ท่ามกลางความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังคงยืดเยื้อมานานกว่าทศวรรษ เสียงปืน เสียงระเบิดยังดังสนั่น พรากชีวิตเหล่าทหารกล้า แม่พิมพ์ พ่อพิมพ์ของชาติไปทีละคน สองคน ซึ่งเป็นความเศร้าสลดที่ไม่มีใครอยากให้เกิด
ล่าสุด เมื่อเช้าวันที่ 28 ต.ค. เสียงระเบิดดังสนั่นอีกครั้ง ริมทางหลวงสาย 42 บ้านส้มป่อย ม.4 ต.กาเยาะมาตรี อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส แผ่นดินไทยได้สูญเสียชุดปฏิการคนเก่งไปอีก 3 คน โดยมี ร.ต.ต.แชน วรงคไพสิฐ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ดาบแชน และเพื่อนร่วมงานอีก 2 คน คือ ร.ต.ต.จรูญ เมตเรือง และ จ.ส.ต.นิมิต ดีวงศ์ ตำรวจ อีโอดี นราธิวาส ขณะที่ทั้งสามนายเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยที่วางไว้ริมถนน ซึ่งคาดกันว่าคนร้ายซุ่มรออยู่เพื่อจุดชนวนระเบิด
นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดของชุดเก็บกู้ระเบิด จ.นราธิวาส และเป็นอีกหนึ่งข่าวที่สร้างความเศร้าสลดให้แก่คนไทยทั้งประเทศ
นักกู้ระเบิด หัวใจน่ากราบ
การเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นาย นับเป็นการสูญเสียบุคลากรที่ทรงคุณค่าของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะ ร.ต.ต.แชน วรงคไพสิฐ เป็นที่รู้จักกันดีในพื้นที่ถือเป็นนายตำรวจที่เสียสละทำงานใน จ.นราธิวาส มายาวนาน และเสี่ยงตายมานับไม่ถ้วน
สำหรับพื้นที่ปลายด้ามขวานของไทยอย่าง จ.นราธิวาส เป็นที่ทราบกันดีว่ามักเกิดเหตุระเบิดหรือการลอบวางระเบิดอยู่บ่อยครั้ง อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ผู้ที่ต้องทำงานหนักจึงหนีไม่พ้นหน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด และผู้เป็นหัวหน้าทีม คือ ร.ต.ต.แชน วรงคไพสิฐ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ เหยี่ยวดง 60 รับผิดชอบการตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิด หรืออีโอดี ประจำกองบังคับการตำรวจภูธรจ.นราธิวาส ซึ่งทำงานเสี่ยงตายในพื้นที่มากกว่า 10 ปี
การเริ่มชีวิตบนเส้นด้ายของตำรวจกล้าท่านนี้ เขาลงพื้นที่จ.นราธิวาสตั้งแต่ปี 2533 จนเมื่อปี 2547 เป็นจุดเริ่มต้นของความรุนแรงในภาคใต้ ตลอดการทำงานของเขาจนถึงปัจจุบัน ดาบแชนเสี่ยงความตายผ่านการเก็บกู้วัตถุระเบิดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1,000 ครั้ง ถูกคนร้ายซุ่มยิงและลอบวางระเบิดจนได้รับบาดเจ็บมาแล้ว 6 ครั้ง
เหตุการณ์แบบนี้ หากเป็นตำรวจนายอื่น อาจคิดถอดใจหรืออยากย้ายไปสังกัดที่อื่นเพื่อความสุ่มเสี่ยงที่น้อยลง แต่นายตำรวจผู้นี้ยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่าไม่คิดย้ายไปที่อื่น ด้วยเพราะนราธิวาสคือถิ่นที่กำเนิดของเขา อีกทั้งมันคือหน้าที่เพื่อความสงบสุขของคนในชาติ
เปิดชีวิตบนเส้นความตาย
