่า เพื่อลดปัญหาข้อเท้าพลิกจากรองเท้าส้นแหลม และในหน้าฝนแบบนี้ ควรใส่รองเท้าส้นแบนมากกว่ารองเท้าส้นสูงจะดีกว่า เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มจากการใส่รองเท้าส้นสูง หรือถ้าหากเกิดอุบัติเหตุข้อเท้าพลิก จนเกิดอาการปวดหรือบวมบริเวณข้อเท้า ให้ใช้น้ำแข็งประคบบริเวณข้อเท้าประมาณ 20 -30 นาที ขณะเดียวกันให้ยกขาขึ้นสูง ทำซ้ำๆ ประมาณ 4 - 5 ครั้งต่อวัน"

ทั้งนี้ คุณหมอเน้นย้ำว่า ในช่วงแรก ๆ ที่เกิดการบาดเจ็บ และควรประคบต่ออีก 2-3 วัน หลังจากนั้น ให้ประคบร้อน ส่วนข้อห้ามสำคัญ คือ ห้ามนวด หรือบิดข้อเท้าเป็นอันขาด แต่ถ้าประคบแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือแย่ลง รวมถึงอาการต่าง ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ปวดขา ปวดเข่า ปวดหลัง นอกจากนั้น ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง หรือทิ้งไว้จนลุกลามจนเป็นเรื้อรัง ควรรีบมาปรึกษาแพทย์ทันที



ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น