xs
xsm
sm
md
lg

อีกแล้ว! หายนะ “รับน้องอาชีวะ” เมื่อรุ่นพี่ มอบ “ความตาย” ให้รุ่นน้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“อีกแล้ว!!?” ทุกคนเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันโดยไม่ต้องนัดหมาย หลังทราบข่าวสะเทือนอารมณ์ว่ามีรุ่นน้องวัย 17 จากเครืออาชีวศึกษาเสียชีวิตจากการรับน้องนอกสถานที่ ณ หาดทรายน้อย อ.หัวหิน แม้ผลชันสูตรศพจะยังไม่ยืนยันแน่ชัดว่าผู้ตายสิ้นลมเพราะโรคลูคีเมียที่เคยเป็นกำเริบหรือเพราะถูกทารุณจากกิจกรรมโหด แต่หลักฐานและพยานบางส่วนชี้เอาไว้ว่า มี “เหล้าขาว” และกิจกรรม “ทิ้งดิ่ง” กลางทะเลเป็นเหตุ ร้อนถึง ผอ.วิทยาลัยปทุมธานี ให้ออกมารับผิดชอบเด็กในปกครอง เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ แน่!!



โหด-ไม่โหด? รับน้อง “ซดเหล้าขาว+ทิ้งดิ่งทะเล”
“แม่ไม่อยากให้ทางวิทยาลัยต่างๆ มีกิจกรรมรับน้อง ขอให้ลูกแม่เป็นศพสุดท้าย ขอให้เป็นกรณีตัวอย่าง และอยากจะฝากให้วิทยาลัยเข้มงวดถึงเรื่องความปลอดภัยของนักศึกษามากกว่านี้”
ศิริวิมล แสงโรจน์รัตน์ ผู้เป็นแม่พูดทั้งน้ำตาด้วยหัวใจที่แตกสลาย เพราะไม่อาจทำอะไรได้มากไปกว่าการจำทนรับความจริงที่เกิดขึ้นว่า ต่อไปนี้จะไม่มี “น้องกัน-โภไคย แสงโรจน์รัตน์” คอยช่วยขายข้าวแกงหลังเลิกเรียนช่วยแม่อีกต่อไป

ความโศกสลดในครั้งนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคมอยู่ในขณะนี้ หลายคนหมดหวังกับคำว่า “ศพสุดท้าย” จากคำร้องขอของผู้ปกครองผู้เสียชีวิตที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะการพรากลมหายใจจากกิจกรรมรับน้องโหดไม่เคยหยุดลงจริงๆ เสียที โดยเฉพาะในครั้งนี้ ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์บางรายให้ปากคำเอาไว้เบื้องต้นว่า พบเห็นกลุ่มเด็กพวกนี้ “ล็อกคอกรอกเหล้า” กันด้วย จึงยิ่งส่อเค้าไปในทิศทาง “รับน้องโหด” มากขึ้นทุกที


(ณ จุดเกิดเหตุ หาดทรายน้อย หัวหิน)

“ขอยืนยันว่าทางวิทยาลัยมีมาตรการคุมเข้มเรื่องการรับน้อง แต่การรับน้องดังกล่าวนักศึกษาจัดขึ้นเองโดยวิทยาลัยไม่ทราบเรื่อง จากการสอบถามทราบว่าเดินทางไปทั้งสิ้น 54 คน แบ่งเป็นเด็ก ปวช.2-ปวส.2 จำนวน 27 คน รุ่นพี่ที่จบไปแล้ว 12 คนและเด็ก ปวช.1 จำนวน 15 คนจากทั้งหมด 40 คน เนื่องจากเป็นการรับน้องโดยที่รุ่นพี่ชักชวนไปแบบสมัครใจ

และจากการสอบถามนักศึกษาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทราบว่ามีการจัดกิจกรรมเป็นฐาน 7 ฐาน และฐานสุดท้ายเป็นกิจกรรมลุกนั่งเพื่อออกกำลังกาย ขณะสกอตจัมป์ นายโภไคยวูบลงไปแต่ไม่ได้เสียชีวิตในทันที ลักษณะเหมือนการนอนกรนจึงได้นำส่งโรงพยาบาล สำหรับประเด็นเรื่องการดื่มเหล้านั้นทราบว่ามีบางฐานมีแก้วเหล้าแต่ก็ไม่ได้บังคับให้ดื่ม ส่วนนายโภไคยดื่มเหล้าหรือไม่นั้นยังไม่ทราบข้อมูลแน่ชัด คงต้องรอผลการชันสูตรศพอีกครั้ง” ขวัญชัย พานิชการ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ชี้แจงรายละเอียดเอาไว้กับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง

ลองย้อนกลับมาดูคำอธิบายบางส่วนจากผู้ที่อ้างว่าเป็น “รุ่นพี่” ในเหตุการณ์โพสต์เอาไว้ในเว็บบอร์ดพันทิป บอกเล่าขั้นตอนทุกอย่างอย่างละเอียด รวมไปถึงกิจกรรมการ “ทิ้งดิ่ง” (ทิ้งตัวกลางอากาศให้หล่นลงบนพื้นดินหรือพื้นน้ำ) ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมวัดใจที่อันตรายมากๆ กิจกรรมหนึ่ง ยิ่งทำให้รู้สึกสลดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าไปใหญ่

ที่น่าสนใจคือขณะนี้ ข้อความในโพสต์นั้นถูกลบออกไปหมดแล้ว เนื่องจากผู้ตั้งกระทู้ถูกชาวไซเบอร์ร่วมกันประณามอย่างหนัก หรืออาจเพราะข้อความในกระทู้เปิดเผยความจริงมากเกินไปจนอาจส่งผลต่อผู้ใหญ่ในสถาบันนั่นเอง และย่อหน้าต่อจากนี้คือข้อความอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนจะถูกลบออกไป โดยตั้งชื่อกระทู้เอาไว้ว่า “ศิษย์เก่าขอชี้แจงกรณีศิษย์ปัจจุบันจัดกิจกรรมรับน้องจนทำให้น้องเสียชีวิต ซึ่งสื่อเสนอเรื่องเกินจริงไปมาก!”


(โพสต์จากรุ่นพี่ ก่อนจะถูกลบออกไป)

“มีกิจกรรมรับน้องจริง แต่คืนนั้นพอไปถึงสถานที่ทางรุ่นพี่ก็ให้น้องมานั่งล้อมวงทำความรู้จักกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแล้วพาน้องนอน ยืนยันครับ คืนแรกที่ไปถึงไม่มีการมากระทืบรุ่นน้องหรือถีบรุ่นน้องลงมาจากภูเขา ตามที่สื่อเสนอแต่อย่างไร พวกรุ่นพี่พาน้องนอน แล้วพวกรุ่นพี่ช่วยกันทำฐาน การเตะกันตามที่ป้าให้การผ่านสื่อ อาจจะเป็นการเล่นกันในหมู่รุ่นพี่หรือหยอกล้ออะไรก็แล้วแต่

ขอสารภาพว่าเพราะคืนนั้นรุ่นพี่เกือบทุกคนกินเหล้ากันแล้วช่วยกันทำฐาน เพื่อรอรับน้องตอนเช้า พอมาถึงตอนเช้าทางรุ่นพี่ก็ปลุกน้องมาเตรียมตัวรับ เบื้องต้นจากที่ได้ฟังจากรุ่นน้องผม น้องคนที่เสียเคยป่วยเป็นลูคีเมียแต่รักษาหายแล้ว ทางรุ่นพี่ได้ถามน้องทุกคนว่ามีใครเป็นโรคประจำตัวอะไรมั้ย แล้วทุกคนป่วยอะไรมั้ย น้องคนที่เสียบอก ผมหายดีแล้ว จึงเริ่มทำการรับ พอกำลังจะเริ่มรับเข้าฐานให้น้องจับคู่ทำบัดดี้ ซึ่งมีการให้น้องดื่มเหล้าขาวจริง แต่ไม่ใช่การจับกรอกตามสื่อเสนอ แต่คือการแบ่งกันจิบ แล้วน้องที่เสียขอดื่มแทนเพื่อน