ไม่มีใครรู้ว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารจำนวนหนึ่งลงพื้นที่ไปดูแลความปลอดภัยเพื่อความสงบของพี่น้องร่วมแผ่นดินเกิด มีระเบิดกี่ลูกที่ถูกฝังเอาไว้เพื่อหวังให้ฝ่ายตรงข้ามเดินมาเหยียบ มาเตะ มาทำสลักให้หลุด เพื่อจะได้ฉุดจำนวนฝ่ายตรงข้ามให้ลดน้อยถอยลง แต่เมื่อไรที่มีข่าวคราวการวางระเบิดในจังหวัดชายภาคใต้ เป็นต้องเรียกใช้บริการของตำรวจหน่วยนี้ โดยที่มี "ดาบแชน" เป็นหัวหอกนำหน้าเสมอ
"ลักษณะงานแบบนี้ ถ้าคนหนึ่งถ่วงมันจะตายกันหมด ส่วนตัวพี่จะเสี่ยงหรือเป็นอะไร พี่ต้องเป็นก่อน ถ้าส่วนที่ไม่ปลอดภัย พี่จะทำเองหมด อันไหนไม่อันตรายแล้วก็ให้ลูกทีมทำ ถ้าเราพลาด เราก็ตายคนเดียว ยังไงคนอื่นต้องปลอดภัย" ดาบแชนเคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ แสดงให้เห็นความเป็นหัวหน้าหน่วยพิเศษหน่วยหนึ่ง ที่น้อยคนนักจะมีความกล้าหาญที่ยากจะหาใครเสมอเหมือน
ทั้งนี้ การปฏิบัติของหน่วยอีโอดี แต่ละครั้ง มีหลักปฏิบัติโดยชุด 5 นาย แยกความรับผิดชอบ คือ หัวหน้าชุด พลขับ เจ้าหน้าที่ทำลาย ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ทำลาย เจ้าหน้าที่อิเล็กทรอนิกส์ และสุดท้ายคือเจ้าหน้าที่สื่อสารซักถามพยาน เมื่อทุกอย่างดำเนินไปตามขั้นตอนอย่างที่มันควรจะเป็น ดาบแชนจะเข้าไปก่อนเป็นคนแรกเช่นเคยเพื่อตรวจสอบศพหาวัตถุระเบิด และสั่งให้ลูกทีมออกตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นวงกว้าง เป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับหน่วยที่ต้องเข้ามาทีหลังสุดคือหน่วยพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเข้ามาเก็บกู้หลักฐานหาวัตถุพยาน และนำร่างไร้วิญญาณกลับสู่บ้านเกิด
อย่างไรก็ดี การเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ที่ได้รับแจ้งว่ามีการลอบวางระเบิด เล่ากันว่า นักกู้ระเบิดผู้มากประสบการณ์ท่านนี้ มักจะนำไม้แหย่วัตถุต้องสงสัยโดยไม่มีโล่กำบังใดป้องกัน พร้อมยอมรับอย่างติดตลกว่า นอกเหนือจากประสบการณ์และความชำนาญในการกู้ระเบิดแล้ว บางครั้ง "ดวง" ก็จำเป็นที่สุดสำหรับเขา แต่เอาเข้าจริงแล้ว ด้วยความที่เป็นคนช่างสังเกต ทำให้เขาสามารถรอดมาได้นับ 10 หน และมีเพียงหนเดียวที่เฉียดตาย นอนโรงพยาบาลอยู่หลายเดือน อีกทั้งบางครา ยังต้องปะทะกับผู้ก่อการร้ายอีกด้วย
ทุ่มเทเพื่อในหลวง-ราชินี
ตลอด 10 ปีการทำงาน จากคำบอกเล่าของลูกน้อง และคนที่ทำงานใกล้ชิดกับ "ดาบแชน" ความมุ่งมั่นและตั้งใจปฎิบัติหน้าที่ คือสิ่งที่ไม่เคยหายไปจากผู้ชายคนนี้ นอกจากทุ่มเทชีวิตเพื่อให้ประชาชนนอนหลับสบายแล้ว เขาทุ่มเทเพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินีจะได้ทรงสบายพระทัย
