แทบจะกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่บรรดาสัตว์เลี้ยง 4 ขา หมา - แมวจะมีเพจเป็นของตัวเอง ด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูสร้างเป็นกระแสนิยมจนทำให้สัตว์เลี้ยงเหล่านั้นมีชื่อเสียงจนกลายเป็น “เซเลบฯสัตว์เลี้ยง” ที่มีชื่อ มีคาแร็กเตอร์ มีจุดเด่นเฉพาะตัวแตกต่างกันไป
1 ในเพจสัตว์เลี้ยงที่โดดเด่นเป็นที่นิยมก็คือ เพจทูนหัวของบ่าว ที่เจ้าของเลี้ยงแมวน่ารักไว้หลายตัวด้วยกัน มีการโพสต์เรื่องราวอย่างต่อเนื่องจนมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก ทว่าล่าสุดหลังจากมีการตั้งกระทู้วิพากษ์วิจารณ์ถึงการเลี้ยงดูแมวของเจ้าของเพจอย่างรุนแรง เพจดังกล่าวจึงได้ปิดตัวลง ทิ้งปมสำคัญที่หลายคนตั้งคำถามว่า เซเลบหมา - แมวที่มีชื่อเสียงเหล่านี้อยู่กับคนเลี้ยงสัตว์ หรือหากินกับสัตว์!
วัฒนธรรมสัตว์เลี้ยงเซเลบฯ
การที่สัตว์อาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์มีอยู่อย่างช้านานตั้งแต่ในยุคที่คนยังไม่แยกตัวออกจากธรรมชาติ กระทั่งกลายเป็นวัฒนธรรมของการเลี้ยงสัตว์ คนอยู่ร่วมกับสัตว์โดยอาศัยพึ่งพาอาศัยกัน มีการเลี้ยงสัตว์ด้วยวัตถุประสงค์ที่หลากหลายตั้งแต่ไว้ใช้แรงงาน หวังผลผลิตอย่าง นม หรือ ไข่ กระทั่งเลี้ยงไว้กิน อีกหนึ่งวัตถุประสงค์ที่ดำรงมาถึงยุคปัจจุบันก็คือการเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อน
ต่อมาจึงเกิดธุรกิจสัตว์เลี้ยงขึ้นเพื่อสนองตอบความต้องการของมนุษย์ที่อยากเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อนมากขึ้น จนตอนนี้มูลค่าทางตลาดของธุรกิจสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยก็มีการเจริญเติบโตที่สูงมาก จากการประเมินของบริษัทวิจัยตลาด Euromonitor International พบว่าในปี 2556-2561 ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงไทยจะมีอัตราการเติบโตเป็นอันดับแปดของโลก
“ยอดขายอาหารสัตว์เลี้ยงของเรา เติบโตอย่างรวดเร็ว จนเราผลิตได้ไม่ทันกับความต้องการ” ณรงค์ชัย ศรีสันติแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร สายงานปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจเครือเบทาโกร กล่าว ระหว่างงานเปิดโรงงานอาหารสัตว์ปลอดยาปฏิชีวนะแห่งใหม่ของเบทาโกร ที่จังหวัดลพบุรี โดยในปี 2556 มียอดขาดอาหารสัตว์เลี้ยงที่ประกอบไปด้วย อาหารสุนัข แมว ปลา เดือนละประมาณ 3000 ตัน
และท่ามกลางกระแสสัตว์เลี้ยง เทคโนโลยีการสื่อสารอย่างอินเทอร์เน็ตก็เป็นกลไกหนึ่งในการขับเคลื่อน วัฒนธรรมการเลี้ยงสัตว์ในโลกยุคไซเบอร์จึงเปลี่ยนแปลงไป จากที่เคยเลี้ยงเล่นสนุกอยู่บ้านก็มีการถ่ายรูปแชร์ส่งต่อ เกิดเป็นสังคมของคนที่รักชอบในสิ่งเดียวกันบนโลกเสมือน
กระทั่งการเข้ามาเฟซบุ๊กจึงเกิดเป็นเพจสัตว์เลี้ยงต่างๆ ขึ้นมาที่โพสภาพ โพสต์วิดีโอให้เหล่าผู้ชื่นชอบได้ติดตาม สัตว์เลี้ยงหลายตัวมีชื่อเสียงจนมีผู้คนติดตามอยู่ทั่วโลกโดยมีฉายาที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่เจ้าทาร์ต แมวหน้าบึ้ง , ทามะ แมวที่เป็นนายสถานีรถไฟที่ประเทศญี่ปุ่น, มารุ แมวกล่อง
