เคาท์ดาวน์ สาวเซ็กซี่? ‘พีค – ภัทรศยา’

เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อเหลือเกิน หากจะบอกว่าสาวพราวเสน่ห์ ‘พีค - ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ’ แท้จริงแล้วไม่ได้เซ็กซี่อย่างลุคภายนอกที่ได้เห็นกัน เพราะยิ่งได้สำรวจพัฒนาการความงามของเธอตั้งแต่วัยละอ่อนเมื่อครั้งก้าวเข้าวงการ กระทั่งปัจจุบันเนื้อสาวแตกมันก็หอมกรุ่นไปทั่ววงการ

ย้อนมาดูบทบาทที่ได้รับก็ยิ่งส่งให้ภาพลักษณ์ของเธอเป็นเช่นนั้น ผลงานภาพยนตร์ระทึกขวัญเรื่องล่าสุด เคาท์ดาวน์ (countdown) จากค่ายยักษ์ GTH ในบทบาท แพม สาวเซ็กซี่ เปรี้ยวเข็ดฟัน แถมหัวสูง อาจทำให้คนดูติดภาพนั้นเข้าไปอีก

จริงหรือไม่..คงต้องพิสูจน์ ทีมงาน M-Lite เลยรีบคว้าตัวสาวสวยเจ้าของฉายา ‘เจ่อมหาเสน่ห์’ มาล้วงลึกถึงตัวตนให้ได้เห็นอย่างหมดเปลือก

5 4 3 2 1 ..นับถอยหลังบนแผ่นฟิล์ม
หลังพักจอแก้วไปสักระยะ ก็กลับมาพร้อมผลงานภาพยนต์เรื่องล่าสุด เคาท์ดาวน์ พีค บอกว่าภาพยนต์เรื่องนี้เป็นแนวระทึกขวัญที่ชวนผวาในทุกฉาก ซึ่งถือเป็นการฉีกแนวของค่าย GTH สร้างความแปลกใหม่ให้กับผู้ชมเลยทีเดียว แสดงนำร่วมกับนักแสดงวัยรุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้ง เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ, พีช - พชร จิราธิวัฒน์

ส่วนบทที่เธอได้รับก็ไม่ทิ้งความเซ็กซี่ แถมยังพ่วงความบ้าแบบสุดเหวี่ยงด้านมืดของวัยรุ่นไทยที่ไปใช้ชีวิตยังต่างประเทศ เกี่ยวพันกับยาเสพติดที่นำพาความน่าสะพรึงให้ชีวิตของเธอดำดิ่งสู่เหวนรก พีค บอกว่าตัวละคร แพม นั้นอาจมีส่วนคล้ายตัวเองอยู่บ้าง

“เหมือนแค่ภายนอกเล็กน้อย ที่คนอื่นอาจจะมองพีคว่าเป็นสาวสวยเซ็กซี่เป็นสไตล์นั้น แต่ว่าบุคลิกนิสัยไม่ใช่เราเลย”

คือเหมือนตรงนี้บทย้ำให้คนดูเชื่อว่าเป็นผู้หญิงเซ็กซี่ แต่จริงๆ แล้วพีคก็เป็นผู้หญิงปกติธรรมดาๆ คนนึง ไม่ได้เซ็กซี่เสียทุกอณูอย่างภาพลักษณ์ที่ออกมา พีค เล่าต่อว่า หนังเรื่องนี้ฉีกทุกบทที่เธอได้รับมาเลย

“ด้วยบทบาทนี้ เค้าจะเป็นเด็กวัยรุ่นที่ได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นิวยอร์ก แล้วได้ใช้ชีวิตอย่างสุดเหวี่ยง พีคก็ไม่เคยเล่นแบบนี้และชีวิตเราก็ไม่ได้สุดเหวี่ยงในทางนี้ ก็ปาร์ตี้ยา เมา ใช้ชีวิตสุดๆ ไปในทางลบ”

