xs
xsm
sm
md
lg

“เนย-แจม” Neko Jump สองทูตสาวตัวเล็ก หัวใจรักสัตว์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สวย ใส ใจดี” วลีนี้คงเป็นนิยามใหม่ให้กับเธอสองคน เนย - วรัฐฐา อิมราพร และ แจม - ชรัฐฐา อิมราพร นักร้องดูโอวัยใสในนาม Neko Jump ลูกแมวเหมียวน้อยผู้น่ารัก น่าเอ็นดู ฝาแฝดสาวสวยที่โด่งดังไกลสร้างชื่อเสียงถึงประเทศญี่ปุ่น แต่ครั้งนี้เธอทั้งสองคนขอโดดมาทำภารกิจตอบแทนสังคมบ้าง ในฐานะ TSPCA’s Ambassador ปี 2013 เพื่อรณรงค์หาทางป้องกันและแก้ไขปัญหาทารุณสัตว์ จากพื้นฐานที่เธอทั้งสองคนเป็นคนรักสัตว์อยู่แล้ว เลยออกจะปลื้มใจสุดๆ กับตำแหน่งนี้ พร้อมรับปากว่าจะตั้งใจรณรงค์เพื่อช่วยเหลือสัตว์อย่างเต็มที่ให้สมกับโอกาสที่ได้รับมา

ปลื้มตำแหน่งทูตรักสัตว์

ถือเป็นโอกาสที่ดีของสองนักร้องฝาแฝดค่ายอาร์เอส เนยและแจม ที่ได้เข้ามารับตำแหน่งทูต TSPCA (Thai Society for the Prevention of Cruelty to Animals) ปี 2013 ทั้งเนยและแจมต่างกล่าวว่าดีใจที่ได้เข้ามาทำงานช่วยเหลือตรงนี้ เพราะทั้งสองต่างก็เป็นคนที่รักสัตว์อยู่ก่อนแล้ว

แจม : คือเราสองคนเป็นคนที่รักสัตว์อยู่ก่อนแล้วค่ะ ทีนี้ทาง TSPCA เค้ามีทูตอยู่แล้ว ปีก่อนเป็นพี่ๆ ในสังกัดเดียวกับเราคือวงเกิร์ลลี่ เบอร์รี่ ก็เหมือนมาส่งต่อหน้าที่ให้กับพวกเราสองคน แจมก็รู้สึกดีใจมากค่ะ เพราะว่าเราสองคนก็เป็นคนรักสัตว์อยู่แล้ว พอมาได้ร่วมงานกับโครงการ TSPCA ก็เหมือนพวกเราจะได้ช่วยเหลือสัตว์ได้มากขึ้น เหมือนอย่างปกติ เราเห็นคนที่ทำร้ายหรือทารุณสัตว์ เราก็จะไม่ค่อยรู้ว่าจะทำยังไงดี อย่างมากก็ได้แค่พูดและบอกต่อ แต่พอได้มาร่วมงานกับทางโครงการ TSPCA เค้าก็จะสามารถสนับสนุนเราได้ในหลายๆ ด้าน หลายๆ ทาง แล้วตัวเราเองก็มีส่วนช่วยในการประชาสัมพันธ์ด้วยค่ะ

เนย : คือจริงๆ แล้ว ในหน้าที่ของเราสองคนก็จะเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนได้รู้ว่า มีโครงการนี้อยู่ และสามารถรู้ได้ว่าต้องทำอย่างไร เช่น เวลาที่เราเห็นบ้านข้างๆ เค้าดูแลสัตว์เลี้ยงตัวเองไม่ดีเลย หรือหมาที่ถูกทอดทิ้งก็สามารถติดต่อกลับไปทาง TSPCA ได้ ซึ่งตรงนี้เป็นหน้าที่ของเรา ส่วนหน้าที่โครงการ การทำแคมเปญต่างๆ ทางTSPCA ก็จะเป็นคนดูแล

ภารกิจที่ทั้งสองได้รับ หลายคนอาจรังเกียจถ้าต้องลงพื้นที่ที่มีหมาหรือแมวจรจัดที่เนื้อตัวอาจสกปรก เป็นโรคเรื้อน แต่เธอทั้งสองก็ยินดีลงมาทำงานตรงนี้โดยไม่เกี่ยงงอน และทำงานช่วยเหลือสัตว์อยู่มาตลอดเนืองๆ

