“ความกลัวเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเอง มันไม่มีจริง เราคิดไปเอง นี่มันอยู่ตรงนี้ (ชี้ที่หัว ในตาสดใส)” หนูน้อยชาร์เลท นักแสดงเด็กวัย 8 ขวบ ขวัญใจใครหลายคนบอกเอาไว้ในช่วงหนึ่งของบทสนทนาด้วยแววตาเปล่งประกาย ถ้อยคำฉะฉาน
หลายครั้งที่เห็นเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆ คนนี้ สวมบทบาทเป็นตัวละครตัวนั้นตัวนี้ในละครดังหลังข่าว หลายคนอดทึ่งในความสามารถของเธอไม่ได้ อยากรู้ว่าอะไรทำให้เด็กอนุบาล 3 มีความคิดความอ่านและมีความสามารถชัดเจนได้ขนาดนี้ และคำตอบหนึ่งในนั้นก็หนีไม่พ้น “หนังสือ” เพื่อนสนิทที่เดินทางไปกับชาร์เลททุกที่ทุกเวลา โดยมีคุณแม่เป็นคนนำทาง
“เริ่มจากอนุบาลเราก็อ่านหนังสือให้เขาฟัง แล้วก็มาสังเกตชัดเจนอีกครั้งตอนเขามีโอกาสได้ถ่ายละคร เวลาน้องไปถ่ายละคร จะหยิบหนังสือติดไปด้วย ถ้ารอนานๆ น้องก็หยิบมาอ่านบ้าง บทเขาก็อ่านทั้งหมดเลย คือพออ่านส่วนของตัวเองจบ เขาบอกว่าเขาอยากรู้ต่อ ขออ่านต่อ แม่เลยบอกว่าอยากรู้ก็อ่านค่ะ จากนั้นก็รู้สึกว่าเขาชอบอ่าน อ่านมาตลอดค่ะ” ศิวภรณ์ แฮเมเนา พูดถึงลูกสาวด้วยแววตาเอ็นดู
ในขณะที่เพื่อนรุ่นเดียวกันชอบเล่นเกม แต่หนูน้อย “ชาร์เลท-วาศิตา แฮเมเนา” บอกว่าเธอชอบมนต์เสน่ห์แห่งตัวอักษรมากกว่า “คนอื่นชอบเล่นเกมกันมากกว่าค่ะ แต่หนูชอบอ่าน มีเพื่อนคนนึงเขาชอบอ่านเหมือนกัน พอตอนเที่ยงหนูก็จะไปยืมเขาอ่านด้วย หนูอยากรู้เหมือนกันว่าห้องสมุดหนูจะมีเล่มนี้มั้ย” ว่าแล้วก็หยิบหนังสือเล่มโปรดเล่มใหม่ขึ้นมาโชว์ ชื่อเรื่อง After Earth
“ชอบแบบนี้ค่ะ อันนี้เกี่ยวกับคนที่เป็น Ranger คนที่มีพลังต่อสู้ ไปเจอกับปีศาจตัวนึง เป็นเรื่องของดาวที่เกิดจากโลกโดนทำลายไปหมดแล้ว ก็เลยจะเหลือแค่สัตว์ต่างๆ ที่ยังไม่ชินกับมนุษย์ ลิงก็จะดุร้าย แล้วก็มีพ่อกับลูกอยู่ด้วยกัน หนูชอบคำพูดของเขาอยู่คำหนึ่ง เขาพูดว่า หนูไม่ขี้ขลาด และหนูจะไม่ขี้ขลาดให้พ่อเห็น แล้วเรื่องนี้ก็สอนว่า ความกลัวเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเอง มันไม่มีจริง เราคิดไปเอง นี่มันอยู่ตรงนี้ (ชี้ที่หัวตัวเองพร้อมกับยิ้มแฉ่งในตาใส)”
ด้วยความฝันอยากเป็น “ผู้กำกับ” ยิ่งทำให้หนูน้อยรักการอ่านเข้าไปใหญ่ “เวลาเขาอ่าน เขาจะชอบบอกว่า เรื่องนี้น่าจะเอามาทำเป็นละคร เอามาทำเป็นหนังนะคะ ทำไมไม่มีใครเอามาทำเลย ด้วยความที่เขาชอบหนัง เขาจะดูแล้วจินตนาการต่อ แล้วก็จะมาเล่าให้ฟังว่า แม่คะ หนูอยากทำหนังประมาณนี้ อยากเป็นผู้กำกับค่ะ ความฝันเขาเยอะ” คนเป็นแม่พูดไปยิ้มไป ก่อนปล่อยให้เจ้าตัวน้อยเสริมทัพความคิด
“นิยายกับหนังจะต่างกันนะคะ อ่านนิยายจะมีเพิ่มเติม แต่หนังจะมีพอประมาณ เวลาหนูอ่าน หนูจะจินตนาการอีกแบบ พอไปดูหนังที่เขาทำออกมา ก็รู้เลยว่าเขาจินตนาการอีกแบบ สนุกดีค่ะ หนูไม่ได้คิดว่าหนูจินตนาการดีกว่าเขา เขาจินตนาการดีกว่าหนูอีก กระบองที่ต่อสู้กัน ตอนที่อ่านคิดว่าเป็นกระบองธรรมดา พอไปดูในหนังมีกดปุ่มแล้วเด้งออกมาได้ด้วย ชุดก็เปลี่ยนสีได้ (น้ำเสียงตื่นเต้น)”
แต่กว่านิสัยรักการอ่านจะผลิดอกออกผลได้แบบนี้ คุณแม่ก็ต้องค่อยๆ รดน้ำให้ลูกอยู่นานเหมือนกัน “เทคโนโลยีใช้เป็นไว้ก็ดีค่ะ แต่แม่ว่าต้องใช้อย่างพอดี และหนังสือแบบเดิมมันก็มีเสน่ห์มากกว่า เราก็พยายามใส่สิ่งเหล่านี้เข้าไปในชีวิตประจำวันของเขา ทำให้เขาเป็นแบบนี้ค่ะ อ่านหนังสือ เข้าร้านหนังสือ และเราก็ต้องฟังเขาเวลาเขาพูดด้วย เพราะถ้าเราไม่ฟังเวลาเขาเล่าเรื่องที่อยากจะบอก เรื่องที่เขาอ่านมา เขาก็จะรู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่มีความหมาย”
ว่าแล้วคนที่กำลังถูกพูดถึงก็ตบท้ายด้วยการพูดเชิญชวน “ถ้าทุกคนอ่านหนังสือเยอะๆ นะคะ ทุกคนก็จะได้ความรู้ ได้ความสนุกสนานเพลิดเพลิน จะสามารถต่อยอดไปทำอาชีพของเราได้ เอาความรู้ในนี้ไปเรียนรู้ได้ มาอ่านกันเถอะค่ะ”
ถ้าไม่รู้จะเริ่มผจญภัยไปในดินแดนแห่งการอ่านอย่างไรดี ลองมาร์กปฏิทินวันที่ 17-23 ก.ค. เอาไว้ แล้วแวะมาที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งาน “เทศกาลหนังสือครอบครัวนักอ่าน ครั้งที่ 2” ก็ได้ งานนี้มีหนังสือหลากหลาย สำหรับเด็ก เยาวชน และผู้ใหญ่ ครบทุกวัย สนุกไปได้พร้อมๆ กัน
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE
ภาพโดย วรวิทย์ พานิชนันท์