นักกีฬาขี่ม้าอีเวนติ้งอันดับ 1 ของเอเชีย “ณีนา รุจิราภรณ์ ล่ำซำ ลิเกิ้น” สาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ที่ได้ลงแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ 2012 ด้วยวัยเพียง 20 ปี เธอสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการขี่ม้าไทย ในการครองอันดับที่ 32 ของโลก และเป็นเอเชียคนเดียวที่อยู่ใน 50 อันดับของโลก
จากความฝันในวัยเด็ก เพื่อการไปถึงโอลิมปิกสักครั้งหนึ่งในชีวิต วันนี้เธอกำลังทำความฝันนั้นให้กลายเป็นจริง ด้วยการเป็นนักกีฬาขี่ม้าอีเวนติ้งทีมชาติไทยดาวรุ่ง หลังจากเธอใช้เวลาเพียง 5 ปี ในการไต่ระดับจากการแข่งขันในเวทีระดับชาติสู่การแข่งขันในเวทีระดับโลก... M-Lite จะพาไปเปิดใจคุยกับเธอ “ณีนา รุจิราภรณ์ ล่ำซำ ลิเกิ้น”
นักขี่ม้าโอลิมปิกทีมชาติไทย
หลังจากผ่านการแข่งขันหลายสนาม ในที่สุด "ณีนา ล่ำซำ ลิเกิ้น" ก็ได้ควอลิฟายด์ในการเข้าแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในปลายเดือนกรกฎาคมที่กำลังมาถึง หลังจากได้ประสบการณ์การควอลิฟายด์ 1 ปีเต็มๆ จึงมาพร้อมกับฝีมือที่เหนือชั้นกว่าเดิม
“ควอลิฟายด์โอลิมปิกตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2011 และสิ้นสุดการควอลิฟายด์ในวันที่ 1 มี.ค. 2012 ที่ผ่านมา ทำให้ได้ประสบการณ์มากมาย ณีนารู้สึกโล่งอก และดีใจมากที่สามารถทำได้เพราะมีโอกาสน้อยมาก ณีนาไม่ใช่คนใจกล้า ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะขี่ม้าในระดับสูงๆ ยากๆ อย่างโอลิมปิกได้ เพราะฉะนั้น การที่ณีนาประสบความสำเร็จทำให้ณีนามีความเชื่อและมั่นใจในตัวเองมากขึ้น แม้จะมีหวั่นใจว่าจะทำได้ดีเท่าที่ฝึกซ้อมไว้หรือไม่ เพราะเป็นการแข่งขันที่ใหญ่ที่สุด”
การันตีความสามารถจากตารางเก็บคะแนนสะสมของโอลิมปิก ประเภทบุคคล จัดเธออยู่ในลำดับที่ 11 ของโลก เคียงคู่ไปกับนักกีฬาชั้นนำของโลกจากประเทศ ออสเตรเลีย ฮอลแลนด์ ไอร์แลนด์ อิตาลี ออสเตรีย เดนมาร์ก สเปน รัสเซีย เมื่อถามว่าเธอพอใจกับคะแนนมากขนาดไหน เธอตอบกลับทันทีว่า “เกินพอค่ะ ไม่เคยฝันเลยว่าจะทำได้ดีถึงขนาดนี้ มันเป็นการแข่งขันกับตัวเอง"
"ส่วนใหญ่แล้วนักกีฬาก็เป็นเพื่อนกันหมดค่ะ เพราะกีฬานี้มีคนเล่นน้อย ส่วนใหญ่เวลาแข่งณีนาจะคิดว่าแข่งขันกับตัวเองมากกว่า และพยายามดูข้อดีของคนอื่นมาปรับใช้ในการพัฒนาตัวเองค่ะ"
ม้าระดับสุดยอดที่ผ่านการคลอลิฟายของณีนา มีด้วยกันอยู่ 4 ตัว สำหรับใช้ในการลงแข่งขันแต่ละแมตช์ ได้แก่ Fernhill Fearless, Butts Leon, Jazz King และ Tipperary Liadhnan ซึ่งเธอยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกตัวไหนลงแข่งโอลิมปิก จนกว่าจะแข่งระดับสามดาวที่ Barbary Castle ที่อังกฤษปลายเดือนมิถุนายน เพื่อดูผลว่าตัวไหนพร้อมและทำผลงานได้ดีที่สุด
"ณีนาคิดว่าทั้งสี่ตัวมีความเก่งไม่เหมือนกันค่ะ แต่ม้า Butts Leon คงจะมีความบกพร่องน้อยที่สุดและมีประสบการณ์ในระดับโอลิมปิกมากที่สุด"
