ทันทีที่เที่ยวบิน TG917 ร่อนลงสู่ผืนแผ่นดินไทยพร้อมทัพนักกีฬาโอลิมปิก “เสี่ยตัน ภาสกรนที” ก็เดินเท้าเข้าแทรกฝูงชน ฝ่าวงล้อมการ์ด พร้อมกับกระเป๋าหนังใบใหญ่ เมื่อเห็นบุคคลซึ่งเป็นจุดมุ่งหมาย “แก้ว พงษ์ประยูร” ฮีโร่เหรียญเงินของไทย จึงตรงดิ่งเข้าไป เปิดกระเป๋ารับขวัญและปลอบใจด้วยเงินสด “10 ล้าน”!! ตามที่ได้ประกาศเอาไว้ในเฟซบุ๊กว่าจะเดินทางไปให้ด้วยมือของตัวเอง
ภาพเหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ในสื่อทุกแขนง โดยเฉพาะเพจ “ตัน ภาสกรนที” เองที่มีคนพร้อมใจเข้ามากด Like กดแชร์ให้ผู้บริหารใจป้ำคนนี้นับแสนราย หลายคนยกย่องให้เขาเป็น “พ่อพระ” รวยแล้วยังรู้จักแบ่งปัน แต่อีกหลายรายกลับมองว่าเขาคือ “นักฉวยโอกาส” รู้จักบริจาคได้ถูกที่ถูกเวลา ทุกอย่างที่เขาทำก็เป็นเพียงกลยุทธการตลาดเพื่อเกาะกระแส-ขายแบรนด์เท่านั้นเอง
ถูกด่าทำบุญเอาหน้า!
“นี่คือวิธีการทำการตลาดแบบหนึ่งที่ถือว่าใช้เงินน้อย ในเวลาเดียวกันก็ได้ข่าวดังไปทั่วโลก ทำตัวเป็นยานเกาะ โหนกระแสที่ข่าวคนดัง น้อยคนนักที่จะยอมเสียเงินฟรีๆ โดยไม่ต้องการผลตอบแทนเลย จะว่าเป็นการสร้างภาพก็อาจเรียกได้ แต่ที่แน่ๆ ก็คือเป็นวิธีโฆษณาที่เเยบยล ได้กับได้ Win-Win อยู่ในงบประชาสัมพันธ์อยู่แล้ว ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก ในเมื่อเขาฉลาดแยบยลกว่า ก็ทนให้เขาหลอกต่อไป”
“นักโฆษณาตัวยง ต่อไปแก้วต้องออกทีวีพร้อมกับคุณตัน ถูกกว่าซื้อเวลาโฆษณาทางทีวี-หนังสือพิมพ์ตั้งเยอะ ก็แค่รู้จักฉวยโอกาสเท่านั้นเอง”
“ถึงแม้มันจะเป็นการสร้างภาพ แต่อย่างน้อยเงิน5ล้าน10ล้าน มันก็เข้ากระเป๋าคนที่สมควรจะได้อะไรบ้าง ดีกว่าเอาเงินไปจ่ายค่าพรีเซ็นเตอร์ให้อั้ม, ณเดชน์, ญาญ่า”
“ใจป้งใจป้ำอะไรกัน นี่มันจังหวะส่งเสริมการตลาดอันสุดคุ้มของแบรนด์ตันต่างหาก จ่ายแค่ 10 กว่าล้าน ประหยัดงบโฆษณาเป็น 100 ล้าน ยอดขายน้ำพุ่งกระฉูด กำไรปลิ้น”
“ผมจะเล่าอะไรให้ฟังอย่างหนึ่ง เจ้าสัวเฉลียว เจ้าของกระทิงเเดง ทำบุญเยอะมาก สร้างวัด ช่วยเหลือคนมากมาย เเต่พวกคุณที่ไม่ใช่คนทำงานใกล้ชิดเจ้าสัวจะไม่มีวันทราบเลย เพราะท่านทำบุญด้วยใจจริง ไม่เคยต้องการเอาหน้า บางวันท่านเเต่งตัวโทรมๆ ไปเข้าวัดทำบุญด้วยซ้ำ”
“ผมยังคิดว่าเสี่ยตันไม่บริสุทธ์ใจในการบริจาคอยู่ดี คือหวังโฆษณาสร้างภาพ อย่าลืมตอนคุณออกจากช้าง ภาพลักษณ์คุณดูไม่ดี ตอนนี้เลยต้องฟอกตัวกับการบริจาคน้ำท่วม บริจาคฮีโร่โอลิมปิก อย่าบอกว่าคุณมีเงินแล้วบริจาค แต่คนมีเงินคนอื่นไม่บริจาค คุณรู้ได้ยังไง? ผมเองเป็นเศรษฐีพันล้าน ผมก็บริจาคมากกว่าคุณ แต่ผมไม่เห็นต้องโฆษณาตัวเอง ไม่เห็นต้องโฆษณาธุรกิจของตัวเองเลย”