ตัวบทเองเธอมองว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่ปฏิเสธไม่ได้ ฉะนั้น จึงตัดสินใจรับเล่นทันที “พอได้ฟังเรื่องรู้สึกสนุก แล้วมันเป็นอะไรที่เหมือนแบบในชีวิตเราไม่ได้ทำ ก็อยากลองทำ เหมือนอยากลองใช้ชีวิตของคนคนนึง เหมือนพีคได้ใช้ชีวิตแบบสุดเหวี่ยงของคนนี้ มันก็ฟังดูน่าสนุกก็เลยอยากเล่น”

ส่วนในเรื่องปัญหาทางการแสดง ความที่อยู่ในวงการกว่า 7 ปีแล้ว ก็มีประสบการณ์อยู่บ้าง อีกอย่างก็มีการเวิร์กช้อปกันอยู่หลายเดือน ตอนแสดงเลยไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเพราะทุกคนเตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว

“ สนุกแน่ๆ ตื่นเต้น มัน สิ่งที่ได้อีกอันนึงคือเราเสนออีกด้านของชีวิตวัยรุ่น สิ่งที่มีในเรื่องคือจะได้อุทาหรณ์ข้อคิดอยู่แล้วคะ เรียกว่ามันจะมีเหตุและผลของเรื่องอยู่แล้ว"

ชีวิตที่มีโอกาส เป็นชีวิตที่มีกำไร
ตอนนี้ก็เป็น 7 ปี สำหรับโอกาสที่ได้มาทำงานตรงนี้ หญิงสาว นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถึงอนาคตกับงานในวงการบันเทิง “ทุกวันนี้พีคก็สนุกกับสิ่งที่พีคทำ มันเหมือนกับว่างานประจำเป็นเหมือนชีวิตประจำวัน ที่ทุกวันออกกองถ่ายวันไปกองฯ นี้ พรุ่งนี้ไปอีกกองฯ นึง เพียงแต่ว่า ณ วันนี้เราก็มีอะไรที่อยากทำและได้ทำเพิ่มเข้ามาด้วย แต่จะพูดว่าจะทำอีกนานแค่ไหนก็ระบุชัดเจนไม่ได้ แค่ทำทุกวันนี้ให้เต็มที่”

ใบหน้าค่อยๆ คลี่ยิ้มบางให้ได้สัมผัสถึงความสดใส พีค กล่าวขึ้นว่าการที่ได้มายืนในจุดนี้ได้ทำงานในวงการบันเทิงเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกมีความสุขมาก

มีคนบอกว่าการมาเป็นดารานักแสดงถือเป็นกำไรของช่วงชีวิตนึง สาวพีคก็มีความเห็นสอดคล้องเช่นกัน

“ก็จริงนะคะ เหมือนตอนแรกเราได้โอกาส เราไม่เคยคิดว่าจะมาเป็นคนมีชื่อเสียงแบบนี้ พีคว่าพอเราได้โอกาสหลังจากนั้นมันก็เป็นกำไรแล้วค่ะ พีคได้รับโอกาสนั้นแล้วก็ใช้โอกาสทำนู้นทำนี่มากมาย ซึ่งพีคว่ามันก็เป็นอะไรที่เราไม่คาดคิดมาก่อน(ยิ้ม)” ไม่ใช่เพียงชื่อเสียงเงินทองที่เธอได้รับ แต่สิ่งที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกดียิ่งว่าสิ่งใดคือมิตรภาพจากคนรอบข้างที่หยิบยื่นให้เธอ

“ตั้งแต่เข้ามาพีคได้เจอสังคมที่ดี คือทุกคนล้วนแต่เป็นรุ่นพี่หมดเลย แล้วพอได้มาเจอพี่แล้วเรารู้สึกสนุกจังเลย คือได้ทำอะไรที่เราก็ยังไม่เคยทำ ด้วยตอนที่เราเข้ามายังเป็นเด็กด้วย เหมือนกับได้มาเจอชีวิตอีกแบบนึง ก็เลยรู้สึกว่าได้มิตรภาพเยอะ”

