ผู้ว่าฯ ประจวบฯ สั่งทุกพื้นที่คุมเข้มกิจกรรม “รับน้องโหด” ประสาน ตร.ลาดตระเวนชายหาดจุดล่อแหลม

ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ สั่งทุกอำเภอเพิ่มมาตรการตรวจสอบเข้มกิจกรรมรับน้องของนักศึกษา พร้อมประสานตำรวจจัดชุดลาดตระเวนออกตรวจจุดล่อแหลมตามชายหาด หลังเกิดเหตุนักศึกษารับน้องเสียชีวิต ตำรวจหัวหิน เตรียมสอบปากคำนักศึกษา และชาวบ้านเพิ่ม เบื้องต้นตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เตรียมขยายผลค้นหาผู้กระทำผิด

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีที่ นายโภไคย แสงโรจน์รัตน์ หรือน้องกัน อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125/728 หมู่ 3 ต.บึงสนั่น อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นักศึกษาชั้น ปวช.ปีที่ 1 วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ร่วมกิจกรรมรับน้องกับรุ่นพี่ร่วมวิทยาลัย ต่อมามีเลือดไหลออกจากปาก และรุ่นพี่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพ หัวหิน และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลหัวหิน โดยเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น

วันนี้ (1 ก.ย.) ร.ต.ท.จารึก คงกระเรียน ร้อยเวร สภ.หัวหิน เจ้าของคดี เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการสอบปากคำนักศึกษาไปแล้ว โดยได้ระดมพนักงานสอบสวนทั้ง สภ.หัวหิน มาร่วมสอบปากคำนักศึกษาทั้งหมด โดยในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ขั้นตอนต่อไปจะต้องมีการสืบสวนขยายผลเพื่อค้นหาว่ามีใครเป็นผู้กระทำผิดบ้าง

ส่วนสาเหตุการตายของน้องกัน ยังสรุปไม่ได้เพราะจะต้องรอผลจากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ชี้ขาดในสาเหตุการตายที่แท้จริงออกมาก่อน

ส่วนพ่อและแม่ของน้องกัน ขณะนี้ยังไม่ได้เดินทางมาแจ้งความที่ สภ.หัวหิน เนื่องจากยังคงต้องรอผลจากนิติเวชเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมที่จะสอบปากคำนักศึกษาเพิ่มเติมอีก รวมทั้งจะมีการสอบปากคำชาวบ้านที่บริเวณหาดทรายน้อย ที่เห็นเหตุการณ์เพิ่มเติมด้วย

ด้านนางศิริวิมล แสงโรจน์รัตน์ มารดาของน้องกัน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ ได้เดินทางไปรับศพลูกชายออกจากสถาบันนิติเวชแล้ว โดยนำไปตั้งสวดบำเพ็ญกุศลที่วัดชินวณาราม อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สถาบันนิติเวชแจ้งเพียงว่า ระบบการไหลหมุนเวียนโลหิตล้มเหลว ส่วนอื่นๆ ต้องใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 1 เดือน ซึ่งตนไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมนานจัง ส่วนการแจ้งความนั้นต้องปรึกษากับญาติๆ ก่อน

ทางด้านนายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ทุกอำเภอเพิ่มมาตรการความเข้มงวดในการตรวจสอบกิจกรรมการรับน้องของนักศึกษาที่มาใช้สถานที่ท่องเที่ยว หรือใช้บริการโรงแรมที่พักภายในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์

ในส่วนของอำเภอหัวหินนั้น ตนได้ประสานงานไปยัง พ.ต.ท.สถาพร สงวนสุข สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน ให้จัดรถปฏิบัติการชายหาด (เอทีวี) และเจ้าหน้าที่สายตรวจ ออกตรวจชายหาดหัวหินตลอดแนวในจุดที่มีข้อมูลว่าเป็นสถานที่จัดกิจกรรมรับน้องเป็นประจำ รวมทั้งขอให้รีสอร์ต รวมทั้งบ้านพักต่างๆ หากพบมีการจัดกิจกรรมรับน้องของนักศึกษา จะต้องเข้าไปชี้แจงทำความเข้าใจ และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบต่อไป

พ.ต.ท.สถาพร สงวนสุข สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน กล่าวว่า หลังได้รับการประสานงานจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวออกลาดตระเวนบริเวณชายหาดหัวหินอย่างเข้มงวดทันที โดยเฉพาะจุดล่อแหลมที่มักใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมรับน้อง

“เบื้องต้นจากการสอบถามข้อมูลพบว่า จุดล่อแหลมที่มักใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมรับน้องนั้นจะเป็นทางโซนหาดทรายน้อย ซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุ เนื่องจากบริเวณชายหาดจุดนั้นเป็นหาดกว้าง มีบริเวณโขดหินจะปิดกั้นกับชายหาดเขาเต่าเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้จะได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวลงไปตรวจตราบริเวณดังกล่าวต่อไป”