"ตอนนี้มีม้าคู่ใจแล้ว ทุกวันนี้ณีนาทำความคุ้นเคยกับม้าคู่ใจทุกวันด้วยการจับขา ตรวจหลัง เพื่อเช็กว่าทุกอย่างเป็นปกติ เมื่อณีนาขึ้นขี่จะรู้ว่าเขาเหนื่อยแค่ไหน ฟิตแค่ไหน มีปวดเมื่อยอะไรบ้าง เบื่อหน่ายกับการฝึกซ้อมหรือไม่ อารมณ์ดีไหม เหมือนแม่ลูกกัน ในภาษาคนขี่ม้าเขาจะเรียกนักขี่ว่าMom”
การเรียนรู้นิสัยของม้าตัวเอง เป็นสิ่งจำเป็นที่นักขี่ม้าทุกคนต้องมี ซึ่งณีนาถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด "เวลาณีนาไปลองขึ้นขี่ครั้งแรก เราจะต้องเชื่อ First Instinct ของเราว่าเราเข้ากันได้หรือไม่ เหมือนคู่สร้างคู่สม"
ตอนนี้ณีนาใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ เมื่อต้นเดือนเมษายน เธอนำม้าไปอังกฤษเพื่อให้ม้าได้ปรับตัวกับสภาพแวดล้อมและเคยชินกับสภาพอากาศ ก่อนการแข่งขันโอลิมปิกที่จะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้
"ในแต่ละวันต้องเตรียมซ้อม ซ้อม ดูแลม้าหลังซ้อม ก็เกือบหมดวันแล้วค่ะ เมื่อเสร็จจากการซ้อมต้องทำงาน paper work และ เก็บข้อมูลต่างๆ เช่น ลงทะเบียนแข่งขัน อัปเดตเว็บไซต์ของณีนาเอง"
เส้นทางนักขี่ม้าระดับโลก
สื่อขี่ม้าต่างชาติเริ่มให้ความสนใจเธอ เมื่อสามารถเอาชนะนักกีฬาตัวเต็งในการแข่งขันระดับนานาชาติได้หลายรายการ และนับวันยิ่งประโคมข่าวเกี่ยวกับสาวลูกครึ่งนักขี่ม้าคนนี้ถี่มากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อย้อนไปวัยเด็ก การเริ่มหัดขี่ม้าของเธอเกิดขึ้นตั้งแต่อายุ 3 ขวบและเริ่มแข่งขันอีเวนติ้งเมื่ออายุ 11 ขวบ เธอใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถก้าวกระโดดขึ้นแท่นนักขี่ม้าระดับชาติได้ไม่ยาก
“ณีนาเริ่มแข่งขันขี่ม้าตั้งแต่ 5 ขวบ เริ่มจากกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางเล็กๆ ก่อน" หลังจากนั้นเธอเข้าแข่งขันในนามทีมชาติไทยครั้งแรกเมื่ออายุ 16 ปีในกีฬาซีเกมส์ 2007 และสามารถคว้าชัยถึงสองเหรียญทองจากการแข่งขันขี่ม้าอีเวนติ้งประเภทบุคคล และประเภททีม
ต่อมาณีนาเข้าแข่งขันในนามทีมชาติไทยอีกครั้งเมื่ออายุ 19 ปีโดยลงแข่งขันในกีฬาเอเชียนเกมส์ ที่เมืองกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน และคว้าเหรียญเงินประเภททีม รองจากตัวเต็งจากประเทศญี่ปุ่น
“ณีนาถนัดการแข่งขันขี่ม้าประเภทอีเวนติ้งมากที่สุด ซึ่งเป็นกีฬาขี่ม้าประเภทหนึ่งที่ต้องตัดสินจากการแข่งขันสามอย่าง คือ ศิลปะบังคับม้า (Dressage) ขี่กระโดดในภูมิประเทศ (cross country) และกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง (Show Jumping) โดยตัดสินจากคะแนนเสีย รวมสามวันแล้วใครมีคะแนนเสียน้อยกว่าก็จะเป็นผู้ชนะไป”
"โอกาสทำคะแนนจึงต้องทำให้ได้ดีพอๆ กันทั้งสามประเภทค่ะ สรุปคือต้องมีความผิดพลาดให้น้อยที่สุด ในการแข่งขันม้าบางตัวก็เก่งศิลปะการบังคับม้าเช่นชัยไทย แต่ใจไม่กล้าเวลากระโดดทำให้โดนหักคะแนนไปบ้าง ส่วน Fernhill Fearless กับ Jazz King เก่ง Cross country มาก แต่ไม่เก่ง ศิลปะการบังคับม้า"