พอน้องดื่มไปก็ได้ทำการ “ทิ้งดิ่ง” จริง แต่เป็นการทิ้งดิ่งในน้ำทะเล หลังจากนั้นน้องก็อ้วก โดยไม่มีการจับหน้ากดลงกองทรายตามสื่อเสนอแต่อย่างไร พอรุ่นพี่เห็นน้องอ้วกจึงวิ่งไปถามชาวประมงคนในข่าวดั่งกล่าวว่า รพ.ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหนแล้วก็ได้พาไปส่งรพ. แต่ไม่ได้มีการทิ้งน้องหนีตามสื่อเสนอแต่อย่างไร คิดดูนะครับว่าสื่อออกมาว่าพอพาน้องส่ง รพ.เสร็จแล้วก็ซิ่งหนีทันที คือถ้าหนีจริงคนที่อยู่ให้ปากคำตำรวจอีก 5-6 คนนั่นคืออะไร พอพารุ่นน้องมาถึง รพ.มีบางส่วนที่กลับไปเก็บของที่พัก แล้วทยอยตามมาดูอาการน้อง ทุกคนไม่มีใครทิ้งหนีกลับ แล้วยืนรอตำรวจเพื่อให้การแล้วรอพ่อแม่น้องที่เสีย พร้อมจ่ายจำนวนเงิน 22,000 บาท เพื่อจะเอาตัวน้องที่เสีย ออกจากรพ. พอตำรวจมาถึงก็กักตัวรุ่นพี่ที่ไปรับใว้ให้ปากคำ 5-6 คน อีกประมาณ 30 กว่าคน รอข้างนอก

การให้ปากคำมีไปจนดึกจึงปล่อยตัวกลับบ้าน พ่อแม่น้องที่เสียบอกน้องป่วยเป็นลูคีเมียแต่รักษาหายไปแล้ว แต่ก็ยังกังวลใจอยู่ไม่คิดว่าอาการจะกำเริบ ซึ่งน้องที่เสียเองก็ไม่รู้ตัว พอได้จิบเหล้าขาวอาการจึงกำเริบ คิดดูนะคนที่ป่วยเป็นเม็ดเลือดขาว ลองได้กินเหล้าขาวเลือดและความดันจะขึ้นแค่ไหนซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิด ซึ่งตรงนี้รุ่นพี่ผิดจริงโดยการให้น้องดื่มเหล้าขาว ซึ่งพวกผมได้กำชับมาตลอดว่าอย่าให้น้องกิน ถ้าอยากจะกินให้เปลี่ยนเป็นไวตามิลค์หรือไข่แทน

ทางเราขอยืนยันครับไม่มีการกระทืบน้องเตะน้อง ตามที่เป็นสื่อเสนอแต่อย่างไร ซึ่งข้อมูลที่สื่อเสนอเป็นข้อมูลจากคนอื่น ที่ไม่ใช่มาจากตำรวจหรือคำให้การจากทางเรา เราไม่โทษสื่อที่เสนอเนื้อหาเกินจริง เราเข้าใจว่านั่นคืองาน ทางเราขอยอมรับผิดการที่น้องจากเราไปมันเป็นสิ่งที่ทำให้เราเสียใจที่สุด ไม่มีรุ่นพี่ที่ไหนอยากให้รุ่นน้องตายหรอกครับ ทางสมาคมศิษย์เก่าช่างก่อสร้างปทุมได้ติดต่อไปทางพ่อแม่น้องที่เสียชีวิตแล้วทางเราพร้อมจะรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับกรณีนี้

จากการบอกเล่าทางพ่อแม่น้องที่เสียชีวิตไม่ติดใจเอาเรื่อง เพราะทราบข้อมูลที่แท้จริงว่าลูกไม่ได้โดนทำร้ายร่างกายสื่อเสนอแต่อย่างไร ทางเรารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากแล้วขออาลัยน้องที่จากไป เราขอยืนยันไม่มีการทำร้ายร่างกายน้องอย่างเด็ดขาด ซึ่งเพราะน้องก็สนิทกับรุ่นพี่ที่ไปรับ ทางเรายอมรับผิดต่อสังคมและครอบครัวของน้องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเราจะไม่แก้ตัวกับเหตุการณ์นี้เรารู้สึกผิดเสียใจที่สุด ซึ่งตัวผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ได้เคยเห็นการรับน้องของพวกรุ่นน้องมาบ้าง ผมขอยืนยันทางเราไม่ได้โหดเหี้ยมดั่งเช่นสื่อเสนอ

