“วาววา - ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด” น้องใหม่แกะกล่องแห่งวิก 3 พระราม 4 ว่าที่นางเอกอนาคตไกลที่น่าจับตามองอีกคนหนึ่งในวงการบันเทิง หลายคนบอกว่า เธอหน้าเหมือนซูฉี ดาราจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งไม่แปลกที่เชื้อสายจีนในตัวเธออาจทำให้ดูคล้ายดาราดังเอเชีย และด้วยบุคลิกอันครบรส ทั้งสวย หวาน เปรี้ยว เซ็กซี่ ในคนคนเดียวกัน วันนี้เธอจึงขอฝากหน้าตาอินเตอร์ฯ ผ่านจอทีวีเพื่อประลองความสามารถในบทบาทงานละครครั้งแรก
ที่ผ่านมาในช่วงเวลาเพียงเดือนเดียวเธอถ่ายโฆษณาเกือบ 10 ชิ้น ต่อด้วยงานแสดงมิวสิกวิดีโอเพลง และล่าสุดถ่ายละครถึง 2 เรื่องพร้อมกัน ซึ่งกำลังออนแอร์อยู่ตอนนี้ คือ “แววมยุรา” และอีกเรื่องหนึ่ง“เดอะซิกซ์เซ้นส์ สื่อรักสัมผัสหัวใจ” แล้วทุกคนจะได้เห็นเธอกับการเป็นนางเอกเต็มตัวผ่านหน้าจอในไม่ช้านี้
เข้าวงการจากโฆษณา
คำถามแรกเมื่อเจอหน้าสาววาววา จึงปรี่ถามเรื่องชื่อก่อนเลยว่า “วาววา” มีความหมายอย่างไร ก่อนที่เธอจะเล่าถึงผลงานชิ้นแรกในวงการบันเทิง “จริงๆ แล้วเป็นชื่อที่มาจากภาษาจีน ซึ่งภาษาจีน เขาเรียกว่า หว่าหวา ที่แปลว่าตุ๊กตา แต่ตัววานี่เป็นจีนแคระ จะออกเสียงไม่เหมือนกัน จึงกลายเป็น วาววา”
“วาเข้ามารับงานชิ้นแรกคือถ่ายโฆษณา กูลิโกะ โคลอน ซึ่งมาจากการแคสติ้ง โดยผ่านโมเดลลิ่งอีกทีหนึ่ง และเพิ่งผ่านมาปีที่แล้วนี้เอง ตอนนั้นจำได้ว่าเราออกกล้องไม่กี่วินาที พอถ่ายเสร็จก็มานั่งดูตัวเอง เห็นแวบๆ เพราะเราไม่ใช่ตัวเด่น ต่อมาก็มีถ่ายอีกหลายตัว และมีโฆษณาน้ำแร่เกาหลีชิ้นหนึ่ง ซึ่งไม่ได้ออกอากาศในไทย ไปออกที่ประเทศเกาหลี แต่ถ่ายที่ไทย
ที่ได้ไปถ่ายคิดว่าเขาคงชอบที่แอ็กติ้ง เพราะเราแอ็กติ้งเป็นธรรมชาติ อย่างตกใจก็ตกใจจริงๆ แต่คนไทยเรา อย่างกูลิโกะ มันต้องโอเวอร์แอ็กติ้งนิดนึง ว้าว...นู้น นี่ นั่น แต่เกาหลีนี่ธรรมชาติจริงๆ หน้าก็แทบไม่ให้แต่งเลย สินค้ามันเป็นแบรนด์ของเกาหลี แต่เขามาจ้างบริษัทคนไทยทำ เหมือนกับว่าคนไทยเราทำโฆษณาเก่งที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลย อย่างพวกสยายผมปลิวสวย คนไทยทำเก่งเป็นอันดับหนึ่งของโลกนะคะ”
เล่นละครครั้งแรก
แววมยุรา และ เดอะซิกซ์เซ้นส์ เธอถ่ายละครทั้งสองเรื่องควบพร้อมๆ กัน จึงถือเป็นงานละครครั้งแรก 2 เรื่องของเธอ ซึ่งดูเหมือนทุกอย่างราบรื่นกับงานแสดงที่ผ่านหน้าจอให้แฟนๆ ได้ติดตามชม แต่เธอบอกว่าเมื่อเจอสถานการณ์จริงไม่ใช่ง่ายอย่างที่คิด
“ก่อนเล่นจริงได้มีการเข้าเวิร์กชอปก็ช่วยได้เยอะ แต่ถึงเรียนเยอะยังไง มันก็ไม่เท่ากับมาเจอสถานการณ์ในกองถ่ายจริงๆ เรียนก็ช่วยระดับหนึ่ง ในกองถ่ายก็ต้องปรับตัวเยอะเหมือนกัน มีอุปสรรคเยอะเลยค่ะ แบบว่าอย่างแรกเลยคือวาพูดไม่ชัด อย่าง ส เสือ วาออกเสียงไม่ถูก ก็เลยต้องมีเรียนภาษาไทย พอเข้าฉาก ก็ยังไม่รู้เรื่องมุมกล้อง เรื่องไทม์มิ่งที่กล้องจะตัดไปรับอีกคนหนึ่ง สมมติเราพูดกันปกติ มีคนถามปุ๊บเราก็ตอบไป แต่ถ้าเราพูดทันทีกล้องเขาตัดไม่ทัน จึงต้องมีจังหวะในการสนทนากับคนที่เราเล่นด้วย ยาก...มาก
