ฮวงจุ้ยคือศาสตร์แห่งพลังงานที่มีมาแต่โบราณ ตามความเชื่อที่ว่ามีกระแสพลังงานหมุนเวียนเปลี่ยนทิศอยู่ทุกปี กระแสพลังงานเหล่านี้มีผลต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์เรา หากเราสามารถปรับตัวปรับทิศได้ทัน โชคลาภจะไหลเข้ามาหาตัว ดังคำที่กล่าวว่า “กระตุ้นฮวงจุ้ยดี กระตุ้นหวงจุ้ยเป็น ชาตินี้ไม่มีวันจน”
หลังจากเมื่อปีที่แล้ว อ.มาศ เคหาสน์ธรรม เจ้าของสมญา ซินแสไฮเทค ได้ทำนายทายทักถึงเฮอริเคนแซนดี้ และน้ำท่วมใหญ่ในกรุงปักกิ่งได้อย่างแม่นยำ มาถึงปีนี้ก็เช่นกัน กับฮวงจุ้ยปี 56 ซึ่ง อ.มาศได้ตั้งฉายาฮวงจุ้ยของปีนี้ไว้ว่า “ปีต้มเปรตอสรพิษ”
“ต้มเปรตนั้นหมายถึงคนชั่วจะได้รับการลงทัณฑ์ และต้มเปรตนั้นเขาทำโดยการใส่ไปผสมกันมั่วๆ คือจะมีสถานการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น ปัญหาร้ายๆสารพัดกระจายไปทั่ว”
ปีแห่งธาตุขัดแย้ง
ในปี 56 หรือพญางูน้ำนั้น นักษัตรเป็นปีมะเส็งหรืองูเล็ก อ.มาศเห็นว่าพลังงานของปีนี้ถือเป็นปีที่น่าสนใจ พลังฟ้าเป็นธาตุน้ำ ขณะที่พลังดินนั้นเป็นธาตุไฟ จึงเป็นที่มาของชื่อฉายา ต้มเปรตอสรพิษ ที่มีน้ำกับไฟอยู่ด้วยกัน และเป็นคู่ขัดแย้งกัน อ.มาศจึงเปรยตรงๆ ว่า ปีหน้าจะเป็นปีแห่งความขัดแย้งที่รุนแรง โดยทิศทางการไหลของแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน แม่น้ำ 4 สายสำคัญของประเทศที่มารวมกันเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาก็มีทิศทางการไหลที่ปะทะกับกระแสพลังของทิศปีมะเส็งอีกด้วย
“ในทางฮวงจุ้ยมันชนกับทิศมะเส็งก็แปลว่าฟ้าดินมาปะทะกันพอดี เมืองไทยปีหน้าเนี่ย ต้องขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นอย่าพึ่งทำอะไรที่จะจุดชนวนให้เกิดความรุนแรง สภาพพลังเหมือนน้ำมันหยดใส่ไฟ”
ในส่วนของรายละเอียด การเป็นธาตุน้ำนั้นเป็นตัวแทนของหมอกควันและความเร้นลับ ทำให้ปีหน้าจะเกิดเรื่องลับๆ การโกง การโจมตีให้ร้ายกันในทางลับขึ้น รวมถึงการลอบทำร้าย
“ปีหน้าต้องเน้นเลยว่า ความรุนแรงจะไม่ใช่ความรุนแรงประเภทซึ่งหน้า เป็นความรุนแรงแบบลับๆ มะเส็งรอบที่แล้วก็ตรงกับเหตุการณ์ 11 กันยาที่เครื่อนบินชนตึกเวิลด์เทรดนั่นเอง”
อ.มาศจึงเตือนถึงเหตุการณ์ที่มีเกณฑ์จะเกิดขึ้นว่า อาจมีการจลาจลซ่อนอาวุธโจมตีกัน เข่นฆ่ากันได้ง่าย ทั้งยังเป็นปีหนึ่งที่เสี่ยงต่อความไม่สงบ ดังนั้น ทุกๆ ฝ่ายไม่ควรจุดชนวนขึ้นมา
ภัยควรระวัง
สำหรับเวทีโลก การที่ธาตุไฟกับน้ำมาชนกัน อ.มาศเตือนถึงปัญหานิวเคลียร์ที่ต้องใส่ใจ เพราะต้องใช้น้ำในการหล่อเตาปฏิกรณ์ น้ำและไฟที่ขัดแย้งกันจะทำให้เกิดความผิดพลาดเกี่ยวกับน้ำได้ง่าย สำหรับบุคคลธรรมดานั้น ก็จำเป็นต้องใส่ใจเรื่องไฟช็อต ถ้าใครมีเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ต้องหมั่นตรวจสอบ
