xs
xsm
sm
md
lg

“แครอล-อริศรา โรเซ็นดาห์ล” สาวเสียงใส หัวใจสปอร์ต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อีกหนึ่งนักร้องเสียงสวย หน้าใส “แครอล-อริศรา โรเซ็นดาห์ล” เดโม โปรเจกต์ จากสังกัดกามิกาเซ่ อาร์เอส ที่ไม่น่าเชื่อว่า เบื้องหลังชีวิตวัยรุ่นเพียง 16 ปีของเธอต่างเต็มไปเรื่องเล่าน่าค้นหามากมาย ผ่านประสบการณ์หลากหลาย ทั้งการเป็นนักกีฬา นักร้อง นักดนตรี จนต้องทึ่งว่าเธอนี่แหละเป็นสาวน้อยมหัศจรรย์ของจริง

ครอบครัวนักกีฬา

วินาทีแรกที่ได้พบหน้ากับสาวน้อยตัวสูงโปร่ง ลูกครึ่งไทย-เยอรมัน “แครอล-อริศรา โรเซ็นดาห์ล” บอกสั้นๆ เลยว่า แค่เธอยิ้มโลกก็สดใสไปทั้งใบ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเป็นประกายยิ่งทำให้อยากทำความรู้จักกับเธอ แต่ด้วยท่าทางเขินอายปนความกังวล ทีมงาน Lite จึงชักชวนให้เธอเล่าเรื่องชีวิตครอบครัวเป็นการเริ่มต้นบทสนทนาในครั้งนี้

“ครอบครัวแคลมี 4 คน คุณพ่อ คุณแม่ แล้วก็พี่สาว (คริส) ค่ะ ซึ่งพี่สาวตอนนี้เรียนอยู่ต่างประเทศ ตอนเล็กๆ ส่วนมากครอบครัวแคลจะเป็นเหมือนครอบครัวที่ชอบกีฬาเอาท์ดอร์ แอคทิวิตี้ เพราะคุณพ่อแคลเองก็เป็นนักกีฬาสกีน้ำระดับโลกเลย แคลก็เลยเป็นคนที่ชอบกีฬาทางน้ำ พ่อก็สอนมาตั้งแคลยังเด็กๆ เลย ตอนอายุ 5 ขวบ พ่อก็สอนแคลเล่นสกีน้ำแล้วค่ะ แคลก็เลยชอบเล่นกีฬาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา”

สาวน้อยเริ่มต้นเล่าเรื่อง ถึงแม้จะติดๆ ขัดๆ ไปบ้าง แต่ก็ดูจะผ่อนคลายมากขึ้น จากนั้นเธอก็ยังเล่าเรื่องราวเสริมต่อไปอีกว่า ครอบครัวของเธอนั้นเป็นครอบครัวนักกีฬาทางน้ำตัวยงเลยก็ว่าได้

“อีกอย่างก็จะเล่นเวคบอร์ด (wake board) คือคุณพ่อเนี่ยจะสนับสนุนการเล่นกีฬาทางน้ำอยู่แล้ว พ่อแคลก็จะเหมือนเป็นโค้ชให้เลยก็ว่าได้ ขนาดแม่แคลเอง พี่สาวแคลก็เล่นเป็นเหมือนกัน เพราะคุณพ่อสอน สรุปคือครอบครัวแคลเป็นนักกีฬากันทั้งบ้านเลยค่ะ (ยิ้ม)

แล้วก็อย่างที่บอกไปว่า ที่บ้านแคลจะชอบมีแอคทิวิตี้ เอาท์ดอร์ แล้วก็มีบ้านอยู่ที่เมืองกาญจน์ คุณพ่อก็จะชอบพาไปบ้านที่เมืองกาญจน์เพื่อเล่นสกี เพราะบ้านติดเขื่อนค่ะ ก็เลยจะได้เล่นกีฬาทางน้ำตลอด”

นอกจากความสามารถพิเศษด้านกีฬาทางน้ำแล้ว คุณพ่อหัวหน้าใหญ่ของครอบครัว ยังเอาประโยชน์จากตรงนี้มาสร้างเป็นรายได้อีกทางหนึ่ง ด้วยการขายอุปกรณ์กีฬาทางน้ำด้วยเสียเลย

“คุณพ่อ คุณแม่ จะมีธุรกิจส่วนตัวอยู่แล้ว คือทำบริษัทเฟอร์นิเจอร์ แต่ว่าคุณพ่อแคลจะมีงานเหมือนเป็นฮอบบี้อย่างหนึ่งคือนำเข้าพวกเรือสปีดโบ๊ท, เรือสอนเล่นสกี, เวคบอร์ด อะไรพวกนี้ค่ะ”

ด้วยความเป็นลูกครึ่ง-เยอรมัน เลยอดสงสัยไม่ได้ว่า ครอบครัวของสาวแครอล เลี้ยงดูเธอมาตามแบบฝรั่งหรือเปล่า สาวน้อยครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนตอบว่า ความจริงแล้วเธอก็เติบโตมาแบบคนไทยทั่วไป

“เรื่องวัฒนธรรมส่วนมากที่จริงแล้ว คนที่คอยสอนจะเป็นคุณแม่มากกว่าค่ะ คือแคลเองก็เกิดที่นี่ ก็เลยไม่ต้องฝึกวัฒนธรรมแบบฝรั่งมากเท่าไหร่ คือเหมือนมันเป็นไปตามธรรมชาติเอง แล้วแคลเองก็เป็นคนที่เข้ากับคนอื่นง่าย เรื่องวัฒนธรรมก็เลยไม่มีปัญหาอะไรมากค่ะ