แต่ถ้าเจอรุ่นพี่ที่เขาส่งอารมณ์ดีๆ อย่างพี่อ้น-สราวุธ โอ้โฮ! พี่เขาเล่นเต็ม เราแทบไม่ต้องทำอะไรเลย แค่รับความรู้สึกของเขามาแล้วตอบออกไป เจอนักแสดงมืออาชีพก็จะทำงานง่ายขึ้น เพราะว่าแอ็กติ้งก็คือ รีแอ็กชัน เราส่งความรู้สึกไป เขาส่งกลับมา แล้วเราก็ส่งกลับไป มันเหมือนการตีปิงปอง มันก็จะสนุก แต่นักแสดงหลายคนใหม่กันหมดเลย บางทียังงงๆ ก็จะยาก”
“ในแววมยุรา เรารับบทเป็นแป้งร่ำ ในเรื่องเป็นเพื่อนของพี่เนย โชติกา ก็จะไปชอบคู่พระรอง บทเรื่องนี้คนละแบบกับซิกซ์เซ้นส์และคนละแบบกับตัวเราด้วย แป้งร่ำเป็นนางแบบ หุ่นดี เซ็กซี่ แต่เราไม่ได้เซ็กซี่อะไรขนาดนั้น และบางทีต้องทำหน้าจิกๆ (ทำหน้าให้ดู!?!) แล้วพี่เนย เขาจิกมุมเป๊ะ! แต่พอเราจิกบ้างมันเหมือนเด็กงอน (หัวเราะ) แต่เรื่องนี้ก็ดีได้แต่งตัวสวย
พอมาเป็นกรรณา ในเรื่อง เดอะซิกซ์เซ้นส์ ห้าวมาก ใส่รองเท้าผ้าใบ ซึ่งก็ต่างจากวามาก เพราะวาเป็นคนไม่ค่อยพูด คือถ้าอยู่ในกองฯ วาจะเงียบๆ ส่วนกรรณาเนี่ยจะโวกเวก โวยวาย ใครพูดอะไรไม่เข้าหูปุ๊บ! จะต่อยเขา เป็นหัวโจกที่ไปเล่นทะเลแล้วคนอื่นเขาเอาแค่เท้าปริ่มๆ น้ำ แต่กรรณานี่เขาต้องลงไปทั้งตัว แบบว่าอะเลิร์ทที่สุด แต่ตัวจริงของวา ทุกคนจะชอบบอกว่า วาง่วงมาก เพราะหน้าเราง่วง แต่พอแต่งหน้า เข้าฉาก 5 4 3 2 1 ก็โอเค”
“ครูบอกว่าเป็นนักแสดงต้องกลิ้งให้ได้ทุกบทบาท ไม่ว่าจะแสดงเป็นอะไรก็ต้องเป็นตัวนั้นให้ถึงบท ให้สมกับบทบาทที่ได้รับ ถึงจะเรียกว่านักแสดง ละครที่ครูเขาสอนมาจะไม่มีชั้นเดียว มันมีหลายชั้น คือในคนคนหนึ่งมีหลายบุคลิก หลายอารมณ์ อย่างคำว่ารักอย่างนี้นะค่ะ “รัก” มีหลายรักมาก รักมาก รักจนเกลียด รักน้อย หรือการพูดคำว่ารักหนึ่งคำ ด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างกัน คือน้ำเสียงมันมีหลายชั้น ถ้าเราทำได้มันคงสนุก”
ยิ่งเล่น ยิ่งสนุก
ไม่ว่าจะเป็นถ่ายโฆษณา เล่นเอ็มวีเพลง เล่นละคร จริงๆ มันเป็นการแสดงทั้งหมด เพียงแต่ว่าใช้เวลาถ่ายทำต่างกัน แต่ละงานมีความสั้นยาวไม่เท่ากัน “วาชอบทุกงานนะ สนุกหมดเลย ตอนแรกเราไม่รู้ว่าเราชอบทางนี้จริงๆ แรกๆ ก็เครียด โห! เราจะเป็นนักแสดงได้ไหม แต่พอเริ่มทำไป ทำก็อ้อ... มันต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้นะ วาคิดว่าวาชอบละครนะ เพราะยิ่งเล่นยิ่งสนุก ละครมันเป็นเรื่องยาว ตัวละครลึกซึ้งกว่า ตัวละครหนึ่งตัว กว่าเขาจะโตมา กว่าเขาจะใช้ชีวิตมา มุมมองของเขาจะมีหลายชั้นกว่า อย่างโฆษณาเราพรีเซ็นต์อะไรสักอย่างก็คือการพรีเซ็นต์หนึ่งอย่าง แต่ตัวละคร มันมีความรู้สึก มีความรัก มีความโกรธ ซึ่งถ้าวันหนึ่งเราทำได้ในการเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ ตามบทบาทที่เราได้รับมาได้ วันนั้นเราคงภูมิใจ และมีความสุขมาก”