ศพของน้องจะนำมาสวดที่วัดชินวรามปทุมธานี เป็นเวลา3คืน คืนแรกพรุ่งนี้ แล้วทางสมาคมศิษย์เก่าช่างก่อสร้างปทุมจะเป็นเจ้าภาพจัดการทั้งหมด ผมขอเป็นตัวแทนศิษย์เก่าช่างก่อสร้างปทุม กราบขอโทษสังคมที่ปล่อยให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น โดยทางเรารู้สึกผิดแล้วเสียใจอย่างสุดซึ้ง ชีวิตของน้องเอากลับคืนมาไม่ได้ขอให้นี่เป็นอุทาหร แล้วหวังว่านี่จะเป็นศพสุดท้ายที่เกิดขึ้นเรารู้สึกผิดแล้วจะรับผิดต่อสังคมทุกกรณี ทางรุ่นพี่ไม่เคยบังคับน้องให้มารับ น้องรุ่น 75 มีจำนวน 60 คน แต่ที่มารับมี 25 คน ทุกคนสมัครใจมาครับแล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น

ไม่ได้หวังให้ท่านเชื่อหรือจะมาแก้ตัวให้รุ่นน้อง แต่ในนามศิษย์เก่าหวังเพียงอยากจะมาชี้แจงข้อมูลว่าเราไม่ได้โหดเหี้ยมอย่างที่สื่อเสนอ แค่นี้แหละครับ เรากล้าทำกล้ายอมรับผิดเราเป็นลูกผู้ชายพอ แล้วเราไม่เคยทิ้งกัน ขอบคุณมากครับ ท้ายนี้ขอฝากว่า อาหารจานไหนที่ไม่เคยกิน ก็อย่าเพิ่งบ่น รถคันไหนไม่เคยขับ ก็อย่าเพิ่งติ หนังเรื่องไหนไม่เคยดูก็อย่าเพิ่งวิจารณ์TONFAY12




พอเสียที! ระบบ รุ่นพี่(ข่ม)รุ่นน้อง
สิ่งที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้รับการชดเชยในตอนนี้คือ เงินช่วยเหลือเบื้องต้นจากวิทยาลัย 10,000 บาท และจากสมาคมผู้ปกครองและครูอีก 30,000 บาท ส่วนนักศึกษารุ่นพี่และตัว ผอ.วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี กำลังอยู่ในขั้นตอนการสอบข้อเท็จจริง ในส่วนของบทลงโทษ ตอนนี้รุ่นพี่ผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดถูกว่ากล่าวตักเตือน ทำทัณฑ์บน ตัดคะแนนความประพฤติ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยให้ผู้ปกครองรับกลับไปดูแลบ้างแล้ว ส่วนการลงทัณฑ์ทางอาญานั้น ต้องรอผลไปอีกสักระยะหนึ่ง

ทั้งหมดนี้คือมาตรการการแก้ปัญหาในระยะสั้น แต่ในระยะยาว เมื่อเรื่องนี้เงียบหายไป “ความตายจากกิจกรรมรับน้อง” ก็คงจะถูกลืมเลือนไปไม่ต่างจากที่เป็นมา จึงควรให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหันกลับมามองเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่มองว่าเกิดขึ้นในสถาบันไหน แต่ควรมองให้ลึกลงไปยังรากของระบบ มองให้ถึงระบบ “โซตัส (SOTUS)” ระบบรุ่นพี่รุ่นน้องว่ายังควรมีอยู่ในสถาบันการศึกษาไทยอยู่อีกหรือไม่?

ระบบโซตัส คือแนวคิดที่อังกฤษและอเมริกาใช้ปกครองคนในอาณานิคม ซึ่งเป็นคำที่มาจากอักษรย่อที่ว่า
S = Seniority หมายถึงเคารพผู้อาวุโส
O = Order หมายถึงต้องทำตามคำสั่งผู้อาวุโส
T = Tradition หมายถึงทำตามประเพณีที่ผู้อาวุโสคิดเอาไว้
U = Unity หมายถึงต้องคิดเหมือนๆกันอย่างเป็นเอกภาพห้ามคิดต่าง
และ S = Spirit หมายถึงพร้อมพลีชีพเพื่อสถาบัน


ซึ่งมีผู้ที่ต่อต้านระบบนี้จำนวนไม่น้อย ซ้ำยังให้ความหมายของตัวย่อแบบใหม่เอาไว้ดังนี้
S = Stupid หมายถึงโง่
O = Out-Dated หมายถึงล้าสมัย
T = Tyranny หมายถึงเผด็จการ
U = Uncivilized หมายถึงป่าเถื่อนไร้อารยธรรม
และ S = Stop It หมายถึงเลิกเถิดเรื่องโง่ๆ