แจม : ก็มีทำอยู่เรื่อยๆ ค่ะ อย่างตอนน้ำท่วมเราก็ได้ไปทำงานที่ศูนย์พักพิงสัตว์ ก็มีเอาน้ำเอาอาหารไปบริจาคแล้วก็ช่วยบอกต่อสำหรับใครที่ตอนนี้มาฝากหมาหรือแมวไว้ให้เค้ากลับมารับสัตว์ของตัวเองกลับไป แล้วก็บางตัวถ้าถูกทอดทิ้ง เราก็ช่วยประกาศหาบ้าน หาคนรับเลี้ยงให้ค่ะ

เนย : แล้วก็ล่าสุดเราก็ได้ไปฉีดวัคซีนให้กับสุนัขค่ะ ป้องกันเห็บกับป้องกันพิษสุนัขบ้าค่ะ คือจริงๆ แจมว่าหมาจรจัดมันมีเยอะมากค่ะ อย่างล่าสุดที่ไปฉีดวัคซีน ประมาณ 500 กว่าตัว ซึ่งการอยู่ด้วยกัน 500 กว่าตัวในที่ๆ นึง มันก็ค่อนข้างเป็นจำนวนที่เยอะอยู่แล้ว แล้วทั่วประเทศไทยเนี่ยมันก็มีอยู่เยอะมาก แล้วก็มีอีกหลายที่ที่ไม่มีใครรู้ อย่างมีคนเคยบอกว่าบางทีจะมีคนเลี้ยงที่เป็นลักษณะคุณป้าใจดีคนนึง รักสัตว์มาก สงสาร เห็นหมาที่ไหนก็เก็บมาเลี้ยง เก็บๆ ไปเรื่อย จนเป็นพันตัว ซึ่งเค้าก็ไม่ได้เอามาเลี้ยงในสถานที่ที่เป็นที่พักพิงสัตว์ แต่เอามาเลี้ยงในฐานะของคนที่อยากจะช่วย เคสแบบนี้ยังมีอีกเยอะมากค่ะ หรือแม้กระทั่งตามวัด จริงๆ ก็มีสัตว์จำนวนเยอะ บางทีก็คิดว่า เราก็เข้าไปช่วยบริจาคบ้าง ไม่จำเป็นต้องถึงกับทำอะไรยิ่งใหญ่ แค่บริจาคให้อาหารเล็กๆ น้อยๆ ก็โอเคแล้ว

ห่วงปัญหา “หมาจรจัด”

ทั้งสองก็เคยลงพื้นที่แล้ว ได้เห็นปัญหาจริง แล้วคิดว่าควรจะรณรงค์เรื่องอะไรอย่างเร่งด่วนที่สุดในฐานะ ทูต TSPCA

เนย : จริงๆ แล้ว เนยอยากจะ รณรงค์เรื่องของการนำสัตว์มาเลี้ยงค่ะ คืออยากให้มีการตรวจสอบก่อนที่จะซื้อหรือจะเอามาเลี้ยงมาเล่นกับเค้า เราควรคิดให้ดีก่อนว่าเราพร้อมมั้ยทั้งเรื่องสถานที่ การเลี้ยงดู การเงินที่อยู่ เวลา การเอาใจใส่ดูแล นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก บางคนซื้อหมามา แต่ไม่มีเงินซื้ออาหารดีๆ หรือเวลาป่วยก็ไม่เอาไปรักษา แต่ตอนซื้อมาคุณสามารถซื้อมาได้ เสร็จแล้วก็ไม่ได้คิดว่าค่าเลี้ยงดู การดูแลเค้าทั้งชีวิตเนี่ยมันโอเคมั้ย บางทีก็มาโทษหมา เลี้ยงไม่ได้ ก็เอาไปทิ้ง ไปปล่อยบ้าง เรื่องนี้มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะเป็นการเพิ่มจำนวนสุนัขจรจัดให้มากขึ้นไปอีก ก็เลยอยากจะรณรงค์เรื่องนี้ค่ะ