“ล่าสุดเจอพี่เล็กฝันเด่น และพี่อู๋ ธนากร พี่รุ่นใหม่ๆ เขาจะเหมือนว่าชิลแล้วอ่ะค่ะ กองถ่ายฯ ก็จะขำกันตลอด เขาเอนเตอร์เทนกันเอง อย่างพี่อู่ เขาชอบทำคาโบนาร่ามาที่กองฯ ทุกวันต้องรอกินฝีมือพี่อู๋ (ยิ้ม) พี่อู๋ ธนากรทำคาโบนาร่า...อร่อยด้วย ทุกคนก็ชอบ พี่เล็กก็บอกว่า ผมอยากจะอ้วกทุกอย่างออกมาที่กินไปเพื่อจะกินคาโบนาร่าของพี่อู๋ ก็จะผ่อนคลายขึ้น แต่ถ้าเราอยู่กันเอง เด็กๆ ด้วยกันก็จะแอบกดดันนิดนึง เศร้าๆ”
“ตอนแรกๆ รู้สึกว่ายากมาก เครียดมาก แต่พอเริ่มทำไปสักพัก จะรู้สึกว่ายิ่งสนุก ยิ่งหลังๆ ซีนล่าสุดในซิกซ์เซ้นส์ มันดูวุ่นวาย โดนจับตัวอะไรอย่างนี้ สนุกมากเลยนะ (ยิ้ม) คือไปจับหมอผีกัน แต่พวกลูกน้องเขาจะจับเรา นึกว่าอยู่ในสถานการณ์จริง วิ่งหนีกันจนดึกดื่นเลย
น้องๆ ซิกซ์เซ้นส์ก็สนิทกันทุกคนค่ะ เหมือนอยู่โรงเรียนเดียวกันอะไรอย่างนี้เลย เพราะว่าเราเรียนแอ็กติ้ง เวิร์กชอปด้วยกัน ประมาณ 3-4 เดือน เรียนภาษาไทยด้วยกัน ส่วนพี่จ๊ะ จิตตาภา เขาจะช่วยในวันถ่ายมากกว่า เขาจะรู้มุมกล้อง ประสบการณ์เขาเยอะ”
นักกีฬาเยาวชนทีมชาติ
รู้ไหมว่า? สาววาววาเคยเป็นถึงนักกีฬากระโดดน้ำทีมชาติ และยังเคยเป็นครูสอนว่ายน้ำ ที่มีเด็กๆ เข้ามาลงเรียนมากมาย เธอจึงไม่เคยคิดฝันเลยว่าวันหนึ่งจะเข้ามาทำงานวงการฯ เหมือนเช่นทุกวันนี้
“ตอนเด็กวาจะเป็นนักกีฬากระโดดน้ำ (Spring Board) เป็นเยาวชนทีมชาติ และวามีเรียนยิมนาสติก มีบัลเลต์ด้วย คุณแม่เขาชอบกีฬา ลูกทุกคนต้องเล่นกีฬา แล้ววาเล่นกีฬากระโดดน้ำตั้งแต่ 6 ขวบ แต่ที่เราเล่นจริงจัง คือกระโดดน้ำกับบัลเลต์ สองอย่างนี้ชอบบัลเลต์มากที่สุด แต่กระโดดน้ำเราทำได้ดีสุด และวาก็เคยเป็นครูสอนว่ายน้ำด้วย เพราะเป็นนักกีฬาเยาวชนทีมชาติไทย ได้สอนที่การกีฬาแห่งประเทศไทยหัวหมาก (กกท.) ก็สอนเด็กๆ ทำอยู่ประมาณ 3 ปี
ในประเทศไทยเขาไม่ค่อยสนับสนุนกีฬาประเภทนี้เท่าไหร่ คนไม่ค่อยให้ความสนใจ และแมตซ์แข่งกระโดดน้ำมันไม่ได้มีแข่งเยอะเหมือนเทนนิส ซึ่งรายการใหญ่ๆ ที่เคยไปแข่งมีที่มาเลเซีย เป็นซีเอทกรุ๊ป เอเชียแปซิฟิก ส่วนในไทยตอนแข่งได้เหรียญมาทุกครั้ง อย่างรายการชิงแชมป์ประเทศไทย เราได้รางวัลชนะเลิศเหรียญทองมาตลอด เพราะไม่ค่อยมีใครเล่น (หัวเราะ) มีคนสนับสนุนไม่เยอะเท่ากีฬาอื่น แข่งขันกระโดดน้ำชิงเหรียญทองแข่งอยู่ประมาณ 7 คน ส่วนว่ายน้ำเขาแข่งกันเป็นพัน”
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด กีฬากระโดดน้ำถึงไม่มีผู้ใหญ่คอยสนับสนุน ซึ่งถือว่าเป็นการออกกำลังกายไปแพ้กีฬาประเภทอื่น ทั้งยังได้โชว์ลีลาความสวยงามในการออกแบบท่ากระโดดน้ำ เช่นเดียวกับการเล่นกีฬาบัลเลต์ สาววาในฐานะอดีตนักกีฬากระโดดน้ำเยาวชนทีมชาติจึงอยากให้ผู้ใหญ่และเด็กๆ หันมาสนใจกีฬานี้เช่นเดียวกับกีฬาประเภทอื่นๆ
เรียนรามฯ ได้ G ทุกตัว