ทีมงานถามว่าตั้งแต่ทำงานมาเจออุปสรรคอะไรถึงขั้นถอดใจหรือเปล่า พีค ตอบด้วยแววตาเปล่งประกาย ว่าตราบใดที่ยังรู้สึกสนุกกับมันอุปสรรคนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก

“พอเรารู้สึกสนุกกับมันมาก รู้สึกชอบ เรามีความสุขนอกจากได้ทำงานเรายังได้เจอพวกพี่ๆ แต่ละคน เหมือนเป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่ มันทำให้พีคสนุกมากที่ได้มาทำตรงนี้”

ความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเกิดขึ้นกับทุกคนอยู่แล้ว เช่นเดียวกัน พีค ก็เปลี่ยนไปจากเดิม แต่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

“สังคมที่เราเจอ คือเหมือนพีคได้มาเจอสังคมที่โตขึ้น จากที่ที่พีคเคยอยู่กับเพื่อน จากเด็กก็ได้เจอสังคมที่กว้างขึ้น ก็ทำให้พีคได้เห็นอะไรมากขึ้น เหมือนเราได้เข้ามามาในอีกสังคมนึง พีคเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ณ ตอนนี้ต่างจากตอนนั้นอย่างไร คือพีคก็โตขึ้นกว่าตอนแรกๆ เราได้คิดโตขึ้นกับสิ่งที่เราเจอมาเรื่อยๆ เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นนะ นิสัย ความคิด”

สารภาพว่าเป็นสาวโลกสวย
พีค เล่าว่าตัวเป็นคนคิดบวก หรือแทบจะมองโลกด้านเดียวเลยด้วยซ้ำเธอบอกว่าการมองโลกด้วยทัศนคติบวกทำให้ชีวิตมีแต่สิ่งดีๆ

“คือพีคเป็นคนที่จะคิดแต่ในทางบวก มันทำให้เรามีความสุขและสบายใจ พีคยังไม่เคยเจอใครมาทำร้ายเราไงคะ อย่างที่บอกคือเจอแต่คนดีๆ เราก็โชคดีค่ะ แต่ก็มีคนอื่นเล่าให้ฟังไปทำงานเจออย่างนั้นอย่างนี้ อือ..งั้นเราโชคดีที่เจอแต่คนดี แต่อาจต้องระมัดระวังตัวขึ้น แต่เอาจริงๆ แล้วมันก็ทำไม่ได้ พีคก็ยังเป็นยังนี้ยังมองโลกในแง่ดีมากอย่างที่เรามองอยู่เหมือนเดิม แค่บวกกับที่เราคิดมากขึ้นแค่นี้เอง”

เมื่อใดที่มีปัญหาทุกข์ใจ พีค จะเลือกปรึกษาคนรู้ใจ “พีคจะมีคนรอบข้างอยู่ตลอดเวลา มีปะป๋า มีพี่เต๋อ (ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) มีพี่ๆ ส่วนใหญ่แล้วถ้ามีปัญหาที่ไม่สบายใจก็คือจะเล่าให้คนรอบข้างฟังอยู่แล้ว เหมือนเราได้ระบาย แล้วพีคก็หายนะคะ”

เรื่องบางเรื่องยิ่งคิดคิดทำให้เครียด แต่ถ้าลองปล่อยวางดูอาจเป็นวิธีที่ดีกว่าก็ได้ หรือถ้าเรื่องที่เป็นปัญหาต้องแก้ไข เธอจะนำแง่คิดจากคนรอบข้างมาปรับใช้

“พีคไม่ค่อยเป็นคนเครียดนาน แค่คิดตอนนั้นปุ๊บแล้วก็หาย ถ้าเกิดคิดแล้วมันเป็นประโยชน์ก็คิด แต่ถ้าคิดแล้วมันไม่ได้ก็เลิก ไม่รู้จะคิดไปทำไมให้เราเครียด”