ทั้งหมดนี้คือมุมมองจากชาวเน็ตที่คนกดโหวตถูกใจมากที่สุดบนเว็บผู้จัดการออนไลน์ หลังข่าวเรื่องการบริจาคเงินครั้งนี้ถูกเผยแพร่ออกไป หลายคนตีความไปว่าเบื้องลึกเบื้องหลังของการกระทำทั้งหมด มันคือการตลาดชัดๆ
เกาะกระแส-มีแต่ได้
ลองเข้าไปดูในเพจ “ตัน ภาสกรนที” ตลอดช่วงกระแสจะเห็นว่าเขาโพสต์ข้อความและภาพให้สาธารณชนรับรู้อยู่ตลอด ตั้งแต่คำประกาศว่าจะบริจาคเงินส่วนตัวเพื่อสนับสนุนฮีโร่โอลิมปิกทั้งหลายที่อัพเดทเข้ากระแสชนิดวันต่อวันเลยทีเดียว
“ผมขอให้กำลังใจนักกีฬาทีมชาติไทยทุกคน!! 10 ล้านบาทสำหรับเหรียญทอง, 1 ล้านบาทสำหรับเหรียญเงิน, 5 แสนบาทสำหรับเหรียญทองแดง และรางวัลปลอบใจ 2 แสนบาทสำหรับน้องปุ๊กลุ๊ก-รัตติกาล กุลน้อย, น้องมายด์-สิริวิมล และที่ 4 ทุกคน… ขอให้ได้เหรียญโอลิมปิก 2012 กลับเมืองไทยมาเยอะๆ เพื่อความสุขของคนไทยทั้งชาติ เพื่อให้ธงชาติและเพลงชาติไทยก้องไปทั้งโลก เพื่อเป็นของขวัญในวันแม่ ให้กับคุณแม่ทั้งประเทศ และเพื่อให้ในหลวงของเราปลื้มปิติ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน… ตัน อิชิตัน ณ นิวยอร์ก U.S.A”
“ผมขอมอบรางวัล ชนะใจคนไทยทั้งประเทศ ให้กับ แก้ว พงษ์ประยูร เต็มเต็ม 10 ล้านบาท ตามที่ตั้งใจไว้ ถึงแม้ผลการตัดสินออกมาเราจะได้เหรียญเงิน แต่สำหรับผมคนไทยได้เหรียญทองอย่างสมศักดิ์ศรีแล้วครับ แก้วได้หัวใจคนไทยทั้งประเทศและผู้ชมทั่วโลกที่ได้ชมการถ่ายทอดอย่างไร้ข้อกังขา ถึงแม้ไม่ใช่เหรียญทองที่ลอนดอน แต่เป็นเหรียญทองห้อยที่หัวใจคนไทยทุกคน”
กระทั่งอัพภาพตัวเองสวมนวม เชียร์แก้ว พงษ์ประยูร และใส่ชุดเทควันโดเชียร์ เล็กและเป็นเอก ระหว่างชมการถ่ายทอดสด ก็ถูกใจชาวเน็ต จนเชื้อเชิญให้เข้ามากด Like กันเป็นแสนๆ โดยเฉพาะภาพเด็ด “เบิกเงินสด 10 ล้านมาเตรียมไว้ให้ฮีโร่เหรียญเงินอย่างแก้ว” ยิ่งได้ใจใครต่อใครไปเต็มๆ แถมยังกลายเป็นข่าว ออกสื่อทั่วทุกแขนงโดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณา จึงถูกมองว่าทั้งหมดนี้คือแผนการตลาดที่ถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระบบ
เพราะถ้าไม่ได้วางแผนไว้จริง ในช่วงวันหยุดยาวเช่นนี้ คุณตันคงกดเงินสดออกมาเตรียมใส่กระเป๋าไว้ไม่ทันแน่ๆ ไหนจะชื่อภาพและข้อความที่พยายามสื่อออกมาบนโลกออนไลน์ตลอดเวลา ยิ่งสื่อว่าคุณตันต้องการให้ทุกคนรู้ความเคลื่อนไหวในการทำความดีในครั้งนี้
“เบิกเงินสด 10 ล้านไว้แล้ว จะไปมอบให้น้องแก้วด้วยตัวเองที่สุวรรณภูมิ อย่าพี่ให้เบิกมาเก้อ ฮึดสุดท้ายสู้เต็มที่เพื่อความสุขและชื่อเสียงของประเทศไทย เหรียญทอง เหรียญทอง เหรียญทอง!!!”