มัธยมเธอเรียนที่โรงเรียนสาธิตรามคำแหง เพราะบ้านอยู่แถวนั้น ตอน ม.4 เรียนสายวิทย์-คณิต ก่อนจะย้ายมาเรียนศิลป์-จีน ในชั้น ม.5 ส่วนปัจจุบันเธอเรียนชั้นปีที่ 2 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง วาววาเล่าต่อให้ฟังว่า “ที่เลือกเรียนคณะนี้ เพราะวาเป็นคนขี้ลืม แต่สามารถจำเก่งในเรื่องรัฐศาสตร์ เรียนพวกประวัติศาสตร์การเมือง ประวัติศาสตร์รัฐศาสตร์ ซึ่งเราอ่านแล้วสามารถจำได้เยอะ บางคนเวลาอ่านจะรู้สึกว่าน่าเบื่อ แต่เรารู้สึกสนุก ชอบ เพราะมันมีเรื่องราว”
“ที่วาเลือกเรียนรามฯ เพราะรู้สึกว่าชอบการเรียนแบบฝรั่ง คือใช้มายแม็บ ใช้ทักษะการจำอะไรแบบนี้ วาจะชอบอ่าน เดล คาร์เนกี อย่างพี่หนูดี อัจฉริยะสร้างได้ แต่เขาจะแนะนำเป็นตำราของมายแม็บอีกทีหนึ่ง วารู้สึกสนุกที่ได้เรียน และเทอมแรกตอนที่ยังไม่มีงานในวงการ วาได้ G ทุกตัว ที่ ม.รามคำแหงจะมีแค่ G (Good), P (Pass) และ F (Fail) G ก็เหมือนได้ A ทุกตัว เพราะมันสนุก ที่เราเรียนได้ด้วยตัวเราเอง เราไม่ต้องไปเข้าเรียน พอเราพร้อม สมองเราไบรท์ตอนไหนก็ดูอาจารย์เขาสอนออนไลน์ ส่วนเราก็ทำมายแม็บนู่น นี่ไป ตอนแรกก็หวังได้เกียรตินิยมเหมือนกัน พอเรียนมาถึงตอนนี้ก็คิดว่าตัวเองเลือกถูกนะ เพราะว่าถ้าให้ไปคำนวณอย่างนี้มันคงไม่ไหว
แต่ผู้ใหญ่เขาก็มีหลายมุมมอง อย่างพ่อของวา เขาเป็นคนจีน ก็ไม่อยากให้เรียนรามฯ เขามองว่ารามฯเนี่ย อย่างงั้นอย่างงี้ แต่สุดท้ายก็ให้เราเป็นคนเลือกเอง จริงๆ แล้วพ่อเขาก็ไม่อยากให้ทำงานในวงการบันเทิงด้วย เขาอยากให้เรียน เรียน เรียนจบ แล้วก็ทำงานเหมือนคนจีนน่ะค่ะ หรืออย่างวาเล่นกีฬา แม่เขาก็สนับสนุนให้เล่น แต่ป๊าบอกว่าเล่นทำไมกีฬา เอาเวลาไปเรียนพิเศษสิ เขาอยากให้เราเป็นหมอ หรือเป็นทนายไป เพราะเขาคิดว่ามันมั่นคง”
อยากทำร้านน้ำปั่น
“วาคิดว่าเดี๋ยวนี้เรียนมาก็ไม่ได้ทำงานที่ตรงสายเท่าไหร่นะคะ!?!”
“จริงๆ วาอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ที่คิดไว้อยากทำหลายอย่าง แต่ถ้าให้เลือกอยากทำอาหารมากกว่า อาจจะไม่เชิงร้านอาหาร แต่ที่คิดไว้เป็นน้ำปั่นที่มันพิเศษกว่าเจ้าอื่นที่ขายกันอยู่ตอนนี้ วาคิดว่าผลิตภัณฑ์มันอยู่ที่แพกเกจ มาร์เกตติ้ง ถ้าของของเราดีอยู่แล้ว เมื่อมีแพกเกจดี มาร์เกตติ้งดี ก็น่าจะสนุก ตอนนี้ที่คิดไว้เป็นเมนูเผือกปั่น เพราะยังไม่มีใครทำ เดี๋ยวนี้มันมีสมูทตี้ใช่ไหม แต่ว่าผลไม้อื่นๆ ก็ทำ แต่คิดว่าอร่อยกว่าคนอื่น
วาเคยลองทำเผือกปั่นแล้วนะ อร่อยมาก แต่ว่าตอนนี้กำลังคิดๆ อยู่ ส่วนเมนูอื่นๆ วาจะเลือกอะไรที่วาชอบก่อน วาชอบกินมะม่วงปั่น มะพร้าวปั่น ผลไม้อื่นๆ คงมีทั่วๆ ไป แต่หลักๆ คงไม่กี่อย่าง แต่จุดขายน่าจะเป็นเผือก และวาก็คิดโลโก้ไว้แล้วด้วยนะ (หัวเราะ) ดูทำเลไว้แล้ว อ้าว...ไม่ใช่ (หัวเราะ) โลโก้เนี่ยจะเป็นตัวเผือกน่ารักๆ สีม่วงอ่อน อุ้ย! ตายแล้ว เดี๋ยวมีคนเอาไอเดียวาไปแล้วรึเปล่า จดลิขสิทธิ์แล้วนะ”
“เดอะซีเคร็ต” ทำให้ฝันเป็นจริง!