ในด้านสุขภาพ อ.มาศชี้ว่า อวัยวะที่เจ็บป่วยจะเกี่ยวกับไต อวัยวะเพศ มดลูก หัวใจ เส้นเลือด ว่าง่ายๆ คือ ธาตุน้ำจะมีปัญหานั่นเอง เมื่อรวมกับรอบการเปลี่ยนพลังงานที่จะเกิดทุก 60 ปีตามความเชื่อของชาวจีนอันเป็นที่มาของประเพณี “แซยิด” ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าบุคคลสำคัญอาจเสียชีวิตด้วยอาการเส้นเลือดแตกในปีนี้
ในรายละเอียดของช่วงเวลานั้น ปีมะเส็งเป็นโทษทัณฑ์กับปีเสือและปีลิง รวมทั้งเดือนเสือและเดือนลิงด้วย ดังนั้นเหตุการณ์ของโลกในเดือนเสือคือกุมภาพันธ์ กับเดือนลิงคือสิงหาคม ถือเป็นเดือนที่เสี่ยงจะเกิดเหตุไม่ดีมากกว่าปกติ อ.มาศเอ่ยถึงปรากฏการณ์พายุสุริยะที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนดังกล่าว
“ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์กับสิงหาคมมีความสี่ยงที่จะเกิดกับพลังงานธาตุไฟ” อ.มาศมองว่า ทั่วโลกต้องใส่ใจเรื่องการนำพลังงานจากแสงอาทิตย์มาใช้เพราะจะเกิดภาวะโลกร้อนที่รุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ทุกๆ 11 ปีจะเกิดพายุสุริยะขึ้นมาครั้งหนึ่ง เที่ยวที่แล้วทำให้ดาวเทียมมีปัญหา ทำให้แคนาดาทั้งประเทศกับอเมริกาบางส่วนเกิดไฟดับรุนแรง เที่ยวนี้นาซาก็เตรียมการรับมือเพราะจะมาแรงกว่าปกติ พายุสุริยะจะมี 4 รูปแบบเที่ยวนี้จะมาแบบมีมวล คือมีการกระแทกใส่อย่างรุนแรง”
ในส่วนของสภาพอากาศโลกนั้น ธาตุน้ำ - ไฟขัดแย้งรุนแรง อ.มาศเผยความเป็นไปที่จะเกิดขึ้นว่า หากฝนตกก็จะตกหนัก และหากเกิดแล้งก็จะแล้งรุนแรง โดยเมื่อมองข้ามปีไป เขาก็ออกปากเตือนว่า ปี 56 จะต้องระมัดระวังเรื่องการเก็บน้ำ เพราะปี 57 นั้นจะถึงคราวแล้งหนักที่สุดในประวัติศาสตร์
“วัฏจักรพลังงาน มันก็จะเปลี่ยนทุกๆ 5 ปี ช่วงรอบพลังงานที่แล้วมันเป็นช่วงธาตุทอง - น้ำตรงกับวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า ลานินญ่า ซึ่งจะหมดในปีนี้ แล้วจะเริ่มเข้าสู่เอลนินโญ่ในช่วงกลางปีหน้าจากนั้นก็จะจะแร้งที่สุดปี 57”
โดยการเปลี่ยนสลับของ 2 ปรากฎการณ์คู่ตรงข้าม ลานินญ่า - เอลนินโญ่นั้นในทางวิทยาศาสตร์คือการที่กระแสน้ำไหลเปลี่ยนทิศ ในทางฮวงจุ้ยกระแสน้ำที่ไหลเปลี่ยนทิศก็ส่งผลต่อพลังงานเช่นกัน ทำให้ปีหน้าที่จะถึงนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง
“เที่ยวนี้ร้อนไม่เป็นร้อน หนาวไม่เป็นหนาว ทั้งฤดูกาลจะกลับกัน แล้วก็มีความเสี่ยงเกิดทอร์นาโดด้วยเช่นกัน”
