xs
xsm
sm
md
lg

ปริศนา "พระรวยเว่อร์" ชาวบ้านเชื่อใช้ผ้าเหลืองฟอกเงิน !?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กระแสที่ยังไม่ยอมแผ่วง่ายๆ ยิ่งขุดยิ่งเจอเรื่องฉาวไม่หยุดหย่อนกับหลวงปู่คนดังของยุคนี้ "เณรคำ ฉัตติโก" ที่ยังไม่ยอมกลับจากฝรั่งเศส หลังกระแสต้านยิ่งเพิ่มพลังมากขึ้น ขนาดที่ว่าต้องไปร้องเรียนให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ตรวจสอบ มูลค่าทรัพย์สินที่มีมากมาย ไม่ว่าจะ เงิน ข้าวของเครื่องใช้ราคาแพงทั้งที่ยังทรงอยู่ในสมณเพศ ทั้งที่ยังห่มผ้าเหลืองระลึกเตือนว่าเป็นพระ แต่กลับหายจ้อยไม่ปริปากตอบคำถาม ปล่อยลูกศิษย์รับหน้า แถผ่านสื่อ ทำเอาเพลียกันทั้งเมือง และเริ่มฉุกคิดตะหงิดใจ หรือเงินสกปรกเหล่านี้ถูกไหว้วานมาให้คนห่มเหลืองฟอกหรือเปล่า !?

เสื่อม ใช้ผ้าเหลืองบังหน้า

เสียงเล่าลือหาที่อ้างอิงไม่ได้ ตกเป็นขี้ปากชาวบ้านมาแรมเดือนกับกรณีพระรวยแบบผิดหูผิดตา แล้วญาติโยมผู้ศรัทธาออกมากางแขนปกป้องพระอาจารย์ด้วยความเคารพรักในพระคุณเจ้า (และอาจรักในทรัพย์สินของพระคุณเจ้าด้วย) แต่หลายฝ่ายก็ยังติดใจในทรัพย์สินมากมาย ทั้ง เงินที่แว่วว่ามีถึงพันล้านบาท ทองอีกราวหนึ่งร้อยกิโลกรัม ข้าวของเครื่องใช้มียี่ห้อ ยานพาหนะสุดหรู แล้วไหนจะแอบสร้างบ้านให้พ่อ-แม่ รวมถึงสีกาที่อยู่ข้างนอกให้อีกด้วย จากแต่ก่อนไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากนัก แต่พอบวชพระปั๊บก็รวยปุ๊บ

ข่าวลือดังที่ฟังแล้วมีเหตุมีผลสอดรับกันอยู่ไม่น้อย พระดังหลายรูป มีนักการเมืองเส้นใหญ่ติดทำเนียบศิษย์รัก คนใกล้ชิดสนิทแน่นแฟ้น และที่สำคัญพระเหล่านี้ก็ร่ำรวยตามเหล่านักการเมืองไปด้วย เลยทำให้ใครหลายคนเชื่อว่า เบื้องลึกต้องมีการแอบลักลอบฟอกเงินอย่างลับๆ ด้วยการเอาคนในผ้าเหลืองมาบังหน้า!! ยกตัวอย่างไม่ใกล้ ไม่ไกล แถวจังหวัดนครปฐม หลวงพี่น้ำฝน พระชื่อดังที่ตกเป็นจำเลยเพราะมีรถหรูสะสม โดยอ้างว่าลูกศิษย์หามาใช้ สำหรับทำประโยชน์ต่อวัด พระรูปนี้ก็มีข่าวลือหึ่งว่าซี้กันกับนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดัง อย่างเมื่อปี 52 ก็ขอใช้วัดจัดฉลองให้นักโทษแดนไกล ทักษิณ ชินวัตร แถมยังลือแรงหนักเข้าไปอีกว่า ที่วัดนี้แหละเป็นแหล่งเก็บยาบ้าชั้นดีเชียวนะเออ

ทั้งนี้ ไม่ได้กล่าวหาใส่ความแบบลอยๆ แต่อย่างใด เพราะเหตุการณ์ฟอกเงินโดยใช้พระมาบังหน้า ได้เกิดขึ้นจริงมาแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เมื่อบ้านไม้สักหรูหราของพระสงฆ์รูปหนึ่งใน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ถูกอ้างว่ามีบุคคลบางกลุ่มลงทุนปลูกถวายด้วยเงินกว่า 50 ล้านบาท จึงถูกสงสัยว่าอาจจะมีส่วนพัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติดก็เป็นได้

ในครั้งนั้น นที ธีระโรจน์พงษ์ ที่ปรึกษา ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีภาคประชาชนและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีบ้านไม้สัก 50 ล้าน ในพื้นที่ อ.สารภี หลังนี้ว่า ชาวบ้านอยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพระสงฆ์ที่มีฐานะร่ำรวยผิดปกติใน อ.สารภี ที่ปลูกบ้านไม้สักมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมา ชาวบ้านให้เบาะแสว่า มีนายทุนคนหนึ่งอ้างตัวว่าศรัทธาในพระสงฆ์รูปนี้ จึงสร้างบ้านถวายให้ รวมทั้งยังซื้อที่ดินอีกหลายแปลงใน อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ เพื่อสร้างสำนักสงฆ์ โดยชาวบ้านสงสัยว่าพระรูปดังกล่าวได้เงินมาจากไหนอย่างไร เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดหรือการฟอกเงินหรือไม่ เพราะกลัวจะเสื่อมเสียพระพุทธศาสนา