ส่วนเรื่องใครดุกว่ากัน ส่วนมากก็เป็นคุณแม่ล่ะมั้งคะ (หัวเราะ) แต่ก็ไม่ได้ดุอะไรขนาดนั้น เค้าจะออกแนวสั่งสอนมากกว่าค่ะ”

สาวหัวใจสปอร์ต

อีกอย่างที่ถูกระบุเอาไว้ในประวัติของเธอคือเรื่องของการวิ่ง ที่การันตีได้จากการคว้าเหรียญรางวัลมาแล้วหลายครั้งหลายครา และล่าสุด หลังจากได้รับเหรียญทองจากการวิ่งแข่งขันมา 3 ปี ติดต่อกัน แครอลก็ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติจากโรงเรียนไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอรู้สึกภาคภูมิใจมาก

“ตอนประมาณ ป.3 เนี่ย แคลก็เป็นนักวิ่งตามพี่สาวที่เป็นนักวิ่งเหมือนกัน ซึ่งปกติเวลามีแข่งวิ่งเขาก็ต้องให้คนที่อยู่ก่อนได้แข่งก่อนใช่มั้ยคะ แต่เหมือนกับตอนนั้นโค้ชเห็นแคลวิ่งเร็วก็เลยให้หัดแข่งไปเลย ตอนนั้น ป.3 แข่งได้เหรียญทองแดง แคลก็รู้สึกว่าแค่นี้ก็สุดยอดแล้ว แต่โค้ชเห็นว่าเรามีแววก็เลยฝึกปั้นมาเรื่อยๆ พอมาเต็มรุ่นตอน ป.6 ก็โดนจับลงแข่งประเภทเดี่ยวหมดเลยค่ะ 60 เมตร, 80 เมตร, 100 เมตร ปีนั้นแคลก็ได้เหรียญทองมาหมดเลย แล้วก็ทำลายสถิติของการแข่งวิ่ง 80 เมตรด้วย เลยได้เป็นนักกีฬาดีเด่น

พอขึ้นมาอยู่ ม. ต้น มันก็ต้องมีอารมณ์แอบอู้บ้าง (หัวเราะ) ก็กลายเป็นจากนักวิ่งระยะสั้นมาเป็นนักวิ่งระยะยาว มีวิ่ง 200 เมตร, 400 เมตร แทนค่ะ แล้วเวลาที่ได้เหรียญทองทุกปี พอติดกัน 3 ปี ก็จะได้รางวัลเชิดชูเกียรติจากโรงเรียน ซึ่งอาทิตย์ก่อนแคลเพิ่งไปรับเอง เพราะได้เหรียญทองจากการแข่งวิ่ง 3 ปีติดค่ะ

สาวน้อยพูดไปยิ้มไปน่าเอ็นดู จนเราถามต่อว่าแล้วมีกีฬาประเภทอื่นอีกมั้ย ที่เธอชอบหรือถนัด แครอลตอบด้วยน้ำเสียงสดใสเสียงดังว่า มีค่ะ

“นอกจากเป็นนักวิ่ง ก็เคยเป็นนักบาสฯ ค่ะ เป็นตอนช่วง ม.1-ม.2 แต่เคยแข่งแค่ครั้งเดียว หลังจากนั้นก็หยุดเลย เพราะพอเล่นบาสฯ แล้วมันเหมือนมีปัญหาเรื่องเข่าก็เลยหยุด หลังจากนั้นก็ไปเป็นนักวอลเล่ย์บอล ตอนเทอมแรกของ ม.4 ตอนนั้นก็ใกล้จะแข่งแล้ว แต่ต้องเลิกไปเพราะกล้ามเนื้อหลังฉีกเลยต้องหยุด

แล้วแคลก็เป็นนักกีฬายูโดมหาวิทยาลัย ตอนแรกเป็นแค่กีฬาพละก่อนค่ะ คือเราสามารถเลือกได้ว่าจะเรียนอะไรพอแคลเห็นยูโดก็อยากลองเรียนวิชาที่เอาไว้สำหรับป้องกันตัวบ้างก็ลองเรียนดู แล้วคือตอนเริ่มแรกมันเป็นสายขาวใช่มั้ยคะ อาจารย์ก็สอน แล้วก็บอกว่า เออ แครอล แกก็มีแววเหมือนกันนะ ก็เลยให้เข้าไปฝึกที่สมาคมของมหาวิทยาลัย ก็ได้แข่งครั้งแรก ตอนนั้นแคลยังสายขาวอยู่ก็แข่งทุ่ม 15 คน แต่แข่งไป 17 ครั้ง ซึ่งเรียกว่าเป็นวีไอพีของเกมนั้นเลยก็ว่าได้ กรรมการที่นั่นก็เลยบอกว่า มอบสายเขียวให้เลยโดยไม่ต้องสอบ

