xs
xsm
sm
md
lg

อะเมซิ่งราคาทองร่วง คลั่งแห่กู้ยืมซื้อกักตุน!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปรากฏการณ์ทองคำราคาตกในรอบสิบกว่าปี ทำเอาห้างร้านทองแทบแตกเพราะผู้คนเฮละโลเข้ามาซื้อกักตุนหวังเก็งกำไรในอนาคต บางส่วนแบ่งสันปันส่วนเงินออมมาตีตราจอง แต่อีกจำนวนไม่น้อยถึงขั้นกู้หนี้ยืมสินมากว้านซื้อทองคำ!

มูลเหตุสำคัญที่สร้างแรงจูงใจให้ผู้คนต่างพากันพุ่งเป้า 'ทองคำ' คงหลีกไม่พ้นในเรื่องราคาที่ดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง อีกอย่างอดีตได้พิสูจน์แล้วว่า นับวันราคาค่างวดของทองนั้นยิ่งทะยานตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ หลายท่านจึงเห็นควรว่ารีบซื้อรีบหามาเก็บสะสมในวันนี้เพื่อเก็งกำไรในวันหน้าเสียดีกว่า

แต่ถึงขั้นยินยอมกู้เงินไม่เกี่ยงดอกเบี้ยเพื่อมาซื้อทองคำเป็นเหตุอันควรหรือเปล่า..คงต้องตัดสินด้วยวิจารณาญาณส่วนบุคคล แน่นอนในกลุ่มของคนมีฐานะนั้นไม่ได้เดือดร้อน แต่ชาวบ้านร้านตลาดฯลฯ จำต้องหยิบยืมเขามาซื้อ กลายเป็นว่าต้องแบกรับภาระค่าใช้หนี้จ่ายเพิ่มขึ้นไปอีก

กู่ไม่กลับ 'กู้เงินซื้อทอง'
สถานการณ์การปรับลดราคาทองคำในตลาดโลก ข่าวคราวราคาดิ่งต่ำที่แพร่สะพัดออกไป ไม่ต่างจุดเริ่มต้นมหกรรมลดราคา ตามห้างทองเบียดเสียดไปด้วยผู้คนไม่แบ่งแยกฐานะ ที่ตบเท้าเข้ามาด้วยวัตถุประสงค์เดียวกัน

“รอโอกาสนี้มานานแล้วเพราะครอบครัวเป็นคนอยากจน แต่ก็อยากมีทองคำเหมือนคนอื่นบ้าง เมื่อราคาลดลงจึงต้องการซื้อไว้เป็นของขวัญให้ลูกหลาน เมื่อได้รับทองจะเกิดความภาคภูมิใจ ส่วนเงินที่นำมาซื้อนั้นต้องไปกู้และยืมจากญาติสนิทมา” เรื่องจริงของชาวบ้านผู้หนึ่งในจังหวัดเลย

แน่นอน เธอไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ไปกู้หนี้ยืมสินเพื่อมาซื้อทองคำในช่วงราคาดิ่งต่ำ แม้จะมีเหตุผลในการตัดสินใจ เพื่ออนาคตของลูกหลาน ทว่า การตัดสินใจกู้ยืมเงินซื้อทองในครั้งนี้อาจเพิ่มภาระในเรื่องค่าใช้จ่าย อดเป็นห่วงเสียไม่ได้ว่าเจตจำนงอันบริสุทธิ์จะนำความเดือดเนื้อร้อนใจมาสู่ตนหรือเปล่า

บุญชนะ ศรีวรพงษ์เดช เจ้าของห้างทองนายตี๋ สี่แยกไฟแดง เขตเทศบาลเมืองเลย เล่าว่า ตั้งแต่ราคาทองลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์ ลูกค้าต่างมาซื้อทองกันอย่างหนาตาขึ้น ทำให้พนักงานขายที่ร้านแทบไม่มีเวลานั่งพัก ขณะที่ร้านค้าทองคำบางร้านไม่มีทองขายแล้ว

เจ้าของห้างทองฯ เล่าว่า ลูกค้าที่มาซื้อทองคำมีเหตุผลต่างกันออกไป บางรายซื้อเพื่อเก็บไว้เก็งกำไร บางรายซื้อเก็บไว้ให้ลูกหลานเนื่องในวันสำคัญ เช่น วันเกิด วันปีใหม่ เพราะโอกาสที่ราคาจะลดต่ำลงขนาดนี้มีไม่มากนัก จึงต้องซื้อเก็บไว้ ขณะเดียวกันมีคู่บ่าวสาวหลายรายที่ฉวยโอกาสนี้ซื้อทองทั้งทองรูปพรรณ และแหวนหมั้นไว้

ลูกหนี้เงินกู้ คิดว่าดีก็ทำไป
ทองเป็นตัวแทนแห่งความมั่งคั่ง โดยธรรมชาติของคนเอเชียจะชอบทองมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าจะคนอินเดีย คนจีน หรือคนไทย ฯลฯ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์เลอมูลค่ากับพฤติกรรมของคนในแถบเอเชีย อีกอย่างหนึ่งราคาทองที่ลดลง 100 เปอร์เซ็นต์เป็นการลดลงเพียงแค่ชั่วคราว ในระยะยาวราคาทองคำปรับตัวขึ้นสูงแน่นอนดั่งบทเรียนในอดีตที่ได้รับรู้กันมาแล้ว

“ปรากฏการณ์ที่คนไทยไปกู้เงินมา คำถามคือว่าที่กู้มามีกำลังใช้คืนหรือเปล่า? ถ้าไม่มีหนี้มากอยู่แล้วไปกู้เงินมาแล้วกักเก็บไว้ระยะยาวให้ลูกหลาน ผมคิดว่าก็เป็นทางออกที่ไม่เลวนะ เพราะว่าถ้าเงินกู้มาแล้วเอาไปฟุ่มเฟื่อยมันก็หายไป แต่ว่าซื้อทองคำเป็นก้อนไว้มันก็เป็นของที่จะขายได้เป็นกอบเป็นกำในวันข้างหน้า

“สำหรับส่วนตัวบุคคลการที่มีทองคำเก็บไว้เป็นทางเลือกที่ไม่เลว แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นทางเลือกที่ลำบาก สำหรับคนที่มีหนี้อยู่แล้ว และไปกู้มาซ้ำเติมหนี้เก่าเพื่อไปซื้อทองคำมาเก็บไว้ในวันข้างหน้า มันมีความเสี่ยงสูงนะ อย่างแรกต้องใช้หนี้คืนมากมาย ราคาทองมันขึ้นแน่นอนแต่จะคุ้มกับดอกเบี้ยหรือเปล่า อย่างที่สองการเก็บทองคำมันเป็นปัญหามาก และนำมาซึ่งอันตรายด้วย ฉะนั้นมันก็มีต้นทุนในการเก็บรักษา”

รศ. ดร.วรากรณ์ ให้ทัศนะในเรื่องการซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไรในภายภาคหน้า ถามว่าเหมาะสมหรือไม่ คงต้องใช้ปัจจัยหลายๆ ปัจจัยที่แบ่งเป็นตัวบุคคลเข้ามาตัดสิน เพราะในเรื่องของการเก็บรักษาทองคำก็มีต้นทุนที่สูง เช่นเช่าตู้ฝากธนาคารไว้ ประเด็นสำคัญทองคำนั้นไม่ได้นำมาซึ่งผลประโยชน์ระหว่าทาง กลายเป็นว่าเอาเงินก้อนไปจมอยู่กับทองโดยไม่ได้ประโยชน์ใดในเวลานั้นเลย

ในส่วนของผู้ที่กู้หนียืมสินมาซื้อทองคำ รศ. ดร.วรากรณ์ กล่าวว่าอาจนำมาด้วย 2 ปัญหาใหญ่ๆ 1. ปัญหาในเรื่องการซ้ำเติมหนี้สินเก่าที่จะเพิ่มทวีขึ้น 2.ปัญหาในเรื่องการเก็บรักษา เพราะของมีมูลค่าจะเก็บไว้บ้านไว้กับตัวก็ล่อตาโจรอาจนำอันตรายมาสู่ชีวิต หรือการฝากธนาคารเองก็มีค่าใช้จ่าย การเก็บรักษาทองคำนั้นมีต้นทุนสูง

การที่ทองคำปรับราคาลง ณ ตอนนี้ เป็นดังการปลุกกระแสให้ผู้คนแห่แห่นเข้ามาซื้อหาทองคำ เพราะมีราคาแพงมานานพอถูกลงปุ๊บจึงไม่แปลกที่จะเกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ อย่างไรก็ตาม รศ. ดร.วรากรณ์ แนะว่าก่อนที่จะตัดสินใจเก็งกำไรทองต้องใคร่ครวญให้ดี เพราะราคานั้นสามารถปรับขึ้น-ลงได้อีก เพียงแต่ไม่มีความชัดเจนในเรื่องระยะเวลา