กระทั่งวินาทีที่เงินปึกใหญ่เดินทางไปถึงมือฮีโร่โอลิมปิก เขาก็ไม่ลืมโพสต์ภาพอย่างทันท่วงทีเพื่อให้คนเข้ามากด Like กดแชร์ รับคอมเมนท์ชื่นชมกันไปมาภายในเพจ
“เงินสด 10 ล้านบาท ส่งถึงมือผู้รับโดยสวัสดิภาพ ยินดีกับแก้วด้วยครับ คุณคือนักกีฬาเหรียญทองของคนไทยอย่างแท้จริง คำเตือน...อย่าถ่ายรูปเพลิน จนลืมเอากระเป๋าเงินกลับบ้านนะครับ”
จากก่อนหน้านี้ประกาศเอาไว้ว่าจะมอบรางวัลพิเศษ “เหรียญทองของคนไทย (เหรียญเงินของโอลิมปิก)” ให้แก้ว-พงษ์ประยูร เป็นจำนวน 5 ล้านบาท และมอบให้ แต้ว-พิมศิริ เป็นจำนวน 1 ล้านบาท ก็มีคนตั้งข้อสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าในเมื่อเป็นฮีโร่เหรียญเงินเหมือนๆ กัน เหตุใดคุณตันจึงให้ค่าไม่เท่ากัน
ยิ่งกระแสเชิดชูแก้วมีมากขึ้นเรื่อยๆ จำนวนเงินก็เปลี่ยนไปเป็น 10 ล้าน ย้ำให้เห็นค่าความต่างของเหรียญเงินในมือ “แต้ว” กับ เหรียญเงินในมือ “แก้ว” ชนิดไม่เห็นฝุ่น ยิ่งตีความได้ว่าการบริจาคครั้งนี้หวังผลเพื่อเกาะกระแส สังคมเห็นดีเห็นงามอย่างไร นายทุนก็พร้อมยอมเอาใจในแบบนั้น เพื่อผลสะท้อนกลับซึ่งคาดการณ์เอาไว้แล้วว่า “คุ้มค่าต่อการลงทุน”
สาวกพร้อมสนับสนุน
มองในแง่ดี หลายคนไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยหรือตีความลงลึกรายละเอียดถึงเจตนาที่แท้จริงของเจ้าของเงินนับหลายล้านอย่างคุณตัน เพราะเห็นว่า ไม่ว่าจะทำไปเพื่ออะไร อย่างน้อยก็เป็นการกระทำที่น่าชื่นชม ควรค่าแก่การสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะแฟนๆ ที่ปลื้มในความสามารถและภาพลักษณ์น่ารักๆ ของคุณตันอยู่แล้ว ยิ่งยินดีจะสนับสนุนสินค้าของเขาอย่างเต็มที่ เพื่อตอบแทนน้ำใจครั้งนี้ที่มีต่อพี่น้องชาวไทย และนี่คือคอมเมนท์ตอบกลับที่สุดแสนจะน่าชื่นใจบนเฟซบุ๊กของคุณตัน
“หนูจะกินอิชิตันเยอะๆ เลยค่ะ เพราะคนทำใจดีด้วยเเละอิชิตันอร่อยมากทุกรสเลย เเฮ่ (Nong Numwhan)”
“สุดยอดครับคุณตัน รวยแล้วไม่ลืมตัว ช่วยเหลือแบ่งปันให้สังคมมาตลอด ขอปรบมือให้ครับ (กุดจี่พเนจร คนเขมราฐ)”
“ชอบคุณตัน ฉันจะดื่มแต่อิชิตัน!! (Fen Sophachairak)”
“มีคนแบบคุณตันสัก 10 ล้านคนในประเทศไทย รับรองยิ่งใหญ่กว่าชาติใดในโลกแน่ๆ (Tongtong Tong)”
“โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบดื่มน้ำอะไรก็ตามที่มีรสหวาน แต่พอมาเห็นเจ้าของน้ำดื่มที่มีน้ำใจล้นเหลือตั้งแต่เมื่อตอนน้ำท่วมครั้งที่แล้ว ดิฉันก็ซื้อทานบ้างเป็นบางครั้ง แต่พอมาครั้งนี้ยิ่งประทับใจมากถึงมากที่สุด ก็ได้แต่บอกลูกหลานและคนใกล้ชิดช่วยกันอุดหนุนเครื่องดื่มของคุณตัน และบอกว่าถ้าคิดจะมองหา ให้มองของคุณตันเป็นคนแรก (Jutatong Pengpromma)”
“ผมจะกินแต่อิชิตัน เพราะผลกำไรย่อมย้อนกลับมาสู่สังคมไทย ^^ (Atom Arr)”
“นับถือใจคุณตัน... สัญญาว่่าเราจะไปซื้ออิชิตันกินเป็นการตอบแทนน้ำใจคุณตัน (Sincere Cat)”
“เฮียคราฟ งั้นเวลาเด็กไทยแข่งโอลิมปิควิชาการได้เหรียญทอง เฮียแจกด้วยนะ เพราะผมคิดว่ามันก็น่าจะมีประโยชน์ไม่แพ้กันกับกีฬา (สาระไม่มี หน้าตาดีไปวันวัน)”
“แก้วได้เหรียญทองในใจคนไทย คุณตัน เป็นขวัญใจของคนไทยทั้งประเทศ :) (อุษา พงศ์ประภากรณ์)”
“คุุณตันโออิชิ คุณยอดเยี่ยมมาก ขอแสดงความนับถือจริงๆ ครับ ถึงจะเป็นผลกำไรของธุรกิจ คุณตันน่าสรรเสริญจากใจจริง อยากให้คนไทยเอาแบบอย่างคุณตัน ไม่มีคนลืมพระคุณแน่นอนครับ (Tawin Klahan)”
แต่ไม่ว่ากระแสสังคมจะตอบรับการกระทำของเขาออกมาในรูปแบบไหน ที่แน่ๆ อีก 4 ปีข้างหน้า ผู้ชายคนนี้ก็ยังคงยืนยันว่าจะทำแบบเดิม...
“ขอประกาศล่วงหน้า 4 ปี ผมให้เหรียญทองเหรียญละ 10 ล้าน สำหรับ โอลิมปิกปี 2016 ขอให้น้องๆ นักกีฬาเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ ฝึกให้หนักขึ้น หนักขึ้น และหนักขึ้น นักกีฬาโอลิมปิกถึงแม้ไม่ได้เหรียญทอง ทุกคนเป็นฮีโร่ของคนไทย ส่วนทหารต้องสละชีวิตเพื่อปกป้องประเทศ พวกเค้าคือซูเปอร์ฮีโร่ของคนไทยเช่นกัน ขอบคุณที่ทำหน้าที่แทนคนไทย นำชื่อเสียงและเกียรติยศให้กับประเทศไทย”
ทุกวงการมีเบื้องหน้าและเบื้องหลัง เหรียญมีสองด้าน เรื่องราวทุกอย่างมีหลายมุมมอง เพราะฉะนั้น ไม่ว่าการกระทำครั้งนี้จะถูกสายตานับล้านวิพากษ์วิจารณ์ออกมาในมุมไหน เชื่อว่าหลายคนมีคำตอบในใจอยู่แล้วว่า “ตัน ภาสกรนที” เขาคนนี้คือ “พ่อพระ” หรือ “นักฉวยโอกาส”
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE
