xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจ “ตัน อิชิตัน” ถึงวงโยฯ สตรีวิทยา 2 “คนเราทำผิดก็ต้องยอมรับผิด ผมพร้อมให้อภัย”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นาทีนี้เชื่อว่าเรื่องราวของ “วงโยธวาทิต โรงเรียนสตรีวิทยา 2” คงเป็นมหากาพย์ที่ไม่จบง่ายๆ ตราบใดที่ผู้ใหญ่หรือคนที่อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์ไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบหรือชี้แจ้งให้สังคมหายกังขา

บุคคลหนึ่งที่ตกเป็นในกระแสข่าวนี้คือ “คุณตัน ภาสกรนที” เจ้าพ่อชาเขียว “อิชิตัน” ในฐานะพ่อบุญทุ่มที่พัวพันว่าใช้เงิน “สร้างภาพ ?”


คุณมีภาพว่าเป็นพ่อพระมาโดยตลอด ทำให้คนอยากมาขอความช่วยเหลือ พอมาเจอสถานการณ์ที่เหมือนถูกวงโยธวาทิต โรงเรียนสตรีวิทยา 2 มาไถเงินแบบนี้ รู้สึกอย่างไรบ้าง

ผมก็พยายามเข้าใจเขานะครับ ถ้าเราเป็นเด็กและเจอสถานการณ์แบบนี้คงจะมืดแปดด้าน เลยเข้าใจเขาครับ ไม่ได้โกรธอะไร แต่ผมก็มีไปตำหนิเขา ไปสอนเขาบ้าง

ผมถือว่าเรื่องนี้จบตั้งแต่ผมให้เงินไปแล้ว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผม ทุกคนจะทำอะไรก็ต้องคิดและคิดถึงคนรอบข้างบ้าง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว สถาบัน เพราะบางทีเวลาทำอะไรไปก็กระทบกับคนอื่น เช่น ครอบครัว เพื่อนฝูง

เหนื่อยใจไหมกับเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น

เป็นธรรมดาครับ ชีวิตคนเราต้องมีทั้งคนชม คนด่าบ้าง มีคนหลอกบ้าง แต่อย่าเอาระเบิดมาวางทิ้งเป็นพอครับ (หัวเราะ) ไม่ซีเรียสครับ

ช่วงแรกที่เด็กวงโยฯ มาขอเงินคุณ หลายคนมองว่าคุณเซตฉากขึ้นมาหรือเปล่า

เรื่องนี้แล้วแต่คนคิด ผมไม่เคยรู้จักเด็กกลุ่มนี้มาก่อน ไม่เคยคุย เบอร์โทร.เขาก็ไม่มี ถ้าคุณไปฟังคลิป (คลิปที่ปรากฏเป็นข่าวว่าผอ.โรงเรียนสตรีวิทยา 2 วางแผนให้เด็กๆ มาขอเงินคุณตัน) คุณจะรู้ว่ามันไม่เกี่ยวกับผมเลย ผมไปหาเด็กๆ ตอนตีห้า ไปคุยกับเด็กแค่สิบกว่านาทีก็กลับ

เรื่องมันเริ่มจากทีแรกมีคนโทร.มารายงานผมตอน 4 ทุ่มว่ามีน้องวงโยฯ สตรีวิทยา 2 มาขอยืมเงิน ผมคิดว่าดึกๆ เขาคงไป แต่เกือบตี 4 ลูกน้องโทร.มาบอกว่าเด็กๆ ยังอยู่ ผมเลยไปเท่านั้นเอง ไม่มีเวลาไปพูดคุย ปรึกษา หรือพิจารณาใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเขาบอกว่า 9 โมงเช้าต้องซื้อตั๋วเครื่องบินแล้ว ตอนไปก็ไม่ได้ถามชื่อ ไม่ได้ถามเบอร์โทรศัพท์ใครเลยแม้แต่คนเดียว ผมให้ในฐานะที่เห็นเหมือนเขาเป็นลูกหลาน เต็มใจให้ แต่
ก็ยังรู้สึกและตำหนิครูไปเหมือนกันว่าทำไมสอนเด็กแบบนี้ ผมเห็นใจโรงเรียนนะ แต่ไม่สนับสนุนให้ทำแบบนี้