เห็นลุคเป็นสาวเปรี้ยวอย่างนี้ ก็ใจบุญสุนทานไม่น้อย พีค เล่าว่าครอบครัวจะมีการเข้าวัดทำบุญกันเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ส่วนตัวเธอนับถือพระนเรศวร

“เป็นคนทำบุญอยู่แล้ว ก็ทำบุญปกติ พีคก็จะชอบไปไหว้พระนเรศวรที่อยุธยาที่วัดใหญ่ชัยมงคล เวลาพีคเอาของไปไหว้ก็เอาขนมที่ท่านชอบเราชอบไปไหว้ ไปก็ไหว้บ่อย พอไหว้เสร็จก็มีโอกาสแบ่งให้แม่ชีไป เราก็เหมือนได้ทำบุญ ได้ให้คนอื่น ก็เลยชอบมาที่จะไปทำบุญที่นี่”

สารพันปัญหาผู้หญิงต้องเป๊ะ?
ไม่ถามไถ่คงไม่เพราะอาการประหลาดที่หญิงสาวกำลังเผชิญนั้นเป็นข่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง โรคกระดูกงอกบริเวณหน้าผาก พีค เล่าให้ฟังว่าคุณหมออธิบายว่ากระดูกมันจะโตขึ้นมาเรื่อยๆ อาจใช้เวลา 3-4 ปี ค่อยๆ โตขึ้นทีละนิด แต่มันไม่ได้เป็นอันตรายกับร่างกาย

“คุณหมอเค้าก็แนะนำนะคะ ถ้าเอาออกตั้งแต่ตอนนี้มันก็จะง่ายกว่า แต่ถ้าปล่อยไว้อีกมันต้องผ่าและต้องตะไบ ถ้าตะไบตอนมันเล็กๆ ก็อาจจะดีกว่า ส่วนตัวพีคถ้าเกิดมันไม่อันตรายก็ไม่กังวลแต่คือถ้ายังไม่ถึงขนาดต้องมาทำก็ปล่อยไว้ก่อนก็ได้ คือไม่มีอันตรายกับร่างกายเราก็ไม่กลัว รู้สึกว่ามันก็ตลกดี เป็นเรื่องแปลกๆ ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้มีผลกับร่างกายพีคก็โอเค (หัวเราะ)”

พีค พูดขึ้นทีเล่นทีจริงถ้าหากกระดูกเจ้ากรรมโตขึ้นว่าถ้าไม่อันตรายก็คงไม่ตะไบออก “ไม่อยากทำ ไม่กล้าทำ คงตัดหน้าม้าถ้ามันใหญ่ขึ้น (หัวเราะ)”

อาชีพดารานักแสดงในเรื่องความสวยความงามนั้นเป็นของคู่กันอยู่แล้ว บางคนก็มีเสริมเติมแต่งให้ตัวเองดูดีเพื่อหน้าที่การงานบ้าง พีค แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องการทำศัลยกรรมของคนในวงการบันเทิง

“สำหรับพีค ถ้าเราทำเราก็จะกล้าพูดว่าเราทำ เดี๋ยวนี้ศัลยกรรม ทำให้คนสวยขึ้นเยอะก็จริง แต่ส่วนตัวที่พีคไม่ชอบคือมันจะสวยเหมือนๆ กัน ถ้าทำแล้วก็บอกว่าทำ ทำแล้วดูดีขึ้น คนก็อยากสวยดูแลตัวเองเป็นเรื่องปกติ นิดๆ หน่อยๆ โอเค แต่ส่วนตัวพีคก็ไม่ได้สนับสนุนนะ”

รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูสวยก็คงไม่เท่าความรู้สึกนึกคิดภายในจิตใจ พีค พูดถึงความสวยในแบบผู้หญิง

