นาทีนี้ ไม่มีสถานการณ์ไหนจะถูกพูดถึงมากเท่า "การประกาศกฎอัยการศึก" ของ "บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ผู้บัญชาการทหารบก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกโซเชียลฯ ที่มีการพูดถึง ตลอดจนแชร์ข้อมูล และภาพกันสนั่นออนไลน์ กลายเป็นเหตุการณ์ที่ทั่วโลกจับตามอง และแสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ทว่าในความไม่ปกติของบ้านเมือง ขึ้นชื่อว่า "ไทยแลนด์ แดนสยาม" แล้ว ย่อมเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นสีสันได้เสมอ ไม่แปลกที่เราจะเห็นปรากฏการณ์เซลฟี่กับทหารและรถถัง หรือกระแสแฮชแท็กที่กระหึ่มโซเชียลฯ อย่าง #ทหารหล่อบอกด้วย ซึ่งกลายเป็นสีสันในช่วงกฎอัยการศึกแห่งยุคดิจิทัลกันเลยก็ว่าได้
อย่างไรก็ดี ท่ามกลางกระแสกฎอัยการศึก ยังมีเหตุการณ์สวนกระแสที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะเป็นอีกสีสันที่ชาวโซเชียลฯ ติดตาม แถมบางกรณียังได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
คลิปไอ้ชาย สวนกระแส #ทหารหล่อบอกด้วย
หลังจากที่กองทัพตบคอมแบทออกมาดูแลความสงบเรียบร้อย และคลี่คลายสถานการณ์ของบ้านเมืองภายใต้ประกาศกฎอัยการศึก ได้เกิดกระแสแฮชแท็ก #ทหารหล่อบอกด้วย ฮิตกระหึ่มโลกโซเชียลฯ ไปทั่วประเทศ สร้างความกระชุ่มกระชวยให้สาวน้อย สาวใหญ่ รวมทั้งเหล่าเก้ง กวางในวันที่สถานการณ์บ้านเมืองกำลังร้อนระอุได้เป็นอย่างดี
แต่ท่ามกลางความครื้นเครงไปกับการเกาะกระแส #ทหารหล่อบอกด้วย ก็ได้มีคลิปสวนกระแสทหารหล่อบอกด้วยปรากฏขึ้น เรากำลังพูดถึง "คลิปไอ้ชาย" ซึ่งเป็นคลิปของพลทหารนายหนึ่ง ที่ถูกเพื่อนขอร้องให้ร้องเพลงพร้อมถ่ายคลิป โดยตอนท้ายของคลิปหากใครได้มีโอกาสได้ดู ช่วงพลทหารที่ร้องเพลงได้ต่อว่าเพื่อนที่ถ่ายคลิปว่า "มึงบ้าหรือเปล่าวะไอ้ชาย?" กลายเป็นประโยคฮอตฮิตบนโลกออนไลน์ไม่แพ้วลีฮิต "บอกรักผัว" ที่ดังจนติดชาร์ตไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมา ยังมีอีก 2-3 คลิปที่เผยให้รู้ว่า พลทหารนายนั้น ชื่อ โบ โอโจ้ มีลักษณะท่าทางการพูดคล้ายคลึงกับ "อ่าง เถิดเทิง" ตลกชื่อดังของเมืองไทย กลายเป็นคลิปที่โผล่ขึ้นมาสวนกระแสกฎอัยการศึก และกระแสแฮชแท็กทหารหล่อบอกด้วย สร้างความคลายเครียดให้กับสถานการณ์การเมืองที่กำลังร้อนแรงในขณะนี้ได้มากทีเดียว
ไม่สน "กฎอัยการศึก" รวมพลต่อต้าน
ตามมาด้วยกระแสต่อต้านที่เริ่มมีให้เห็นกันแล้ว หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ประกาศกฎอัยการศึก เมื่อเวลา 03.00 น.ของวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 บนวัตถุประสงค์เพื่อคืนความสันติและเสถียรภาพแก่บ้านเมือง แม้จะมีฝ่ายที่เห็นด้วยและพร้อมสนับสนุนเต็มที่ แต่ก็มีหลายฝ่ายไม่เห็นด้วยกับการออกมาของกองทัพครั้งนี้เช่นกัน
เห็นได้จากกลุ่มต้านกฎอัยการศึกของผู้ชุมนุมที่นัดรวมตัวผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 57 ที่เดินทางมาจัดกิจกรรมต่อต้านและคัดค้านการประกาศใช้กฎอัยการศึกบริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยมีการวางดอกไม้จันทน์ เขียนป้ายคัดค้าน รวมทั้งจุดเทียนและยืนเรียงเป็นสัญลักษณ์สันติภาพ โดยแกนนำผู้ชุมนุมเผยว่าจะนัดรวมตัวกันอีกครั้งในวันที่ 23 พ.ค. นี้ หากทหารยังไม่ยกเลิกประกาศใช้กฎอัยการศึก
ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมยังได้ตะโกนตามแกนนำว่าด้วยว่า "ไม่เอากฎอัยการศึก ไม่เอารัฐทหาร ไม่เอารัฐประหาร ทหารกลับเข้ากรมกองไป ต้องการเลือกตั้ง ต้องการประชาธิปไตย ประชาชนจงเจริญ"
อั้ม เนโกะ โผล่หอศิลป์ฯ คัดค้านสุดถ่อย!
