74 นัด! คือเสียงปืนรัวขึ้นฟ้าที่นับได้จากคลิปชื่อ “ส่งวิญญาณ ป่อเต็กตึ๊ง ขึ้นสวรรค์” ดังระงมไปพร้อมเสียงเปิดไซเรนจากรถกู้ภัยนับสิบที่มาร่วมงานสวดศพเพื่อนกู้ภัยด้วยกัน
ทันทีที่คลิปนี้ถูกแชร์บนโลกออนไลน์ ภาพลบๆ ของหน่วยกู้ภัยก็ถูกหยิบขึ้นมาขยี้ซ้ำอีกครั้ง หลายคนตั้งคำถามว่าจะ “โชว์กร่าง” กันไปถึงไหน? เพราะถึงแม้จะเป็นการทำเพื่อไว้อาลัย แต่ก็ไม่น่าเห็นใจและไม่เหมาะสมอยู่ดี!
ซ้ำภาพลบ “พกอาวุธ-ยิงปืนขึ้นฟ้า-เปิดไซเรน”
ขนาดยิงปืนขึ้นฟ้าแค่ไม่กี่นัด ยังเกิดเหตุการณ์ฆ่าคนตายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่นี่ยิงรัวกันยาวนานและต่อเนื่องถึง 74 นัด! แม้จะยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการเลยว่ามีคนโดนลูกหลงไปแล้วกี่ราย แต่เท่าที่ทราบคือชาวบ้านที่อาศัยละแวกวัดที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับลูกกระสุนตกตามหลังคาบ้านกันระนาว และเดือดร้อน ปวดหูจากพฤติกรรม “เปิดไซเรน-ยิงปืนขึ้นฟ้า” อันยาวนานในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
แค่ดูจากในคลิปที่แชร์กันก็ยาวนานถึง 3.38 นาที หลายคนที่ได้ดูคลิปนี้จึงถึงกับอดรนทนไม่ไหว ต้องฝากความไม่พอใจ ความสงสัย และความคิดเห็นแปะเอาไว้บนโลกออนไลน์เพื่อหวังสั่งสอนผู้สร้างความเดือดร้อนให้สังคมกลุ่มนี้ได้ “รู้สำนึก”
“เนี่ยแหละ ภาพลบของ ป่อเต็กตึ้ง ผมจะบอกไว้เลยว่าที่เขามองกู้ภัยลบเพราะภาพแบบนี้ไง คุณเป็นคนสาธารณะ คุณไม่ควรทำตัวแบบนี้ มันทำให้ภาพลักษณ์กู้ภัยอื่นๆ เสียหาย” AuthorFolk Discharge
“ใครให้ยิงขึ้นฟ้า สมองน้อย ตกใส่หัวใครจะทำยังไง!” Bon Master
“เอาแต่ความมัน รู้มั้ยว่าการยิงปืนขึ้นฟ้าที่ปากกระบอกปืนเอียง 45 องศา ความเร็วกระสุนปืนจะตกลงพื้นที่ความเร็ว 1,100 ฟุตต่อวินาที ถ้าเข้าหัวคนอื่นล่ะก็แทนที่เพื่อนมึงจะได้ขึ้นสวรรค์คนเดียว แถมพวกมึงน่ะจะตกนรกอีก จะโชว์เก๋าก็โชว์อย่างอื่นให้คนชมดีกว่ามั้ย พวกทหารที่ตายในหน้าที่เขาใช้กองเกียรติยศ แล้วใช้จิตสงบนิ่งส่งวิญญานทหารกล้ากัน (ไร้สาระ)” Dell Mhee
“ส่งวิญญาณเด็กแว้น แม่งเบิ้ลรถ ส่งป่อเต็กตึ้ง แม่งเปิดหวอ ส่งโคโยตี้ ไม่เต้นกันทั้งวัดเลยเหรอวะ” Patiwat Mungthong