(ตัวอย่างกลุ่มคนต่อต้านระบบรุ่นพี่รุ่นน้อง-โซตัส)


ลองเข้าไปดูในหน้าเพจบนเครือข่ายออนไลน์อย่างเฟซบุ๊กก็มีกลุ่มคนต่อต้านระบบนี้อยู่เช่นกัน โดยเฉพาะเพจที่มีชื่อว่า “เพจต่อต้านการรับน้องที่รุนแรงและไร้สมอง” และ รู้ทัน"sotus" รู้ทัน"ประชุมเชียร์"-อย่าตกเป็นเหยื่อทางอารมณ์ของรุ่นพี่เลวๆ” ที่มีการโพสต์เกี่ยวกับกรณีข่าวรับน้องครั้งนี้และติดตามอย่างใกล้ชิดด้วย สะท้อนให้เห็นว่ามีรุ่นน้องอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่ต้องการการรับน้องแบบป่าเถื่อนเพื่อสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ เกี่ยวกับเรื่องนี้ “วิทยากร เชียงกูล” คณบดีกิตติคุณ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ผู้ศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมโซตัสและวิพากษ์เรื่องนี้มาโดยตลอด แสดงความคิดเห็นต่อระบบไม่พึงประสงค์แบบนี้เอาไว้ว่า

“วัฒนธรรมการรับน้องแบบนี้ เป็นวัฒนธรรมทางด้านจิตวิทยา มาจากอาการเก็บกดตั้งแต่วัยเด็ก เราเลี้ยงดูลูกแบบใช้อำนาจ ไม่ให้เด็กมีเหตุมีผลหรือคิดเองเป็น เด็กก็จะไปใช้วิธีระบายออก ขมขู่คนที่อ่อนแอกว่าหรือเป็นรุ่นน้อง แล้วก็สืบทอดวัฒนธรรมรังแกกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ ปัญหานี้แก้ยากเหมือนกันนะ แต่ต้องพยายามแก้ครับ เพราะประเทศอื่นเขาก็ไม่ค่อยมีรับน้องอะไรแบบนี้แล้ว เหลือแต่ประเทศไทยนี่แหละ จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ บอกเลยว่ายากครับ เพราะบางทีเด็กก็แอบไปกันเองไม่บอกอาจารย์ แต่ผมว่ายังไงก็ต้องพยายามห้ามให้มากขึ้น

ที่ระบบโซตัสยังหยั่งรากอยู่ในสถาบันการศึกษา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะวัฒนธรรมสังคมไทยครับ สังคมเราเป็นวัฒนธรรมแบบเจ้าขุนมูลนาย อาวุโสนิยมมาตั้งแต่ไหนแต่ไร และเป็นเพราะรุ่นพี่ไปปลูกฝังความเชื่อที่ผิดๆ การเชื่อว่าถ้าผ่านความยากลำบากร่วมกันไปได้ จะทำให้รักกันมากขึ้น หรือความเชื่อว่าผู้ชายต้องกินเหล้าได้ถึงจะแสดงความแข็งแรง ถ้าไม่กินเหล้า ไม่เป็นลูกผู้ชาย ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด จริงๆ แล้ว ถ้าอยากให้รุ่นน้องสามัคคีกัน รักกัน รุ่นพี่ไม่ต้องโหดก็ได้ รุ่นพี่สามารถแสดงความใจดีได้ ก็เคยมีการจัดระบบให้รุ่นพี่ดูแลรุ่นน้องตามระบบสายรหัส (รุ่นน้องคนไหนมีรหัสเดียวกันกับรุ่นพี่ ก็จะได้รับการดูแลจากคนนั้น) เป็นการแนะนำกันไปในทางที่ดี มันก็ดีนะครับ เป็นการสร้างความสามัคคี สร้างความรักในหมู่คณะได้เหมือนกัน

เทียบกับการรับน้องโหดๆ จริงๆ แล้วอาจจะไม่ได้ทำให้รุ่นน้องรักรุ่นพี่จริงๆ ก็ได้ เพราะรุ่นน้องอาจจะแอบเกลียดรุ่นพี่อยู่ลึกๆ แต่แค่พอรวมกลุ่มแล้วอาจจะต้องเสแสร้ง แต่ในใจก็แค้นรุ่นพี่อยู่ พอปีหน้า ได้เป็นรุ่นพี่ก็เอาไปลงที่รุ่นน้องต่อ เพราะมีปัญหาในใจอยู่ลึกๆ ไม่ได้สามัคคีกันจริงๆ

