บัตรเครดิตเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่อาจปฏิเสธได้ในยุคนี้ เนื่องจากไม่ต้องถือเงินสดให้ยุ่งยาก ช่วยสร้างความสะดวกในการใช้จ่าย ไม่แปลกที่ใครหลายคนจะใช้บัตรเดียวรูดปรื๊ดรูปปรื๊ดเวลาซื้อของอย่างเพลิดเพลิน ทว่าข้อดีก็มีข้อเสีย หากใช้อย่างไม่มีสติ อาจเกิดหนี้สินก้อนโตโดยไม่รู้ตัวขึ้นได้
วันนี้ทีมข่าว Live มีคำแนะนำดี ๆ จากหนังสือคู่มือเตือนภัยรอบตัว ฉบับ เงิน เงิน เงิน ของสำนักพิมพ์บ้านของเรามาฝากกัน โดยภายในเล่มมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้บัตรเครดิตทั้งมือเก่า และมือใหม่ โดยเฉพาะผู้ใช้มือใหม่ที่หากใช้อย่างไม่ระวัง อาจนำมาซึ่งหนี้บัตรเครดิต และสร้างความหายนะให้แก่ตัวคุณได้
ใช้บัตรเครดิตอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหา
- ใช้บัตรใบเดียว หรือไม่ควรเกิน 2 ใบ และไม่ควรเซ็นใบหนึ่งไปจ่ายอีกใบหนึ่ง
- คิดก่อนใช้ ใช้เฉพาะเมื่อจำเป็น
- ใช้บัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคาร เพราะดอกเบี้ยถูกกว่าบัตรจากบริษัทที่ไม่ใช่ธนาคาร
- เตรียมเงินให้พอดีเมื่อจ่ายคืนรอบบิลนั้น ๆ หากผ่อนจ่ายธนาคารจะคิดดอกเบี้ยรายวัน แล้วยังเสี่ยงต่อการติดแบล็กลิสต์อีกด้วย
- ไม่ควรใช้บัตรเครดิตเบิกเงินจากตู้ ATM เพราะดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมสูงมาก
- หลักฐานสลิปค่าใช่จ่ายก็สำคัญ หลังจากใช้จ่ายควรเก็บสลิปไว้เสมอ เพื่อใช้ตรวจสอบความถูกต้องของค่าใช้จ่ายเมื่อได้รับใบแจ้งหนี้ หากไม่ถูกต้องควรรีบแจ้งธนาคารทันที และอย่าลืมตรวจสอบสิทธิประโยชน์จากการใช้บัตรเครดิตด้วย เช่น คะแนนสะสมและวันหมดอายุของคะแนน หรือเครดิตเงินคืนจากการใช้จ่ายประเภทต่าง ๆ ผ่านบัตรเครดิต เป็นต้น
- ถ้าบัตรเครดิตหายหรือถูกขโมย ควรตั้งสติ และลองหาในที่ที่คิดว่าน่าจะลืมไว้หรือทำหาย หากไม่พบควรรีบโทรแจ้งเพื่ออายัดบัตรและให้ธนาคารเช็กว่าหลังอายัดยังมียอดใช้จ่ายหรือไม่ (อาจเกิดจากคนร้ายเอาบัตรไปใช้) หากมีต้องแจ้งให้ยกเลิกรายจ่ายนั้น แต่ถ้าธนาคารไม่ยกเลิกให้ ต้องรีบแจ้งธนาคารแห่งประเทศไทย
ปัญหาหนี้สินบัตรเครดิต..มีทางออก
- ทำบัญชีรายรับ รายจ่าย เพื่อให้รู้ว่ามีเงินเหลือออมเท่าไร ควรลดรายจ่ายใดบ้าง
- สำรวจหนี้สินที่มี อาจทำเป็นตารางมีรายละเอียด เช่น ประเภทหนี้ เงินต้นค้างชำระ ดอกเบี้ยค้างชำระ วันกำหนดจ่าย เป็นต้น เพื่อให้วางแผนจ่ายหนี้ได้
- ควรหยุดก่อหนี้เพิ่ม อยู่ให้ได้ด้วยรายได้ปัจจุบัน อย่ากู้เพิ่มเพื่อจ่ายหนี้เก่า แต่ควรทยอยจ่าย ให้กำลังใจตัวเองว่าสักวันต้องจ่ายได้หมด
- หากมีภาระหนี้มากกว่าเงินคงเหลือแต่ละเดือน ควรปรึกษาเจ้าหนี้ เพื่อขอผ่อนผัน หรือลดจำนวนเงินที่ผ่อนต่อเดือน หรือการชำระเงินต้นโดยปลอดดอกเบี้ยให้ระยะเวลาหนึ่งหรือทำจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อขอผ่อนผัน เป็นต้น หากปล่อยหนี้ให้ค้างไว้ไม่ชำระ จะทำให้ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นมากจนไม่สามารถชำระได้ กลายเป็นแบล็คลิสต์ได้
บัตรเครดิตเปรียบเหมือนดาบสองคม ซึ่งปัญหาไม่ได้เกิดจากใคร แต่ขึ้นอยู่กับการใช้ของตัวคุณเอง ยิ่งสมัยนี้บัตรเครดิตเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้กลายเป็นช่องทางหนึ่งที่มิจฉาชีพใช้ขโมยเงินโดยไม่ต้องฉกชิงวิ่งราวเลยด้วยซ้ำ ดังนั้น คิดให้ดีก่อนใช้ และถ้าคิดจะใช้ก็ควรใช้อย่างมีสติ ไม่ใช่รูดปรื๊ดรูดปรื๊ดเงินอนาคตจนลืมที่จะคิดถึงความสามารถในการใช้หนี้ของตัวเอง
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live