“วาเชื่อเรื่องเดอะซีเคร็ต คือตอนแรกก็เชื่อไม่เยอะ วาค่อยทำทีละอย่าง พอทำปุ๊บมันก็เริ่มได้ ได้เร็วขึ้น ชัดเจนขึ้นจากความคิดเราเอง”
สาววาววาค่อยๆ เปิดใจกับเราว่า เธอเป็นคนดื้อมาก และก็ไม่ค่อยตามใครจะตามเฉพาะเมื่อมีผู้นำที่ดี ก็จะเป็นผู้ตามที่ดีได้ และเมื่อถึงเวลา เมื่อมีโอกาสเข้ามาก็จะเป็นผู้นำที่ดี แต่ความดื้อของเธอนั้นไม่ใช่ดื้อไม่มีเหตุผล แต่ดื้อด้วยเหตุผล เพราะมีเหตุผลความเชื่อที่เป็นของเธอเอง
“สำหรับวาความคิดมันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก มหัศจรรย์มาก ถ้าเราเชื่อสิ่งใดแล้วต้องเชื่อให้สุด วาก็นับถือพระพุทธศาสนาใช่ไหมค่ะ พระพุทธเจ้าบอกว่าอย่าเชื่อ อย่างมงายโดยที่ยังไม่ได้ลองด้วยตัวเอง วาก็เริ่มทำ เริ่มลอง เพราะว่ามันไม่มีอะไรเสียหายใช่ไหมแค่ลอง ถ้าเราคิด แล้วเราไม่ได้ก็ไม่เป็นไร และเราก็ไม่เสียอะไร แต่ว่าถ้าคิดแล้วมันได้ขึ้นมา มันเวิร์ก มันทำให้รู้สึกมหัศจรรย์ใจ แล้วก็ไม่ต้องหวงใครด้วย เพราะว่าเขาบอกว่าทรัพยากรบนโลกนี้มีพอสำหรับทุกคน ฉะนั้น วาก็อยากจะบอกทุกคนที่เขาเปิดใจรับว่ามันเวิร์กมากๆ วามาถึงวันนี้ก็เพราะว่าความคิดวา จึงอยากให้ทุกคนมีความสุขและก็มีความคิดดีๆ ไปถึงความฝันของตัวเอง จริงๆ นะคะ วาอยากให้ทุกคนลองดู ตอนที่เราทำได้ เราก็ตื่นเต้น”
ทุกสิ่งสามารถเป็นไปตามที่คิด...วาววาไล่เรียงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งช่างดูมหัศจรรย์สำหรับตัวเธอ และเธอก็มีหลายเรื่องราวมหัศจรรย์ที่อยากเล่าให้ฟัง “ครั้งแรกตอนวาอายุ 19 และวาสอนว่ายน้ำอยู่ วาก็คิดว่าวาอยากมีตังค์แสนนึงจังเลยในสมุดบัญชีธนาคาร แล้วเราก็เด็กอายุ 19 แล้วเราจะไปหาตังค์มาจากไหน ก็คิด และก็เริ่มเชื่อ โดยการเขียนเลข 100,000 บาทลงไปในสมุดบัญชี ซึ่งตอนนั้นมีอยู่ประมาณไม่กี่พัน เราก็ใส่เติมไป วันที่เท่าไหร่ก็เติมไป แต่เขียนดินสอนะคะ เขียนประมาณวันนี้ แรกๆ ก็ได้ แต่ไม่ได้ตรงวัน อาจจะช้ากว่าหน่อย แต่ก็ได้ ซึ่งตอนนั้นวาก็เริ่มเข้ามาในวงการบ้างแล้ว
และเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว เป็นเดือนวันเกิดวาใช่ไหมค่ะ วาขอว่าวาอยากได้โฆษณา 5 ตัว แต่วาได้ 7 ตัว มันเกินความคาดหมายเราอีก และเป็นโฆษณาตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลย ใช่! มันเกินความคาดหมายอยู่ที่เราเชื่อ และนอกจากนี้ก็มีหลายๆ อย่าง วารู้สึกว่าวาชอบวง เดอะ พุซซีแคต ดอลล์ส (The Pussycat Dolls) และชอบวงบับเบิล ป็อป -ฮยอนอา ชอบเต้นแบบนั้น แต่อันนั้นมันดูเซ็กซี่มาก และคนไทยดู ก็จะดูว่าโป๊ไป แต่ว่ารู้สึกว่ามันสวยในมุมมองของเราเป็นนักเต้น อยากเต้น แล้ววันนี้ได้เต้นเพลงที่อยากจะเต้น วาก็งงมาก เอ๊ะ! มันดึงดูดเร็วมากค่ะ วันนั้นที่วานั่งดูยูทิวบ์และวาก็อยากเต้นแบบนั้นบ้าง แต่อยากให้คนไทยชอบ ครูเขาก็ดัดแปลงท่าซึ่งมันคล้ายกันมาก มีเพลงที่วาอยากเต้นถึง 3 เพลง ซึ่งเอามามิกซ์รวมกัน