ข้อดี-ข้อเสียของการขี่ม้าประเภทอีเวนติ้ง "ข้อดี คือ เป็นกีฬาที่สามารถทดสอบความแข็งแกร่งในทุกๆ ด้านของนักกีฬาและม้า และเป็นบททดสอบความสัมพันธ์ระหว่างม้ากับคนขี่ในการทำสิ่งที่ท้าทายและยาก ส่วนข้อเสีย เป็นกีฬาที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บของม้าและอันตรายต่อผู้ขี่ การบังคับม้าจึงต้องมีความนุ่มนวลที่สุด คนและม้าต้องมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน รวมทั้งยังมีการแข่งขันน้อยเมื่อเทียบกับกีฬาอย่างอื่น"
รายการแข่งขันครั้งไหนภูมิใจที่สุด "การแข่งขันที่ jersey Fresh เป็นการแข่งขันระดับ 3 ดาวครั้งแรกของณีนา พอชนะในลำดับที่ 2 ของการแข่งทำให้รู้สึกว่าสามารถไปถึงโอลิมปิกได้" (โอลิมปิกแข่งในระดับ 3 ดาว)
เมื่อปลายปีที่ผ่านมา (เดือนพฤศจิกายน 2011) ณีนาสร้างความประหลาดใจให้กับคนทั่วโลกอีกครั้ง เมื่อเธอคว้ารางวัล Rising Star ของสหพันธ์ขี่ม้านานาชาติ ซึ่งถือเป็นรางวัลใหญ่ระดับโลกเทียบเท่ากับรางวัลออสการ์ในโลกภาพยนตร์เลยทีเดียว
"เป็นรางวัลที่สหพันธ์ขี่ม้านานาชาติมอบให้กับนักกีฬาดาวรุ่งอายุไม่เกิน 21 ปี โดยคัดเลือกจากนักกีฬาขี่ม้าทุกประเภททั่วโลก แต่ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้รางวัลนี้เพราะมีนักกีฬาที่มีความสามารถอยู่หลายคน"
มีพรสวรรค์ในการขี่ม้า
จากความที่เป็นคนรักสัตว์ โดยเฉพาะม้า การเริ่มขี่ม้าตั้งแต่วัยเยาว์จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอ แต่กว่าจะเดินทางมาถึงจุดนี้ ความสำเร็จตรงหน้าพร้อมกับอาชาที่อยู่ข้างกาย ย่อมไม่ได้มีแค่ 4 ตัวที่ผ่านการควอลิฟายด์มาเท่านั้น ม้าตัวโปรด หรือ ม้าคู่ใจของเธอ เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวจนกลายเป็นเรื่องเล่าถึงความสำเร็จต่างๆ มากมาย
"เท่าที่แม่เล่าตอนอายุ 2 ขวบ คุณแม่โยนขึ้นหลังม้าให้คนจูงม้าพาไปที่เขาตะเกียบที่หาดหัวหิน แต่เริ่มเรียนขี่ม้าจริงๆ ตอน อายุ 5 ขวบที่สหรัฐอเมริกา ชอบขี่ม้าเพราะเป็นคนรักสัตว์มากๆโดยเฉพาะม้าและชอบเล่นกีฬา"
"ม้าตัวแรกชื่อ Cuddle Me Couscous แปลว่า กอดฉัน cous cous เป็นม้าสีขาวตัวเล็กนิดเดียวใจดี น่ารัก เหมาะกับที่จะสอนเด็กตัวเล็ก 5 ขวบ มันยอมให้ณีนา เล่นด้วยทุกอย่าง เช่น ยืนบนหลัง และกระโดดลงเหมือนเล่นยิมนาสติก หรือขึ้นบนคอ แม่กับคุณครูเลือกให้เพราะเป็นม้าที่ปลอดภัยดูแลง่าย จึงเป็นม้าตัวเพื่อนรักที่สุดของณีนา"
“ณีนามีพรสรรค์ในการขี่ม้า” ครูคนสอนขี่ม้าคนแรกชื่นชมณีนาผ่านคุณแม่ของเธอ “คนสอนขี่ม้าคนแรกชื่อ Daphne Wigg เขาใจเย็น ใจดี เด็กรักเขามาก การฝึกขี่ม้าต้องเริ่มต้นจากการทำความคุ้นเคยกับม้าก่อน ฝึกพื้นฐานให้ดี ท่านั่งม้าที่ถูกต้อง แล้วค่อยเรียนรู้เทคนิคขั้นสูงต่อไป"