ด้าน ศรัณย์ ฉุยฉาย หรือ อั้ม เนโกะ นักศึกษาสาวข้ามเพศฉายา "ขบถชุดนักศึกษา" ก็ได้เข้าร่วมการชุมนุมคัดค้านดังกล่าวนี้ด้วย โดยเธอแสดงพฤติกรรมเพื่อหวังผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามคอนเซ็ปต์เดิม นั่นก็คือ ลามก และถ่อย ยืนยันได้จากภาพขึ้นคร่อมบนรถแท็กซี่ที่พ่นสีสเปรยส์ข้อความว่า "หยุด ฉวยโอกาส ปล้น ประชาชน" พร้อมแหกขาชูป้าย "Military Don't RAPE The People" และชูนิ้วกลาง เพื่อต่อต้านการประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งภาพที่สื่อออกมาได้รับเสียงก่นด่าจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก
"เสียพื้นที่ข่าวดีๆ คราวหน้านายเนโกะ ทำอะไรที่ไหนอย่างไร อย่าเอามาลงอีก เป็นเสนียดจังไร คนไทยยุคใหม่ต้องการข่าวสร้างสรรค์ ข่าวอีเดียจทำให้สังคมปัญญาตก ตัวมันน่าเวทนาเหลือประมาณ อย่าเอาความเลวมาให้คนอื่นรับรู้จะดีกว่าเป็นพันเท่าหมื่นเท่า" คนข้างวัดบ้านนอก
"อ้ายประเทืองกระทำแต่ละเรื่องสวนกระแสเข้าทางโจรทั้งนั้น ว่างมาก โน้น! โรงพยาบาลเช็กอาการ" บ้านรักสัตว์รับตัดขน
"เห็นการกระทำแล้ว กะหรี่เรียกพี่ ซ่องไม่รับ" พ่อเล้า
"ตุ๊ดเนโกะ หน้ามันพังแล้วดูสิ ผดสิวเพียบ สงสัยแพ้เครื่องสำอาง หน้าไม่อุ้มแป้งแล้วอนาคตมันไม่มีใครรับเข้าทำงานแน่นอน นอกจากบริษัท อิโอ๊ก" เพลียจิต
"ผลพวงความไร้คุณภาพของบริษัทฯ ที่ผลิตยาคุมในยุคนั้น ผนวกกับความไร้ความสามารถของผู้ปกครองในการอบรมเลี้ยงดูบุตร" สามัญชนคนธรรมดา
ไม่เพียงแต่กลุ่มต่อต้านข้างต้น ล่าสุดยังมีกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงรายรวมตัวใส่เสื้อหลากสี สวมหน้ากาก พร้อมชูป้ายต้านกฎอัยการศึก หนุนเลือกตั้งอย่างเดียว พอถูกถามบางคน กลับบอกเห็นด้วย แต่ไม่อยากให้ใช้นานไปกลัวกระทบเศรษฐกิจ แถมแกนนำกลุ่มกลับหลบหลังฉาก ไม่กล้าออกมานำเอง
ในส่วนของสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม ก็ออกแถลงการณ์ "คัดค้านการประกาศใช้กฎอัยการศึก ด้วยขัดต่อหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย" เช่นกัน รวมไปถึงนักวิชาการชื่อดังอย่าวง นิธิ เอียวศรีวงศ์ พร้อมบุคลากรมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน และนักศึกษาจากสถาบันต่างๆ ในจ.เชียงใหม่ ต่างก็ออกมารวมตัวกันที่ลานเอนกประสงค์ ข่วงประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เขียนป้ายมีข้อความต่อต้านการทำรัฐประหาร รวมถึงการประกาศกฏอัยการศึกของ "บิ๊กตู่" ด้วย
สำหรับเหตุผลที่ออกมานั้น นิธิ ให้บอกว่า การประกาศกฎอัยการศึก เป็นกึ่งการทำรัฐประหาร เป็นการที่กองทัพเข้ามาแทรกแซงการเมือง แบบไม่มีประโยชน์ ไม่ได้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด การชุมนุม ทุกคนมีสิทธิทำได้ตามระบอบประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญ การที่ทหารออกมาเป็นการไม่เหมาะสม เพราะประเทศที่เจริญแล้วเขาไม่ปฏิบัติ จากนี้กลุ่มของเราก็จะดำเนินการรณรงค์ให้ประชาชนทั่วประเทศ รวมไปถึงนักเรียน นักศึกษาออกมาต่อต้านให้เป็นแนวทางเดียวกัน
ชูวิทย์ โพสต์อัดกฎอัยการศึกแค่ยาพาราฯ
ด้านหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "ชูวิทย์ I'm No.5" สวนกระแส อัดกฎอัยการศึกของ "บิ๊กตู่" เป็นแค่ยาพาราฯ ที่รักษาอาการชั่วคราวเท่านั้น
ขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I'm No.5
"กฎอัยการศึกไม่ใช่ 'ยาขนานเอก' ที่จะไปรักษาโรคบ้าอำนาจได้ เมื่อฝั่งหนึ่งกลัวการสูญเสียอำนาจ และอีกฝั่งต้องการมีอำนาจ กฎอัยการศึกจึงเป็นเพียง 'ยาพาราเซตามอล' ที่ใช้บรรเทาอาการปวดหัวชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น อีกสักพักอาการก็กำเริบกลับมาอีก ด้วยสาเหตุมาจากอำนาจของทั้งสองฝั่งไม่สมดุลกัน
หากจะรักษาโรคนี้ให้หายขาด แล้วหวังพึ่ง "ทหาร" ก็เหมือนกวักมือเรียกเสือให้มาบอก ว่าจะแบ่งเนื้อกันอย่างไร มันผิดวิถีธรรมชาติ อะไรที่ผิดธรรมชาติมันไม่มีทางได้ผล ภาระอันหนักอึ้งจึงตกอยู่ที่ ผบ.ทบ. เสียเอง จะเดินหน้าก็ติดกึ๊ก จะถอยหลังก็ติดกั๊ก ม็อบก็ยังไม่ได้เลิก แค่หยุดรอดูท่าที มวลชนทั้งสองฝ่ายมีจุดยืนที่เป็นเส้นคู่ขนานไม่มีวันบรรจบ
อีก 48 ชั่วโมงข้างหน้าเป็นระยะเวลาอันตราย หากยุติไม่ได้ ม็อบจะฟื้นคืนชีพกลับมาหนักกว่าเก่า ทำให้ทหารต้องใช้ยาแรงกว่ากฎอัยการศึก คงหนีไม่พ้น "รัฐประหาร"
สังคมประชาธิปไตย พ.ศ. 2557 สั่งให้ซ้ายหันขวาหันไม่ได้อีกต่อไป ต้องให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินแต่เมื่อไม่ให้ประชาชนตัดสิน มีทางออกอยู่ทางเดียว คือพากันลงทะเล"
ลีน่าจัง ออกตัวแรงจนน่าเป็นห่วง
ปิดท้ายกันที่ความแรงของเธอคนนี้ ลีน่า จังจรรยา คราวนี้เดือดหนักไม่เกรงกลัวอำนาจทหาร อัดคลิปผ่านยูทิวบ์ ด่ากราด "บิ๊กตู่" สั่งปิดฮอตทีวี โดยตัวคลิปมีความยาว 6.40 นาที ปรากฏภาพนางลีน่าจัง กล่าวถ้อยคำรุนแรงด้วยความไม่พอใจต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้อำนวยการ กอ.รส.ที่สั่งระงับการเผยแพร่ช่องของเธอ พร้อมชี้แจง สถานีนี้ไม่เคยยุ่งเกี่ยวการเมือง และเป็นช่องกฎหมาย แต่กลับโดนระงับการถ่ายทอดด้วย
วันต่อมา (21 พ.ค.) ลีน่าจัง เจ้าของสถานีโทรทัศน์ฮอตทีวี ได้เดินทางไปที่สโมสร ทบ. ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องขอความเป็นธรรม กรณีกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) สั่งระงับการออกอากาศสถานีดาวเทียมช่องดังกล่าว ตามคำสั่ง กอ.รส.ที่ 8/2557 โดยลีน่าจัง อ้างว่า การปิดสถานีโทรทัศน์ทำให้ได้รับความเดือดร้อน
ทั้งนี้ การเดินทางมาในวันดังกล่าว เป้าหมายหลักคือ เพื่อมาหา พล.อ.ประยุทธ์ ตามที่เคยกล่าวไว้ถึงกรณีที่สั่งระงับการเผยแพร่การออกอากาศสถานีดาวเทียมฮอตทีวี พร้อมตะโกนท้าให้ พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาหา แต่ไม่มีการตอบรับ ซึ่งข่าวที่ออกมามีทั้งกำลังใจ และเสียงด่นด่าถึงพฤติกรรมขี้เหวี่ยง ขี้โวยวาย ในขณะที่บางส่วนเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยของเธอ
ทั้งหมดนี้ คือสีสันสวนกระแส-ต่อต้าน "กฎอัยการศึก ที่สร้างความขำขัน ทั้งยังเผยให้เห็นความถ่อย รวมไปถึงการออกตัวแรงของคนบางคนจนดูน่าเป็นห่วง ส่วนหลังจากนี้ ประเทศไทยจะเปลี่ยนไปในทิศทางใด คงต้องจับตา "ทหาร" หลังประกาศกฎอัยการศึกกันให้ดี
เรื่องโดย ทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ LIVE
///////////////////////////////////////////
ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage ของ "ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