ด้วยเหตุนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้มอบโล่เชิดชูเกียรติ ในปี พ.ศ. 2551 อีกทั้งได้รับคัดเลือกเป็นตำรวจดีเด่นต้นแบบจากมูลนิธิบุณยะจินดา ในปีเดียวกัน และในปี 2552 ด.ต.แชน ได้รับการพิจารณาจาก นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส ให้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ดีเด่นของจังหวัดนราธิวาส รวมทั้งยังได้รับคัดเลือกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจดีเด่นในโครงการนำทางแทนคุณแผ่นดิน ของบริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) อีกด้วย
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้เมื่อ 3 ปีก่อน "ดาบแชน" ยังเคยเป็นคนต้นเรื่องในรายการ "คนค้นฅน" ตอน "ดาบแชน คนกู้ระเบิด" ของบริษัท ทีวีบูรพา ออกอากาศเมื่อปี 2553 พร้อมกันนี้ ยังได้ขึ้นปกนิตยสาร ฅ.คน ในปีเดียวกันด้วย โดยหน้าปกได้เขียนพาดหัวว่า "ชีวิตบนเส้นชนวนแห่งความตาย" และเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2554 ได้รับรางวัล "คนดีของแผ่นดิน" อีกด้วย
ทั้งนี้ ในฐานะคนทำงานในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ดาบแชนได้สะท้อนถึงปัญหาการปฏิบัติหน้าที่ผ่านรายการคนค้นฅนเมื่อปี 2553 ซึ่งเป็นอีกมุมที่ชวนสะกิดใจ และนี่คือคำพูดตอนหนึ่งที่ทีมข่าว ASTVผู้จัดการ Live ขออนุญาตหยิบยกมานำเสนอต่อ
"..พี่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับบ้านเมืองตอนนี้ พี่ถามว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มันจะดีขึ้นได้อย่างไร สถานการณ์ตอนนี้ ไม่ใช่ว่าฝ่ายคนร้ายฝ่ายเดียวแล้ว คือต่างคนต่างไม่รู้ว่าหน้าที่ตัวเองทำอะไร ไม่รู้ว่ากฎหมายให้อำนาจใครทำอะไร เพราะถือว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่เหนือกฎหมายรัฐธรรมนูญ การได้แต่กู้ระเบิดก็ไม่ใช่การแก้ปัญหา ผู้ใหญ่ก็รับรู้นะ แต่พอจะแก้ปัญหาจริงๆ ไม่มีใครมาให้ความร่วมมือ ชาวบ้านคิดว่าคนที่ลงมา จะเข้ามาแก้ปัญหา บางครั้งที่ลงมา ก็มีแต่จะสร้างปัญหา"
เขาคือวีรบุรุษปลายด้ามขวาน
ในโลกที่ดำเนินไปตามจังหวะเข็มนาฬิกาของระเบิดเวลานั้นเต็มไปด้วยอันตราย เพียงเพราะความขัดแย้งของคนกลุ่มเล็กๆ ในประเทศ แม้ "ดาบแชน" จะลาลับโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ แต่เขาคือหนึ่งตัวอย่างของนายตำรวจผู้เสียสละ ยอมเสี่ยงชีวิตทุกวัน
"ผมจะอยู่แบบนี้ไปตลอด อยู่ไปจนเกษียณนั่นแหละ อยู่จนกว่าจะเกิดสันติสุข หรือจนกว่าเขาจะเอาไป..ด้ามขวานส่วนนี้" เขาเคยให้สัมภาษณ์ผ่านรายการคนค้นฅน แสดงให้เห็นหัวใจที่กล้าหาญ และความรักในแผ่นดินบ้านเกิดของผู้ชายท่านนี้