แจม : แจมก็มีความคิดเหมือนกับเนยค่ะ เพราะแจมอยากลดปัญหาเกี่ยวกับหมาจรจัดค่ะ เพราะอย่างประเทศไทยของเราเนี่ย ก็อย่างที่เรารู้กันว่ามีจำนวนสัตว์ หมาแมว เร่ร่อนที่ถูกทิ้งตามถนนเยอะมาก แล้วก็พอเค้าไม่ได้อยู่ในที่ที่ถูกสุขอนามัยถูกต้อง มันก็จะเป็นโรค เป็นขี้เรื้อน แล้วคือเราไปโทษหมาไม่ได้หรอก ว่าทำให้สภาพแวดล้อมไม่ดี คือมันอยู่ที่คนเลี้ยงด้วย จริงๆ อยากให้มีกฎหมายเหมือนกันว่า ถ้าเรานำสัตว์มาเลี้ยง น่าจะมีการลงทะเบียนหรืออะไรสักอย่าง ให้รู้ว่าสัตว์ตัวนี้มีเจ้าของนะ แล้วเจ้าของคือใคร จะได้เช็คได้ แล้วถ้าเกิดว่าเอาไปปล่อยทิ้งไว้ ก็ต้องมีการตามจับเจ้าของ คนเลี้ยงสัตว์จะได้มีความรับผิดชอบมากขึ้นในการเลี้ยงสัตว์ แล้วก็ช่วยลดจำนวนหมาจรจัด แมวจรจัดที่อยู่เร่ร่อนตามข้างถนน แล้วก็ยังช่วยแก้ปัญหาสุขอนามัยได้ด้วย อย่างมีมูลสัตว์ตามท้องถนน สกปรก ทำให้เป็นเชื้อโรคก็เป็นผลพวงอะไรหลายอย่างดีๆ ตามมา

อีกปัญหาหนึ่งคือตอนนี้มีข่าวการกินหมา และขบวนการค้าหมาก็ถูกจับกุมได้หลายครั้งตามเขตชายแดน ทั้งสองมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง ?

แจม : รู้สึกแย่มาก

เนย : โหดร้ายมาก กินหมา

แจม : คือเค้าไม่ได้กินธรรมดาเหมือนเนื้อหมู เนื้อไก่ อันนั้นฆ่าก็คือฆ่า แต่อันนี้แบบแล่กันกินสดๆ บ้าง ควักนี่ควักนั่น

เนย : จริงๆ แล้วมันเป็นอะไรที่แปลกนะคะ ทุกวันนี้ของกินก็เยอะจนจะล้นโลกอยู่แล้ว ผักนี่กินสิ ดีจะตาย กินทำไมหมา หมูก็มี ไก่ก็มี วัวก็มี ปลาก็มี กุ้งอีก เยอะแยะไปหมด ทำไมต้องกินหมาด้วย

แจม : มันไม่ใช่ว่า อ้าว ทีเรายังกินหมู กินวัว กินไก่ได้เลย แต่ว่าอันนั้น เราฆ่ากันกินตามปกติ

เนย : บางครั้งเราก็ต้องนึกด้วยว่า สัตว์เหล่านั้นเป็นสัตว์ในปศุสัตว์ เลี้ยงเพื่อให้เรากินกัน แต่สัตว์บางชนิดเกิดมาเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยง เป็นสัตว์ที่อยู่ตามธรรมชาติ ไม่ควรจะไปยุ่ง อย่างหมาเนี่ย ไม่ได้เป็นสัตว์ในปศุสัตว์ที่เราจะเอามากินกัน เพราะฉะนั้น มันก็เป็นสิ่งที่เราควรจะมีจิตสำนึกด้วย

แจม : แล้วทานไม่ได้ทานธรรมดา กินพิสดาร แล้วยังมีสัตว์อื่นๆ อีก อย่างควักสมองลิงสดๆ เปิดกะโหลกมามันยังไม่ตาย ยังดิ้นอยู่ ซึ่งมันเป็นอะไรที่ถ้าเรากินอาหารตามธรรมดา หมู ไก่ ที่มีอยู่แล้ว แจมว่ามันก็โอเคแล้ว เราไม่จำเป็นต้องหาอะไรมากินเพื่อความพิสดารขนาดนั้นค่ะ

เพื่อนร่วมโลกตัวน้อย

เห็นได้ว่า เธอทั้งสองมีจิตใจเอื้ออาทรต่อสัตว์โลกขนาดนี้ ก็คงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอมีสัตว์เลี้ยงหรือไม่ แต่สัตว์เลี้ยงของทั้งคู่ดันไม่ธรรมดาเหมือนคนทั่วไป เพราะมีเจ้า “ชูการ์ไกลเดอร์” เป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักนั่นเอง

แจม : มีค่ะ ตอนนี้เลี้ยงตัวชูการ์ไกลเดอร์ค่ะ เป็นจิงโจ้บิน เลี้ยงตัวเดียว ชื่อเจ้าไรเดอร์

