xs
xsm
sm
md
lg

ไขข้อสงสัย เด็ก 4 เดือนกินอาหารขยะได้หรือไม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กระหึ่มโลกออนไลน์ กรณี ไก่-มีสุข แจ้งมีสุข พิธีกรชื่อดัง โพสต์ภาพและคลิปป้อนแฮมเบอร์เกอร์ให้ลูกน้อยวัย 4 เดือน กลายเป็นประเด็นที่ใครหลายคนให้ความสนใจ โดยเฉพาะคนเป็นพ่อแม่ว่าแท้จริงแล้ว เด็กวัย 4 เดือนกินอาหารขยะได้หรือไม่

เรื่องนี้ พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ทารกแรกเกิด โรงพยาบาลบีเอ็นเอช และอนุกรรมการศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ให้ความรู้ไว้อย่างละเอียดในเพจ "สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ" ซึ่งเป็นเพจให้ความรู้เรื่องการเลี้ยงลูก โดยทีมข่าว ASTVผู้จัดการ Live ได้ต่อสายตรงพูดคุยกับคุณหมอ และได้รับอนุญาตให้นำข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับวิธีการให้อาหารเสริมมานำเสนอต่อเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่พ่อแม่ทุกคน

พญ.สุธีรา ออกตัวก่อนว่า การให้ความรู้ต่อไปนี้ ไม่ได้มีเจตนาตำหนิใคร แต่เป็นการให้ข้อมูลวิธีให้อาหารเสริมที่ถูกต้อง และให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อควรระวังของอาหารขยะเท่านั้น

กล่าวถึงการให้เด็ก 4 เดือนดูดแฮมเบอร์เกอร์ หรือมะเขือเทศที่อยู่ในแฮมเบอร์เกอร์ คุณหมอ บอก พร้อมเตือนว่า ต้องระวังเรื่องการสำลักชิ้นส่วน หรือเศษอาหารเข้าปากลงหลอดลม ทำให้อุดกั้นทางเดินหายใจจนเป็นอันตรายได้ ดังนั้น พ่อแม่ หรือผู้ดูแลจึงควรเรียนรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีที่มีปัญหาสำลักเศษอาหารเข้าหลอดลมไว้ด้วย

ลึกลงไปถึงเรื่องการให้อาหารเสริมลูกน้อย งานวิจัยล่าสุดปี 2012 จาก Cochrane review กล่าวว่า ถึงแม้จะมีงานวิจัยบางฉบับ แนะนำให้เริ่มอาหารเสริมตอน 4 เดือน โดยอ้างว่าจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคภูมิแพ้ แต่จากการรีวิวโดย Cochrane แล้ว ยังไม่พบข้อเสียของการเริ่มอาหารเสริมที่อายุ 6 เดือนตามที่งานวิจัยเหล่านั้นกล่าวอ้าง Cochrane จึงยังคงคำแนะนำเหมือนเดิม คือ เริ่มอาหารเสริมที่ 6 เดือน ยกเว้นกรณีมีปัญหาการเติบโตน้อยเกินไปในทารกบางราย เช่น แม่ขาดสารอาหารขั้นรุนแรง หรือลูกมีโรคประจำตัวบางอย่างที่ทำให้การเติบโตน้อยเกินไป

ส่วนเหตุผลที่ไม่ควรให้อาหารเสริมก่อนอายุ 6 เดือน คุณหมอบอกไว้เป็นข้อๆ ดังนี้

- ช่วยลดอัตราการเจ็บป่วย เพราะได้รับภูมิต้านทานจากนมแม่เต็มที่ การศึกษาหนึ่งพบว่าเด็กที่ได้รับนมแม่อย่างเดียวใน 6 เดือนแรกมีปัญหาโรคหูชั้นกลางอักเสบน้อยกว่ากลุ่มที่เริ่มอาหารเสริมเร็ว โดยลดลงถึง 40% และมีปัญหาโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจลดลงอย่างชัดเจน

- ไม่ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานหนักเกินไป ถ้าเริ่มเร็วเกินไป อาจมีปัญหา ท้องอืด ท้องผูก น้ำย่อยโปรตีนยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้ย่อยโปรตีนได้ไม่เต็มที่ น้ำย่อยคาร์โบไฮเดรตยังไม่สมบูรณ์จนกว่าจะอายุ 6-7 เดือน น้ำย่อยไขมันยังไม่สมบูรณ์จนกว่าจะอายุ 6-9 เดือน

- ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคแพ้อาหาร งานวิจัยพบว่า ยิ่งให้นมแม่นาน ยิ่งลดความเสี่ยงของโรคแพ้อาหาร แต่หากมีการให้อาหารแปลกปลอมอื่นเข้าไป สารแปลกปลอมก็จะเล็ดลอดเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายทารกสร้างสารต่อต้าน จนเกิดปัญหาแพ้อาหารตามมาได้

- ลดความเสี่ยงปัญหาขาดธาตุเหล็ก การให้อาหารอื่นก่อนอายุ 6 เดือน จะทำให้ลำไส้ดูดซึมธาตุเหล็กจากนมได้น้อยลง งานวิจัยพบว่า เด็กที่ได้รับอาหารเสริมก่อน 6 เดือน จะมีปัญหาซีดจากขาดธาตุเหล็กที่อายุ 1 ขวบมากกว่า

- ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วนเมื่อโตขึ้น

- ช่วยให้แม่ผลิตน้ำนมได้เต็มที่ เพราะหากกินอาหารเสริม จะทำให้เด็กกินนมแม่ลดลง แม่จะสร้างน้ำนมลดลง พบว่าเด็กที่เริ่มอาหารเสริมเร็วก่อน 6 เดือน มีแนวโน้มหย่านมแม่เร็วขึ้น

- ลูกมีปัญหาการกินน้อยกว่ากลุ่มที่เริ่มอาหารเสริมก่อน 6 เดือน เพราะลูกมีความพร้อมมากกว่า

สำหรับพ่อแม่ที่มีลูกอายุถึง 6 เดือนแล้ว คุณหมอแนะนำว่า อาหารที่ควรให้เริ่มกิน ควรเป็นข้าวบดละเอียด ผสม กับ ผัก ผลไม้ ธัญพืช หรือ เนื้อสัตว์ ค่อยๆ ทดลองทีละอย่าง เป็นขั้นเป็นตอน กินอาหารไม่ปรุงรส ยกเว้นใส่เกลือไอโอดีนได้เล็กน้อย เพื่อไม่ให้ขาดธาตุไอโอดีนที่จำเป็นต่อสมอง

ท้ายนี้ พญ.สุธีรา บอกว่า คุณพ่อคุณแม่หลายคน โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ยังขาดความรู้เรื่องการให้อาหารเสริมลูกน้อย บางคนหาความรู้จากอินเทอร์เน็ต หรือดูตัวอย่างจากคุณพ่อคุณแม่ดาราที่บางทีก็ยังขาดความรู้ในเรื่องนี้ ทางที่ดีควรหาความรู้ที่ถูกต้อง และน่าเชื่อถือจากคุณหมอ หรือผู้เชี่ยวชาญโดยตรงดีกว่า

ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live



ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754


กำลังโหลดความคิดเห็น