“มันก็ต้องมาจากข้างในอยู่แล้ว ทุกอย่างมันออกมาจากทางแววตานะ คนเราถ้ามีความสุขมันก็ออกมาที่หน้านะ มีความสุขออกนอกหน้า(หัวเราะ) บางคนเศร้าหมองเค้าก็ออกมาที่หน้านะ มันมาจากความคิดข้างในซึ่งความคิดข้างในเป็นไงก็ถ่ายทอดออกมาจากแววตาความรู้สึกซึ่งพีคว่าคนรอบข้างก็จะสังเกตได้”

การเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงทำให้เธอต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ ถ้าพักผ่อนไม่พอก็ต้องมีทานวิตามิน อีกอย่างต้องมีออกกำลังกาย ควบคู่กันไปด้วย

ความรักคือทุกสิ่งทุกอย่าง
สำหรับสาว พีค เองก็ไม่ได้ปิดบังว่ามีคนดูแลหัวใจอยู่แล้ว ทำเอาหลายท่านอาจต้องถอนหายใจด้วยความอิจฉา เต๋อ - ฉันทวิชช์ ธนะเสวี กันเป็นแถวๆ หนุ่มหน้าเข้มมาดกวนที่กุมหัวใจดวงน้อยของสาวตากลมผู้นี้ไว้ได้ เธอให้นิยามความรักในแบบของตัวเองสั้นๆ “ความรักคือทุกสิ่งทุกอย่าง”

พีค เปิดใจว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่สเปกของเธอแม้นิดเดียว แต่ด้วยความที่อุปนิสัยที่เข้ากันได้ทั้งคู่เลยเปิดใจให้กันและกัน

“ชอบคนแบบตี๋ๆ ขาวๆ ตั้งแต่เด็กๆ ถ้าเทียบสเปกอันนี้ไม่ใช่เลย(หัวเราะ) แต่ส่วนตัวพีคชอบคนน่ารักค่ะ คือไม่ใช่ว่าหน้าตาน่ารัก พี่เต๋อพีคเจอเค้าก็แบบเข้มๆ แต่ด้วยความที่ตัวตนเค้าน่ารักทำให้เค้าดูน่ารักในสายตาเรา”

ถามถึงความประทับใจในตัวพระเอกหนุ่มร่วมค่าย เธอ เล่าขึ้นโดยไม่รีรอ “พี่เต๋อ เป็นคนแรกๆ ที่พีคเจอใน GTH เค้าเป็นคนจิตใจดี ดูไม่มีพิษไม่มีภัย น่ารัก สำหรับพีคตอนนั้นเค้าดียังไงตอนนี้เค้าดีมากกว่านั้นอีกค่ะ คือดีอยู่แล้วก็ยังดีขึ้นอีกเรื่อยๆ เค้าเป็นคนที่น่ารักมากสำหรับพีค(ยิ้ม)”

แน่นอน คนสองคนอยู่ด้วยกันก็เหมือนลิ้นกับฟันที่อาจมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง พีค เล่าว่าความเข้าใจจะทำให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี

“เราใช้ความเข้าใจกันเลยไม่ค่อยมีเรื่องกระทบกระทั่ง แล้วด้วยเวลาที่คบ มันได้เรียนรู้กันมาเรื่อยๆ เข้าใจกันมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเข้าใจกันมากมันก็จะยิ่งไม่ค่อยมีปัญหาอยู่แล้ว คือพีคคุยกันอยู่แล้ว ความสัมพันธ์ของพีคดีตรงที่ว่า พี่เต๋อ เค้าจะโตกว่า เค้าก็จะใจเย็น เค้าก็จะมีเหตุผล เราเด็กอาจจะมีเหตุผลบ้างไม่มีเหตุผลบ้าง แต่สิ่งที่เค้าใช้คือเค้าเข้าใจเรา เหมือนเราก็มีเหตุผลของเรา เค้าก็มีเหตุผล แต่สุดท้ายก็ใช้ความเข้าใจกัน อย่างเวลามีปัญหาไม่เข้าใจกันเราก็จะคุยกันจนเข้าใจ คือเราคุยกันเข้าใจทุกครั้งปัญหามันก็จะไม่เกิด”

