ททท. ยิ้มรับชาวจีนทะลักเที่ยวเชียงใหม่ ตามรอยภาพยนตร์ดัง “Lost in Thailand” บริษัทนำเที่ยวได้รับอานิสงส์จัดแพกเกจท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ส่งผลให้คนจีนมาเที่ยวเชียงใหม่มากกว่าเดิมถึง 3 เท่าตัว
นางจำนงค์ จุณณะปิยะ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยว่า ททท. ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดจีน ผ่านภาพยนตร์เรื่อง Lost in Thailand โดย ททท. ได้ร่วมสนับสนุนงบประมาณในการเดินทางถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย ภายในพื้นที่ กรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยาและเชียงใหม่ รวมกว่า 2 ล้านบาท ระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน 2555 นอกจากนี้ ททท. ยังได้ส่งเจ้าหน้าที่เดินทางอำนวยความสะดวกและควบคุม โดยได้ประสานในการขออนุญาตการถ่ายทำบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง การรถไฟแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในการถ่ายทำภาพยนตร์
หลังจากที่ภาพยนตร์ได้เข้าฉายในประเทศจีน เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมาได้ทุบสถิติภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดของประเทศจีน ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งแห่งประวัติศาสตร์บ็อกซ์ออฟฟิศ และแซงหน้าภาพยนตร์ฮอลลีวูดแชมป์เก่าอย่าง Titanic 3D ด้วยรายได้กว่า 1.200 ล้านหยวน หรือกว่า6,000 ล้านบาท มีกำหนดจะเข้าฉายในเมืองไทยรับเทศกาลตรุษจีนในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2556 โดยมีชื่อไทยว่า “แก๊งม่วนป่วนไทยแลนด์”
จากกระแสความแรงของภาพยนตร์ ส่งผลให้บริษัทนำเที่ยวต่าง ๆ ได้จัดแพ็คเกจท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์ ทำให้ชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดนเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน คาดว่าจะมีชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยว โดยมีเที่ยวบินเข้าประเทศไทยในท่าอากาศยานนานาชาติทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 9-16 กุมภาพันธ์ 2556 รวม 633 เที่ยวบิน จำนวน 134.828 ที่นั่ง โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของตลาดจีน พบว่ามีคนจีนเดินทางเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัวเลยทีเดียว โดยมีชาร์เตอร์ไฟล์ตบินตรงเข้าเชียงใหม่ในช่วงเทศกาลตรุษจีนแล้วกว่า 21 เที่ยวบิน
“สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวในปีที่ผ่านตลาดจีนมีแนวโน้มในการเติบโตที่สูงมาก โดยพบว่าปี 2555 มีนักท่องเที่ยวจีนจำนวน 2.7 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่า 62% จากเดิมประมาณ 1.7 ล้านคน หรือเพิ่มกว่า 1 ล้านคนเลยทีเดียว”
ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก ททท. เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้สร้างหนังในจีนรายอื่นติดต่อเข้ามา จะเข้าถ่ายทำหนังอีกในไทย ประมาณเดือนเมษายน นี้ ซึ่งรายละเอียดจะมีการชี้แจงต่อไปเร็วๆนี้