คุณบอกว่ารู้ข่าววงโยฯ มาขอเงินตั้งแต่ 4 ทุ่ม แต่ทำไมเพิ่งให้เงินตอนตี 5

ตอนนั้นผมอยู่ในงานเลี้ยงแต่งงานของลูกน้องผม ไม่ใช่ว่าใครมาหา ผมก็ต้องไปให้ตังค์หมด คิดว่าเที่ยงคืนเขาคงกลับแล้วมั้ง เลยยังไม่ได้ให้ตังค์ คิดเผื่อว่าเขาอาจจะกลับ และก็รอดูว่าเขามีความมุ่งมั่นรอได้แค่ไหน ถ้าลูกน้องโทร.มาอีกที ผมถึงค่อยไป ผมไม่เคยติดตามข่าวเรื่องนี้มาก่อน ไปดูในเว็บไซต์เห็นเขาฝึกซ้อมกัน ก็คิดว่าเขามีความตั้งใจ มีความมุ่งมั่น พอลูกน้องโทร.มาบอกว่ายังอยู่ ผมเลยตัดสินไป

พอได้ยินคลิปที่อ้างว่าเป็นคลิปของผอ.โรงเรียนคุยกับวงโยฯ แล้วคิดยังไงบ้าง มันทำให้คุณเสื่อมศรัทธาคนไหม

ไม่หรอกครับ เด็กก็ทำด้วยอารมณณ์ชั่ววูบ บางทีหมดหนทาง เขาคงได้เรื่องนี้เป็นบทเรียนชีวิต ถ้าเป็นเด็กก็มีโอกาสทำผิดพลาด ถ้าเขายอมรับผิด คิดว่าสังคมคงจะให้อภัย

ผมคิดว่าคนทำอย่างไรก็จะได้อย่างนั้น คนเราโตๆ กันแล้ว ไม่อยากไปพูดอะไรมาก เพียงแต่ผมอยากบอกว่าต่อหน้าและลับหลังควรจะให้เกียรติซึ่งกันและกัน ผมว่าในชีวิตจริง คนไม่ค่อยให้เกียรติสปอนเซอร์เท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นสปอนเซอร์ของรัฐหรือเอกชน ผมไม่ใช่สปอนเซอร์ของเขาที่จะต้องมาขอตังค์ผม ไม่อยากให้มองว่าถ้าผมบริจาคเงินก็สามารถนำไปหักภาษีได้ทั้งหมด มันไม่ใช่อย่างนั้นครับ

คุณกำลังบอกว่าอยากให้เด็กๆ ให้เกียรติคุณบ้างใช่ไหม

ใช่ครับ เพราะการที่เขาพูดถึงผมอย่างนั้น ผมว่ามันไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ เขาควรจะให้เกียรติคนอื่นทั้งต่อหน้าและลับหลัง ไม่ใช่ต่อหน้าก็พูดดี แต่ลับหลังก็ว่าเขาเสียๆ หายๆ

มีอะไรอยากฝากบอกถึงน้องๆ วงโยธวาทิต โรงเรียนสตรีวิทยา 2 บ้าง

ไม่มีอะไรมากครับ แค่อยากบอกว่าคนเราทำผิดก็ต้องยอมรับผิด ผมพร้อมให้อภัย แต่เขาควรจะยอมรับผิดอย่างจริงใจ ไม่ต้องพยายามพูดอะไรมาก แล้วผมเชื่อว่าสังคมพร้อมจะให้อภัย ชีวิตคนเราไมได้มีแค่วันนี้ พอวันหนึ่งเราโตขึ้น คุณต้องเป็นพ่อแม่คน คุณก็ต้องรู้จักเป็นผู้ให้บ้าง วันนี้คุณเป็นคนขอสปอนเซอร์คนอื่น วันหน้าคุณอาจจะเป็นสปอนเซอร์ให้คนอื่นก็ได้ คือ คุณอยากได้อะไรจากคนอื่น คุณก็ต้องทำอะไรให้คนอื่นละกันในวันนี้