อีกความโชคร้ายของปีหน้าคือ ในทางฮวงจุ้ยมันเป็นปีครบรอบพลังงานที่พลังเบญจทูต 5 ผีเข้ากลาง คนที่เป็นใหญ่ทั้งหลายในโลกจะเปลี่ยนหัวเปลี่ยนคน อย่างเมื่อ 2,000กว่าปีที่แล้ว เบญจทูตเข้ากลางเป็นปีที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน รอบก่อนพระสันตะปาปาเสียชีวิต
“ในบ้านคน 5 ผีจะเข้าที่กลางบ้านแนะนำให้แขวนกระดิ่งโลหะไว้กลางบ้าน เบจญทูตนั้นเป็นธาตุดินสามารถใช้ธาตุโลหะสลายถ่ายเทได้ ปีหน้าจะมีคนเจอผีหลอกกันเยอะ โดยมีเดือนที่เสี่ยงคือ กุมภาพันธ์ สิงหาคม และพฤศจิกายน”
นอกจากนี้ เวลาน้ำ - ไฟขัดกัน ความเสี่ยงเรื่องทอร์นาโดก็ยังมีอยู่โดยเฉพาะที่ประเทศญี่ปุ่น แต่อ.มาศมองว่าจะส่งผลดีต่อประเทศไทย เพราะญี่ปุ่นกับไทยนั้นเป็นคู่ส่งเสริมหยินหยางกัน เมื่อโรงงานที่ญี่ปุ่นปิดตัวจากการเกิดภัยพิบัติที่ถี่ขึ้น พร้อมกับที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะปิดลง ยิ่งทำให้โรงงานต่างๆ มีไฟฟ้าไม่พอใช้ จำเป็นต้องย้ายฐานการผลิต
“อุตสาหกรรมของญี่ปุ่นทั้งหมดเวลาย้ายมาอยู่เมืองไทย ก็จะทำให้ที่ดินในเมืองไทยราคาขึ้นพรวดขึ้นมาแล้วต่อเนื่องไปอีก 2 - 3 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะที่ดินแถวนิคมอุตสาหกรรมจะได้รับประโยชน์มากที่สุด”
อ.มาศคาดการณ์ว่า ราคาที่ดินจะทะยานขึ้นไปในระดับ 2-3 เท่าในช่วง 2 ปีข้างหน้า จึงแนะนำไว้ว่า หากใครมีญาติมีคอนเนกชันอยู่ทางนั้นจะหาซื้อเก็บก็จะได้มีโอกาสทำกำไร
โดดเด่นแห่งปี
ธาตุน้ำของปีนี้ อ.มาศเปรียบว่า เสมือนเป็นไอน้ำ แต่ว่าพลังน้ำตัวนี้ เป็นน้ำเหมือนไอน้ำในด้านบวกจะมีการประดิษฐ์คิดค้นอะไรใหม่ๆ ขึ้นมา ปีหน้าจะเป็นปีแห่งการประดิษฐ์ คิดค้นสิ่งใหม่ มีประดิษฐกรรมแปลกๆ ใหม่ๆ เกิดขึ้นมาบนโลก
“บอกได้ว่าปี 56 จะเป็นปีแห่งการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ นี่คือด้านดีของปีธาตุน้ำ”
แต่ในอีกธาตุหนึ่งมะเส็งเป็นไฟที่เป็นหยิน ยังเกี่ยวกับความรัก ความมีเสน่ห์ อ.มาศชี้ว่า ธุรกิจโรงภาพยนตร์ ภัตตาคาร เอนเตอร์เทนเมนต์ จะมีงานดี คาดว่าปีหน้าจะมีหนังใหม่ๆ ที่สร้างกระแสหวือหวาตื่นเต้นทำรายได้ต่างๆ ออกมามากมาย
“คุณสมบัติของปีธาตุน้ำจะเป็นโชคลาภของธาตุดิน ดังนั้นอสังหาริมทรัพย์จะบูม โดยเฉพาะถ้าทำแนวใกล้งู นั่นคือรถไฟฟ้า หรือตามทางด่วนที่สร้างใหม่ คือเส้นทางรูปงูทั้งหลายจะบูมในปีหน้าเป็นพิเศษ”
ในส่วนของเศรษฐกิจหลังจากเป็นช่วงปีโดดเด่นของธาตุทองที่ราคาพุ่งเหวี่ยงจนหลายคนต้องจับจ้อง หรือถึงขั้นเทขายหมดหน้าตัก ปี 56ที่จะถึงนี้ อ.มาศคาดว่าจะเป็นปีที่หุ้นมาแรงจากเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวในประเทศแถบยุโรปและอเมริกา ซึ่งเป็นไปตามวงรอบของกระแสพลังงานตามหลักฮวงจุ้ยเช่นกัน