ไม่แน่ใจว่าพระในวัดนั้นมีส่วนพัวพันกับเงินมูลค่าหลายล้านบาทนี้หรือไม่ แต่ก็เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าทุกวันนี้กลเม็ดเด็ดพราย ในการโกงกิน ฟอกเงิน มันลามเข้ามาทั่วทุกแห่งแล้วตอนนี้ ไม่เว้นว่าจะเป็นเขตพัทธสีมาก็ตาม

แฉกระบวนการฟอกเงิน

นอกไปจากกระบวนการฟอกเงินที่หลายคนเกรงว่า นักการเมืองหรือผู้มีอิทธิพลจะเอาเงินสกปรกมาแปลงเป็นเงินบริจาค หรือสิ่งของมีค่า อื่นๆ มาบริจาคให้กับทางวัดแล้ว ร้อยตำรวจเอกหญิง สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยังให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า แค่เพียงพระทำการโฆษณาหลอกลวง อวดอ้างอิทธิฤทธิ์วิเศษเพื่อเอาเงินบริจาค แล้วนำเงินบริจาคเข้ากระเป๋าตัวเอง ก็ถือว่าเป็นการฟอกเงินประเภทหนึ่งแล้ว

"การที่จะฟอกเงินผ่านกระบวนการผ่านพระเนี่ย มันก็สามารถดำเนินการได้ แต่มันจะต้องมีความผิดมูลฐานก่อน อย่างถ้าทางพระไปใช้วิธีการหลอกลวงประชาชน สมมติบอกว่า ตนเองมีสิ่งของวิเศษ มีของศักดิ์สิทธิ์ ท่านสามารถทำให้มีชื่อเสียงอะไรได้ ทีนี้ก็มักจะมีประชาชนส่วนใหญ่มาหลงเชื่อ ก็ไปบริจาคเงิน ให้อะไรพระท่านไป พระก็จะมีความผิดในเรื่องของการฉ้อโกง หรือหลวกลวงประชาชน ทีนี้พระได้น้ำเงินที่ได้จากการฉ้อโกง หรือไปโฆษณาชวนเชื่อๆ หลอกลวงประชาชน ท่านจะนำเงินมาเข้าวัดก็ไม่ แต่กลับเอาเงินจากวัดโอนเข้าบัญชีตัวเอง ตัวเองก็เอาเงินไปซื้อรถ ปลูกบ้าน ตรงนี้พระก็จะมีความผิดมูลฐานว่าเอาทรัพย์ที่ได้จากการกระทำนั้นไปเปลี่ยนสภาพให้เป็นอย่างอื่น อุตส่าห์เม้มไว้ในบัญชีส่วนตัวของตัวเอง แทนที่จะเอาเงินไปฝากในบัญชีของวัด อันนี้อาจจะโดนข้อหาฟอกเงินได้"

แต่ก็น่าห่วงตรงที่ว่า หากนักการเมืองผู้มีเบื้องหลังพัวพันกับเงินบาป มาบริจาคเข้าวัด ทั้งรถหรู เงินล้าน หรืออื่นๆ จะยังต้องผ่านกระบวนการพิสูจน์ต่อไปว่าเงินนั้นสกปรกจริงหรือไม่ ดังนั้น การจะทุ่มเงินเป็นล้านๆ บาท บริจาคเข้าวัดก็ทำได้ ไม่ผิดแต่อย่างใด “ถ้านักการเมืองบริจาคมา ตรงนี้นักการเมืองเค้าก็ไม่ผิดอะไร แต่ถ้านักการเมืองค้ายาแล้วเอามาฝากเนี่ย ผิด แต่ตรงนี้มันจะพิสูจน์ยังไงว่าเค้าเอาเงินที่ได้จากการค้ายาหรือจากการกระทำผิดอื่นๆ มาฝาก มาบริจาคให้วัด" ร้อยตำรวจเอกหญิง สุวนีย์ กล่าว

เตรียมเช็กบิลพระคนดัง

อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา เครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้มายื่นหนังสือต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อขอให้มีการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน พระภิกษุชื่อ พระวีรพล สุขผล หรือหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ กับพวกที่มีพฤติกรรมส่อขัดต่อกฎหมาย และขัดต่อพระธรรมวินัย

