หลายปีที่ผ่านมานี้ ค่านิยมวัยรุ่นไทยยิ่งเพี้ยนเข้าไปทุกวัน โดยเฉพาะเรื่องอยากเด่น อยากดัง ถึงขนาดต้องมาโปรโมทตัวเองผ่านสื่อโซเชียล ยอมลงทุนซื้อของแพงๆอัปเกรด โมดิฟายใบหน้าตัวเองจนหมดเงินไปหลายบาท เพียงหวังแค่จะเป็น เน็ตไอดอล ได้ปีนบันไดตะกายสู่ดวงดาวเหมือนอย่างดาราวัยใสหลายๆคน
เน็ตไอดอล ฝันหวานวัยรุ่นอยากแจ้งเกิด
เมื่อสมัย 7-8 ปีที่แล้ว ไม่มีวัยรุ่นไทยคนไหนไม่รู้จักเว็บต้นกำเนิดเน็ตไอดอลอย่าง dek-d.com ที่เปรียบเสมือนแหล่งรวมเหล่าวัยรุ่น กระโปรงบาน ขาสั้นบนโลกออนไลน์ เพราะในตอนนั้นกระแสโซเชียลยังไม่ค่อยฮอตฮิตเท่าไหร่ การมีเว็บบอร์ด หรือกระทู้ เพื่อแบ่งปันสาระความรู้ แชร์รูปภาพ เลยเป็นเทรนด์นิยมในช่วงนั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทู้แชร์รูปภาพของคนหน้าตาดี เป็นดาว-เดือนของแต่ละโรงเรียน แต่ละมหาวิทยาลัย เลยเกิดปรากฏการณ์แจ้งเกิด เน็ตไอดอล หรือ คนดังบนโลกอินเทอร์เน็ต หลายคนที่โชคดีหน่อยก็มีโอกาสได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ได้เป็นดารานักร้องวัยใสโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงโด่งดังกันไป แต่มาในยุคหลังที่มีโซเชียล มีเดีย อย่าง Hi5, Facebook เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ปริมาณความอยากเป็นเน็ตไอดอลของวัยรุ่นเพื่อหวังดังทางลัดก็มากตาม จะเห็นได้เลยว่าในช่วง 3-4 ปีมานี้ เหล่าเน็ตไอดอลเกิดขึ้นมากมายละลานตาเพราะอยากเป็นคนมีชื่อเสียงมีคนล้อมหน้าล้อมหลังนั่นเอง
โฟร์-ศกลรัตน์ วรอุไร ก็เคยได้รับตำแหน่งนี้ ด้วยความน่ารักสดใสทำให้มีชื่อเสียงในเว็บบอร์ด มีแฟนคลับเป็นของตัวเอง และจากการพูดปากต่อปากของกลุ่มคนบนโลกออนไลน์นี่เอง ทำให้โฟร์เริ่มได้รับโอกาสทางการแสดงมาเรื่อยๆ จนตอนนี้โฟร์ก็ได้เป็นนักร้อง นักแสดง ขวัญใจวัยรุ่นที่ประสบความสำเร็จมากคนหนึ่ง เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ สาวน้อยตาโตยิ้มสวย การันตีด้วยสายสะพาย มิส U-Tip ก็ได้ฉายแววความน่ารักแบบแบ๊วๆมาตั้งแต่ครั้งยังศึกษาอยู่ที่โรงเรียน จนเธอได้ก้าวกระโดดสู่ในวงการบันเทิงจากการถ่ายแบบ เล่นเอ็มวี จนตอนหลังได้เข้ามาเป็นนักแสดงในสังกัดของ GMM Grammy
ขยับมาถึงเน็ตไอดอลชั่วโมงบินน้อยอย่าง ไอด้า-ไอรดา สิริวุฒิ เด็กแนวสุดติสท์ที่เพิ่งสละโสด ก็เคยติดโผ ได้ถ่ายแบบเล่นเอ็มวีและตบเท้ามาเล่นภาพยนตร์เรื่อง “เลิฟ จุลินทรีย์ รักมันใหญ่มาก” พร้อมกับเพื่อนนักแสดงในเรื่องเดียวกัน แพมแพม-ดาราธิป เพียรวัจนธรรม สาวหมวยโนเนะที่ตอนนี้ก็มีผลงานผ่านตาให้เห็นมากขึ้นกับละครทางช่อง 3 อย่างที่ผ่านไปกับแววมยุรา สุดท้ายกับเน็ตไอดอลมาแรงล่าสุดต้อง เอมมี่ สุนันทา เดวา สาวลูกครึ่งเนปาลที่มีกลุ่มแฟนคลับแห่แหนกันกดไลค์ให้ความน่ารักอย่างท่วมท้น ซึ่งถ้าวันนี้จะให้บอกชื่อเหล่าเน็ตไอดอลทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่ให้หมด สงสัยว่าอีกสามวันก็ยังไม่จบ เพราะเดี๋ยวนี้มีกันเกลื่อนมากจนนับกันไม่หวาดไม่ไหวจริงๆ
หลายคนได้ดีจนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นดาวค้างฟ้าอยู่ แต่ก็มีอีกมากเหมือนกันที่ดังแบบวูบวาบ กลายเป็นนางฟ้าหล่นสวรรค์ ดังได้ไม่นานคนก็ลืม แล้วยังโดนพวกมือใหม่เบียดขึ้นมาทำเอาเซ็ง เน็ตไอดอลหน้าเก่าบางคนจึงหันไปตั้งหน้าตั้งตาเรียนและทำงานไปฉันไม่แคร์ แต่ก็มีอีกหลายคนที่ไม่ยอมปลงหันมาเปลี่ยนแนวตัวเองจากลุคน่ารักมาสลัดผ้ากลายเป็นสาวเอ็กซ์ นุ่งน้อยห่มน้อยเพื่อหวังเกาะคำว่า คนดัง ให้อยู่กับตัวเองตลอดไป ทั้งที่ไม่มีใครจดจำได้
อยากเด่นอยากดัง เข้าขั้นโรคจิต ??
นี่แหละหนาไอ้คำว่า อยากเด่นอยากดัง คำเดียวทำเพี้ยนกันไปหมดคนธรรมดาอยากดัง คนดังแล้วก็อยากเด่น วนเวียนไปไม่จบสิ้น แล้ววัยรุ่นช่วงวัยแห่งการโดนจูงจมูกได้ง่ายๆแบบไม่ฟังเหตุผล ก็เลยพลอยติดเอาค่านิยมเพี้ยนๆว่าต้องเด่น ต้องดัง ชีวิตถึงจะเริ่ด ไปด้วย
พอยิ่งเห็นว่าการเป็นเน็ตไอดอลเป็นลู่ทางในการตะกายไปสู่ดาว เด็กวัยรุ่นเลยพยายามโพสต์รูปตัวเองลงในโซเชียล อย่าง Facebook อย่างสนุกสนาน บางคนเพี้ยนถึงขนาดต้องไปศัลยกรรมให้สวย ต้องซื้อของแบรนด์เนมมาอวด เพื่อให้คนมาสนใจมากๆ จนสงสัยว่าสำหรับบางคนที่เพ้อเจ้อมากขนาดนี้เข้าข่ายอาการผิดปกติทางจิตหรือเปล่า ถึงพยายามทำทุกสิ่งอย่างให้ได้รับการยอมรับจากสังคม นายแพทย์ กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์โรงพยาบาลสมิติเวช จึงไขข้อข้องใจว่า
“การสร้างตัวเองทางอินเทอร์เน็ตก็จัดเป็นปัญหาสุขภาพจิตอย่างหนึ่งนะ แต่ไม่ได้หนักมากถึงขนาดเป็นปัญหาทางจิตเวช เป็นการอยากได้การยอมรับจากสังคม อาจจะเกิดจากสาเหตุว่าเขาอยู่ในบ้านที่ไม่ได้รับการยอมรับจากพ่อ-แม่ ทำให้เกิดภาวะภูมิใจในตัวเองต่ำ พอเขาไม่ได้รับการยอมรับจากคนรอบข้างก็จะรู้สึกแย่ เลยต้องหาช่องทางให้คนมาชื่นชมตัวเองอย่างใน Facebook ซึ่งตรงนี้มันอาจทำให้ตกเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาชีพได้ง่ายๆ เพราะบางคนมาบอกให้โป๊มากขึ้น ไปๆมาๆ อาจจะโดนเอาภาพไปแฉหรือแบล็กเมล์ได้
วิธีการแก้ไขในบางรายที่เป็นหนักมากๆ ก็ควรจะไปพบจิตแพทย์ ทำจิตบำบัด ส่วนถ้าเป็นเด็กๆหลงใหลแบบชั่วคราว อันนี้สามารถแก้ไขได้ที่ครอบครัว พ่อแม่ต้องเอาใจใส่ ควบคุมในความหลงใหลได้ปลื้มแบบผิดๆนี้ ซึ่งปัญหาของเยาวชนไทยตอนนี้กำลังมีปัญหามาก เพราะเด็กไทยค่อนข้างเปราะบาง ถูกชักจูงได้ง่าย”
พิมพ์นิยม “เน็ตไอดอล”
เหตุผลหลักที่ดึงดูดให้ใครก็อยากเป็นเน็ตไอดอล ก็เพราะความอยากดัง อยากได้รับการยอมรับจากสังคมตามแบบดาราวัยใสหลายๆคน วัยรุ่นไทยเดี๋ยวนี้เลยหน้ามืดตามัวอยากจะดังจนเต็มแก่ วางแผนโปรโมทตัวเอง อย่างใน Facebook พื้นที่ส่วนตัวของเราก็ไปโพสต์รูปเอาไว้ให้คนมากดไลค์ มาคอมเม้นสร้างกระแส
จากการสังเกตและจับผิดวัยรุ่นไทยในสื่อโซเชียล ประมาณได้ว่ารูปภาพที่เอามาโพสต์กว่า 90% จะใช้พิมพ์นิยมบล็อกเดียวกันทั่วทั้งประเทศไทย ไม่เชื่อก็ลองไปเปิดดู มันต้องมีเคล็ดลับขั้นตอนก่อนสวยวิ๊ง ดังที่จะกล่าวต่อไปนี้อยู่สักหนึ่งข้อแน่นอน ฟันธง !!