ถ้าคนไม่เชื่อมันก็ดูเหมือนงมงายนะ แต่ว่ามันก็แล้วแต่มุมมอง ความคิดของแต่ละคน เราไม่ใช่อยู่ๆ เราก็มาเชื่อเลย เราเริ่มทำก่อน แล้วเราเห็นผลว่ามันเกิดขึ้นจริง เราก็รู้สึกดี ถึงแม้บางครั้งมันไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่ว่าเราคิดดี เราก็มีความสุข”
ครอบครัวเชื่อในตัวเรา
ในฐานะลูกสาวคนโตที่สนิทกับคุณแม่มากที่สุดในบ้าน แม้ว่าการเข้ามาทำงานในวงการฯ ครั้งนี้คุณแม่ไม่ได้สนับสนุนเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ได้ขัดแย้งอะไร เพราะท้ายที่สุดแล้วทุกคนในครอบครัวต่างก็เชื่อในการตัดสินใจของเธอ ซึ่งตอนนั้นวาววามีอายุได้ 19 ปี
“วาเป็นพี่คนโต มีน้องทั้งหมด 4 คน เป็นน้องชาย 3 คน และมีน้องผู้หญิงคนหนึ่งเป็นคนสุดท้าย แต่เป็นคนละพ่อคนละแม่กัน ที่เป็นน้องวาแท้ๆ จะเป็นน้องชาย 2 คน”
วาววาย้อนความฝันวัยเด็กให้ฟังว่า “ตอนเด็กเคยคิดอยากเป็นหมอฟัน เด็กๆ มันมีให้เลือกไม่กี่อย่าง มีหมอ มีหมอฟัน มีพยาบาล มีแอร์โฮสเตส มีครู แต่พอโตขึ้นมาเรามองอีกแบบหนึ่ง
ตอนเด็ก เราชอบดื้อ ดื้อตั้งแต่เด็กเลย เราจะดื้อเถียงเลย คือวาจะไม่เหมือนน้อง วาเป็นคนมีความเป็นตัวของตัวเองสูง เชื่อในความคิดตัวเองตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าวาจะคิดจะทำอะไร แม่ก็เลยขัดเราไม่ค่อยได้ (หัวเราะ) แต่เขาก็รู้ว่าเรารู้อะไรดีไม่ดี คือเขาก็ห่วง แต่คิดว่าเราน่าจะดูแลตัวเองได้แล้ว
จริงๆ แล้วแม่เขาก็ไม่ได้ไว้วางใจเรานะ แต่ด้วยความที่เรามีความเป็นตัวของตัวเองสูง เวลาเราตัดสินใจทำอะไรไป แม่ก็เชื่อว่าเขาเลี้ยงเราดีพอที่จะคิดดีแล้ว ถ้าคิดดีแล้วจะตัดสินใจทำอะไรมันก็คงโอเค ไม่ถึงกับเชื่อมั่นในตัวเราเท่าไหร่ แต่แม่ก็รู้ว่าเราเป็นคนยังไง”
ก๊วนเพื่อนชวนกิน
เขาว่ากันว่าความสุข ความสนุกมักจะเกิดขึ้นในวัยเรียน เมื่อถามเธอถึงเรื่องเพื่อนๆ เธอจึงเล่าถึงเรื่องราวที่แสนสนุกของเหล่าบรรดาเพื่อนรัก ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่โรงเรียนสาธิตรามฯ และแม้ว่าช่วงนี้เธอจะยุ่งกับการทำงาน แต่ก็ไม่เคยลืมนัดเพื่อนมัธยมกลุ่มนี้
“วาชอบตอนที่เราจบมัธยมออกไปกันแล้ว แล้วมานัดเจอกันทั้งหมด 8 คน เราเหมือนกลับไปเป็นเด็กใหม่เลย เหมือนอยู่โรงอาหารค่ะ แต่ที่ไหนได้อยู่ sizzler แล้วเสียงดังมาก นั่งกันจนคุ้มเลย เมาท์กันตั้งแต่เช้ายันเย็น แล้วคนรอบข้างก็หันมามองเรา ถ้าพนักงานเห็นว่ากลุ่มวาเข้าไป คิดได้เลยว่าต้องอยู่ยาว (ยิ้ม) แต่เรารู้สึกกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง สนุก ชอบ นานๆ มาเจอกันครั้งหนึ่ง เหมือนตอนไปโรงเรียนด้วยกัน เราชอบความรู้สึกนี้ และช่วงหลังวาต้องพึ่ง sizzler บ่อยๆ เพราะว่าโดนสั่งให้ลดน้ำหนัก จนจะกลายเป็นบ้านหลังที่สองไปแล้ว