พีค เปิดเผยว่า ณ ตอนนี้ผู้ชายคนนี้แหละที่จะดูแลเราไปตลอดชีวิต ถามว่าคิดถึงเรื่องแต่งงานไหมตอนนี้ยังไม่ได้คิด แต่เธอมีความฝัน “ความฝันของพีคคืออยากมีครอบครัว มีลูกที่น่ารัก นั่นคือความสุข”

Cup-T จูงมือแฟนเปิดร้านเสื้อยืด
นอกจากงานในวงการ พีค ก็มีโปรเจกต์ที่ทำควบคู่กันไปด้วย เป็นร้านเสื้อยืดเล็กๆ ที่เปิดมาได้เกือบปีแล้ว แต่ไม่มีหน้าร้าน จัดจำหน่ายผ่านโซเชียลมีเดีย เป็นการร่วมหุ้นระหว่าง เพื่อนสาว แฟนหนุ่ม และเธอ ใช้ชื่อร้านว่า Cup-T

สำหรับจุดเริ่มต้นเกิดจากการมานั่งคุยกันว่าอยากลองทำเสื้อ พอเข้ามาคุยกันก็ตกลงกันว่าเอาเป็นเสื้อยืดน่าจะดีที่สุดเพราะใส่ได้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย อย่างหุ้นส่วนเป็นผู้หญิง 2 คน มีผู้ชายคนเดียวคือพี่เต๋อ เขาจะได้มีส่วนร่วมแชร์ไอเดียด้วย

“ก็เลยตกลงกันว่ามาทำเสื้อยืดกันดีกว่า อีกอย่างเรามีคอนเซ็ปต์ของเราชัดเจนคือทำเป็นสัตว์ เล่นลายกับสัตว์ทุกชนิด สัตว์ที่คนคิดว่าไม่น่ารัก เอามาทำให้มันน่ารัก หรือสัตว์ที่มันน่ารักอยู่แล้วเอามาทำให้มันมีอะไรมากขึ้น เช่น น่ารักขึ้น ดูกวนขึ้น เป็นคาแร็กเตอร์ของพีคกับพี่เต๋ออยู่ในสัตว์ตัวนั้นๆ”

เพื่อนจะคอยดูแลด้านการผลิต ส่วนตัวพีคกับพี่เต๋อจะดูแลทางด้านโปรโมต เราคิดลายกันเองแต่มีคนวาดให้ ไม่มีหน้าร้าน ขายทางออนไลน์ พีค กล่าวว่าฟีดแบ็กว่าค่อนข้างดีทีเดียว

“คือตั้งแต่แรกเราทำมานิดเดียวก่อน เริ่มจากน้อยๆ ก่อน ซึ่งก็ขายได้ตั้งแต่แรก แล้วผ่านไปพีคก็ทำเพิ่มขึ้น เพราะขายดีพอคนรู้จักเยอะขึ้น คือเค้าชื่นชอบที่ผ้าที่ลายของเรา คือเราก็ไม่เหมือนใคร ถึงจะเป็นเสื้อคู่แต่ก็ไม่ใช่ใส่เป็นคู่แฟนอย่างเดียว คู่เพื่อนกันก็ได้ คู่พี่น้องก็ได้ เราไม่ได้เป็นลายคู่ที่ใส่ต่อกัน แต่แค่เป็นลักษณะลิงค์กันเฉยๆ ซึ่งคนก็จะชอบในลายของเรา หลังจากนั้นจนถึงตอนนี้คือเราก็ผลิตคูณๆ ขึ้นไป ขายดีมาก”