“ถ้ามีวัฒนธรรมแบบนี้เวลานายทหารชั้นผู้ใหญ่ถึงแก่กรรม ไม่ต้องลากปืนใหญ่มายิง เอาเครื่องบินมาทิ้งระเบิด ติดตั้งระเบิดTNTรอบวัด เอารถถังมาวิ่งเล่นเหรอครับ??? พอเถอะครับความเชื่อแบบนี้!!" Mack Master'Dog
“ไม่มีในตำรา... ทำไมไม่ทำบุญ กรวดน้ำ ส่งวิญญาณขึ้นสวรรค์ ศาสนาไหนอีกล่ะเนี่ย เปิดไซเรนดังๆ กับยิงปืนขึ้นฟ้า โทษนะครับ ไร้สาระสิ้นดี” Thë Ângèl's Šoñ Khenkhampa
“ผมก็อยู่มูลนิธิ ป่อเต็กตึ๊ง รหัสบางพลี 011 มันไม่สมควรยิงปืนขึ้นฟ้าเลย ทำไปเพื่ออะไร จะทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนหรือเปล่า” คนค้า พลาสติก กู้ภัยบางพลี
“นาทีฉุกเฉิน เคยดูมั๊ย? กระสุนตกทะลุสังกะสี เจาะกระโหลกยายกำลังเข้าห้องน้ำอยู่ ตายคาที่ ทำไรแม่งไม่คิด เท่ตายเลยไอ้... รู้ได้ไง ทำแบบนี้ คนตายจะได้ขึ้นสวรรค์ ปัญญาอ่อน ถ้างั้น ไม่ต้องมีหรอกบาปบุญ แค่ยิงปืนขึ้นฟ้าตอนวันเผาก็ได้ขึ้นสวรรค์ละ เรื่องดีๆ ล่ะไม่คิดให้ได้แบบนี้มั่ง” ด.ญ. แพรว เปิ๊ดสะก๊าด
“ปกติแล้วผมก็ยกย่องในความเสียสละของพวกเขานะครับ ที่คอยอดหลับอดนอน คอยออกมาให้ความช่วยเหลือประชาชนยามค่ำคืน แต่การกระทำในครั้งนี้ผมไม่เห็นด้วยอย่างแรง แล้วที่ผมอยากจะถามคือคุณยิงปืนเพราะคุณเสียใจ หรือคุณยิงเพราะอยากจะโชว์เพาเวอร์ให้แก้ตัวเองกันแน่? ผมพูดได้เลยว่าคนทั้งหมดที่อยู่ในคลิปนี้มันมีไม่ทั้งหมดหรอกที่จะรู้สึกเสียใจจริงๆ บางคนก็ทำเพื่อให้ตัวเองดูเท่ อวดสาว โชว์แมน กันทั้งนั้นแหละ” Tawan Wongtawan
“เฮ้อ... เนี้ยนะที่บอกว่าช่วยคน ที่พวกคุณทำอยู่ คนที่อยู่ใกล้ๆ เค้าก็เดือดร้อนแล้ว จะเบ่งว่าอย่ามายุ่งกะพวกกู กูมีไซเรน กูมีปืน แค่นี้หรือที่พวกคุณเอามูลนิธิมาอ้าง” Goofy Peemai
“ในฐานะที่ใส่เสื้อป่อเต็กตึ๊ง ลูกอากงเหมือนกันนะครับ คือเข้าใจนะว่าเพื่อนอาสาฯ ที่จากไปเขารักในงาน รักในความเสียสละ เปิดไฟเปิดเสียงเพื่อเปิดทางให้ไปสู่สวรรค์ ไปรับผลบุญ แต่ทำไมต้องยิงปืนด้วย ไม่เข้าใจ อันตรายนะครับ มันทำให้คนอื่นมองว่าอาสาฯ เป็นพวกอันธพาลไปด้วย” ป๋าบอล กองเชียร์ปราการ
“พวกคุณไปเอาปืนมาจากไหน มีใบพกพาในที่สาธารณะ?” Tulyawat Mahawong
ช่างกล้า หรือ แค่กร่าง?