เหตุการณ์นี้ทำให้คุณต้องระวังตัวมากขึ้นไหมในการให้สปอนเซอร์คนอื่น

ไม่หรอกครับ ผมยังเหมือนเดิม ไม่ได้ซีเรียส ทุกเหตุการณ์ที่เกิดคงจะให้ประสบการณ์เพิ่มขึ้นแก่ทุกคน ผมได้เรียนรู้ข้อหนึ่งว่าจะทำอะไรก็ต้องระวัง เพราะเราต้องสวมหมวกให้แก่ตัวเอง ดังนั้นอย่าคิดถึงแต่ตัวเองคนเดียว ต้องคิดถึงองค์กร สถาบัน และครอบครัวได้ เราอาจจะไม่แคร์ใครแต่มันอาจจะไปกระทบคนอื่น ดังนั้น ต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดีๆ อย่าคิดถึงตัวเองอย่างเดียว ต้องคิดถึงคนอื่นเยอะๆ

จากข่าวเห็นทีมวงโยฯ เปิดให้มีพรีออเดอร์สินค้า และดูเหมือนจะใช้เส้นทางอ้อม เพื่อจะได้ไปเที่ยวด้วย รู้สึกอย่างไรที่เขาเอาเงินเราไปใช้แบบนี้

ผมไม่รู้ เลยไม่อยากวิเคราะห์ เรื่องที่มีคนในวงโยฯ เปิดให้พรีออเดอร์ คิดว่าเขาคงให้เพื่อนฝากซื้อของเฉยๆ ไม่ได้ทำเป็นธุรกิจหรอก เพราะเงินแค่ไปแข่งยังไม่มี แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อของให้คนอื่น

ถ้าวงโยฯ เอาเงินมาคืนจริง คุณจะรับคืนไหม เห็นทีแรกบอกว่าไม่ต้องคืน

ผมเป็นผู้ใหญ่แล้ว พูดอะไรแล้วก็ต้องรับผิดชอบ เคยบอกเขาแล้วว่าไม่ต้องเอามาคืน แต่ขณะเดียวกันผมเข้าใจเขาเหมือนกันว่าในฐานะที่เขาเป็นเด็กสถาบัน ถ้าได้เอาเงินมาคืน เขาคงจะรู้สึกดี ดังนั้นถ้าเขาเอาเงินคืนจริง ผมคงจะมาคิดอีกทีว่าจะเอาเงินไปทำอะไรต่อ แต่คงไม่เอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองแน่นอน อาจเอาเงินไปให้โรงเรียนอื่นที่น่าจะเกิดประโยชน์มากขึ้นครับ

คิดยังไงกับที่บางครั้งเราทำดี แต่คนอื่นอาจมองว่าคุณเอาหน้า

ก็ไม่เป็นไร ผมรับได้ อาจจะมีคนบอกว่าคุณตันสร้างภาพ ผมก็ยอมรับ ผมเชื่อว่าการสร้างภาพเป็นสิ่งที่จำเป็นในสังคมปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมไทย คือทุกวันนี้ผมทำดีตรงนี้ เพราะส่วนหนึ่งมาจากเห็นคนอื่นสร้างภาพที่ดีไว้ จึงทำให้ผมอยากทำบ้าง ถ้าไม่มีใครสร้างภาพ ผมอาจจะรู้สึกว่าเราไม่ต้องช่วยคนอื่นก็ได้นะ แต่พอเราเห็นคนอื่นสร้างภาพแล้วเราก็อยากทำ

คิดว่าถ้าเราทำดี อย่างน้อยคนที่ได้รับก็จะมีกำลังใจอยู่ต่อไป ไม่งั้นคนจะคิดว่าสังคมไม่มีน้ำใจเลย ไม่มีเมตตา ไม่มีการแบ่งปันเลย คนที่ไม่เคยจน อาจจะไม่เข้าใจแต่ผมเคยจนมาก่อนเลยเข้าใจว่าการให้ ไม่ใช่แค่การให้เงินอย่างเดียว แต่คือการให้โอกาส การให้อภัย การให้เกียรติ มันมีความสำคัญที่ทำให้เรามีกำลังใจ

แต่คนอื่นอาจจะมองว่าคุณทำดีสร้างภาพ เพราะได้ผลประโยชน์จากสิ่งที่ทำด้วย ไม่ใช่การทำดีโดยบริสุทธิ์ใจ