“หุ้นปีหน้าก็จะขึ้น - ลงรุนแรง ปีหน้าเป็นปีที่หุ้นเปลี่ยนและเหวี่ยง แต่ภาพรวมยังเป็นขาขึ้น ฉะนั้น ปีหน้าถ้าใครสนใจจะซื้อเก็บก็ได้ เพราะเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว อเมริกาฟื้น ยุโรปฟื้น เมืองไทยก็ได้ประโยชน์ด้วย”
ในส่วนของช่วงเวลานั้น อ.มาศเผยว่า มิถุนายนเป็นเดือนที่ดี การเงินดี เศรษฐกิจดี ที่ดินราคาขึ้นชัดเจน จะมีคนได้เลื่อนชั้นเลื่อนตำแหน่ง อาจจะมีการปรับ ครม. เมื่อถึงกรกฎาคมราคาทองก็จะดีขึ้นถ้าใครติดตามเรื่องราคาทองเดือนกรกฎาคมถือเป็นเดือนที่น่าสนใจ
ข้ามมาถึงเดือนกันยายน อ.มาศเผยว่า เป็นเดือนที่เงินไหลเข้ามาในประเทศเรามากเป็นพิเศษ ราคาทองมีโอกาสจะขึ้น สูงสุดช่วงเดือนสิงหาคม จนถึงกันยายนนี้ หากใครจัดการควรจับจังหวะนี้ปล่อยทองได้แล้ว เพราะหลังจากนั้นราคาทองก็จะตกยาวอีกหลายปีและจะไม่ขึ้นอีกแล้ว
ปีชง - ดวงเฮง!
ปีชงเป็นสิ่งที่น่ากลัวเสมอสำหรับหลายๆคน ในปีนี้ตามหลักฮวงจุ้ยมะเส็งนั้นชงกับกุนเป็นคู่ปะทะโดยตรง ดังนั้นอ.มาศแนะนำว่า ใครเกิดปีกุน หรือเกิดพฤศจิกายนซึ่งในทางฮวงจุ้ยเป็นเดือนกุน ก็ควรจะระมัดระวังไม่ทำอะไรที่ต้องเสี่ยง
“ถ้าทำอะไรที่เสี่ยงจะรับผลร้าย ไม่เสี่ยงไม่ซวย เช่นไปเดินทางในที่แปลกไปทำกิจกรรมใหม่ๆ พวกนี้มีความเสี่ยง ถ้าไม่ทำอะไรที่มีเกณฑ์เสี่ยงเลย ก็จะไม่เกิดเรื่องร้ายเลย สำหรับผู้ใหญ่ก็จะมีโอกาสเจ็บป่วย เสียทรัพย์สินได้”
ชงอันดับ 2 หรือที่ในทางฮวงจุ้ยเรียกว่า เฮ้ง คือการโดนลงโทษแบบเบา อ.มาศเปรียบว่า ชงเหมือนการขับรถชน ส่วนเฮ้งเหมือนรถชนแบบเฉี่ยวๆ มีบุบบี้เล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งเฮ้งปีนี้ก็ได้แก่ ปีขาลกับปีวอก
“สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือโดนคนอื่นเขาเบียดเบียนทำให้เดือดร้อน อาจโดนให้ร้ายทำให้เกิดการแตกหักแตกแยก และคนปีขาลกับวอกจะโดน 2 เด้ง”
ในส่วนของคนดวงดีหากเป็นในเชิงธุรกิจการเงิน โชคตกเป็นของคนปีระกา ฉลู และวอกที่แม้ส่วนของความสัมพันธ์ไม่ดีแต่โชคลาภดี เดินทางดี ญาติผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน โดยมีแววว่าจะได้รับมรดก ได้เงิน หากเป็นคนโสดก็จะมีคนมาหา คนที่มีแฟนก็มีโอกาสได้แต่งงาน คนที่แต่งงานก็ระวังจะมีมือที่สามเข้ามาหา เป็นปีแห่งเสน่ห์ของคนปีระกา ฉรู และวอกนั่นเอง