ไม่น่าเชื่อว่าสาวน้อยร่างเล็กตรงหน้าจะเป็นสาวหัวใจสปอร์ต รักการเล่นกีฬาถึงขนาดนี้ เลยต้องถามไถ่ว่า อย่างนี้แล้ว พอเข้าวงการต้องหยุดเล่นกีฬาไปเลยหรือเปล่า สาวน้อยส่ายหัวเบาๆ ก่อนบอกว่า ก็ยังหาเวลาอยู่ เพราะเธอรู้สึกว่ากีฬาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่ขาดไม่ได้ไปแล้ว

“ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เลิกเล่นยูโดนะคะ มันขึ้นอยู่กับช่วงแข่งว่าจะแข่งตอนไหนด้วย แล้วก็ต้องหาเวลาซ้อม เวลาสอบ เวลาฝึกร้องเพลง เวลาเล่นดนตรี เวลาเล่นกีฬาอื่นๆ เหมือนกันเพราะเรื่องกีฬาเนี่ย แคลคิดว่าเป็นกิจกรรมที่แคลต้องทำอยู่แล้ว คือถ้าวันไหนไม่ได้ไปทำ มันจะรู้สึกโล่งๆ แปลกๆ คือต่อให้ดึกแค่ไหน บางครั้งก็ต้องออกไปวิ่ง คือบางคนเห็นแคลเป็นอย่างนี้ เค้าถามว่าแคลบ้าป่ะเนี่ย เค้าเครียดแทน แต่แคลรู้สึกว่าไม่ เราแฮปปี้”

หลงใหลในดนตรี

ยิ่งฟังก็ยิ่งต้องทึ่งในความสามารถพิเศษของสาวแครอล โดยเฉพาะด้านกีฬาที่ต้องยกนิ้วให้ แต่นึกไปนึกมา เอ๊ะ วันนี้ต้องมาสัมภาษณ์เธอในฐานะนักร้องวัยใสไม่ใช่หรือเนี่ย จึงวกกลับเข้ามาถามประเด็นหลักเรื่องเส้นทางสายดนตรีของเธอดีกว่า เพราะก็เป็นเรื่องน่าสนใจไม่แพ้กัน

“ทางด้านดนตรี แคลเริ่มเล่นดนตรี จากการที่ตอนนั้นเราคิดว่าผู้หญิงที่เล่นดนตรีได้ เล่นกีต้าร์ อย่าง เทย์เลอร์ สวิฟท์ (Taylor Swift) มันดูเท่ดี แคลเลยมาเล่นตาม ตอนนั้นแคลอยู่ประมาณ ป.6 อายุ 11 ปีพอดี ก็ลองเล่นกีต้าร์ทางด้านขวาก่อน แต่ด้วยความที่แคลเป็นคนถนัดซ้ายไงคะ ก็เล่นไปแล้วรู้สึกว่ามันไม่เวิร์คเลย คุณแม่ก็เลยซื้อกีต้าร์ด้านซ้ายมาให้เล่นแทน แคลก็เลยฝึกกีต้าร์ด้านซ้ายไปเลย

ทีนี้กีต้าร์บ้านเรามันเสียบเข้าแอมป์ไม่ได้ ก็เลยต้องหาซื้อที่เมืองนอก ซึ่งมันก็มีลายให้เลือกเยอะกว่าด้วย แคลเลยต้องซื้อจากที่นั่น แล้วก็ขนจากต่างประเทศเข้ามา อันที่จริงก็ไม่ได้มีเยอะขนาดว่าสะสมนะคะ แต่แคลก็มีกีต้าร์ไฟฟ้าเหมือนกัน เพราะแคลเคยเล่นเป็นวงตอนป.6 แต่พอเพื่อนเริ่มลาออกก็ไม่มีวงแล้ว แต่แคลก็ยังหาเวลาเรียนทั้งกีต้าร์โปร่ง กีต้าร์ไฟฟ้า เพราะจริงๆ แคลก็ชอบทั้งสองแนวเลย”

เห็นไหมว่า เรื่องดนตรี เธอก็เจ๋งไม่แพ้เรื่องกีฬาเหมือนกัน ส่วนเรื่องเครื่องดนตรีอื่นๆ เธอก็พอเล่นได้ และที่ทำให้สร้างความประทับใจมากขึ้น คือสาวน้อยคนนี้ก็เพิ่งไปเรียนขิมมา แต่เธอพูดไปก็หัวเราะไปเพราะยังเล่นไม่ได้ความเอาสักเท่าไหร่

“แคลฝึกเปียโนเองค่ะ คือคอร์ดพื้นฐานเนี่ยได้หมด แล้วก็แคลเพิ่งเรียนขิมมา เรียนวิชาดนตรีไทยมาปีนึง แต่ถือว่ายังไม่เก่งขนาดนั้น ยังไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ มันยากค่ะ มองแล้วมันตาลาย (หัวเราะ) พอตีๆ ไป มันเริ่มมองสลับกัน อันนี้อยู่ตรงไหน อันไหนคืออันไหนกันแน่”

จากภาพลักษณ์ของแครอล สาวน้อยนักร้องพร้อมกีต้าร์ข้างซ้ายคู่ใจ เลยถามว่าจุดเริ่มต้นของเธอเริ่มมาจากตรงไหน