อีกวิธีหนึ่งที่น่าจะช่วยลดปัญหาระบบรุ่นพี่-รุ่นน้องแบบนี้ได้ ผมเสนอว่าต้องยกเลิกการให้รับเฉพาะนักศึกษาใหม่ คือต้องรับผู้ใหญ่มาเรียนด้วย เด็กๆ พวกนี้จะได้เลิกใช้วิธีรับน้องใหม่มาอ้างเสียที เพราะถ้ามีคนต่างรุ่นเข้ามา จะได้ไม่ต้องมีระบบรุ่นพี่-รุ่นน้อง อย่างมหาวิทยาลัยในประเทศอื่นที่เขารับผู้ใหญ่มาเรียนด้วย เขาก็ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องรับน้องอะไรแบบนี้เลย รับผู้ใหญ่เข้าไปด้วยสัก 15 เปอร์เซ็นต์ก็ไม่ต้องมาเสียเวลาหนักใจกับเรื่องแบบนี้”




ขจัด “รุ่นพี่ผี” โซตัสดีๆ ยังมีอยู่
ลองมองจากมุมมองของผู้วิจัยด้านปัญหาเด็กและเยาวชนมากว่า 10 ปี อย่าง “รศ.ดร.สุนีย์ กัลยะจิตร” ประธานคณะกรรมการบริหารงานหลักสูตรปริญญาเอก คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ สาขาอาชญาวิทยา การบริหารงานยุติธรรมและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ดูบ้าง เธอบอกว่าจริงๆ แล้วระบบโซตัสไม่ได้เลวร้าย ถ้ารู้จักใช้ให้เป็น

ระบบรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง มันมีคุณค่านะคะ แต่ขอให้ใช้มันในมุมที่ดี คุณค่าของระบบที่รุ่นพี่แนะนำสิ่งดีๆ ให้รุ่นน้อง ให้น้องเป็นคนดี ช่วยเหลือสังคม ให้เกียรติ ดูแลซึ่งกันและกัน อันนี้เป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ใช่แนะนำกันในด้านไม่ดี เช่น ต้องระวังนะ ฝ่ายนั้นมีอาวุธ เราต้องพกอาวุธนะ หรือถ้ามันมามองหน้าเรา เราทำมันก่อน สอนให้ฉกเครื่องหมายสถาบันของฝั่งตรงข้าม แบบนี้มันไม่ใช่ระบบรุ่นพี่-รุ่นน้องที่ดีแล้วค่ะ โซตัสที่ดีมีอีกเยอะแยะ แต่ทำไมถึงเลือกโซตัสที่มันสร้างภาพลบกับตัวเอง


(ขอบคุณภาพจากเพจ "รู้ทัน "sotus" รู้ทัน"ประชุมเชียร์"-อย่าตกเป็นเหยื่อทางอารมณ์ของรุ่นพี่เลวๆ")

ส่วนปัญหาเรื่องการรับน้องในกรณีนี้ ส่วนที่จะช่วยได้น่าจะเป็นโรงเรียนค่ะ การดูแลสอดส่องของโรงเรียน, ครูที่ปรึกษา และผู้ปกครอง คงต้องช่วยกันโฟกัสไปให้ถึงกลุ่มเด็กๆ ว่าเขากำลังจะรวมตัวกันไปทำอะไร เพราะเวลาเด็กๆ เขานัดกัน เขามักจะใช้ไลน์ (Line) คุยกัน แป๊บเดียวก็รวมตัวกันได้แล้ว ทำให้ครูตามไม่ทัน แต่ถ้าลองตามดูดีๆ ถ้ามีเครือข่ายที่ช่วยกันคอยดูพฤติกรรมของเด็กที่เข้มแข็ง ผู้บริหารใส่ใจ ก็จะช่วยได้มาก คงจะต้องจับมือกันตั้งแต่สถานศึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในพื้นที่ ต้องดูว่าจุดไหนเป็นจุดที่ล่อแหลม ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายผู้ปกครองเอง, เครือข่ายชุมชน แม้แต่วินมอเตอร์ไซค์ แม่ค้า ที่อยู่ละแวกโรงเรียน ที่พบว่าเขาจะรวมตัวกัน ก็น่าจะช่วยแจ้งได้ถ้าพบเจออะไรผิดสังเกต