"ม้าตัวโปรดตอนเด็กชื่อ Cuddle Me Couscous ตอนเริ่มขี่ Eventing ชื่อ Krispy Kreme ให้ชื่อนี้เพราะมันอ้วนและน่ารักและใจดีเหมือนกัน ตอนอายุ 15 ปี มีม้าชื่อ ชัยไทย ซึ่งณีนาฝึกและพัฒนาด้วยตัวเองตั้งแต่เขาอายุ 5 ขวบ และก็ได้ขี่เค้าแข่งเอเชียนเกมส์ที่กวางเจา โดยได้เหรียญเงิน ประเภททีม และที่สี่ประเภทบุคคล ขณะนี้ม้าที่รักที่สุดระดับสามดาวหรือระดับโอลิมปิก ชื่อ Fernhill Fearless ซึ่งแปลว่า “ไร้ความกลัว” เขาเป็นคนนำณีนาขึ้นมาจากระดับหนึ่งดาว สองดาว และสามดาวในเวลาที่รวดเร็ว ภายใน 2 ปี”
“ตอนเด็กๆ อายุ 5-10 ขวบ เราฝากม้าไว้ที่โรงเรียนขี่ม้า ใกล้บ้านที่รัฐเวอร์จิเนีย ต่อมาพอณีนามีม้า 3ตัวและเริ่มลงแข่งขันจริงจังในกีฬาประเภท Eventing เราได้ย้ายไปอยู่ไร่ของเราเอง มีคอกม้า มีสนามซ้อม มีที่ควบขึ้นเขาเพื่อสร้างความพร้อมของม้า ( Gallop Track ) มีเครื่องกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางเพื่อฝึกลงน้ำ และอุปสรรคต่างๆในภูมิประเทศ"
ณีนาได้อะไรจากการขี่ม้าบ้าง "รู้แพ้ รู้ชนะ รู้ว่าต้องอดทน ได้รู้จักความมีวินัย เพราะตนเองต้องใช้เวลานานมากๆ ในการฝึกซ้อม ต้องไม่ท้อแท้้ต่อการฝึกซ้อม และสอนให้รู้จักปรับตัวจากความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ไม่ว่าจากการฝึกซ้อมหรือการแข่งขัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น และสามารถรับมือกับสิ่งที่ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ได้ ม้าเป็นเหมือนเพื่อนคู่ใจที่ไม่สามารถพูดได้ เราต้องสื่อสารกับเค้าให้ดี ต้องมีความอดทน ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ และความใจเย็น เพราะการฝึกม้าต้องใช้เวลามากๆ
ณีนารักสัตว์อยู่แล้ว และชอบม้ามากเพราะเขายอมให้เราเป็นผู้นำ เป็นเพื่อนรัก เป็นคู่หูและดูแลเราด้วยเวลาต้องขี่ผ่านเครื่องกระโดดที่มีความเสี่ยงและอันตราย"
ตั้งแต่เด็กจนโตจนเกิดเป็นความผูกพันระหว่างม้ากับณีนา ทำให้เธอรักการขี่ม้าเป็นชีวิตจิตใจ จะบอกว่าม้าเป็นความฝันของเธอก็ย่อมได้ เด็กบางคนอาจฝันอยากเป็นเจ้าหญิง นักร้อง หรือดาราทีวี ฯลฯ แต่ณีนาฝันอยากเป็นนักกีฬาโอลิมปิก ที่กำลังยืนอยู่บนแท่นรับเหรียญ ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และเป็นสิ่งเดียวที่เธออยากเป็น โดยไม่คิดเปลี่ยนแปลงไปอยากทำอย่างอื่นเลย นอกจากการเป็น “นักขี่ม้าโอลิมปิก”
ครอบครัวดันสุดฤทธิ์
การเป็นนักกีฬาขี่ม้าดาวรุ่ง จนเป็นที่ชื่นชมของคนทั่วประเทศและทั่วโลก ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จหลายๆ อย่างของณีนา จึงไม่พ้นคนในครอบครัว ซึ่งทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และแรงกำลังทรัพย์ที่จะให้ลูกรักคนหนึ่งได้ทำตามความฝันของตัวเองให้เป็นจริง
“คุณพ่อ คุณแม่สนับสนุนการแข่งขันขี่ม้าทุกทาง โดยไม่เคยบังคับ ให้ทั้งกำลังใจ กำลังเงิน และกำลังกาย รู้สึกขอบคุณทุกคนในครอบครัวที่ทุ่มเทและให้ทุกๆ อย่างกับณีนา บางครั้งก็ต้องเสียสละเวลาส่วนตัวเพื่อมาช่วยดูแลณีนาเวลาไปแข่งขัน”