แล้วคุณอยากให้ผมทำดีแล้วได้ผลร้ายเหรอ คุณเชื่อในคำนี้ไหมว่า “ทำดีย่อมได้ดี” ผมเชื่อในคำนี้ ส่วนคนอื่นจะทำดีหรือไม่ดีก็เรื่องของเขา แต่ผมทำดีแล้วรู้สึกดี ตั้งใจจะทำดี คนในสังคมมีทั้งไม่ดีและดี อย่าคิดว่าเราตั้งใจขยันทำงาน แล้วจะได้ดีทุกครั้ง คนทำชั่วได้ดีก็มีเยอะถมไป แต่การทำดีแล้วได้ดี มันมั่นคงและยั่งยืน แล้วแต่ว่าเวลาจะเหมาะสมหรือไม่

คุณต้องผ่านบททดสอบหลายครั้งก่อน ทำให้คนเชื่อและศรัทธา แล้วเวลาคุณทำอะไร คนถึงจะเชื่อ อย่างตัวผม ผ่านบททดสอบเหล่านี้มาหลายครั้งในชีวิตแล้ว ในที่สุดผมได้เรียนรู้ว่าชีวิตคนเรา ถ้าไม่เคยทำประโยชน์ให้คนอื่นเลย เวลาเราล้มไปจะมีคนซ้ำเติมเราทันที แต่ถ้าอย่างน้อยเราไม่ต้องเป็นคนดีมาก แต่มีน้ำใจบ้าง เคยช่วยเหลือคนอื่นบ้าง ถ้าวันหนึ่งเราทำอะไร ก็จะมีคนช่วยเหลือเรา มันเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งครับ

อยากรู้จักคุณในมุมอื่นบ้าง ว่ากันว่าคนเรายิ่งสูงยิ่งหนาว การที่คุณมีอะไรพร้อมแบบนี้ ทำให้คุณหามิตรแท้ยากขึ้นไหม

เป็นธรรมดาในสังคม ผมก็ไม่ได้มีเพื่อนแท้เยอะนะ อาจเป็นแค่กลุ่มเล็กๆ เพราะผมไม่ได้กินเหล้าสูบบุหรี่ ส่วนใหญ่ทำงาน ที่เหลือเวลาให้ครอบครัว ผมว่าเพื่อนที่ดี เพื่อนที่รักกันต้องอยู่ในเหตุการณ์ที่เคยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เคยลำบากด้วยกัน มันอยู่ที่เรา เราอยากได้อะไรจากใคร เราก็ควรทำสิ่งนั้นให้เขา นี่คือเหตุผลที่ผมต้องทำอิชิตัน เพราะผมมีเพื่อนที่เป็นหุ้นส่วนทำธุรกิจด้วยกันมาตั้งยี่สิบกว่าปี จำนวน 10 กว่าคน พอเราออกมาจากที่เดิม เขาก็ออกมา เราเลยต้องมาร่วมวงทำธุรกิจนี้กันใหม่

ตอนนี้ใครๆ ก็มองว่าคุณสนิทกับโน้ต- อุดม แต้พานิช มาก ดังนั้นเขาถือเป็นเพื่อนรักของคุณได้ไหม

เขาก็เป็นเพื่อนรักผม เพียงแต่เราไม่ได้เจอกันทุกวัน พูดได้ว่าถ้าเป็นเรื่องที่เขาลำบาก และถ้าผมสามารถทำอะไรให้เขาได้ ผมก็ยินดี ผมประทับใจเขาที่เรามีนิสัยเหมือนกัน คือไม่ค่อยให้ความสำคัญเรื่องเงินเท่าไหร่ ถ้าคนซีเรียสเรื่องเงินจะอยู่ด้วยกันลำบาก แต่ผมกับเขาไม่สนใจเรื่องเงินหรือผลประโยชน์เท่าไหร่ ก็เลยอยู่ด้วยกันได้

ตอนนี้เรามีกิจกรรมที่ทำด้วยกัน คือ ทำซีดีเรื่อง “หนึ่งตัน” ขายในร้านเซเว่น เพื่อหาเงินช่วยเหลือกลุ่มลูกเหรียง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ผู้หญิงคนหนึ่งรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเป็นร้อยๆ คน เพราะพ่อแม่เด็กตายในเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อุดมไปเห็นเข้า เลยอยากช่วย และคิดอยากจะทำเดี่ยวเพื่อหารายได้มาช่วยเขา รายได้ไม่หักค่าใช้จ่ายเรามอบให้เขาทั้งหมดเลย ดังนั้นเราไม่ได้ทำธุรกิจเพื่อเอากำไรมาแบ่งกัน แต่เป็นการร่วมกันทำประโยชน์ให้คนอื่น ไม่ได้ทำเพื่อหาประโยชน์ให้ตัวเอง