“ส่วนที่เริ่มร้องเพลง มาจากพี่สาวก่อนค่ะ พี่สาวแคลก็เป็นคนชอบร้องเพลง แล้วก็จะได้ร้องตอนมีงานโรงเรียน อยู่ดีๆ พี่สาวแคลก็มาบอกว่าให้แคลลองไปเล่นกีต้าร์เป็นแบ๊คอัพให้หน่อย แคลก็เลยเหมือนเป็นคนคอยเล่นกีต้าร์ให้พี่สาวตลอด เวลาที่มีงานโรงเรียน แต่พอพี่สาวแคลเรียนจบไป โรงเรียนก็ต้องการคนที่มาช่วยงานกิจกรรมของโรงเรียนเหมือนกัน ก็เลยบอกให้แคลลองร้องเพลงเอง เล่นกีต้าร์เอง ตั้งแต่นั้นมาก็คือเริ่มลุยเดี่ยว เล่นกีตาร์เอง ร้องเพลงเองไปด้วย

นิยามของ “แคโรไลน์”

คุยกันไปได้สักพัก ก็ยิ่งเห็นความน่ารักร่าเริงสดใสของเด็กสาววัย 16 เลยขอให้เธอนิยามว่าตัวเองเป็นคนแบบไหน สาวน้อยขมวดคิ้วก่อนจะค่อยๆ ตอบคำถาม

“แคลว่าแคลเป็นคนที่เป็นตัวของตัวเองสูงมาก แล้วก็เป็นคนที่เข้ากับคนอื่นง่าย เป็นคนไม่ค่อยซีเรียสกับเรื่องอะไรมาก แล้วก็ขยัน (หัวเราะ) แล้วแคลก็จะมีมุมที่เซนซิทีฟ อย่างเรื่องเพื่อนเนี่ยจะเซนซิทีฟมาก แล้วก็จะเป็นคนดูลุคเข้มๆ แต่ความจริงก็มีด้านหวานเหมือนกันนะคะ”

เปิดเผยความลับมาแล้วว่ามีด้านหวาน เลยกระเซ้าสาวน้อยไปว่า จะจริงหรอ เห็นเป็นนักกีฬาตัวเต็งขนาดนี้ จะทำอะไรหวานๆ ได้จริงหรือเปล่า?

“เป็นนะ ทำเป็น คือดูแคลเป็นคนเข้ม แต่ที่จริงชอบทำขนมหวาน ของหวาน หรืออาหาร แล้วเคยมีงานของโรงเรียนเค้าจัดแข่งขันทำอาหาร ปีนั้นแคลทำแกงมัสมั่น แล้วได้รางวัลชนะเลิศ 4 รางวัล จาก 5 รางวัลคือได้รางวัลถูกใจอาจารย์ต่างประเทศ ถูกใจอาจารย์คนไทย ถูกใจนักเรียน แต่อีกอันของอะไรไม่รู้ (หัวเราะ) ลืมแล้ว แต่ได้มา 4 รางวัล

เริ่มทำอาหารก็จากพี่สาวอีกแหละค่ะ (หัวเราะ) พี่สาวแคลเค้าจะชอบทำคุกกี้ ทำขนมเล็กๆ น้อยๆ หลังจากนั้นก็เริ่มพัฒนา มาทำคัพเค้กด้วยกัน เริ่มทำอาหารจานหลัก ซึ่งส่วนมากแคลเรียนจากแม่แคลหมดเลยค่ะ”

เล่าไปเล่ามาก็เริ่มจับใจความได้ว่า สาวคนนี้มีพี่สาวเป็นต้นแบบ ซึ่งเธอก็ยอมรับ และพูดด้วยสีหน้าเขินๆ ว่า “วิ่งก็เพราะพี่สาว เล่นดนตรีก็เพราะพี่สาว คือแคลจะตามพี่หมดเลย” แครอลยิ้มน้อยๆ ก่อนเล่าต่อไปว่าเธอสนิทตัวติดกับพี่สาวขนาดไหน

“กับพี่สาวแคลสนิทมากค่ะ แคลกับพี่สาวเนี่ยจะห่างกัน 3 ปี แล้วเราก็สนิทกันมากตั้งแต่เล็กเลยค่ะ โตมาก็ยังสนิทเหมือนเดิม คือเวลาไปไหนมาไหนแทนที่จะชวนเพื่อนๆ ไปเที่ยว ก็พาพี่สาวไปด้วยแทน แล้วพอพี่สาวไปเรียนต่อที่อเมริกา ความรู้สึกมันเปลี่ยนไปเลย มันเหงามากเหมือนเราเป็นลูกคนเดียว

อีกอย่างแคลไม่เคยฝันจะเป็นนักร้องเลยนะ เป็นฝันของพี่สาวหนูด้วยซ้ำ แต่ตอนเด็กๆ ฝันอยากจะเป็นนางแบบ เพราะพี่สาวแคลตอนเด็กๆ เคยถ่ายแบบ เราก็อยากเป็นเหมือนกัน พอแคสได้เราก็เลยทำเต็มที่ เพราะเหมือนพี่สาวเป็นแรงบันดาลใจให้ ซึ่งความจริงเรื่องนางแบบแคลก็เคยคุยกับเอเจนซี่ช่วงเดียวกับที่อาร์เอสติดต่อมาเลย แคลก็ต้องเลือก เลยมาอาร์เอส เพราะเราทำอะไรได้มากกว่า เราเล่นกีต้าร์ได้ เราได้ร้องเพลง มันดูได้อยู่ในสื่อมากกว่า เลยเลือกด้านนี้เพราะคิดว่ามันดีกว่า”