ประการแรก ไอเทมสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือ บิ๊กอาย ที่ต้องบิ๊กจริงจนตาโตเป็นไข่ห่าน แบบจะทะลุออกมาได้ทำนองนั้น แล้วยังต้องมาพร้อมกับอายไลเนอร์ความหนา 5 มิลลิเมตร ต่ำกว่านี้ไม่ได้เดี๋ยวคนดูจะไม่เห็นในความสวย และสโลแกนเด็ดของเน็ตไอดอลในยุคนี้คือ “ฉันสวยและรวยมาก” ดังนั้นถ้ามีสมบัติราคาแพงก็งัดออกมาถ่ายให้เห็นด้วย เดี๋ยวเค้าไม่รู้ว่ามีตังค์
ประการที่สอง การจัดองค์ประกอบ ท่าทางก็สำคัญไม่แพ้กัน อย่าได้คิดจะถ่ายหน้าตรงเหมือนรูปติดบัตรประชาชนเชียว ต้องเอียงหน้า 45 องศา ซ้ายขวาแล้วแต่ จะก้มหน้าเงยหน้าเก็บคางก็พิจารณาดูว่าสวยมุมไหน และอาจเพิ่มดีกรีความฮอต ด้วยภาพลักษณ์แบบสาวเซกซี่ขี้เล่น โดยเฉพาะเวลาไปทะเล ขอย้ำว่าอย่าลืมเก็บภาพตัวเองใส่บิกินี่กลับมาอัปโหลด ด้วยรับรองว่าต้องมีคนแห่มากดไลค์ และเก็บไปวิพากษ์วิจารณ์อย่างแน่นอน
ประการสุดท้าย อันนี้สำคัญมากกับขั้นตอนการปรับและตกแต่ง เรียกกันแบบวัยรุ่นว่า สวยด้วยโฟโต้ชอป ที่สามารถปรับสีผิว ลดสิว ลดกระ หรือแม้กระทั่งปรับยกโครงหน้า คางเรียว หน้าแหลม จมูกโด่ง แบบไม่ต้องง้อศัลยกรรม และวิวัฒนาการการเปลี่ยนคนด้วยคอมฯ ยังได้ให้กำเนิดสิ่งมหัศจรรย์ที่เรียกว่า แอป (พลิเคชั่น) บนไอโฟนและแอนดรอยด์ปัจจัยสำคัญลำดับที่ 5 ของคนสวยและรวยมาก ซึ่งหลายๆแอปสามารถเสริมเติมแต่งและปรับสภาพหนังหน้าของคุณได้ภายในเวลาไม่ถึงนาที
ทั้งสามองค์ประกอบหลักแห่งการประดิษฐ์ความงามแบบลวงๆ ที่ยกมาเล่า วัยรุ่นหลายคนก็ทำแทบจะทั้งหมด โดยบางครั้งก็ลืมมองสภาพตัวเองมันเป็นอย่างไร พูดก็พูดเถอะ บางคนขี้เหร่แล้วก็ยังประโคมอะไรให้ยิ่งดูสยองเข้าไปอีก เข้าใจว่าค่านิยมสมัยนี้ต้องสร้างภาพตัวเองให้เด่นดังแต่ ขอร้องว่าจะทำอะไรก็เอาแต่พอดี อย่าให้มันเลอะเทอะเกินเลย จนถึงขั้นเป็นปัญหาสุขภาพจิตก็แล้วกัน !!
>>>>>>>>>>>>>>>>