นางเอกสาวเล่าว่าได้ทุนคือตั้งแต่ล็อตแรกแล้ว แต่ที่มาทำเสื้อยืดนั้นไม่ได้หวังให้รวยแต่ทำเพราะสนุกเพราะชอบ

“คือที่คิดเอาไว้ไม่ได้คิดว่าต้องรวย หรือได้เงินจากอันนี้ ทำเพราะอยากทำด้วยกัน สนุก ตอนนี้มันเป็นกำไรที่ได้นอกจากนั้นแล้วคะ แต่เราก็เอากำไรนั้นมาพัฒนาต่อ อย่างปีนี้ก็จะทำ Cup-T kids ทำเป็นของเด็กเพื่อจะใส่เป็นครอบครัว แต่จริงๆแล้ว กำไรที่ได้ก็ไม่ได้เยอะมาก เพราะว่าทุนของพีคสูง เอากำไรไปต่อยอดเรื่อยๆ”

อย่างไรก็ตาม พีค ยอมรับว่าความที่เธอและแฟนหนุ่มเป็นดารามีชื่อเสียงก็เลยทำให้แบรนด์เสื้อยืด Cup-T เป็นที่รู้จักและได้รับฟีดแบ็กดี

หายใจเข้า-ออกเป็นขนมหวาน
“พีคเป็นคนชอบทานขนมหวานมาก ตั้งแต่ตอนเด็กๆ รู้สึกเหมือนติดของหวาน ชอบกิน กินแล้วแบบมันห้ามไม่ได้ กินแล้วแบบสดชื่น ง่วงๆ ก็ตื่นขึ้นได้ มันทำให้เรามีความสุข พีคก็เลยรู้สึกอยากทำสมมุติเราทำมาอร่อยๆ นะ แล้วเค้ากินตัวเราก็คงมีความสุขที่เห็นเค้ากินเค้กของเรา แล้วเค้าเองก็คงมีความสุขที่ได้กินเค้กของเรา” พีค เล่าถึงที่มาที่ไปที่ทำให้เธอหลงรักขนมหวาน จนถึงขั้นไปเข้าคอร์สร่ำเรียน

ถ้าย้อนคิดจริงๆ เธอบอกว่าสนใจที่จะไปเรียนทำขนมนานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาส เพราะเวลาส่วนมากก็หมดไปกับการเรียน การทำงาน พอช่วงกลางปีที่แล้วว่างปุ๊บก็เลยรีบไปลงเรียนคอร์สทำขนมทันที

“เมื่อก่อนลองฝึกทำเองดู แต่มันต้องมีการลองผิดลองถูกจากเราไม่เคยทำมาก่อนเลย พีคก็ไม่มีเวลาขนาดนั้น พีคก็เลยไปเรียน ไปลงเรียนจัดเวลาไว้เลย ไปเรียนจริงจัง แล้วตอนนี้เวลาว่างพีคก็มาฝึกฝนตัวเอง แล้วตอนนี้ก็พยายามคิดสูตรอะไรของตัวเองแล้ว

“เรียนเรื่อยๆ เลยคะ ตอนนี้พีคก็ยังเรียนต่อ ครึ่งปีได้แล้ว คือเหมือนเรียนตั้งแต่เบสิก ตั้งแต่เริ่มต้น คือเรียนแล้วมันก็จะมีเทคนิคทำให้พีคเข้าใจได้เร็วขึ้น ได้ง่ายขึ้น”

พีค ยอมรับว่า ช่วงแรกๆ ที่ลองผิดลองถูกก็มีผิดสูตรไปบ้าง “อันนี้จะเป็นแรกๆ เลย ที่ลองทำที่บ้านแต่มันไม่ถึงขนาดกินไม่ได้ค่ะ(หัวเราะ) เรื่องเตาอบเราก็ยังไม่เข้าใจเตาอบ เวลาเราทำขนมเราต้องเข้าใจเตาอบก่อน แรกๆ ทำง่ายๆ ก่อน ดูจากอินเทอร์เน็ตแล้วมาทำตาม เช่น เค้กกล้วยหอม บัตเตอร์เค้ก ยกตัวอย่าง มันต้องฟูขนาดนี้แต่ของเราไม่ฟู มันอาจจะไม่ได้มาตรฐานที่เค้าทำกันแต่ถามว่ากินได้มั้ย..กินได้”