ในประเทศไทยนั้นสัตว์หลายตัวที่มีชื่อเสียงจากสื่อออนไลน์ ในช่วงแรกนั้นสัตว์ที่มีชื่อเสียงมักจะเป็นสัตว์ที่อยู่ในย่านคนเมืองตัวอย่างเช่น “แรมโบ มาบุญครอง” ถือเป็นเซเลบสุนัขที่หลายคนรู้จักโดยมีหมาจรที่อาศัยอยู่ย่านสยาม - มาบุญครอง และ “แมว อโศก” ที่หลังจากมีคนถ่ายรูปทำเพจและตั้งชื่อก็มีผู้คนเข้ามาเล่นด้วยมากมาย จนเจ้าของเพจ “ทูนหัวของบ่าว” รับมาอยู่ด้วยในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม ไม่นานเพจสัตว์เลี้ยงก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เริ่มจากเพจ “ทูนหัวของบ่าว” ที่ประกอบไปด้วยแมวอโศก มะลิ เสือสมิง เสือโคร่ง และเสือชีตาร์ที่เน้นความน่ารัก เพจ “จอนนี่แมวศุภลักษณ์” ที่โด่งดังจากการแต่งตัวล้อเลียนเณรคำ มีจุดเด่นที่มุกตลกทันต่อสถานการณ์ เพจ “กลูต้า” เป็นสุนัขจรที่ได้รับการเลี้ยงดูและทำเพจจนโด่งดังมีคาแรกเตอร์สง่างามเหมือนนางแบบ
กลายเป็นปรากฏการณ์สัตว์เลี้ยงเซเลบที่สัตว์หลายตัวโด่งดังจนขึ้นปกนิตยสาร ถูกนำไปแสดงหนัง แสดงละคร แม้กระทั่งออกงานอีเวนต์
ชื่อเสียงและเงินทอง
หลังจากการปิดตัวลงของเพจ “ทูนหัวของบ่าว” โดยมีเพียงข้อความสั้นๆ บอกถึงสาเหตุของการหายไปครั้งนี้ว่า “ไม่มีความสุขที่จะทำอีกต่อไป”
ทีมงาน ASTV ผู้จัดการ LIVE ได้พยายามติดต่อไปยัง นัชญ์ ประสพสิน เจ้าของเพจทูนหัวของบ่าว ก็ได้รับการปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์โดยให้เหตุผลว่า อยากให้เรื่องทั้งหมดจบไปพร้อมกับเพจที่ปิดตัวไปแล้ว และไม่อยากจะตอบโต้ใดๆ อีก ก่อนยืนยันว่า ได้ยกเลิกงานโชว์ตัวทั้งหมดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ตอนนี้ไม่ได้ให้ที่สื่อไหนเลย คือยังไม่อยากจะตอบโต้อะไรอีกแล้ว อยากให้เรื่องมันจบลงเสียที อยู่ในโลกออฟไลน์ก็สบายดีเหมือนกัน ตอนนี้ก็แคนเซิลงานทั้งหมดไปแล้ว”
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์ก็ยังคงเป็นคำถามที่ค้างคาใจใครหลายคน ชื่อเสียงที่สัตว์เลี้ยงที่มากขึ้น กับเงินทองผลประโยชน์ที่ชาวเน็ตต่างจับตา โรเจอร์ โลหะนันทน์ นายกสมาคมพิทักษ์สัตว์(ไทย) อธิบายถึงปรากฏการณ์เหล่านี้ว่า ย้อนหลังไปในช่วง 3 - 4 ปีที่ผ่านมามีการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการสื่อสารเกี่ยวกับการช่วยเหลือสัตว์อยู่เป็นจำนวนมาก
“ช่วงก่อนหน้านี้ที่พวกเราพบบ่อยมากก็คือการเรี่ยไรเงินช่วยเหลือสัตว์ โดยอาจจะถ่ายรูปและมีการเขียนอารัมภบทที่ดีๆ คนก็จะสงสารกันเยอะ กลายเป็นว่าช่วยสัตว์แค่ 1 - 2 ตัวแต่เงินได้รับบริจาคมันเยอะมาก ที่แย่ก็คือมันขาดการตรวจสอบทำให้มีการฟ้องร้องกันบ้าง แจ้งความกันผิดใจกัน ซึ่งบางกรณีก็ผิดจริง กลายเป็นสัตว์ช่วยคนแทนที่คนจะช่วยสัตว์ แต่บางกรณีก็โปร่งใส เอาเงินทั้งหมดช่วยเหลือสัตว์จริงๆ”
โดยในส่วนของการตั้งเพจสัตว์เลี้ยงของตัวเองขึ้นมาจนมีชื่อเสียงนั้น เขาเผยว่า เป็นสิ่งที่ทำได้หากไม่ละเมิดสวัสดิภาพสัตว์ ทั้งนี้ เขากล่าวเพิ่มเติมว่า การจะตัดสินว่าเจ้าของนั้นประสงค์สิ่งใดจากการทำเพจสัตว์เลี้ยงของตัวเอง อาจต้องตัดสินจากสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากสัตว์เลี้ยงมีชื่อเสียงแล้ว
“วัดกันง่ายๆ มันดูไม่ยากหรอก เวลาสัตว์มีชื่อเสียงขึ้นมาสัตว์ได้ประโยชน์มั้ย? โดยเริ่มดูก่อนเลยว่า สัตว์เลี้ยงตัวนั้นต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำหรือเปล่า หลายคนเลี้ยงสัตว์เพื่อเอาไว้โชว์เท่านั้น สัตว์มันไม่ได้ประโยชน์ สิ่งที่สัตว์ต้องการเป็นสิ่งแรกคือสวัสดิภาพของมัน แต่ไม่ค่อยมีใครคำนึงถึงตรงนี้สักเท่าไหร่”