เส้นทางเข้าสู่วงการ

คำถามสำคัญที่ไม่ถามคงไม่ได้ สำหรับการก้าวเข้ามาในวงการบันเทิงของสาวแครอล ที่ตอนนี้กลายเป็นหนึ่งในนักร้องขวัญใจวัยรุ่น สาวน้อยนั่งนึกย้อนความให้เราฟังอย่างช้าๆ

“คือมีงานกีฬาสีที่โรงเรียนค่ะ ตอนนั้นแคลอยู่ชั้น ม.4 แล้วก็เป็นลีดในปีนั้น ทีนี้มีรุ่นพี่คนนึงซึ่งแคลก็รู้จัก แล้วพี่เค้าก็เหมือนรู้จักกับฝ่ายแคสต์ติ้งกามิกาเซ่ด้วย เค้าก็บอกว่าให้ลองมาดูที่งานกีฬาสีนี้ พอเราซ้อมลีดเสร็จพี่เค้าก็เอานามบัตรมาให้ แล้วก็บอกให้ลองมาแคสต์ดู วันที่แคลไปแคสต์ก็เอากีต้าร์ไปด้วยค่ะ แล้วเหมือนตอนนั้นกำลังมีโปรเจกต์ ก็คือเดโม โปรเจกต์เนี่ยแหละค่ะ จะเน้นแนวดนตรีอะคูสติก-ป็อป อะไรทำนองนี้ พอแคลไปแคสต์มันก็ตรงกับคอนเซปต์เค้าพอดี เลยได้เซ็นสัญญาแล้วก็ทำงานเลย

สำหรับศิลปินหน้าใสคนอื่นๆ ส่วนมากก็จะผ่านผลงาน ผ่านสายตาประชาชนมาแล้ว ส่วนแครอลเองผลงานชิ้นแรกของเธอเป็นซิงเกิ้ล “วัยรุ่นครั้งเดียว” ที่ทำร่วมกับทุกคนในเดโม โปรเจกต์

“ผลงานชิ้นแรกก็เป็นเพลงรวม 4 คน เปิดตัวเดโม โปรเจกต์ หลังจากเพลงนั้นมาทุกคนก็เริ่มมีเพลงเดี่ยวของแต่ละคน ของแคลก็เป็นเพลง "ให้ทาย" ฟีดแบ็กตอนแรกไม่คิดเลยว่าฟีดแบ๊กจะดีขนาดนั้น คือมันเป็นแนวดนตรีใหม่ของกามิกาเซ่ด้วย แต่พอดูฟีดแบ๊กมา เออ คนดูเค้าก็ชอบแบบนี้เหมือนกัน ก็ขอบคุณทุกคนเลย (ยิ้มเขิน)”

และเมื่อเปิดตัวเป็นที่รู้จักในนาม เดโม โปรเจกต์ ไปแล้ว ทีนี้ก็ถึงคราวฉายเดี่ยว ซึ่งแครอลได้โชว์เสียงใสๆ ในเพลง “ให้ทาย” ซึ่งทั้งตัวเพลงและเนื้อร้องนั้น ต่างเป็นตัวเธออย่างลงตัว “ผลงานนี้แฮปปี้อยู่แล้ว คือเหมือนตัวเราได้มีส่วนร่วมในการทำเพลงด้วยค่ะ” เธอพูดอย่างภูมิใจ

“เพลงให้ทายคือเรียกได้ว่าเป็นคาแรกเตอร์ของแคลเองเลย ตั้งแต่แนวดนตรีแล้ว เป็นแนวดนตรีที่แคลชอบ คือแคลก็ได้ไปคุยกับพี่ฟั่น (โกมล บุญเพียรผล) มาก่อนแล้วว่าอยากได้ดนตรีแบบไหน ลายกีต้าร์เป็นแบบไหน ส่วนเนื้อเพลงให้ทาย ก็พูดถึงคาแรกเตอร์แคลเหมือนกันว่า ถ้าพูดถึงเรื่องความรัก คงเป็นคนขี้อาย ยังเก็บฟอร์มอยู่บ้าง ชอบใครก็ไม่ยอมบอกรักใครตรงๆ พี่ฟั่นก็เลยลองเขียนออกมาเป็นเพลงนี้ แล้วก็เรื่องลาย, คอรัส, แบ๊คอัพ ก็เป็นเสียงแคลหมดเลย

พี่สาวคนที่สอง

บ่อยครั้งที่เห็นภาพรูปคู่กับ “ฟ้า-อริสรา” อีกหนึ่งสาวที่ร่วมโปรเจกต์เดียวกัน ซึ่งทั้งคู่ก็ดูสนิทสนม เลยอดคิดไม่ได้ว่าที่เห็นสนิทกัน เพราะแครอลเหงาหลังพี่สาวไปเรียนเมืองนอกเลยยกตำแหน่งพี่สาวคนที่สองให้สาวฟ้าหรือเปล่า

“พี่ฟ้าใช่มั้ย สนิทมากค่ะ พี่ฟ้าเค้าก็ห่างกับหนูปีนึงก็เหมือนช่วยดูแลกัน มีอะไรก็คุยกัน ปรึกษากันสองคน แล้วคือทางค่ายก็รู้ว่าสนิทกันมาก แล้วชื่อเราสองคนก็เหมือนกันอีก (แครอล-อริศรา กับ ฟ้า-อริสรา) ก็เลยมีโปรเจกต์ขึ้นมาเป็นเพลงคู่ เพลงอริศ (ส) รา