ตอนนี้คนรอบข้างสาวพีคก็ได้ลองลิ้มลิมรสขนมหวานจากเชฟสาวคนสวยกันบ้างแล้ว

“บางทีจะมีวันไหนว่างก็จะล็อกไว้เลย ทำขนม หรือบางวันเลิกงานเร็วก็จะล๊อคไว้เลย กลับบ้านไปทำขนม บางทีทำเพลินเที่ยงคืนยังทำอยู่เลย จริงๆ แล้วต้องจัดเวลาให้ดี ทำขนมแล้วมันชิล มันต้องสบายๆ ถ้าเกิดเร่งรีบมันก็ไม่สนุก”

เชฟสาวมือใหม่พูดถึงเสน่ห์ของการทำขนมหวาน “มันสนุก แค่อยู่ในกลิ่นแบบนี้ก็ชอบแล้ว เวลาทำพีคจะมีความสุขกับส่วนผสม เอาครีมมาทา มาปาด หรือบีบ ตกแต่ง สิ่งที่พีคชอบที่สุดคือขั้นตอนการประกอบเค้ก เราครีเอตได้ตลอด”

อนาคตสาวพีคอาจเปิดร้านเบเกอรีให้ได้ชิมรสมือหวานๆ ของเธอ แต่ตอนนี้คงต้องอดใจรอกันไปก่อนเพราะอยู่ในช่วงฝึกฝน

“พีคอยากฝึกฝนตัวเองให้ชำนาญก่อน คิดสูตรของตัวเองให้เยอะกว่านี้ก่อน ตอนนี้ก็ค่อยๆ คือมันมีหลายชนิดมากที่เราต้องฝึกต้องทำ ตอนยังไม่พร้อม(ยิ้ม)”
........................

ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Lite
ภาพโดย ศิวกร เสนสอน
ขอบคุณภาพประกอบ Instagram @peakpattarasaya

 ประวัติส่วนตัว 
ชื่อ : ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ (พีค )
วันเกิด : 18 ตุลาคม 2531
ส่วนสูง : 162 ซม. น้ำหนัก 42 กก.
การศึกษา : มัธยม-โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ปริญญาตรี-คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
ผลงาน : โฆษณา - DTAC ซิมเฮฮา, ขนมเวเฟอร์ DELFITOP, ปากกาเฟเบอร์คาสเทล, ชารสเลมอน ลิปตัน, ยำยำ จัมโบ้ ฯลฯ
มิวสิควีดีโอ - ปฏิเสธอย่างไร/ลิปตา, เลือกเป็นคนที่รักเธอ,ไม่คิดเสียใจ /แอน ธิติมา ประทุมทิพย์, ดาวมหาลัย/HRU, หน้าตาดีไม่มีแฟน/ อาร์ เดอะสตาร์ ฯลฯ
ละคร - เซน...สื่อรักสื่อวิญญาณ, อุบัติรักข้ามขอบฟ้า, รหัสโลกันตร์, วงษ์คำเหลา เดอะซีรีส์ ฯลฯ ภาพยนตร์ - สายลับจับบ้านเล็ก, รัก/สาม/เศร้า, กระดึ๊บ, เคาท์ดาวน์
รางวัลที่ได้รับ : ปี 2550 รางวัล “in Young Generation Choice 2007" (นิตยสาร In Magazine) Rising Star ดารา-นักร้องหน้าใหม่, ปี 2551 "in Young Generation Choice 2008" (นิตยสาร In Magazine) สาวใสมาแรง