ในฐานะที่เป็นคนทำงานให้แก่มูลนิธิ “ป่อเต็กตึ๊ง” ซึ่งเป็นเครือเดียวกับที่กลุ่มผู้ยิงปืนรัวขึ้นฟ้าสวมใส่ในคลิป ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในสังกัดเดียวกัน แต่ สมศักดิ์ นัคลาจารย์ ที่ปรึกษาระบบข้อมูลการจัดการข้อมูลเว็บไซต์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และอาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์และสวัสดิการสังคม มหาวิทยาลัยหัวเฉียว ก็ขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้
โดยเฉพาะเรื่องที่หลายคนสงสัยว่าแท้จริงแล้ว คนทำงาน “กู้ภัย” สามารถพกพาอาวุธปืนได้หรือไม่ เพราะในคลิปมีหลายสิบคนวนเวียนกันใส่กระสุนและรัวยิงเป็นว่าเล่น และคำตอบที่ได้ก็คือ “พกอาวุธไม่ได้ในทุกวินาทีที่สวมชุดของมูลนิธิทำงานอยู่ เพราะเขาห้ามโดยเด็ดขาด”
“เจ้าหน้าที่ผู้ทำงานต้อง “เคารพกฎหมาย” การใช้อาวุธปืนอะไรต่างๆ ก็ต้องให้อยู่ในเงื่อนไขของกฎหมาย แล้วก็ต้อง “เคารพกฎของทางมูลนิธิ” กำหนดอย่างชัดเจนเอาไว้ว่าในการทำงานจะไม่มีอาวุธโดยเด็ดขาดในทุกภารกิจ เพราะหน้าที่ของเราคืองานช่วยเหลือ ไม่ใช่การไปรบทัพจับศึกกับใครเขา เพราะฉะนั้น จะพกอาวุธไปตามที่ต่างๆ นั้นไม่ได้”
ส่วนเรื่องการ “เปิดไซเรน (ไฟฉุกเฉิน)” พร้อมกับ “ยิงปืนขึ้นฟ้า” นั้น อาจารย์สมศักดิ์เข้าใจว่าคนกลุ่มนี้อาจจะต้องการทำเพื่อเป็นสัญลักษณ์ไว้อาลัย แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้ทำสืบต่อกันไปเพราะมันไม่ใช่วัฒนธรรมของกู้ภัยในนาม “ป่อเต็กตึ๊ง” ซ้ำยังไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง!
“ไม่มีความเชื่ออะไรแบบนี้ที่ทางกู้ภัยทำตามๆ กันนะ ส่วนเรื่องยิงปืน น่าจะเป็นพฤติกรรมที่ทำกันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ถ้าเป็นมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเอง ยิ่งไม่มีเลยครับ เพราะเราทำงานภายใต้แนวคิดของ “หลวงปู่ไต้ฮง” ที่พวกเราทุกคนนับถือ ท่านก็ไม่เคยทำอะไรแล้วเดือดร้อนสังคม ท่านทำงานด้วยตัวคนเดียว เสียสละเพื่อส่วนรวม”
พยายามมองอย่างเข้าใจ อาจเพราะคนที่มาทำงานตรงนี้จะมีบุคลิกร่วมกันอยู่อย่างหนึ่งคือเป็นประเภท “ใจถึง” จึงทำให้พวกเขามี “ความกล้า” ในตัวมากกว่าคนอื่นๆ แต่ถ้ากล้าในทางที่ไม่เหมาะสม สุดท้ายก็จะกลายเป็น “ความกร่าง” ในที่สุด
“โดยพื้นฐานแล้ว คนที่มาทำงานตรงนี้ส่วนหนึ่งเป็นพวกชอบเครื่องแบบ อยากเท่ เพราะฉะนั้น ก็เป็นเรื่องปกติที่ต้องมีทั้งคนกล้าและคนกร่างอยู่ปะปนกัน คนที่เข้าทำงานตรงนี้ก็มีหลายแบบครับ คนที่อยากเข้ามาทำเพราะต้องการความเท่ อยากอวดคนอื่นมันก็มี แต่คนที่เขาตั้งใจทำงาน ไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเลยก็มีครับ ช่วยเหลือคนอย่างเดียว มันเกิดขึ้นได้หมดครับ