คนเฮงรองลงมามีเพียงปีชวดเท่านั้น โดยความสำเร็จที่ดีต้องออกแรงเพื่อให้ได้มา อ.มาศเปรียบเหมือนพบทองตกอยู่ตรงหน้ายังต้องออกแรงเก็บ ในส่วนของปีอื่น มีโชคมีร้ายสลับบ้าง ไม่ถึงกับดีหรือแย่เป็นพิเศษ ปีเถาะมีอุปสรรค์ แต่ก็ไม่เยอะมาก จะมีหงุดหงิดฉุนเฉียวบ้าง ให้เน้นเอาธรรมะเข้าข่ม ส่วนปีมะโรงมีโชคน้อยลงหน่อย งานมีอุปสรรค์บ้างแต่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง คนปีมะเมียจะมีความท้าทายเกิดขึ้น มีคู่แข่งอุปสรรคแต่ไม่มีเรื่องอุบัติเหตุเสียหายเลวร้ายอะไร เช่นเดียวกับคนปีมะแมที่ต้องเตรียมรับกับสถานการณ์ให้ดี ส่วนปีจอดวงดีขึ้น เพราะปีที่แล้วเป็นปีชง ทำให้เริ่มก้าวพ้นอุปสรรค ดวงกลับไปในทางบวกแล้ว
“ส่วนคนปีมะเส็งใครดีก็ดีสองเท่า ใครร้ายก็ร้ายสองต่อ เพราะปีมะเส็ง ปัจจุบันถ้ามีปีมะเส็งเข้ามา เหมือนเข้ามาขี่ เข้ามามอบพลังให้ ถ้ารับไหวก็คือเฮงเป็นสองเท่า แต่ถ้าไม่ไหวก็คือซวย และจะซวยสองต่อสองเด้ง”
เหนือ - ใต้ - ตอ.เหนือ ทิศมหาเฮง!
ในศาสตร์ของฮวงจุ้ยนี้ พลังของทิศทางจะมีส่วนต่อโชคลาภในการดำเนินชีวิต โดยให้วางบ้านไว้ทั้งหมด แล้วใช้ศูนย์กลางของห้องแต่ละห้องในบ้านเป็นจุดแบ่งทิศ
ทิศไม่ดีคือทิศตะวันออก เอียงไปถึงทิศใต้ 45 องศา
คำเตือน - บ้านคนแต่ละหลังให้ระวังอย่าเคาะ ตอก เจาะ ทุบ รื้อ ทางทิศตะวันออกของบ้าน ห้ามตัดต้นไม้ ขุดดิน ก่อสร้างตกแต่ง เท่ากับไประเบิดพลังไม่ดีออกมา ก็จะเกิดเรื่องร้ายต่อเนื่อง มีเหตุเสียทรัพย์ เกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้น เจ็บป่วยไม่คาดฝัน ถ้าทำหนักๆ ทำแรงๆ อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้
ทิศโชคลาภคือ ทิศใต้ ทิศเหนือ กับทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ข้อแนะนำ - ที่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือในบ้าน ให้ตั้งพวกโคมไฟสีชมพู สีแดง สีเหลืองจะนำโชคมาให้ เปิดไว้ 24 ชม.ยิ่งดียิ่งเฮงแล้วจะมีโอกาสทางธุรกิจเข้ามา ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้หากอยากส่งเสริมเรื่องการศึกษา อยากให้ลูกๆ ขยันเรียนให้ไปอ่านหนังสือทิศตะวันออกเฉียงใต้ แต่ถ้ามุมนั้นไม่เหมาะจะตั้งโต๊ะอ่านหนังสือสามารถเอาต้นไผ่กวนอิมแช่น้ำไปตั้งทางทิศนี้ ยิ่งสูง เขียว ชอุ่ม ก็จะยิ่งกระตุ้นให้เด็กหันมารักเรียนมากขึ้น แต่ถ้าอยากเสริมความรัก ที่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ให้เปลี่ยนเป็นใส่ดอกไม้แทน ถ้าใส่ดอกไม้สวยๆ กลิ่นหอมๆ จะกระตุ้นความรักให้ดีขึ้น จะสามารถรับพลังรับกลิ่นจากดอกไม้เข้ามาได้มากขึ้น วางไว้ในห้องนอนได้ยิ่งดี ส่วนทิศเหนือ หากใครชอบโชคลาภลอยให้กระตุ้นทิศนี้ด้วยการเอาน้ำพุไปตั้ง โดยน้ำพุต้องดูสวยมีพลังให้น้ำเด่นกว่าวัสดุ
ภาพโดย พงษ์ฤทธิ์ฑา ขวัญเนตร