เนย : เค้าตลก เป็นสัตว์แปลกๆ (หัวเราะ) คือตัวนี้ไม่ได้ตั้งใจจะเลี้ยง คือเหมือนมีน้องแฟนคลับคนนึง ที่บ้านเค้าจะเลี้ยงสัตว์แปลกๆ เยอะ แล้วเค้าก็มาบอกว่า เนี่ย เค้าจะเอาตัวจิงโจ้บินมาให้ เราก็ไม่คิดว่าเค้าจะเอามาให้จริงๆ ซึ่งตัวนี้เค้าเอามาให้ตอนงานคอนเสิร์ต เมื่อประมาณสองปีที่แล้ว เค้าเอามาทิ้งไว้ให้เลย ทั้งๆ ที่มันตัวนิดเดียวเอง

แจม : กลมๆ เล็กกว่าฝ่ามืออีกอ่ะ เค้ามาทิ้งไว้ เราไม่รู้จะทำไง ก็เลยต้องเลี้ยงไว้

ก่อนหน้านั้น เนยและแจมเผยว่า ความจริงไม่ได้อยากเลี้ยงสัตว์แล้ว เพราะเสียใจกับการจากไปของหมาที่เลี้ยงไว้ตั้งแต่ทั้งสองยังเด็กไม่ได้ และคิดว่า ณ ตอนนี้ ก็ไม่ค่อยมีเวลาสักเท่าไหร่ แต่ด้วยเหตุบังเอิญ แฟนคลับนำมาให้เลี้ยง ตอนนี้เธอทั้งสองเลยรักมันอย่างหัวปักหัวปำ

แจม : จริงๆ เลี้ยงหมาค่ะ แต่มันเพิ่งแก่ตายไป คือเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว พอมันเพิ่งตายเมื่อไม่นานมานี้เองก็รู้สึกว่า เออ พอแล้วดีกว่า ไม่อยากเลี้ยง เพราะว่าเราเองตอนนี้ก็โตแล้ว ทำงาน ก็ไม่มีเวลาเล่นกับมัน สงสาร ก็เลยรู้สึกว่าถ้าเราดูแลเค้าได้ไม่ดี ไม่ไหว อย่างหมามันต้องมีการดูแลเอาใจใส่เยอะ อย่างน้อยก็ต้องเล่นกับมันบ้าง ก็เลยตัดสินใจว่าพอแล้วดีกว่า

ส่วนสัตว์เลี้ยงที่ทั้งสองคนอยากเลี้ยงมากที่สุดล่ะ มีไหม?

เนย : ยากอ่ะ เนยอยากเลี้ยงสัตว์ทุกอย่างบนโลกใบนี้เลยนะ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเลี้ยงเสืออ่ะค่ะ ก็มันน่ารักดี ไม่กลัวที่มันตัวใหญ่นะ ดีออกจะได้ฟัดมัน (หัวเราะ) คือเนยเคยได้ยินมาว่ามีคนเลี้ยง ก็เลยอยากเลี้ยงบ้าง ชอบอ่ะค่ะ

แจม : จริงๆ ตอนนี้หนูอยากเลี้ยงแมว อยากเลี้ยงแมวมาก เพราะว่าตั้งแต่ตอนช่วงน้ำท่วม ที่บอกว่าได้เข้าไปตามศูนย์ช่วยเหลือ มันก็จะมีแมว ไปเห็นฝูงแมวซึ่งมันน่ารักมาก แจมก็เลยรู้สึกปิ๊ง ก็เลยอยากเลี้ยง เพราะปกติเราก็เลี้ยงหมา แต่แมวดูมันต่างกับหมาเยอะเหมือนกัน จะแบบดูดัดจริต ขี้อ้อนแบบแปลกๆ ดูหยิ่งๆ ดูน่าสนใจดีก็เลยอยากเลี้ยงค่ะ

แล้วทั้งเนยกับแจม มีความคิดเห็นอย่างไรกับคำว่า “สัตว์” บนโลกใบนี้

เนย : เนยก็รู้สึกว่าสัตว์ทุกตัวเค้าก็เหมือนคนนะคะ จริงๆ ก็คิดว่าทุกอย่างมันเหมือนกันหมด เพียงแต่เค้าพูดออกมาเป็นภาษาไม่ได้ มันก็รู้สึกทุกอย่างเหมือนเรา