แล้วเนื้อหาของซีดีนี้ เกิดจากผมมีแรงบันดาลใจจากคนอื่น และอยากเอาเรื่องตัวเองมาเล่าให้กำลังใจและแรงบันดาลใจแก่คนอื่นๆ บางทีถ้าเขาได้ฟังเรื่องของผมหรือประโยคของผมแล้ว อาจจะช่วยให้ผ่านวิกฤติชีวิตไปได้ 

หลายคนมองว่าเป็นความสัมพันธ์ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน เพราะพอคุณสนิทกับเขา ก็อาจทำให้โน้ต อุดม เชียร์สินค้าของคุณในเดี่ยว

คุณลองไปสนิทกับเขาและให้เขาโปรโมตให้ดูสิ ถ้าสินค้าคุณไม่ดีจริง เขาไม่ทำให้หรอก ผมรู้เรื่องนี้ดี เพราะผมเห็นมีสปอนเซอร์ติดต่อให้เขาพูดสินค้าในเดี่ยวเยอะแยะ แต่ถ้าเขาไม่เห็นด้วยหรือคิดว่าสิ่งนั้นไม่ดีจริง เขาก็ไม่เอาหรอก อุดมไม่ใช่คนมีตังค์ พอมีตังค์ก็ใช้ไปหมด แต่ศักดิ์ศรีเขามีเยอะมาก ผมรู้จักเขาดี

การที่เขาพูดถึงสินค้าผมในเดี่ยว เพราะเป็นสิ่งที่เขารู้สึก ไม่ใช่เรื่องว่าผมจ่ายเงินไปเท่านี้ ผมช่วยเอาของไปแจกในเดี่ยว เป็นเงินเท่าไหร่ ผมก็ยังไม่รู้เลย เราไม่ได้ซีเรียส เลยทำให้เราอยู่ตรงนี้ได้แบบสนิทใจ

ดูเหมือนว่าคุณตันก็สนิทกับคุณสรยุทธ ทัศนะจินดา ด้วย

อย่าเรียกว่าสนิทกันเลย ผมก็เป็นลูกค้าคนหนึ่งของเขา พอรู้จักกันมานานก็กลายเป็นเพื่อนกัน ผมไม่ได้เป็นเพื่อนกับเขาคนเดียว แต่ยังมีเพื่อนและคนรู้จักอื่นๆ อีกเยอะแยะ

สนิทกันถึงขนาดสามารถลงโฆษณาฟรีในรายการเขาไหม

ไม่มีหรอกครับ ลงฟรีมีด้วยเหรอ

จำได้ว่าครั้งหนึ่งคุณเคยโดนโจมตีเรื่องวิจารณ์การเมือง จนตอนหลังคุณต้องบอกว่าจะไม่ยุ่งเรื่องการเมืองแล้ว

เรื่องที่ผ่านมาเป็นการเข้าใจผิด ผมไม่ได้เป็นอย่างที่คนอื่นกล่าวหา ให้เวลาเป็นพิสูจน์ก็ได้ มีข้อไหนที่ผมเป็นบ้างล่ะ มันไม่มีข้อเท็จจริงอยู่เลย มันเลยทำให้ผมไม่อยากพูดอะไรอีกแล้วครับ

เคยมีข่าวโยงว่าคุณไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจของโอ๊ค- พานทองแท้ ชินวัตร

เรื่องนี้ผมขอพูดว่าผมไม่เกี่ยวข้องกับเขาเลย มันเกิดจากผมไปซื้อที่ดินหลายแปลงไว้ แล้วมีแปลงหนึ่งมีมินิมาร์ทและปั๊มน้ำมัน เขาก็มาซื้อปั๊มและมินิมาร์ทของผม ผมเลยต้องโอนที่ดินให้เขาไปด้วย ขอบอกเลยว่าผมไม่เคยร่วมหุ้นทำธุรกิจกับเขาแม้แต่หุ้นเดียว เพียงแต่ว่าธุรกิจที่เขาซื้อไปเคยเป็นของผมมาก่อน และตอนนี้ก็กลายเป็นของเขาไปแล้วร้อยเปอร์เซ็นต์