ส่วนเพื่อนมหาวิทยาลัย ไม่ค่อยได้สนิทกับใคร เพราะไปสอบอย่างเดียว และสามารถทำงานไปด้วยได้ เรื่องเวลาเราต้องจัดตารางให้ดี ตอนแรกลงเรียนเต็มทุกตัว แต่ตอนนี้เอาเท่าที่ตัวเองไหว วาคิดว่าโอกาสมันก็ไม่ได้มีสำหรับทุกคน และวาก็ไม่ทิ้งการเรียนแน่นอน เพราะว่าวาก็ชอบ แต่ก็ไม่ทำให้ตัวเองเหนื่อยเกิน ก็ลงเท่าที่ตัวเองไหว”
ช่วงนี้โดนสั่งลดน้ำหนักเหรอ? “ด้วยสรีระ หุ่นวา วาเป็นคนขาใหญ่ บางคนเขาน้ำหนักมากกว่าวา แต่เขาเป็นคนขายาว หน้าเรียวยาว พอออกกล้องปุ๊บมันก็จะดูดี แต่วาเป็นคนมีแก้ม พออ้วนนิดนึงปุ๊บจะมีแก้ม มีคางสองชั้นเลย ก็ลดดีกว่า เพราะถ้าเราลด เราก็ไม่ต้องมากังวลว่า อุ้ย! เดี๋ยวมุมนี้อ้วน สนใจที่การแสดงที่แอ็กติ้งอย่างเดียวเลย”
เขาสุข เราก็สุข
“ตั้งแต่เด็กจนโตมา ตอนนี้เริ่มมานั่งคิดว่าทุกวันนี้เราใช้ชีวิตเพื่ออะไร?” วาววาเปิดคำถาม ถามตัวเอง ก่อนจะตอบออกมาได้อย่างน่าฟังว่า “เราใช้ชีวิตเพื่อคนที่เรารักมากกว่า ถ้าเรามีความสุขอยู่คนเดียว มีทุกอย่าง วาคิดว่ามันก็ไม่ใช่ความสุข เพราะความสุขของเรา คือ การอยู่เพื่อคนที่เรารัก เพราะฉะนั้น มุมมองความรักก็คือ การเห็นคนที่เรารักมีความสุข คิดว่าน่าจะเป็นอย่างนี้ มันก็จะดูแบบว่านางเอกนะคะ (หัวเราะ) คือเราจริงๆ เราก็อยากให้คนที่เรารักมีความสุข แต่เราก็รักตัวเองด้วย
จริงๆ มันก็เห็นแก่ตัวนะเพราะว่าเวลาที่เราเห็นคนที่เรารักมีความสุข เราก็จะมีความสุข สุดท้ายจริงๆ เราก็ทำเพื่อเรา เพื่อตัวเรามีความสุข และก็เพื่อคนที่เรารักด้วย ถ้าบอกว่าทำเพื่อคนที่เรารักมีความสุข (มันจะดูนางเอกไป) แต่ความจริงเราก็ได้รับความสุขนั้นด้วยเหมือนกัน เขาสุข เราก็สุข”
เมื่อถามถึงไอดอล สาววาววารีบตอบทันทีเลยว่า “มีพี่แอน -ทองประสม ชอบเวลาพี่เขาเล่นละคร เพราะเขาเล่นด้วยความรู้สึก ทำให้คนดูดูด้วยความรู้สึกด้วย ก็เลยอิน คนดูก็อิน คนเล่นก็อิน วาชอบอีกคนหนึ่ง วาไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไร ที่เล่นเป็นคริสติน ดาเอ้ ในเดอะแฟนธอมออฟดิโอเปรา (The Phantom of the Opera) เพิ่งฉายที่พารากอนเมื่อประมาณสัก 2 เดือนที่แล้ว เขาเป็นผู้หญิงที่เพอร์เฟกต์มาก คือดูแล้ว นี่แหละคือนักแสดง เขาทำได้ยังไงขนาดนี้ เขาสามารถร้องเพลง แสดงอารมณ์ คือเขาเก่งมาก นอกจากเขาจะร้องโอเปราซึ่งมีพลังเสียงสุดยอดแล้วเขาไม่หลุดเลย คือแบบว่าแววตาเขารู้สึกทั้งๆ ที่เป็นละครเวที เมื่อกล้องจับเข้าไป มันเห็นทุกรูขุมขน ทำให้เรารู้สึกว่าวันหนึ่ง เราต้องไปให้ถึงจุดนั้นให้ได้ ต้องขอบคุณครูหลี่ เจิน ที่สอนเอ็กติ้งเรามา ก็ให้วาไปดูเรื่องนี้ แล้วบอกว่านี่แหละคือจุดหมาย ครูเขาไม่ได้สอนเรื่องการแสดงเท่านั้น แต่สอนมากกว่านั้น สอนเยอะมาก”
โลกส่วนตัว
บางคนบอกว่า พอเป็นดาราแล้วขาดอิสรภาพ เหมือนเป็นคนสาธารณะ ไม่ว่าจะกิน จะนอน จะเดิน ต้องอยู่ในความสนใจของคนทั่วไป แต่สำหรับวาแล้ว “ตอนนี้ยังไปเจอเพื่อนเหมือนปกติ อีกหน่อยก็คงต้องอัปตัวเองมากกว่านี้ แต่ยังไงก็ต้องมีความเป็นเราอยู่ เพราะอย่างนั้นถ้าขายความเป็นเราไปหมด มันก็จะไม่มีจุดยืน”