คุณพ่อของเธอชื่อ Austin Ligon เคยเป็น CEO และผู้ริเริ่มจัดตั้ง (founder) บริษัท Carmaxคุณแม่ชื่อ สมรมิตต์ ล่ำซำ ชื่อเล่น คุณแป้น เป็นผู้จัดการทั่วไปของณีนา คอยดูแลการฝึกซ้อมและโปรแกรมการแข่งขันของณีนาทั้งหมด
"ณีนาเป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เกิดที่เมืองไทย ที่โรงพยาบาลสมิติเวช คุณแม่อุ้มกลับไปอเมริกาตอนอายุ 17วัน เพราะพ่อทำงานอยู่ที่นั่น ณีนามีพี่ 2 คน พี่ชายชื่อ อรัณย์ พี่สาวชื่อ ณิชา ซึ่งพี่ณิชาชอบขี่ม้ามากเหมือนณีนา แต่คนที่ณีนาสนิทมากที่สุดน่าจะเป็นคุณแม่ค่ะ เพราะใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากที่สุด"
"ในวัยเด็กส่วนมากใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกามากกว่าประเทศไทย ช่วงหยุดภาคฤดูร้อนจะกลับมาเมืองไทย ประมาณ 2 อาทิตย์ เพราะห่างม้านานไม่ได้ (เชื่อแล้วว่ารักม้าจริงๆ) ตอนเด็กเป็นคนขี้อายที่สุด พูดน้อยมาก แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้วค่ะ และชอบทำวีรกรรมแซบซน อย่างเต้นระบำแบบซ่าๆ จนหลายคนไม่น่าเชื่อ"
เรื่องส่วนตัวของคนรักม้า
เห็นว่าพูดถึงแต่เรื่องม้า แต่ใช่ว่าชีวิตเธอจะมีแต่เรื่องนี้เท่านั้น นอกจากกีฬาขี่ม้าซึ่งเป็นที่ชื่นชอบแล้ว เธอยังเคยเล่นกีฬาหลายๆ อย่างเช่น ยิมนาสติก ปีนเขา สเกต แต่สุดท้ายก็ยังชอบขี่ม้ามากที่สุดอยู่ดี
"ณีนาไม่คิดว่าการขี่ม้าป็นอาชีพ ถือเป็นกีฬาสมัครเล่นเท่านั้น หลังจากเสร็จจากโอลิมปิกณีนาจะเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Stanford ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และให้เวลากับการเรียนอย่างจริงจังค่ะ"
ณีนาชอบขี่ม้า และคนชอบขี่ม้ามักจะเป็นคนสมบุกสมบัน เธอจึงพูดเสริมขึ้นว่า “ถ้าไม่สมบุกสมบันก็จะอยู่กับม้าไม่ได้ เพราะต้องคอยดูแลม้าให้สะอาดเรียบร้อย ประมาณว่าทำทุกอย่างที่คอกม้าค่ะ และการจะเป็นนักขี่ม้าทีมชาติได้ต้องฝึกฝนทุกวันไม่ว่าจะแดดร้อน ฝนตก หิมะลง ก็ต้องฝึก และลงแข่งในสนามบ่อยๆ เพื่อหาประสบการณ์หลายๆ อย่าง"
“ถามว่าใครเป็นนักขี่ม้าไอดอลของณีนา ไม่มีใครคนใดคนหนึ่ง ณีนามักเลือกดึงในสิ่งดีๆ ของนักกีฬาแต่ละคนออกมาปรับใช้ ณีนานับถือความเด็ดเดี่ยวและการตัดสินใจที่เฉียบคมของ Kim Severson ซึ่งเป็นโค้ชของณีนา ณีนาชอบนิสัย ของ Boyd Martin ในความยิ้มแย้มแจ่มใสและเป็นกันเองของเขา (จริงๆ แล้วณีนาเป็นคนขี้อายเป็นคนเงียบๆ และค่อนข้างเงียบเกินไป)”
ถ้าไม่ซ้อมขี่ม้า ในเวลาว่างจะทำอะไร "ฟังเพลง อ่านหนังสือ ดูหนังในคอมพ์ นอนพักผ่อน ถ้าเป็นหนังสือจะชอบแนว Fiction ที่เขียนโดย Gabriel Garcia Marquez, Tim O'Brien และ Don Delillo ส่วนหนังสือสุดโปรด จะชอบ 100 Years of Solitude เขียนโดย Gabriel Garcia Marquez เพราะชอบสไตล์การเขียน ที่สามารถเล่าเรื่องธรรมดาให้น่าสนใจได้ บางทีก็ชอบเดินซื้อของตามโบ๊เบ๊ ชอบหาของแปลกๆ มาแต่งตัวค่ะ"