ตอนเขามาซื้อที่ดินผม ผมยังไม่รู้เลย มารู้ตอนจะจ่ายตังค์ เพราะการทำธุรกิจสมัยนี้เราใช้โบรกเกอร์หรือใช้คนกลางทำ พอทำสัญญาซื้อขายถึงรู้ว่าเป็นชื่อเขา ยืนยันได้ว่าตั้งแต่อดีตจนมาถึงปัจจุบัน และในอนาคตผมไม่เคยทำธุรกิจร่วมกันกับเขา

อยากรู้จักคุณในบทบาทอื่นบ้าง ตอนอยู่บ้านคุณเป็นสามีและคุณพ่อแบบไหน

ผมไม่ใช่คุณพ่อที่ดุ ส่วนใหญ่จะเงียบๆ ไม่ค่อยพูด อยู่ข้างนอกพูดเยอะ แต่อยู่ในบ้านไม่ค่อยพูด เพราะลูกและเมียพูดแล้ว และเวลาอยู่บ้าน เมียใหญ่กว่า (หัวเราะ) ผมเป็นคนให้เกียรติเมีย เพราะเราลำบากมาด้วยกัน กว่าจะมีลูกด้วยกันก็ลำบาก ผมมีวันนี้ได้เพราะเขา เลยอยากจะให้เขาเยอะๆ

แล้วเวลาผมอยู่กับลูก ผมจะสอนลูกเสมอว่า “กำไรคือขาดทุน ขาดทุนคือกำไร “หมายถึงว่าเวลาทำอะไรก็อย่าคิดแต่กำไร ถ้าเราทำธุรกิจที่เอาแต่กำไรๆ ลูกค้าไม่โง่หรอกครับ แต่ถ้าเขาซื้อของเรา กินของร้านเรารู้สึกว่าคุ้มค่า เขาก็จะมาอีก แต่ถ้าเขารู้สึกว่าไม่คุ้มเขาก็จะไม่มาอีก และอีกคำคือ “ชนะคือแพ้ แพ้คือชนะ” ทั้งหมดเป็นคำสอนของในหลวงที่ผมใช้สอนลูกเสมอ เวลาที่ผมเจอวิกฤตในชีวิต ก็จะนำคำนี้มาใช้ และสามารถผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาได้ ผมเชื่อว่าถ้าเรามัวแต่อยากชนะ เราจะแพ้ มีแต่แพ้เท่านั้นที่จะชนะ

ทุกวันนี้ผมภูมิใจในตัวลูกของผมมาก เพราะทุกครั้งที่ผมเอาเงินบริจาคช่วยเหลือสังคม เขาจะบอกผมเสมอว่า “ภูมิใจในตัวปาป๊า” คือ ผมเตรียมเงินให้ลูกแค่ 20 ล้าน เพื่อให้เขารู้จักรับผิดชอบ และรู้คุณค่าของเงิน ดังนั้นเขาจะไม่รู้สึกว่าผมควรบริจาคเงินให้ใครเท่าไหร เพราะเขารู้แล้วว่าเขาจะได้เงินเท่านี้

ผมกล้าบริจาคเงิน เพราะพอเวลาผมใช้เงินก็ใช้เต็มที่ แต่ไม่ได้ใช้ฟุ่มเฟือย ถามว่าคนเราใช้เงินเพื่ออะไร คำตอบคือ ก็เพื่อความสุข ผมเอาเงินไปให้เขา ผมก็มีความสุข แต่อาจไม่ใช่ความสุขโดยตรง เป็นความสุขทางอ้อมก็ได้
ผมเชื่อว่าการทำธุรกิจที่ได้กำไร ถ้าเราเอากำไรคนเดียว เราก็จะไม่มีความสุขที่แท้จริงในสังคม เพราะสุขที่แท้จริงคือ เราต้องสุขหลายๆ คนพร้อมกัน ไม่ใช่แค่เราคนเดียว

เรื่องโดย ASTV ผู้จัดการ Live

สุพรรษา แก้วแสงธรรม 



ซีดี หนึ่่งตัน ที่คุณตันทำจำหน่ายในเซเว่น รายได้ไม่หักค่าใช้จ่ายมอบให้แก่มูลนิธิตันปันและมูลนิธิลูกเหรียง





กำลังโหลดความคิดเห็น