xs
xsm
sm
md
lg

กรณีแฟนคลับ "ณเดชน์" ความรัก หรือ ความคลั่ง ?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
กลายเป็นประเด็นขึ้นมาทันทีสำหรับการโพสต์ข้อความระบายความในใจผ่านทวิตเตอร์ตัวเองด้วยข้อความทำนอง "ติติง" ไปยังบรรดาแฟนคลับพระเอกฮ็อตสุดคูล "ณเดชน์ คูกิมิยะ" ของ "ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์” หรือที่คนในวงการบันเทิงเรียกกันอย่างติดปากว่า "ป้าแจ๋ว"

นอกจากจะให้เหตุผลของการโพสต์ว่าเป็นเพราะการตามไปเฝ้าเช้าเฝ้าเย็นของเหล่าแฟนคลับจะทำให้ทีมถ่ายทำของกองละคร "ธรณีนี่นี้ใครครอง" ที่ตนรับหน้าที่กำกับอยู่มีปัญหาแล้ว ผู้กำกับชื่อดังยังบอกด้วยว่าข้อความที่โพสต์ไปนั้นถือเป็นการระบายความรู้สึกแทน "ณเดชน์" รวมไปถึงดาราคนอื่นๆ ที่ไม่อาจจะปริปากบอกถึงเรื่องทำนองนี้ได้ด้วยตนเองอีกต่างหาก

“...ที่เราโพสต์ลงในทวิตเตอร์เนื่องจากมีความเข้าใจในตัวณเดชน์ว่าอยู่ในสถานะที่พูดอะไรไม่ได้ เนื่องจากมีแฟนคลับหลายคนค่อนข้างจะเข้ามาในชีวิตเขามากเกินไป จนทำให้เวลาทำงานหรือความเป็นส่วนตัวหายไป ซึ่งเราจึงแค่บอกไปในทวิตเตอร์ว่าอยากจะขอความเป็นส่วนตัว”

“พอบอกไปก็มีทั้งคนเข้าใจและไม่เข้าใจ คนที่ไม่เข้าใจก็จะต่อว่า ว่าเราไปเกี่ยวอะไร เราเข้าใจในความรู้สึกตรงนี้ดี จึงแค่อยากออกมาพูดแทนเท่านั้น ความจริงณเดชน์ก็เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นแต่พูดไม่ได้ ไม่อยากให้แฟนคลับมาตามที่กองถ่าย เพราะกองถ่ายเขาจะไม่ค่อยมีเวลาต้องทำงานตลอด น้องเป็นคนสาธารณะก็จริง แต่ไม่ใช่ส้วมสาธารณะที่ใครจะเข้ามาใช้ก็ได้”

ทั้งนี้ต้องบอกว่ามีน้อยครั้งจริงๆ กับการที่คนทำละครจะออกมาชนกับแฟนคลับนักแสดงของตนเองเช่นนี้ เพราะจะว่าไปแล้วแฟนคลับเหล่านี้ส่วนหนึ่งหรืออาจจะเป็นส่วนใหญ่เสียด้วยซ้ำก็คือกลุ่มคนที่จะติดตามดูละครนั่นเอง

และถึงแม้บทสรุปของข้อความทั้งหมดของผู้กำกับดังจะมองได้ว่าเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ตักเตือนเด็กๆ ทว่าการตักเตือนครั้งนี้ก็ต้องถือว่ารุนแรงอยู่พอสมควร โดยเฉพาะกับวาทกรรมที่ว่า การกระทำต่างๆ ของเหล่าแฟนคลับบางส่วนนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นมาจาก "ความรัก" หากแต่เป็น "ความคลั่ง" มากกว่า
...
มากกว่า "แฟนคลับ"?
ในวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ได้อธิบายความหมายของ "แฟนคลับ" (อังกฤษ: fan club) ไว้ว่า คือกลุ่มคนที่คลั่งไคล้หรืออุทิศตนให้กับบุคคล กลุ่ม แนวความคิด หรือในบางครั้งกับสิ่งไม่มีชีวิต (เช่น อาคารที่มีชื่อเสียง) แฟนคลับส่วนใหญ่จะทุ่มเทเวลาและสิ่งของเพื่อสนับสนุน ในบางครั้งจะมีการตั้งแฟนคลับอย่างเป็นทางการ โดยดำเนินการร่วมกับกลุ่มหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ชื่นชอบโดยตรง แฟนคลับส่วนใหญ่จะเป็นนักแสดง ดารา นักร้อง ทีมฟุตบอล เป็นต้น

