xs
xsm
sm
md
lg

โรคจิต - บ้ากาม เรื่องจริงที่ผู้หญิงไทยคือ “เหยื่อ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


จากข่าวคึกโครมที่ทำให้สาวๆ หลายคนต้องหวาดผวา ที่ชายคนหนึ่งสำเร็จความไคร่ใส่ผู้หญิงที่กำลังนั่งรอรถประจำทางอยู่ที่ป้ายบริเวณถนนวิภาวดี 60

แม้ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้รับแจ้งความก็ตาม ประเด็นนี้ก็ทำให้เกิดเป็นคำถามว่า พฤติกรรมเบี่ยงเบนหรือที่ใครหลายคนเรียกกันว่า โรคจิต ในสัมคมไทยนั้น เกิดขึ้นในลักษณะอย่างไรบ้าง แม้ว่าในปัจจุบันจะยังไม่มีผลการศึกษาเชิงวิชาการเกี่ยวกับเรื่องนี้ และอาชญากรรมทางเพศหลายครั้งผู้ถูกกระทำก็เลือกที่จะปิดบังมากว่าเข้าแจ้งความ

กับค่านิยมที่ไม่พูดเรื่องเพศในสังคมปิด ดูเหมือนปัญหาที่เกิดขึ้นบางทีก็ซ้อนตัวอยู่ในปมปัญหา

เรื่องจริงเจอโรคจิต

ตามหลักการแล้ว หากจะบอกว่าใครเป็นโรคจิตนั้นต้องผ่านการรับรองโดยนักจิตวิทยา แต่ในนิยายของคนทั่วไป โรคจิตน่าจะหมายถึงผู้คนที่มีพฤติกรรมผิดแปลกไปตามคนทั่วไป จนทำให้รู้สึกแปลกใจตกตะลึงจนต้องร้องว่า ไอ้โรคจิต!

จากคำบอกเล่าในกระทู้หนึ่งบนเว็ปบอร์ดพันทิป สมาชิกคนหนึ่งเล่าว่าขณะที่ตัวเองนั่งรอรถเมล์อยู่ที่ศาลารอรถย่านวิภาวดีก็มีชายขับมอเตอร์ไซค์มาจอดข้างทางแล้วลงมาสำเร็จความใคร่ต่อหน้าขณะยังสวมหมวกกันน็อค

“ชักสองสามครั้ง มันก็พ้นใส่หน้าเรา แต่เราเบี่ยงตัวหลบทัน มันเลยมาหกอยู่ข้างๆ ที่นั่งเรานั่นแหละ หวิดไปนิดเดียว”

จากนั้นในกระทู้เดียวกันก็มีผู้คนเข้ามาบอกเล่าถึงเหตุการณ์ในทำนองเดียวกันอีกหลายต่อหลายกรณี
มีตั้งแต่กรณีที่หลายคนอาจเคยได้ยินข่าวมาบ้างอย่างพวกชอบโชว์ตามที่ต่างๆ ซึ่งสมาชิกคนหนึ่งเล่าถึงเรื่องที่ตัวเองเคยเจอว่า ขณะที่กำลังนั่งเลือกซื้อหนังสือเคยมีคนเข้ามาโชว์ของสงวนจ่อในระดับเดียวกับหน้า สมาชิกอีกคนก็เล่าว่า เคยเห็นคนสำเร็จความใคร่ที่หอสมุดแห่งชาติ ยังมีกรณีแปลกๆ อย่างที่ของสมาชิกคนหนึ่งที่ระหว่างรอรถประจำทางก็มีรถคันหนึ่งจอดเปิดกระจกไว้โดยมีชายแก่กำลังสำเร็จความใคร่พร้อมดูหนังโป๊อยู่ในรถ แม้กระทั่งในห้องน้ำผู้ชายก็มีคนยืนสำเร็จความใคร่ตรงที่ยืนปัสสาวะ

จากหลายๆ ความคิดเห็นดูเหมือนกรณีการสำเร็จความใคร่ตามที่ต่างๆ นั้นดูจะเป็นสิ่งที่หลายคนเคยเจอ

กลุ่มพฤติกรรมประเภทนี้แน่นอนว่าอาจมีในสังคมไทยมาช้านานแล้ว แต่ก็ไม่เคยเป็นที่พูดถึงความจริงจัง โดยอาจมองเป็นเรื่องตลกไป ทำให้ข่าวอย่างโรคจิตถ้ำมองชาวบ้าน ขโมยชุดชั้นใน หรือแม้แต่การถูกลวนลามบนรถประจำทางดูจะกลายเป็นเรื่องปกติเกินไป จนทำให้ตอนนี้พฤติกรรมเหล่านี้ก็ดูจะมีท่าทีที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ผู้มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนกับอาชญากรรม

พฤติกรรมที่หลายคนร้องใส่ว่า โรคจิต นั้น ตามหลักวิชาการแล้วจะระบุพฤติกรรมเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ โดยมีความซับซ้อนแตกต่างกันตามสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งสามารถแบ่งได้หลายประเภทมาก แต่ที่จะพบเป็นข่าวก่อให้เกิดความเดือดร้อนได้จะมีเป็น 6 ประเภทเด่นๆ ดังนี้

1. ถ้ำมอง คือภาวะของคนที่ได้รับความสุขทางเพศจากการแอบดูร่างกายเปลือยตามสถานที่ต่างๆ พบได้ทั้งชายและหญิง แต่โดยมากแล้วจะพบในผู้ชายและมักพบในช่วงวัยรุ่น โดยตามหลักจิตวิทยาแล้ว การดูสื่อลามกหรือหนังโป๊ก็เป็นพฤติกรรมที่อาจเปลี่ยนไปสู่การถ้ำมองได้

2. การแอบถ่ายภาพเปลือยผู้อื่น คือภาวะที่คนมีความสุขทางเพศจากการได้ถ่ายภาพเปลือยผู้อื่น

3. ชอบโชว์อวัยวะ คือภาวะที่คนได้รับความตื่นเต้นพอใจทางเพศกับการได้เปิดเผยอวัยวะเพศของตนในที่ต่างๆ อาจเป็นในหอพักนักเรียนหญิง สวนสาธารณะ หรือที่ลับตาคน เป็นต้น

4. วัตถุกาม เป็นการใช้สิ่งของมาสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง อาจเป็นถุงน่อง กางเกงใน ยกทรงด้วยการสัมผัสกอดจูบกับสิ่งนั้น

5.ถูไถอวัยวะเพศกับผู้อื่นเพื่อความสุขทางเพศ โดยมากมักจะกระทำบนรถประจำทาง งานวัด ห้างสรรพสินค้า บริเวณตลาดหรือบริเวณที่มีผู้คนหนาแน่น

6.มีความสุขจากการพูดคุยลามก คือภาวะของคนที่ได้รับความสุขทางเพศจากการได้กล่าวคำที่ไม่สุภาพ คำหยาบคายอนาจารไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์หรือการสื่อสารทางอื่น โดยอาจมีพฤติกรรมติดต่อไปหาคนที่ไม่รู้จัก พูดเรื่องลามกพร้อมช่วยเหลือตัวเอง

โดยพฤติกรรมเบี่ยงเบนทั้งหมดในทางอาชญาวิทยาแล้ว อัจฉราพรรณ จรัสวัณน์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ภาควิชาอาชญาวิทยาและงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มองว่าจะเป็นความผิดก็ต่อเมื่อผิดกฎหมาย

“หากสิ่งที่ผู้มีความเบี่ยงเบนทำนั้นผิดต่อกฎหมายก็จะถือว่าเป็นอาชญากรรมเบี่ยงเบน”

คนที่กระทำการประเภทนี้สามารถแบ่งได้เป็น 3 ระดับด้วยกัน 1. คือเป็นคนธรรมดาที่อาจจะมีแนวโน้มว่าจะชอบเรื่องพวกนี้ หรือเป็นคนตลกที่ทำเพื่อความสนุกตามช่วงวัยทั่วไป 2. มีพฤติกรรมเบี่ยงเบน มีดีกรีเพิ่มขึ้น ในทางจิตวิทยาเรียกว่า เสพติด 3. อาชญากรรมทางเพศ คือเสพติดการกระทำนั้นจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จนทำให้ไปบังคับขู่เข็ญผู้อื่นจนเกิดเป็นอาชญากรรมขึ้น

โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดพฤติกรรมแบบนี้จากผลการศึกษาของต่างประเทศ มีอยู่หลายปัจจัยด้วยกัน อาจเกิดจากการเลี้ยงดูที่มีการสอนเรื่องเพศที่ผิด อาจมาจากพฤติกรรมเลียนแบบในหมู่เพื่อนฝูง หรืออาจมาจากความชอบส่วนตัวโดยปัจเจกก็เป็นได้ ทั้งนี้การจะดูว่าเริ่มมีความผิดปกติอย่างไรนั้นสามารถดูได้จากระดับของความต้องการ หากเริ่มมีความถี่ที่อยากทำมากขึ้น เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ นั่นคือเริ่มมีความผิดปกติแล้ว

แต่พฤติกรรมเบี่ยงเบนหลายอย่างก็ไม่ผิดกฎหมาย จึงไม่ถือว่าเป็นการก่ออาชญากรรม โดย อัจฉราพรรณ ยกตัวอย่างว่า พวกที่ชอบโชว์ อย่างผู้หญิงที่ใส่เสื้อผ้ารัดให้เห็นหน้าอก หรือผู้ชายที่ใส่กางเกงรัดๆให้เห็นของสงวนชัดเจนก็ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย

ทั้งนี้พฤติกรรมเบี่ยงเบนที่มีในสังคมไทยนั้น ไม่สามารถบอกว่ามีมากหรือน้อยได้ ด้วยเพราะว่า ประเทศในแถบเอเชียเรื่องเพศยังเป็นเรื่องปิดอยู่ ทำให้ยังไม่มีการบันทึกหรือพูดคุยกันอย่างจริงจังในเชิงวิชาการนัก

“เมื่อพบอาการแบบนี้ ถ้ารู้ตัวแล้วก็ควรไปพบจิตแพทย์เพื่อทำการบำบัดรักษา เพราะที่สุดแล้ว ความผิดปกติอาจจะถึงขั้นไม่สามารถควบคุมอารมณ์ ศีลธรรมจรรยาในใจได้ คือสามารถนำไปสู่การก่ออาชญากรรมได้”

ในด้านของการป้องกันปราบปรามนั้น พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รองผบช.น.ดูแลงานสืบสวน เห็นว่าแม้กรณีสาดน้ำกามจะยังไม่ได้มีการแจ้งความ แต่หลายกรณีที่เกิดเป็นอาญชากรรมเบี่ยงเบนนั้น เจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการจับกุมเป็นเรื่องปกติ โดยส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นกรณีของการลวนลามหรือทำอนาจารในที่เบียดเสียดอย่างบนรถประจำทาง หรือตามงานต่างๆ

“สิ่งที่พบเยอะๆ คือกรณีอนาจาร จับก้น จับหน้าอก ตามสถานที่ที่คนเยอะ ดังนั้นเวลาที่มีงานอะไร เราก็เตรียมเจ้าหน้าที่ให้พร้อมตามสถานที่นั้นๆ โดยการตามสืบสวนจับกุมหลังจากมีการแจ้งเหตุก็เกิดขึ้นบ่อยๆ”

หากมีการจับกุมความผิดฐานอนาจารก็มีโทษตามมาตรา 278 มีโทษสูงสุดจำคุก 10 ปี ปรับสูง 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ แต่โดยมาก (อย่างในช่วงสงกรานต์) แล้วจะมีการไกล่เกลี่ยปรับเล็กน้อยและยอมความกันเสียเป็นส่วนใหญ่

“ประชาชนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กัน ใครพบเจอบุคคลลักษณะนี้ก็ต้องช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการ ไม่งั้นบุคคลเหล่านี้กจะกระทำความผิดอีก และอาจจะก่อพฤติกรรมที่รุนแรงขึ้นก็ได้”

…...

ดูเหมือนเรื่องของอาชญากรรมเบี่ยงเบนนั้นอาจถึงเวลาที่จะต้องพูดถึงอย่างจริงจังในสังคมนี้เสียที เพราะหากปล่อยให้เวลาผ่านไป ความรุนแรงของพฤติกรรมก็อาจจะเพิ่มมากขึ้นจนไม่มีมาตรการรับมือ

การระมัดระวังตัวเองเมื่อพบเจอกับบุคคลที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่อีกมุมหนึ่งเราก็ต้องทำความเข้าใจด้วยว่า สิ่งที่คนเหล่านี้ทำนั้นเกิดจากอะไร จะรับมือกับผู้คนเหล่านี้อย่างไร จะจับกุม ปรับเงิน หรือบำบัดรักษาพวกเขา?

คู่มือเจอโรคจิต

โรคจิตหรือผู้มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนเหล่านี้มีอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน วิธีรับมือนั้นจึงมีแตกต่างกันไป
พวกที่ชอบโชว์ ตามหลักจิตวิทยาบุคคลพวกนี้จะได้รับความสุขเมื่อผู้พบเจอรู้สึกตกใจ ดังนั้นให้ผู้ที่เจอเหตุการณ์แบบคุมสติไว้ ไม่ตกใจแล้วเดินห่างมาเฉยๆ

พวกโทรศัพท์โรคจิต เพียงแค่รับแล้ววางสาย หรือไม่ก็กดวางสายทันที แต่คนพวกนี้อาจพัฒนาเป็นการก่ออาชญากรรมได้ ทางที่ดีอาจแจ้งตำรวจ หรือพกอาวุธป้องกันตัวเพื่อความปลอดภัยไว้

พวกลวนลามตามที่เบียดเสียดกับพวกถ้ำมอง ต้องรับมือด้วยการแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที หรือร้องขอความช่วยเหลือ

กำลังโหลดความคิดเห็น