เพลงกับพี่ฟ้า คือตอนแรกที่แคลรู้ว่าได้ทำเพลงด้วยกัน คือแบบกรี๊ดเลย (หัวเราะ) เราได้มีโอกาสทำเพลงด้วยกันแล้ว ซึ่งแคลก็ชอบเพลงนี้มาก เนื้อเพลงก็จะเป็นมุมมองความรักจาก 2 ด้าน ของพี่ฟ้าก็จะเป็นความรักแบบสดใส ส่วนของแคลจะเป็นความรักแบบหม่นๆ หน่อย อาจท้อแท้ แต่ก็ไปด้วยกัน คือเพลงนี้สนุกมาก เหมือนการถ่ายเอ็มวี มันไม่ได้โฟกัสที่เราคนเดียวเหมือนเพลงเดี่ยว แล้วพอมีฉากที่เราได้ถ่ายคู่กันเราก็สนุกไปด้วยกัน”

อีกซิงเกิ้ลหนึ่งที่น่ารักชวนฟัง เพราะได้สาวน้อยเสียงใสถึงสองคนมาร่วมร้อง ซึ่งสาวแครอลก็อ้อนขอให้ติดตามชมผลงานเพลงนี้ รวมถึงผลงานเพลงของเดโม โปรเจกต์ เพราะเธอกระซิบว่า กว่าจะได้งานเพลงแต่ละชิ้น มันยากจริงๆ

“ตอนอัดเพลงอริศ (ส) รา ยากกว่าของเพลงแคลด้วยซ้ำ แล้วกับทุกครั้งที่ร่วมกับเดโม โปรเจกต์ แคลป่วยทุกครั้งเลยค่ะ ต้องเลื่อนการถ่ายตลอด ไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง เกือบทุกเพลงเลยค่ะ อย่างเพลงของเดโม โปรเจกต์ ก็เลื่อนอัดรอบนึง แต่ก็ยังโอเคอยู่ อย่างเพลงเดี่ยวของแคลก็ต้องเลื่อนประมาณ 2 ครั้ง

พอมาเพลงคู่ อัดไปรอบแรกแล้ว ท่อนแคลผ่าน ท่อนฟ้าไม่ผ่าน พอมาอัดรอบสองใหม่ ทีนี้ท่อนฟ้าผ่าน ท่อนแคลไม่ผ่าน (หัวเราะ) สุดท้ายก็ต้องดรอปทั้งคีย์เลย เพราะมันเหมือนถ้าร้องสด อาจจะร้องไม่ได้ ก็เลยต้องอัดใหม่หมดเลยทุกคนประมาณนี้ ก็เลยคิดว่ากว่าจะได้เพลงๆ หนึ่งมา มันยากมาก แต่สุดท้ายมันออกมาโอเค ตัวเราก็โอเคด้วย”

สาวน้อยรักเรียน

หนึ่งในคำถามสำคัญที่ลิสต์ไว้คือ จากอายุของเธอเพียงแค่ 16 ปี แต่เรียนในระดับชั้น ม.5 แล้ว แครอลรีบชิงตอบก่อนเลยว่า “แคลเข้าเรียนเร็วไปปีหนึ่งค่ะ เนี่ยเปิดเทอมนี้ที่จะขึ้น ม.6 อายุแคลก็ยัง 16 อยู่เลย” เธอหัวเราะเบาๆ ก่อนเล่าเรื่องเรียนให้ฟังต่อไปว่า เรื่องเรียนนั้นเธอก็เก่งไม่แพ้เรื่องอื่นๆ เลย

“ก็คิดว่าเรียนเก่งนะ (ยิ้ม) ตอนเรียนอยู่ ม.1, ม.2, ม.3 ก็ได้เกียรติบัตรผลการเรียนดีเด่น แต่หลังจากเข้าวงการมา มันก็ต้องปรับตัวหลายๆ อย่างใช่มั้ยคะ แคลก็เพิ่งจะมาปรับตัวได้ช่วงๆ นี้เอง ซึ่งแคลชอบเรียนวิชาชีวะค่ะ ก็ด้วยความที่ครอบครัวแคลชอบทำกิจกรรมเอาท์ดอร์เนี่ยแหละค่ะ เราได้เจอธรรมชาติ เจออะไรรอบๆ ตัว อีกอย่างคือแคลเป็นคนที่ชอบเลี้ยงสัตว์ด้วยอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าโตมาอยากจะเป็นสัตวแพทย์ หรืออะไรทำนองนี้ ก็เลยชอบเรียนวิชาชีวะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ

วันนี้ที่เจอกัน เรายังแอบเห็นสาวแครอลแอบหนีบตำราภาษาอังกฤษเล่มใหญ่มาด้วย ขยันอยู่ไม่น้อยจริงๆ สาวคนนี้ จากนั้นเลยถามเธอว่า แล้วคิดเรื่องเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยแล้วหรือยัง

“ยังดูอยู่หลายที่เลยนะ แต่ที่จริงแคลก็เริ่มเตรียมตัวสอบสำหรับเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ไปสอบ SAT ( Scholastic Aptitude Test) มาแล้ว คืออันนี้สอบเผื่อที่จะไปเรียนต่อที่ฟลอริด้า เพราะก็มีบ้านอยู่ที่นั่นเหมือนกัน แล้วก็ดูๆ อยู่ที่จุฬาฯ หรือ เกษตรฯ ที่มีสัตวแพทย์