ที่ผ่านๆ มาเราอาจจะรับรู้ถึงพฤติกรรมของเหล่าแฟนคลับว่ามีกิจกรรมหลักๆ ต่อคนที่ตนเองชอบไม่หนีไปจากการไล่ซื้อเก็บสะสมของที่ระลึกต่างๆ ตามไปกรี๊ด ตามไปเชียร์ ซื้ออาหาร-ขนมไปฝาก หรือตามไปรุมห้อมล้อม บ้างก็เพื่อขอถ่ายรูป บ้างก็ขอลายเซ็น หรือบ้างก็ขอเพียงให้ได้แตะเนื้อต้องตัว ฯ โดยอาจจะไม่รู้ว่า ณ ปัจจุบัน บางสิ่งบางอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว

"คือของเรานี่ต้องบอกว่าทำงานกันเป็นทีมนะ มีการต่อกันตลอด อย่างฝ่ายประชาสัมพันธ์ก็จะมีทีมอยู่ประมาณ 20 คนก็มีหน้าที่หาข่าว เช็คกำหนดการหมายงานต่างๆ แล้วก็อัพเดตผ่านในบ้านให้แฟนคลับคนอื่นได้ รับรู้"...หนึ่งในทีมงาน "Nadech & Yaya Home" บอกเล่าถึงการทำงานของเหล่าคนชื่นชอบ "ณเดชน์ คูกิมิยะ" และ "ญาญ่า อุรัสยา" ผ่านบ้านที่ตั้งอยู่ในโต๊ะเฉลิมไทย เว็บไซต์พันทิปด็อทคอม (www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12103253/A12103253.html)

สำหรับในบ้าน "NY" นั้นมีสมาชิกทั้งหมด 700 กว่าคนด้วยกัน โดยว่ากันว่าบ้านนี้เป็นบ้านที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาแฟนคลับดารา นักร้อง นักแสดงคนอื่นๆ ที่จะมีสมาชิกอยู่ที่ราวๆ 200 - 300 คน โดยสมาชิกสูงสุดที่นี่อายุอยู่ที่ 70 กว่าๆ และต่ำสุดที่ 5 ขวบ ส่วนข้อมูลที่ถูกนำมาถ่ายทอดก็ค่อนข้างละเอียดทีเดียวทั้งเรื่องของประวัติโพลไฟล์ ภาพ+ผลงานต่างๆ หนังสือกี่เล่ม โฆษณากี่ตัว หรือแม้กระทั่งกิจกรรมความเคลื่อนไหวของดาราทั้งสองในแต่ละวัน

ต้องยอมรับว่าด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารที่ก้าวหน้าของโลกออนไลน์ในยุคปัจจุบันนั่นเองที่ได้ส่งผลให้ความผูกพันระหว่างตัวของแฟนคลับกับดารา นักร้อง นักแสดงนั้นเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก เพราะเหล่าแฟนคลับเองไม่จำเป็นที่จะต้องรอติดตามความเคลื่อนไหวบรรดาดารานักร้องนักแสดงที่ตนเองชื่นชอบผ่านช่องทางจากสื่อมวลชนหลักเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไปแล้ว

"ทีมงานของเราจะอัพเดตกันตลอดว่ามีข่าวอะไร วันนี้เราจะวางการตลาดให้น้องอย่างไร จะด่าสื่อไหน แก้ข่าวอะไร ข่าวตัวไหนทำให้น้องเราเสียหาย ต้องแก้ ต้องชี้แจง น้องมีงานอะไรที่จะออก น้องจะเดินทางไปทำอะไร ที่ไหน อย่างไร บินเที่ยวบินอะไร กี่โมง วันนี้น้องจะลงหนังสือเล่มไหน ซึ่งข้อมูลต่างๆ ของเราค่อนข้างจะเป็นทางการนะ เพราะเราติดต่อกับคนที่ดูแลน้องเขาโดยตรง รวมถึงสมาชิกของเราหลายคนก็ทำงานในหลากหลายวงการ มีคนหลากหลายอาขีพ ทั้งสื่อ ข้าราชการ นักการตลาด นักโฆษณา บางทีก็มีนักข่าวเข้ามาเอาข้อมูลเอาประเด็นของเราไปใช้ก็มี"

ส่วนการออกมาแสดงความคิดเห็นด้วยความรู้สึกที่ไม่พอใจของ "ป้าแจ๋ว" ไปยังแฟนคลับของหนุ่ม "ณเดชน์" ผ่านถ้อยคำที่ค่อนข้างจะรุนแรงนั้น หนึ่งในสมาชิกจากบ้าน "NY" มองว่าจะว่าไปแล้วก็เปรียบเป็นดาบสองคมที่อาจจะมีผลส่งไปถึงตัวของนักแสดงหนุ่มเองอยู่เหมือนกัน เพราะอย่างไรต้องไม่ลืมว่าการที่ดาราคนหนึ่งจะกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ได้นั้นก็ไม่ใช่เพราะเหล่าแฟนคลับหรือที่ช่วยเสริมส่งผลักดัน