โปรดระวัง! ก่อนซื้อทอง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าแรงดึงดูดทางด้านราคาที่ต่ำลงทำให้คลื่นมหาชนต่างตบเท้าเข้าร้านทอง จิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า การที่ประชาชนแห่ไปซื้อทองในช่วงราคาทองกำลังร่วง ไม่ว่าเป็นทองคำแท่ง หรือทองรูปพรรณ ผู้ซื้อต้องมีความรอบคอบละเอียดถี่ถ้วนเพื่อระวังร้านทองบางร้านเอารัดเอาเปรียบ ที่สำคัญต้องให้ร้านชั่งน้ำหนักให้เห็นชัดเจน

ทองคำ 1 บาท ต้องมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 15.16 กรัม จุดสังเกตคือต้องมีทศนิยม 2 ตำแหน่ง และไม่ว่าน้ำหนักจะอยู่ที่ 15.17 กรัม, 15.18 กรัม, 15.19. กรัม, 15.20 กรัม ก็ถือเป็นทอง 1 บาททั้งหมด ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งในส่วนของตราชั่งต้องมีความเสถียรอยู่ที่ 0.00 หน่วย

และสอบถามข้อมูลการผลิตให้ชัดเจน ผลิตจากโรงงานไหน และต้องมีตราประทับของโรงงาน (มีทั้งสิ้น 64 แห่ง อยู่ในกรุงเทพฯ 61 แห่ง จ.ตรัง 1 แห่ง จ.สงขลา 1 แห่ง และ จ.ขอนแก่น 1 แห่ง)

ซึ่งทาง สคบ. ก็มีการตรวจสอบแหล่งผลิตทั้งหมดให้เป็นไปตามมาตรฐาน สัดส่วนทองคำที่ 96.5% ทั้งหมด ทั้งนี้
จิรชัย เปิดเผยว่า ปัญหาในเรื่องการซื้อทองนั้นเยอะมากเพราะทางผู้บริโภคขาดความรอบคอบ โดยเฉพาะในเรื่องของการชั่งน้ำหนัก เป็นเหตุให้บางรายถูกโกงได้โดยไม่รู้ตัว

โดยเฉพาะชาวบ้าน หรือกลุ่มคนหาเช้ากินค่ำ อาจละเลยและถูกเอารัดเอาเปรียบได้ ต้องพึ่งระวังเป็นสำคัญ

ในส่วนของร้านทองก็ต้องมีความรับผิดชอบ มีการติดสลากสินค้าที่ชัดเจนถูกต้อง ได้แก่

1.มีการแสดงราคาขายทองแท่งและทองรูปพรรณของแต่ละวันชัดเจน มีการแสดงราคารับซื้อคืน และมีการแสดงค่ากำเหน็จ ซึ่งค่ากำเหน็จอาจจะไม่ได้ติดที่หน้าร้าน แต่ติดอยู่ในถาด 2.มีป้ายบอกประเภทสินค้าชัดเจนว่าเป็นสร้อย แหวน กำไล
3.มีการระบุชัดเจนว่ามีเปอร์เซ็นต์ทองเท่าไร เช่น 96.5% หรือ 99.99%
4.ที่เนื้อทองคำทุกชิ้นจะต้องมีโลโก้ของโรงงานผู้ผลิต
5.ต้องระบุน้ำหนักของทองแต่ละชิ้นให้ชัดเจน

เลขาธิการ สคบ. ทิ้งท้ายว่า หากร้านทองใดไม่ปฏิบัติตามระเบียบจะมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 50,000 บาท ส่วนผู้บริโภคหากพบเหตุไม่อันควร สามารถแจ้งมาที่สายด่วน สคบ.โทร. 1166

….........................
คำกล่าวที่ว่า เงินทองเป็นของนอกกาย..ถ้าไม่ตายก็หาใหม่ได้ ดูจะถูกลบจากสารระบบไปชั่วขณะ เพราะราคาทองคำดิ่งลงเป็นประวัติการณ์กลายเป็นสิ่งเร้าให้ ผู้คนดิ้นรนครอบครอง คนไม่มีเงินก็กู้หนี้ยืมสินมาซื้อหา คนมีเงินก็กอบโกยไว้เก็งกำไร แม้ทองคำในเวลานี้จะปรับราคาลง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเจ้าของได้ในราคาบาทละไม่กี่ร้อย คงต้องคิดคำนึงประเมินตนอย่างถี่ถ้วนว่าเงินนับหมื่นที่เอาไปจมกับการเก็งกำไรทองคำคุมค่าหรือเปล่า ที่สำคัญคัญการได้มาซึ่งสินทรัพย์ดังกล่าวเป็นการเบียดเบียนตนเองหรือไม่?

ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการรายวัน


กำลังโหลดความคิดเห็น