เอาจริงๆ มันเลือกไม่ถูกเลยนะ คือแคลเองชอบวิชาชีวะ แล้วก็ชอบภาษาอังกฤษเหมือนกัน เพราะบ้านแคลพูดภาษาอังกฤษกันค่ะ ถึงคุณพ่อเป็นเยอรมัน แต่ตอนเด็กๆ คุณพ่อก็ไม่เคยพูดเยอรมันเลย แคลก็เลยพูดเยอรมันได้นิดเดียว จะพูดภาษาอังกฤษมากกว่าค่ะ แล้วก็ตัวเราเองเป็นลูกครึ่งด้วยก็เลยจะชอบการเขียน การอ่านภาษาอังกฤษ ซึ่งมันตัดกันมากระหว่างสายวิทย์ฯ กับสายศิลป์ฯ แคลก็เลือกไม่ถูกเลยจริงๆ”

สัตว์เลี้ยงแสนรัก

พอสาวแครอลบอกว่าใฝ่ฝันอยากเป็นสัตวแพทย์ เลยอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า เห็นมาดขรึมๆ ห้าวๆ ซนๆ อย่างนี้ แต่ชอบเลี้ยงสัตว์ด้วยใช่หรือเปล่า

“ใช่ค่ะ แล้วแคลเป็นคนที่ชอบสัตว์พิเศษค่ะ ก็เลี้ยงหมา เลี้ยงแมว อยู่เหมือนกัน แต่คือคนอื่นเค้าก็เลี้ยงกันแล้ว ซึ่งแคลไปจตุจักรบ่อยมาก ก็จะรู้จักพี่ๆ ที่ขายสัตว์พวกนี้ บางทีเราก็ไปเดินดูเฉยๆ ว่ามันมีอะไรบ้าง อย่างบางวันก็ไปร้านพี่คนนึง ไปจับกิ้งก่าเค้ามาเล่น แล้วก็ปีก่อน แคลก็เคยเลี้ยงปูเสฉวน คือชอบเลี้ยงสัตว์ ถึงชอบเรียนชีวะ มันก็เกี่ยวข้องกันเลยฝันอยากเป็นนักชีววิทยา ไม่ก็สัตวแพทย์”

หนึ่งในหลายๆ ภาพที่ปรากฏอยู่ในโซเชียล มีเดีย ของเธอ หลายคนอาจจะเคยเห็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดที่เธอมักนำมาแชะภาพร่วมกันด้วยบ่อยๆ กับเจ้าสี่ตีนเดินมา หลังคามุงกระเบื้อง แครอลหัวเราะอย่างอารมณ์ดีพร้อมบอกว่า เธอเนี่ย ชอบเต่าเอามากๆ

“แคลเป็นคนชอบเต่า ก็ชอบตั้งแต่เล็กเลย ครั้งนึงตอนแคลยังเล็กๆ ก็เคยไปเที่ยวฝั่งที่เค้าเลี้ยงเต่า คือเค้าบอกห้ามจับ แต่แคลก็แอบไปจับ เหมือนแอบเอานิ้วจิ้มไปหน่อยนึง เลยสปาร์คเลย (หัวเราะ) ตอนนี้ก็เลี้ยงเต่าน้ำ 4 ตัว 2 ตัวเป็นตะพาบ อีกตัวเป็นเต่าญี่ปุ่น กับเต่าบก 2 ตัว แล้วแต่ก่อนมีอยู่ช่วงนึง แคลชอบพาเต่าไปที่โรงพยาบาลสัตว์ตรงเกษตรฯ ค่ะ เพราะมันก็ป่วยเป็น (หัวเราะ) แคลก็จะสนิทกับหมอคนนึงที่เกษตรฯ ค่ะ ทุกเย็นก็จะไปที่นั่น ไปดูว่าเค้าดูแลสัตว์ยังไง

ตัวที่เห็นบ่อยเป็นตัวที่ชื่อวลาดิเมียร์ คือตัวนี้เพิ่งได้มาใหม่ ประมาณ 5 เดือน คือเราชอบมาก มันเป็นเต่าบก พันธุ์มาจากแอฟริกาเลย ไม่ค่อยมีใครเลี้ยง (ยิ้ม)”

ชีวิตนี้ใช้ให้คุ้ม

ถือได้ว่าทุกอย่างที่ผสมผสานหล่อหลอมเป็นตัวเธอในทุกวันนี้ มีครอบครัวเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ คอยพร้อมที่จะสนับสนุน และสั่งสอนให้เธอเป็นวัยรุ่นที่ใช้ชีวิตแบบคุ้มค่า ไม่ไร้สาระเหมือนเด็กยุคนี้ทั่วไปที่ใช้ชีวิตแบบไม่เกิดประโยชน์เท่าไหร่นัก

“ที่จริงคุณพ่อ คุณแม่ สนับสนุนทุกอย่างเลยที่แคลอยากเรียน อยากทำ อย่างเรื่องกีฬา แคลรู้สึกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเราที่ต้องทำ ด้วยความที่ชอบกีฬามาก ขนาดที่ว่าช่วงสอบ ถ้าแคลรู้สึกเริ่มเครียด อยากพักผ่อน แคลก็จะออกไปวิ่งเลย (หัวเราะ)