"ก็ยอมรับนะว่าแฟนคลับที่ล้ำเส้นมากไปก็มี แต่พวกนั้นจะเป็นแฟนคลับประเภทฟรีแลนซ์ คือไปรวมตัวกันตั้งเป็นกลุ่ม อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ค่อยจะคิดอะไรสักเท่าไหร่ ซึ่งของเรายืนยันว่าไม่ใช่แบบนั้น พวกเราไม่ใช่แฟนคลับแบบว่าไก่กานะ อย่างของเราถ้ารู้ว่ามีใครทำอะไรเกินไป เราก็ต้องมีการเตือนกัน หรือถ้าเตือนแล้วยังทำตัวไม่เหมาะอีกเราก็ต้องบีบออกไปจากบ้านเรา"

"บางครั้งอย่างเรื่องเที่ยวบินถ้าเราลงไปแล้วมันส่งผลทำให้น้องเขาวุ่นวายต้องตกเที่ยวบิน แบบนี้เราก็จะบอกว่าเราจะไม่ลงเราจะไม่บอกรายละเอียดเรื่องนี้แล้วนะ ยืนยันค่ะว่าของเราทำทุกอย่างอย่างมีระบบ เราห่วงน้องเราเป็นที่สุด อย่างที่ป้าแจ๋วพูดมันก็ถูกบางส่วน แต่ว่ามันอาจจะทำให้แฟนคลับส่วนใหญ่เขาไม่พอใจ แล้วมันจะเหมือนกับดาบสองคมเพราะต้องไม่ลืมนะว่าพวกเราเนี่ยแหละที่ช่วยโปรโมตงานน้อง งานอีเว้นท์ต่างๆ ทำตลาดให้น้อง แล้วก็มีกำลังซื้อ มีกำลังที่จะติดตามผลงานของน้องเขา"
...
"รัก" ได้แต่อย่าคลั่ง!
แม้จะเป็นเรื่องของความรัก การยกย่องชื่นชม แต่ก็มีไม่น้อยเช่นกันที่เราจะพบว่าเหตุการณ์เรื่องราวระหว่างเหล่าแฟนคลับกับบุคคลที่ตนเองติดตามเป็นแฟนนั้นมักจะลงเอยด้วยโศกนาฏกรรม

ย้อนไปวันที่ 8 ธ.ค. ปี 1980 โลกต้องสูญเสียนักร้องนักดนตรีชื่อดัง "จอห์น เลนนอน" หลังถูก "มาร์ค แชปแมน" (Mark Chapman) แฟนเพลงที่ป่วยทางจิตยิงเข้าไป 5 นัดจนเสียชีวิตนอกอพาร์ทเมนท์ ดาโกตา ในแมนฮัตตัน ซึ่งหลังก่อเหตุทางด้านของมาร์คก็ไม่ได้หนีไปไหน เขารอกระทั่งตำรวจมาจึงได้บอกตำรวจไปว่า "ฉันนี้แหละที่ยิงจอห์น เลนนอน"

หลังการเสียชีวิตของ "ฮิเดะ" หนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของวงร็อกชื่อดังของโลก "X JAPAN" ในวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 ในสภาพถูกแขวนคอด้วยผ้าเช็ดตัวกับลูกบิดประตูจนกลายเป็นข้อถกเถียงกันว่าเจ้าตัวตั้งใจฆ่าตัวตายหรือว่าอะไร? ไม่นานก็มีข่าวออกมาว่านักเรียนหญิงระดับชั้นมัยธยมปลายในบ้านเราคนหนึ่งได้ฆ่าตัวตายตามนักดนตรีชื่อดัง

นอกจากนี้ก็ยังมีกรณีของ "Lee Hye-ryeon" ดารา-นักร้องดังของเกาหลีใต้ที่ได้แขวนคอตายในอพาร์ตเมนท์ของตนทั้งๆ ที่เจ้าตัวกำลังจะมีผลงานเพลงใหม่ออกมา ส่วนสาเหตุคาดการณ์กันว่าน่าจะมาจากการที่เจ้าตัวเกิดความเครียดจัดกับคำวิจารณ์และคำโจมตีจากบรรดาแฟนคลับทางอินเทอร์เน็ตนั่นเอง

อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ชวนสลดก็คือการฆ่าตัวตายของ "ลี อึน จี" ( Lee Eun Ji) นักเรียนชั้นมัธยมต้นซึ่งเป็นแฟนคลับของวงบอยแบนด์ชื่อดัง "Super Junior" โดยคาดกันว่าสาเหตุที่เธอเลือกจบชีวิตตนเองก็เพราะถูกกลุ่มแฟนคลับ ซูเปอร์ จูเนียร์ ที่เรียกตัวเองว่า "เอลฟ์" โจมตีอย่างหนักหลังจากที่เธอไปถ่ายภาพคู่กับ "คังอิน" ( Kang In ) หนึ่งในสมาชิกของวง
โดยก่อนหน้าเสียชีวิต ลี อึน จี ได้ไปออกรายการทีวีวาไรตี้ชื่อดังรายการหนึ่งของเกาหลีจากการที่เธอสามารถลดน้ำหนักจาก 87 ก.ก. เหลือ 47 ก.ก. ภายใน 3 เดือน และหลังจากที่เจ้าตัวเสียชีวิตแฟนคลับของ Super Junior บางส่วนก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง อาทิ 'น่าเศร้าจริงๆ มันจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรนักหนา เธอแค่ถ่ายรูปกับคนดัง เธอไม่ได้เป็นแฟนเขาสักหน่อย! แฟนคลับเกาหลีผู้หญิงพวกนี้คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของหรือรู้จักกับพวกเขาหรือยังไง .....'

'มันจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรกันนักหนากับแค่ถ่ายรูปคู่กับหนึ่งในสมาชิกSJ ดารา - นักร้องชื่อดังพวกนี้ถ่ายรูปคู่กับคนอื่นมากี่ร้อยกี่พันคนแล้ว ทำไมต้องมาเลือกเด็กคนนี้ เด็กที่มีความมานะพยายามที่จะลดน้ำหนักตัวเองลงอย่างยากลำบากเพียงเพราะยายที่กำลังจะตายของเธอขอร้องไว้ เมื่อไหร่เหล่าแฟนคลับจะตระหนักได้ว่าไม่มีใครหรอกนะที่จะมาเข้าใจและยกโทษให้กับนิสัยและการกระทำที่ไร้ซึ่งเหตุและผลของพวกเขาเพียงเพราะพวกคุณขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่รัก SJ น่ะ! ...... หลับให้สบายนะ....ลี อึน จี'

"อย่างแรกเลยที่ต้องเข้าใจ ก็คือเรื่องเหล่านี้มันเป็นพฤติกรรมวัยรุ่นอย่างหนึ่งนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัย 13-15 ซึ่งธรรมชาติของเขาก็คือต้องการแสวงหาไอดอล หาคนที่เป็นต้นแบบที่เขาจะลอกเลียนแบบ อาจจะเป็นนักร้อง ดารา นักกีฬา" นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต บอกถึงพฤติกรรมการเกิดความคลั่งไคล้ของมนุษย์

"ถ้าเราเป็นผู้ปกครองก็ต้องคอยดูอยู่ห่างๆ เพราะพฤติกรรมการชอบ ความคลั่งไคล้ หรือมีการแต่งตัวที่ผิดแผกไป หรือตามไปกรี๊ดไปเชียร์ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ผิด เพียงแต่พ่อแม่ก็ต้องคอยดู ถ้ารู้สึกว่ามันมากไปก็ต้องตักเตือนว่าเออมันเกินไปแล้วนะ มันกระทบเวลาเรียนนะ มันเสียกิจวัตรประจำวัน แล้วก็ต้องบอกเขาว่าที่เราเตือนนี่ก็เพื่อตัวเขาเองนะ หรือว่าชวนเขาหันมาทำกิจกรรมอื่นๆ บ้าง เขาจะได้ไม่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องๆ เดียว"

"แล้วเด็กวัยนี้แม้จะเริ่มโตแล้ว แต่ว่าเขาก็ยังต้องการคำชี้แนะ แต่อย่าไปห้ามหรือว่าอะไรมากเพราะมันจะทำให้เขาเก็บกด คือเรื่องแบบนี้ผู้ใหญ่ต้องอดทนนะ คอยดูห่างๆ ลูกอาจจะแต่งตัวประหลาดๆ ไปบ้างถ้าไม่มากอะไรก็ปล่อยๆ ไป เพราะถึงเวลาเดี๋ยวเขาก็กลับมาเป็นปกติเอง พอแฟชั่นแบบนั้นมันหมดหรือพอโตขึ้นมาเขาก็เลิกพฤติกรรมนั้นๆ ไปเอง"

"ส่วนถ้าเป็นผู้ใหญ่แล้วอันนี้ก็น่าห่วงอยู่ แต่โดยส่วนตัวผมว่าคนที่เป็นผู้ใหญ่เขามีความคิดแล้วนะ เขาจะรูถึงระดับความเหมาะสมอยู่พอสมควร คือถ้าเป็นความรักความชอบแบบเป็นพวกแฟนคลับอะไรทำนองนี้ไม่เท่าไหร่นะ แต่ถ้าเกิดเป็นพวกที่ไปเชื่องมงายแบบว่าขาดสติ พวกคลั่งลัทธิแปลกๆ ไปเชื่อเรื่องทรงเจ้าเข้าผีอันนี้จะน่าห่วงมากกว่า"




กำลังโหลดความคิดเห็น