ทั้งนี้ ปรากฏการณ์ที่ผู้คนหลงใหลคลั่งไคล้สัตว์เซเลบ รวมไปถึงการที่คนร่วมกันบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือสัตว์ในโลกออนไลน์ ด้านหนึ่งก็สะท้อนว่า คนรักสัตว์มากขึ้น ทว่าอีกด้านหนึ่งการที่กฎหมายคุ้มครองสัตว์ยังไม่มีออกรองรับก็ทำให้เห็นว่า คนไทยอาจจะยังไม่เข้าใจถึงสวัสดีภาพสัตว์อย่างแท้จริง
เขาได้เผยเพิ่มเติมว่า การนำสัตว์มาถ่ายรูป หรือนำไปออกงานอีเวนต์ ให้ทำงานเป็นสัตว์นักแสดงนั้นแท้จริงแล้วสามารถทำได้หากแต่มีเส้นแบ่งอยู่
“เส้นแบ่งมันง่ายมากเลยครับ อยู่ที่คำว่าสวัสดิภาพสัตว์ เราไม่ได้ห้ามใช้สัตว์จะเอาไปกินอาหารโชว์ ไปวิ่งเล่น ถ่ายรูป จะทำอะไรก็ได้ แต่คุณต้องคำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์ ถ้าไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร คุณก็คิดถึงกฎหมายแรงงานซึ่งจะคำนึงถึงสวัสดิภาพคนงาน สัตว์ก็ต้องมีสวัสดิภาพของมันด้วย ฉะนั้นเส้นแบ่งในเรื่องนี้จึงอยู่ที่ว่า ธุรกิจนี้ กิจการนี้ถูกต้องตามหลักสวัสดิภาพสัตว์หรือไม่”
อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันหากพิจารณาจากสถานการณ์ปัญหาสัตว์ไร้บ้านโดยรวมแล้ว เขาเห็นว่า คนไทยยังไม่ได้รักสัตว์อย่างแท้จริง
“มีคนบอกว่า นี่คือยุคทองของสัตว์เลี้ยง ผมอดไม่ได้ที่จะแย้งว่า ไม่ใช่ มันเป็นยุคทองของธุรกิจสัตว์เลี้ยงต่างหาก เพราะผู้ประกอบการเกี่ยวกับสัตว์ต่างก็ได้ประโยชน์หมด สัตว์ก็ยังคงเป็นอย่างที่เห็นกันอยู่ ถ้าไม่มีเจ้าของ ไม่รวยก็จะถูกทำร้าย ถูกขาย ถูกเอามาเล่นหนังเพื่อประโยชน์ของคนโดยไม่คำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์ มีสัตว์ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์มากมายที่ไม่น่ารักและก็ไม่มีคนมาเอาไปเลี้ยง แต่ถ้ามีพันธุ์อย่างโกลเด้นเข้ามาคนแย่งจนแทบจะทะเลาะกัน”
...
จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ อาจบอกได้ว่าวัฒนธรรมของการเลี้ยงสัตว์ได้มีการเคลื่อนไป ปฏิเสธไม่ได้ว่าด้านหนึ่งสิ่งนี้ก็กระตุ้นให้ธุรกิจสัตว์เลี้ยงเติบโตขึ้น ทั้งยังมีส่วนกระตุ้นให้ผู้คนหันมารักสัตว์กลายเป็นเทรนด์ที่คนเริ่มหันมารับหมา - แมวจรมาเลี้ยงดูมากขึ้น แต่ในมุมกลับก็เป็นหากเป็นเพียงกระแสที่ผู้คนหันมารักสัตว์แบบขาดความรู้ อาจยิ่งกลายเป็นการเร่งให้เกิดปัญหาสัตว์เลี้ยงถูกทิ้งมากขึ้น อีกทั้งการที่กฎหมายคุ้มครองสัตว์ยังไม่มีขึ้นในประเทศไทยก็ยิ่งเป็นการเปิดช่องให้ความไม่รู้เหล่านั้นมีโอกาสสร้างปัญหาได้มากขึ้นอีกด้วย
สวัสดิภาพสัตว์มีอะไรบ้าง?
1. สัตว์ต้องเป็นอิสระจากการบาดเจ็บหรือถูกทำร้าย
2.สัตว์ต้องเป็นอิสระจากการอดอยากหิวโหย ต้องมีอาหารมีน้ำให้
3.สัตว์ต้องเป็นอิสระจากโรคภัยไข้เจ็บ ต้องฉีดวัคซีนดูแลเมื่อป่วยเป็นโรค
4.สัตว์ต้องเป็นอิสระจากความแออัดยัดเหยียดและความเครียดไม่ว่าทางร่างกายหรือจิตใจ
5.สัตว์ต้องเป็นอิสระในการแสดงออกตามธรรมชาติ ให้ได้เจอกับสัตว์อื่น หรือพวกเดียวกันบ้าง หรือให้สัตว์ได้มีเวลาพักผ่อนเดินเล่น
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE
ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage ของ "ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!