วันนี้ ไม่มี "ดาบแชน" แล้ว แต่รุ่นน้องอย่าง ร.ต.ต.พลวัฒน์ เทพษร รองหัวหน้าชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส ซึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่แทน ร.ต.ต.แชน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาดาบแชน เป็นคนสอนชุดเก็บกู้ฯ ทุกอย่างในการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้มีประสบการณ์ และหลังจากสูญเสียดาบแชนไป ได้เรียกลูกน้องที่ทำงานอยู่กับดาบแชนมาพูดคุย ซึ่งทราบว่าทุกคนเสียใจ แต่หน้าที่ของเราต้องปฏิบัติหน้าที่กันต่อไป ตามอุดมการณ์ที่ดาบแชนเคยพูดเอาไว้
การสูญเสียผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่มีคุณค่าอันใหญ่หลวงครั้งนี้ หากมองให้ดี ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ "ระเบิด" แต่ยังมีระเบิดที่ฝังตัวไว้ในสถานที่ที่เรามิอาจไปเก็บกู้ นั่นก็คือ "ระเบิดแห่งความเกลียดชังในหัวใจของผู้คน" ที่บางครั้งส่งผลต่อเนื่องจากรุ่นสู่รุ่น
ถ้ายังไม่่สามารถปลดล็อกระเบิดชนิดนี้ไปได้ ประเทศชาติก็คงต้องมีการเก็บกู้ระเบิดต่อไปเรื่อยๆ และคนดีๆ ที่เสียสละแบบ "ดาบแชน" และผองเพื่อนจะต้องถูกอานุภาพของระเบิดฉีกร่างจนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตกันอีกไม่รู้กี่ศพต่อกี่ศพ ซึ่งไม่เพียงแต่เหล่าทหาร และตำรวจในพื้นที่เท่านั้น ที่น่าเห็นใจไม่แพ้กันคือ คนรอบตัวของพวกเขาที่ไม่อาจรู้ได้เลยว่า คนที่ตนรักจะจากโลกนี้ไปวันไหน..
///////////////////
ประวัติชีวิต "ดาบแชน"
ร.ต.ต.แชน เกิดเมื่อปี 2506 จ.นราธิวาส พ่อแม่รับจ้างทำนาและกรีดยาง เป็นลูกชายคนที่ 2 จากทั้งหมด 4 คน
ปี 2526 เรียนจบวิทยาลัยเกษตร
ปี 2527 สอบเข้าโรงเรียนตำรวจภูธรภาค 9 จ.ยะลา กระทั่งเข้ารับราชการตำรวจที่ จ.ยะลา
ปี 2528 เข้าอบรมหลักสูตรนักเรียนพลตำรวจ รุ่นที่ 36 โรงเรียนตำรวจภูธร 9 จังหวัดยะลา
ปี 2529 รับราชการหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส
ปี 2532 ผ่านการอบรมหลักสูตรอบรมเก็บกู้ระเบิดที่สหรัฐอเมริกาเบื้องต้น 15 วัน
ปี 2533 ถูกซุ่มยิงได้รับบาดเจ็บ ต้องรักษาตัวนานปีเศษ จึงขอย้ายจาก จ.ยะลากลับมา จ.นราธิวาสบ้านเกิด
ปี 2542 ย้ายไป จ.พระนครศรีอยุธยา แต่เพียงปีเดียวก็ขอย้ายกลับมาจ.นราธิวาสอีกครั้ง ในช่วงเริ่มต้นของ "ยุทธการใบไม้ร่วง" ซึ่งกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในขณะนั้น ประกาศจะลอบสังหารเจ้าหน้าที่รัฐ
ปี 2547 เป็นจุดเริ่มต้นของความรุนแรงชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขาไม่เคยนอนตาหลับเลย
ปี 2549 ถูกเสนอชื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเลื่อนยศเป็นนายตำรวจสัญญาบัตร
ปี 2554 ได้ติดยศ ร้อยตำรวจตรี
ปี 2556 ปิดฉากชีวิต 'ดาบแชน' ฮีโร่ กู้ระเบิดปลายด้ามขวานไทย
สำหรับการสวดพระอภิธรรมศพ ร.ต.ต.แชน เป็นเวลา 5 คืน ที่วัดบางปอ อ.เมือง จ.นราธิวาส และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพอย่างสมเกียรติ ในวันอาทิตย์ที่ 3 พ.ย. 56 นี้
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE
ขอบคุณภาพจากนิตยสาร ฅ-คน ทีวีบูรพา