แต่ถ้าคุณไปเจอพวกเขาในตอนที่คุณรถเสียกลางทาง คุณก็จะรู้สึกอีกแบบหนึ่ง เพราะคนที่เขาทำงานดีๆ ก็มี หรือขณะเดียวกันที่เขาไม่ได้ทำภารกิจ เขาสนุกสนานเฮฮา ทำตัวสบายๆ ในหมู่เพื่อนฝูง มันก็มีเหมือนกัน คนอื่นอาจจะมองว่า ไอ้พวกนี้แม่งกร่างจัง แต่พอมีภัยเกิดขึ้น มีวอเรียก คนพวกเดียวกันที่ถูกต่อว่านี่แหละครับที่รีบขับรถออกไปช่วยคน คนเราก็มีหลายบุคลิก
แต่ในกรณีนี้ ถ้าชาวบ้านเห็นในตอนว่าพวกเขาทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมก็ตักเตือนกันได้ครับ ปกติแล้ว ทางมูลนิธิก็จะมีการประชุมจัดอบรมกันทุกปี รวมกู้ภัยจากทั่วประเทศมาแลกเปลี่ยนข้อมูลและเรื่องราวต่างๆ ในสังคม ภาพสะท้อนจากสังคมที่เกี่ยวกับเรา มานั่งพูดคุยกัน”
หนึ่งสิ่งที่ต้องท่องเอาไว้เลยคือ คนทำงานตรงนี้อาจตกเป็นเป้าสายตาของใครต่อใครได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้น ก็ควรจะวางตัวให้ดี คิดก่อนทำในทุกๆ เรื่อง
“ในช่วงที่ทำภารกิจเราทำเต็มที่ เข้าไปช่วยเหลือคน แน่นอนว่าภารกิจตรงนั้นไม่มีใครกร่างหรือทำตัวเหลวแหลก อาจจะมีบ้างบางคนที่จะถูกพูดถึงเรื่องการเก็บของมีค่าของผู้ประสบเหตุไป แต่ตรงนี้เราก็พยายามปลูกฝังจิตสำนึกกันมาโดยตลอดครับในเรื่องการเสียสละ แต่ถ้านอกเวลาทำการ ถ้าอยากจะบันเทิงเริงรมย์กันก็ต้องห้ามใส่เครื่องแบบ เพราะจะทำให้เกิดการเหมารวมขึ้นได้
ถ้าคนที่ทำงานในเครือข่ายมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งต้องรู้จัก “หลวงปู่ไต้ฮง” เป็นอย่างดี ต้องยึดปฏิบัติตามแนวทางของท่านที่มีมาเป็นร้อยปีแล้ว เป็นเรื่องสำคัญ เราต้องมีจิตวิญญาณตรงนั้นครับ แต่ถ้าจะเข้ามาแล้วมาทำเสื่อมเสียหรือมุ่งหวังอย่างอื่น ก็อย่าเข้ามาดีกว่า เพราะคนที่อยากทำงานอาสาตรงนี้ก็ยังมีอีกเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น ถ้ารักจะทำงานตรงนี้ ก็ต้องเคารพกฎระเบียบทั้ง 3 ด้านคือ กฎหมายสังคม, กฎระเบียบข้อบังคับของมูลนิธิ และมีสำนึกในเรื่องคุณธรรม-จริยธรรม
ส่วนกรณีนี้ คนที่เป็นผู้บริหารกลุ่มตรงนั้นก็ต้องดูแล ถ้ามีคนยื่นเรื่องมาฟ้องทางมูลนิธิ คนดูแลก็ต้องเรียกกลุ่มคนที่ทำผิดตรงนั้นมาพูดคุยตักเตือน ต้องดูว่ามันร้ายแรงแค่ไหน สืบสวนข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะทำแบบนี้มันรบกวนชาวบ้าน ถ้าเป็นคำพูดทางพระก็เรียกว่า ทำให้โลกติฉินได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นที่จะต้องทำ”
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live
ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage ของ "ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
ข่าวที่เกี่ยวข้องกับ “หน่วยกู้ภัย” (คลิก)
ซิ่งแหลกแหกกฎ!“กู้ภัย” ใครถึงก่อนเป็นผู้ชนะ?
ระวัง! วายร้ายในคราบนักบุญ เรี่ยไรเงินผ่านมูลนิธิเถื่อน
กู้ภัย VS ก่อภัย อาสาสมัครเปื้อนมลทิน!?!