“ตั้งแต่วามาทำงานในวงการ แทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรที่เป็นตัววาเลย เมื่อไม่นานมานี้ก็ยังนัดเจอเพื่อนที่ sizzler เหมือนเดิม พอเพื่อนเจอเรา อ้าว! นึกว่าจะมามาดใส่แว่นดำ แต่ที่ไหนได้ คือมาหน้าเปื่อยๆ เพื่อนก็กะเดินกับดาราเต็มที่ และดูวามาในสภาพที่ปกติมากเลย เพื่อนก็บอก “มึงน่าจะเปลี่ยนอะไรบ้างนะ!?!” (หัวเราะ) วาก็เลยทาแป้ง ใส่แว่นหน่อยนึง ไม่ค่อยเปลี่ยนเท่าไหร่ เราก็ยังเป็นเราเหมือนเดิม”
“ยามว่างจะชอบอ่านหนังสือ และเล่นอินเทอร์เน็ต ชอบไปเขาใหญ่ บรรยากาศดี ไปบ่อยมาก ยิ่งตอนถ่ายเดอะซิกซ์เซ้นส์นี่ โลเกชันเขาใหญ่ตลอด แล้วมันเหมือนเมืองนอกที่ปลูกต้นไม้เมืองหนาวได้ ดูไฮโซ
ส่วนอาหารโปรด โปรดเยอะเสียด้วย ไม่รวม sizzler นะคะ นั่นอาหารจำเป็น (หัวเราะ) วาชอบไปเยาวราช มีของโปรดเยอะแยะเลย กวยจั๊บ กระเพาะปลา มีขนมปังอยู่ร้านหนึ่งอร่อยมากที่เยาวราช เป็นขนมปังชนิดพิเศษ พอกินปุ๊บไส้ข้างในต้องทะลักออกมาเลย ไม่เข้าใจเหมือนกัน คือไส้มันไม่ได้เยอะมากจนทะลักนะ แต่เขาออกแบบยังไงไม่รู้ให้กินแล้วไส้มันไหลโพละออกมา แต่มันอร่อยมาก แบบว่ากรอบนอก นุ่มใน มีไส้สังขยา นมข้น อะไรอย่างเนี่ย คนรู้จักเยอะถือเป็นเจ้าดังของที่นั่น วาว่าน่าจะเป็นจุดขายเขานะที่ว่ากัดแล้วโพละออกมา แต่มันเวิร์กมาก”
ท้ายสุดวาววาขอฝากละครเรื่องแรกทั้งสองเรื่อง “วาอยากให้ทุกคนติดตามดู เพราะทั้งสองตัวละครนี้เป็นคนละอย่างกันเลย เรื่องแววมยุราก็จะเป็นสาวเซ็กซี่ มีความมั่นใจในตัวเองมาก และไปหลงรักผู้ชายคนหนึ่ง แต่ไม่ใช่เป็นรักที่อยากเอาชนะ ซึ่งเป็นรักที่อยากได้ผู้ชายคนนี้เป็นพ่อของลูก และอีกบทหนึ่งคือ กรรณา ในเรื่องเดอะซิกซ์เซ้นส์ เป็นคนที่มีเซนส์ เพราะฉะนั้น จะอยู่กับสังคมปกติไม่ได้ เขาจะอยู่กับแก๊งเพื่อน 5 คน แต่ละคนมีความพิเศษที่ต่างกันออกไป กรรณาจะเป็นคนมีหูทิพย์ และก็ไปเจอกับผีสิงลึกลับ ไปเข้าป่า ลุย บู๊ สนุกสนาน”
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ/ นามสกุล : ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด (วาววา)
วัน/ เดือน/ ปีเกิด : วันศุกร์ ที่ 19 กรกฎาคม 2534
น้ำหนัก/ ส่วนสูง/ สัดส่วน : 47 กก./ 168 ซม./ 34-25-35
ผลงานที่ผ่านมา : นิตยสาร - เธอกับฉัน -นิตยสาร สุขภาพดี โฆษณา - น้ำดื่มคริสตัล แป้ง sheene บ้านกลางกรุง กูลิโกะ โคลอน ท่อน้ำไทย แอคเน่ ลาเพอร์ สกินแคร์ น้ำแร่ ของเกาหลี ออนแอร์ ประเทศเกาหลี เครื่องปริ้นต์ canonเสียงรอสาย ture moveภาพนิ่ง - TOT ภาพนิ่ง ก.พ. ภาพนิ่ง forcon เอเวอร์เซ็นโรลออน+2pm โออิชิกรีนที truemove3Gh+ มิวสิกวิดีโอ - เพลง อย่าบอกเขาว่าเราเคยคบกัน ของขนมจีน เพลง คนไม่มีหัวใจ ของรุจ เดอะสตาร์ งานละคร - นางเอกละครเรื่อง เรื่องดีดี ออกอากาศทาง ไทย พีบีเอส-ละคร แววมยุรา ทางช่อง 3 และกำลังมีผลงาน The Sixthsense Project
ข่าวโดย Manager Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
ภาพโดย ธนารักษ์ คุณทน