พ่อแม่ที่เห็นว่าลูกตัวเองหายไป รู้สึกแปลกๆ อาจจะแจ้งภายในเครือข่ายผู้ปกครอง หรือแค่ได้ยินลูกพูดถึงเรื่องรับน้อง ก็แจ้งทางสถาบัน แล้วให้สถาบันประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ รีบร่วมกันป้องกัน แจ้งข่าวในเครือข่าย คุยกันแบบ 2 ways communication จะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและจะแก้ไขกันยังไง เพราะบางทีพ่อแม่ของเด็กรู้นะคะว่าจะมีรับน้อง แต่ไม่ได้แจ้งใครเพราะไม่คิดว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นแบบนี้”


(ขอบคุณภาพจาก "เพจต่อต้านการรับน้องที่รุนแรงและไร้สมอง")

ที่สำคัญคือต้องจำกัดความคำว่า “รุ่นพี่” กันเสียใหม่ เพราะหลายครั้งที่มี “รุ่นพี่ผี” เป็นตัวนำรับน้องโหดจนทำให้เกิดความสูญเสียมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

“เมื่อวานนี้มีการจัดสัมมนาการป้องกันการก่อเหตุทะเลาะวิวาทของกลุ่มโรงเรียนอาชีวศึกษา มีทั้งตัวแทนของโรงเรียน ตัวแทนของกระทรวง, ตัวแทนสถานีตำรวจ, กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ทุกฝ่ายมีการคุยกันในประเด็นนี้ค่ะ คำว่า “รุ่นพี่” เราคงต้องให้ความหมายกันใหม่ คือต้องเป็นรุ่นพี่ที่ต้องเรียนจบจากสถาบันนั้นจริงๆ ไม่ใช่แค่อ้างว่าเป็นรุ่นพี่ที่เข้ามาเรียนไม่กี่ปีแต่ไม่จบ ตอนนี้มีสถาบันการศึกษาที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง 17 แห่งที่ต้องทำความเข้าใจเรื่องนี้กันใหม่ คือต้องระวังไม่ให้มี “รุ่นพี่ผี” เข้ามาอยู่ในระบบโรงเรียน เราต้องกันกลุ่มนี้ออกไป ไม่ให้เขาถ่ายทอดวัฒนธรรมที่ผิดๆ ไปให้รุ่นน้องกลุ่มใหม่ๆ อีก

อยากบอกว่าจริงๆ แล้ว กลุ่มที่เข้าเรียนอาชีวศึกษา เป็นกลุ่มที่อยากเรียนช่าง มุ่งมั่นในวิชาชีพนั้นจริงๆ แต่พอมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแล้วสังคมก็ใช้คำพูดแรงๆ กับเขา ก็ทำให้กลุ่มเด็กดีๆ ทั้งหลายค่อยๆ หนีหายไปได้เหมือนกัน และเท่าที่ทราบ เด็กกลุ่มที่เสียชีวิต เขาเป็นเด็กดีนะคะ แต่เขาไม่ได้พกอาวุธอย่างที่รุ่นพี่บอกและเขาหนีไม่ทัน ก็เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เราต้องสูญเสียเด็กดีๆ ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการสร้างอนาคตของชาติในเชิงโครงสร้าง งานก่อสร้างของประเทศเรา ยิ่งเราก้าวเข้าสู่อาเซียนเท่าไหร่ กลุ่มนี้ยิ่งมีความสำคัญที่เราต้องใส่ใจเป็นพิเศษ”

ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live



ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754



ข่าวที่เกี่ยวข้อง (คลิก)
- รุ่นพี่เทคนิคปทุมฯ รับน้องใหม่ดับคาหาดทรายน้อย หัวหิน 1 ราย
- ผอ.เผย นศ.เต็มใจร่วมรับน้อง เร่งหาคนผิดมาลงโทษกรณีเด็กเสียชีวิต

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
- ศิษย์เก่าขอชี้แจงกรณีศิษย์ปัจจุบันจัดกิจกรรมรับน้องจนทำให้น้องเสียชีวิต ซึ่งสื่อเสนอเรื่องเกินจริงไปมาก!
- จากใจญาติของน้องผุ้เสียชีวิต กรณีรับน้องที่หัวหินค่ะ
- เรื่องคดี รับน้องตายที่หัวหิน ไปถึงไหนแล้วครับ
 
กำลังโหลดความคิดเห็น