คุณแม่ก็บอกว่า ถ้าหนูแฮปปี้ก็สนับสนุนทุกอย่างเลย แต่เรื่องผลการเรียนที่ตามมา จะดีไม่ดี เราก็ต้องยอมรับ ไม่สามารถโทษใครได้ คือคุณแม่ก็บอกว่า ช่วงปรับตัวถ้าไม่ไหว เรียนไม่ทัน ก็จะช่วยหาที่เรียนให้นู่นนี่ คือคุณแม่ไม่ว่าอยู่แล้ว ถ้าเราแฮปปี้ คุณแม่ก็พอใจแล้ว”

หลายคนอาจจะมองว่าเธอเป็นเด็กบ้าพลัง สุดโต่ง แต่ตัวเธอที่ยังคงนั่งตอบคำถามด้วยหน้าตาสดใสเหมือนวินาทีแรกที่พบ พูดเพียงง่ายๆ ว่า ชีวิตเธอตอนนี้ไม่ได้รู้สึกเหนื่อย แต่ทุกสิ่งที่ทำ เธอรู้สึกสนุกไปกับมันมากกว่า

คืออาจจะดูว่าเหมือนแคลเป็นคนที่ยุ่งมากเลยใช่มั้ยคะ แต่จริงๆ แล้วมันสนุกมากเลยนะ คือสำหรับแคลเวลาเรียนก็เอาเวลาไว้เรียนเลย พอแคลต้องมาฝึกร้องเพลง ฝึกแอคติ้ง ก็จะเป็นเวลาหลังเลิกเรียน แล้วก็ตอนอยู่ที่โรงเรียน ถ้ามีเวลาว่างหรือช่วงพักกลางวัน แคลก็จะรีบทำการบ้านเลย พอกลับบ้านมันก็จะได้ไม่มีเลยหรืองานอาจน้อยลง ส่วนเรื่องกีฬา แคลหาเวลาฝึกเองอยู่แล้ว เวลากลับบ้านก็จะวิ่งเลย

อีกอย่างถ้าแคลมีเวลาว่าง เสาร์-อาทิตย์ ส่วนมากก็จะไม่ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนนะ ยิ่งถ้าเราไม่มีเวลามากเท่าไหร่ เหมือนคนอื่น ส่วนมากก็เลยจะทำกิจกรรมที่เราชอบอย่างกิจกรรมเอาท์ดอร์อยู่แล้ว เราก็พากันไปได้ทั้งครอบครัว ไปว่ายน้ำ ไปเล่นกีฬา เพราะแคลก็ชอบกิจกรรมพวกนี้อยู่แล้ว ก็เหมือนเราได้พักผ่อนไปในตัว

นานๆ ที จะได้เจอคนที่มีทั้งพรสวรรค์รวมถึงพรแสวง ถึงแม้จะทำอะไรหลายๆ อย่างในคราวเดียวกัน แต่ก็ทำอย่างเต็มที่และทำได้ดีเสียด้วย เชื่อว่าความขยันและความอดทนของเด็กสาววัยเพียงแค่ 16 จะทำให้เธอคนนี้ “แครอล-อริศรา โรเซ็นดาห์ล” อนาคตไปได้ไกล ไปได้สวยแน่นอน



ภาพโดย ภาพโดย พงษ์ฤทธิ์ฑา ขวัญเนตร
ขอบคุณภาพประกอบจาก Facebook Page : Caroline Rosendahl [Official Fanpage] และ Instagram : aboutcarol_
 
 


****************
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ : อริศรา โรเซ็นดาห์ล ชื่อเล่น : แคโรไลน์
วันเกิด : 23 ก.ค. 2539อายุ :16 ปี
น้ำหนัก : 52 กก. ส่วนสูง : 172.5 ซม.
การศึกษา : ชั้น ม.5 ร.ร.สาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (อินเตอร์)
กิจกรรมยามว่าง : เล่นกีตาร์(ด้านซ้าย), ยูโด, วอลเล่ย์บอล, วิ่ง, เวคบอร์ด (wake board)
ผลงาน : - โฆษณาเครื่องดื่ม Est
- MV เพลง มีอะไรอีกไหม..ที่ลืมบอก ของ Timethai
- เพลงวัยรุ่นครั้งเดียว - Demo Project
- เพลงรักแท้จะตามหาเธอ (Destiny) - All Kamikaze
- เพลงให้ทาย (Guess?) - Carol
- เพลงอริศ (ส) รา - Carol,fah
รางวัล : นักกรีฑาดีเด่น ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 /รางวัลเชิดชูเกียรติ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากความสามารถด้านกีฬา
ชนะเลิศ การแข่งขันยูโดมหาวิทยาลัย รุ่นน้ำหนัก 52 ก.ก.
รองชนะเลิศอันดับ 1 การแข่งขันยูโด กีฬา 6 มหาวิทยาลัย รุ่นน้ำหนัก 52 ก.ก.





ผลงานเพลงให้ทาย


ผลงานเพลงอริศ (ส) รา













สาวแครอลในวัยเยาว์
รางวัลเชิดชูเกียรติจากเหรียญทองแข่งวิ่ง 3 ปีซ้อน


สาวแคลกับเต่าน้อย วลาดิเมียร์
พี่สาวสุดซี้ อริศรา-อริสรา





กำลังโหลดความคิดเห็น