แจม : ก็คิดว่า คือเรากับสัตว์เนี่ย จริงๆ มันเหมือนกับการต้องพึ่งพากันและกันค่ะ อย่างในเรื่องของคนกับสัตว์เนี่ย ไม่ได้ รู้สึกว่าเราต้องการแบ่งแยกว่าคนมีสิทธิมากกว่าสัตว์ สัตว์ก็คือสัตว์ แต่ว่าเรารู้สึกว่าเค้าก็มีจิตใจเหมือนกัน เค้ามีความรู้สึกเจ็บได้เหมือนกับเรา ก็อยากให้ใส่ใจ เข้าใจ สัตว์ทุกตัวมันก็มีธรรมชาติ เค้ามีสังคมของเค้าเหมือนกัน เพราะฉะนั้น เราก็ควรที่จะรู้และเข้าใจ ไม่ใช่เหมือนกับว่าเอาสัตว์ชนิดนี้ไปเป็นกีฬาหรือว่ามีเทศกาลยิงนก ยิงปลาไปเรื่อย โดยที่มันไม่ได้มีเหตุผลและมันไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลย บางทีมันอาจทำให้สัตว์บางชนิดสูญพันธุ์ไปซะเปล่าด้วย

เนย : ถ้าเกิดสัตว์มันพูดได้ มันคงอยากพูดว่า เออ ไปเทศกาลกินคนกันดีกว่า ถ้ามันทำได้มันก็คงทำเหมือนกัน เพราะฉะนั้น เราอย่าพูดว่าแค่เคารพสิทธิของมนุษย์ จริงๆ สัตว์ก็มีสิทธิของเค้าเหมือนกัน ก็อยากให้ความเคารพซึ่งกันและกัน เพราะว่าเราก็ต่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ร่วมโลกกัน

ดีใจกับความคิดของสาวสวยทั้งสองคนที่ว่าสัตว์ทุกตัวบนโลกใบนี้เปรียบเสมือนเพื่อนร่วมโลกกับเรา ซึ่งมนุษย์ควรเคารพในสิทธิของมันเช่นกัน ก็หวังว่าสองสาวเนย-แจม จะใช้ความน่ารัก สดใส และความคิดดีๆ แบบนี้ เปลี่ยนทัศนคติของคนที่มีต่อสัตว์ให้ดีขึ้น ไปจนถึงการรณรงค์เพื่อช่วยลดปัญหาหมาจรจัด ปัญหาการทารุณสัตว์ ได้เสียที สุดท้ายใครที่ชื่นชอบผลงานของเธอทั้งสองก็อย่าลืมติดตามได้ในเร็วๆ นี้

แจม : ตอนนี้แจมกำลังถ่ายละครอยู่ค่ะ เรื่องวิวาห์ป่าช้าแตก นะคะใกล้จะปิดกล้องแล้วคะ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ ทางช่อง 8 ค่ะ

เนย : ตอนนี้ก็ยังว่างค่ะ (หัวเราะ) แต่ว่าเราสองคนก็กำลังทำอัลบัมใหม่ ซิงเกิลใหม่ ต้องรออีกนิดนึง ก็พยายามจะทำให้เร็ว ให้เสร็จภายในปีนี้ ฝากติดตามด้วยแล้วกันค่ะ

ข่าวโดย M-Lite
ภาพโดย จิรโชค พันทวี




แจม - ชรัฐฐา อิมราพร
เนย - วรัฐฐา อิมราพร



แค้นเสน่หา ตอนที่ 13
แค้นเสน่หา ตอนที่ 13
ค่ำคืนนั้นหมู่มวลผีมากมาย วนเวียนอยู่รอบนอกขอบขัณฑสีมาของวัดแห่งนั้น นางเฟืองพยายามจะเข้าไป แต่เข้าไม่ได้ เลยต้องปะปนรวมอยู่กับผีหลายตัวที่นอกวัด ส่วนในกุฏิที่พักอุบาสิกา คุณหญิงเพ็ง และ จันทร์ พูดคุยกันเบาๆ ว่า พรุ่งนี้จะกลับแล้ว หลวงพ่อกลับจากข้างนอกมาเห็นผีหลายตน หนึ่งในนั้นคือผีนางเฟืองที่หน้าวัด แต่ยังคงเห็นพลังแห่งความอาฆาตแค้นห่อหุ้ม จึงลงมาพูดด้วย อธิบายเรื่องความทุกข์ต่างๆ นาๆ นางเฟืองฟังแล้วถึงกับน้ำตาไหล เริ่มคิดได้บ้างนิดๆ หน่อยๆ ขณะเดียวกันท่านหญิงอยู่ในห้องบรรทม กำลังคลุ้มคลั่งเพราะเรียกหานางเฟือง แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากนางผีร้าย กลางสนามหน้าวัง คืนวันนั้น ท่านหญิงประทับมองไปทั่วๆวังรอคอย สีหน้าว้าวุ่นหนัก
กำลังโหลดความคิดเห็น