หลังเมื่อวานนี้ (25 ส.ค. 56) ได้มีการเปิดโครงการสัมมนา รู้ทันทองปลอมสัญจร ครั้งที่ 6 เพื่อให้ความรู้กับเจ้าของร้านทองเกี่ยวกับวิวัฒนาการทองปลอม เทคนิคการดูทองปลอม และความรู้ทางด้านกฎหมายในการดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพ รวมถึงเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาและวิธีการรับมือกับแก๊งมิจฉาชีพที่นำทองปลอมมาหลอกขาย ซึ่งจะช่วยให้ลดความเสี่ยงและลดปัญหาทองปลอม ทั้งนี้ยังเผยถึง มูลค่าความเสียหายจากปัญหาทองปลอมซึ่งมากถึงสองพันล้านบาทเลยทีเดียว
ความเป็นจริง ปัญหาทองปลอมนั้นเกิดขึ้นมานาน และยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ระยะหลังทองคำมีราคาสูงขึ้น ปัญหาทองปลอมจึงกับมาระบาดหนักอีกครั้ง สร้างความกังวลให้กับทั้งคนค้าทองและผู้ซื้อเอง อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อยังคงวางใจและคลายกังวลได้ว่า ทองที่ซื้อมาจะเป็นทองยัดไส้หรือเปล่า? เพราะส่วนมากมิจฉาชีพเลือกที่นำทองปลอมไปจำนำ ไม่นิยมใช้วิธีการขาย เพราะร้านค้าจะใช้การทดสอบแค่ชั่งน้ำหนัก และดูสภาพภายนอก ไม่สามารถใช้วิธีการเผาไฟหรือการตะไบเนื้อทอง เหมือนการขายขาดได้ เพราะจะทำให้ทองที่นำมาจำนำเสียหายมาก ทำให้พนักงานร้านทองหรือโรงรับจำนำที่ขาดความชำนาญหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อ
ในปัจจุบันกลุ่มมิจฉาชีพจะนำทองจริงไปห่อหุ้มกับเงิน ทองแดง นาก หรือวัสดุอื่นๆ หรืออีกวิธีหนึ่งกลุ่มมิจฉาชีพก็จะนำทองคำจริงมีชื่อยี่ห้อติดอยู่ไปทำการตัดต่อด้านหัวกับด้านท้าย เพื่อเอาชื่อยี่ห้อไปติดกับทองคำปลอม จากนั้นก็จะนำไปจำนำตามร้านทองต่างๆ เนื่องจากกลุ่มมิจฉาชีพจะอาศัยช่องโหว่ในการนำเอาทองคำปลอมไปจำนำ และจะทำให้เจ้าของร้านทองไม่กล้าตรวจสอบทองคำของลูกค้าอย่างละเอียด โดยเฉพาะร้านทองที่เปิดทำการใหม่พวกมิจฉาชีพชอบที่สุด ฉะนั้นจะต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ปัญหาความเข้าใจผิดของผู้ซื้อทองส่วนมากคือ ปัญหาทองปลอม คือ การที่คนร้ายผลิตทองปลอมนำมาขายหรือขายฝากกับร้านทองเท่านั้น ไม่ได้ขายให้กับผู้บริโภค และเมื่อร้านทองรับซื้อทองเก่าจากลูกค้า ซึ่งอาจเป็นคนร้ายนำทองปลอมมาหลอกขายนั้น ร้านทองจะไม่มีการนำทองเก่าที่ร้านรับซื้อจากลูกค้ามาขายซ้ำให้กับลูกค้ารายใหม่ แต่จะนำกลับไปหลอม เพื่อผลิตทองรูปพรรณชิ้นใหม่แทนทั้งหมด ดังนั้นลูกค้าผู้บริโภคสามารถวางใจได้ว่า หากไปซื้อทองกับร้านทองใดๆ ก็ตาม จะได้รับทองคำแท้อย่างแน่นอน และหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมหรือทราบเบาะแสเรื่องทองปลอมสามารถแจ้งที่สมาคมค้าทองคำได้ทันที