ทางด้านประธานเครือข่ายฯ สงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ กล่าวว่า ขณะนี้ศาสนาพุทธมีคนบางกลุ่มเข้ามาหาผลประโยชน์ โดยวันนี้ได้นำหลักฐานด้านการเงินของหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโกมาให้ ปปง.ตรวจสอบ ภายหลังไปยื่นเรื่องต่อกองปราบปราม ซึ่งหลักฐานนี้มีชื่อนิติบุคคลว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไร โดยเฉพาะเงินบริจาค หากหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก มีต้นขั้วหนังสือก็ต้องสามารถให้การตรวจสอบได้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระพุทธศาสนา โดยเชื่อว่า เรื่องนี้อาจมีการทำธุรกรรมค่อนข้างซับซ้อน หรือมีผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้องหรือร่วมรับผลประโยชน์ด้วย ทั้งนี้ ขอให้ ปปง.สืบสวนสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง ในประเด็นดังต่อไปนี้ ประกอบด้วย

1. ตรวจสอบทรัพย์สินและเงินที่ได้รับมาจากการรับบริจาคหรือเรี่ยไร เกี่ยวกับรายรับ รายจ่าย ตั้งแต่บรรพชาจนถึงปัจจุบันมีความผิดปกติหรือไม่ ของพระวีระพล สุขผล และทายาทหรือพวก ตามบัญชีเครือญาติ

2. ตรวจสอบทรัพย์สินและเงินที่ได้รับมาจากการรับบริจาคหรือเรี่ยไรเกี่ยวกับรายรับ รายจ่าย ตั้งแต่เริ่มจดทะเบียน จัดตั้งบริษัทขันติธรรมก้าวหน้า จำกัด ถึงปัจจุบัน รวมทั้งบุคคลต่างๆ ที่ปรากฏในสารบบว่ามีความผิดปรกติหรือไม่

3. ตรวจสอบทรัพย์สินและเงินที่ได้รับมาจากการรับบริจาคหรือเรี่ยไรเกี่ยวกับรายรับ รายจ่ายของมูลนิธิส่งเสริมคุณธรรมและคุณภาพชีวิตโดยหลวงปูเณรคำ ฉัตติโก หรือพระวีระพล สุขผล มีความผิดปกติหรือไม่ และมูลนิธิได้จดทะเบียนถูกต้องหรือไม่

4. ตรวจสอบหลักฐานการรับทรัพย์สินและเงินที่ได้รับการบริจาคหรือเรี่ยไรตั้งแต่เริ่มบรรพชาถึงปัจจุบันมีหรือไม่

5. ตรวจสอบทรัพย์สินและเงินที่ได้รับการบริจาคหรือเรี่ยไรตั้งแต่เริ่มบรรพชา ได้มีการนำไปจัดซื้อสังหาริมทรัพย์ เช่น รถยนต์ เฮลิคอปเตอร์ เครื่องบิน หรือที่ดิน ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างหรือไม่

6. มีการยักย้ายถ่ายเทหรือโอนทรัพย์สินที่ได้รับการบริจาคหรือเรี่ยไรออกไปนอกราชอาณาจักรหรือไม่ และ

7. ในส่วนที่มีความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวพันกันมีหรือไม่ ทั้งนี้หาก ปปง.สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วปรากฏว่าเป็นไปโดยสุจริต

เหตุการณ์พิลึกพิลั่น สะเทือนวงการศาสนาครั้งใหญ่ ภิกษุสงฆ์มีเงินใช้จ่ายมากมาย มีชีวิตความเป็นอยู่ดีเลิศ ดีไม่ดียังมีสีกามานอนเป็นเพื่อนด้วยอีกต่างหาก ปรากฏการณ์ชาวพุทธหลายคนเป็นห่วง เอาคำว่า “พระ” บังหน้าหาเงิน โจรในคราบผ้าเหลืองนับวันยิ่งปรากฏตัวให้เห็นเกลื่อนเมือง แล้วครั้งนี้หลวงปู่เณรคำจะตามพระรุ่นพี่อย่าง ยันตระ, เณรแอ หรือไม่ ก็ได้แต่รอพิสูจน์กันเร็วๆ นี้

ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE

//////////////////////

ข้อมูลประกอบข่าว

"การฟอกเงิน" (Money Laundering) เป็นการกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มา แหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใดๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดให้ดูเสมือนว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้ "เงินสกปรก" หรือเงินที่เกี่ยวข้อง หรือที่ได้มาจากการกระทำความผิดให้ดูเหมือนเป็น “เงินสะอาด” เพื่อสามารถนำเงินที่ถูกฟอกไปใช้ในการกระทำความผิดอาญาต่อไป

การฟอกเงินอาจกระทำได้โดย ใช้รูปแบบและวิธีการต่างๆ ตั้งแต่วิธีการดั้งเดิม เช่น นำเงินสกปรกไปใส่ตุ่มฝังดิน หรือ ซ่อนในกำแพงหรือในถ้ำ จนกระทั่งถึง วิธีการที่ทันสมัยขึ้น เช่นนำเงินสกปรกไปให้บุคคลอื่น นำเงินฝากหรือโอนผ่านธนาคาร หรือเปิดบริษัทขึ้นเพื่อนำเงินเข้าสู่ระบบการเงินของบริษัท


กำลังโหลดความคิดเห็น