คนเงียบๆ ที่ชอบอยู่กับม้า จะมีใครในใจหรือยังนั้น ณีนาตอบเคลียร์ๆ ไปเลยว่า “ยังไม่มีเลยค่ะ เวลาทั้งหมดให้ไปกับม้าแล้วค่ะ" ความรักและความใส่ใจของณีนาในตอนนี้จึงมอบให้กับม้าที่รักของเธอ
ณีนาขอปิดท้ายด้วยคติในการใช้ชีวิตอย่างให้แง่คิดว่า “ENJOY THE GOOD MOMENTS WHEN THEY COME”
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ-นามสกุล : ณีนา รุจิราภรณ์ ล่ำซำ ลิเกิ้น
วัน/เดือน/ปีเกิด : 8 ตุลาคม 1991
การศึกษา :
- จบมัธยมได้เกียรตินิยม Cum Laude จากโรงเรียน Collegiate School ที่เมือง Richmond รัฐเวอร์จิเนีย
- มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มหาวิทยาลัยชื่อดังของโลกซึ่งตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับณีนาเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2009 และได้รับการยินยอมให้สิทธิณีนาในการเตรียมความพร้อมสู่เส้นทางโอลิมปิกเป็นระยะเวลาถึง 2 ปี
อาหารที่ชอบ : ส้มตำ บะหมี่ และก๋วยเตี๋ยว
ผลงานและความสำเร็จ
ความสำเร็จจากการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ (ทีมชาติไทย) :
- 2 เหรียญทอง กีฬาขี่ม้าอีเวนติ้งประเภทบุคคล และประเภททีม จากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ปี 2007 ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี
- 1 เหรียญเงิน กีฬาขี่ม้าอีเวนติ้งประเภททีม (คะแนนสูงที่สุดในทีม) จากการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ปี 2007 ที่เมืองกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน
ผลงาน / รางวัลเชิดชูเกียรติ :
ประเทศไทย>>
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นเหรียญทองดิเรกคุณาภรณ์ ปี 2010 ในฐานะผู้บำเพ็ญคุณประโยชน์ด้านกีฬาของชาติ
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นเหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์ ปี 2009 ในฐานะผู้บำเพ็ญคุณประโยชน์ด้านกีฬาของชาติ
- รางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม ประจำปี 2007 จากสยามกีฬา อวอร์ดส์ และร่วมเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่ง รุกกี้แห่งปี (สำหรับนักกีฬาที่เพิ่งติดทีมชาติเป็นครั้งแรก แต่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น)
ระดับนานาชาติ>>
- รางวัลเกียรติยศ ดาวรุ่งแห่งปี “FEI HSBC Rising Star Award” ประจำปี 2011 จากสหพันธ์ขี่ม้านานาชาติ (FEI) โดยคัดเลือกจากนักกีฬาเยาวชนอายุไม่เกิน 21 ปีทั่วโลก ที่มีผลงานโดดเด่นในเวทีการแข่งขันขี่ม้าทุกประเภท
สหรัฐอเมริกา>>
- รางวัล "Young Rider of the Year" สองปีซ้อน (ในปี 2010 และ 2011) จากสมาคมขี่ม้าอีเวนติ้งของสหรัฐอเมริกา (US Eventing Association) ซึ่งมอบให้แก่นักกีฬาที่มีคะแนนสะสมสูงสุดของปี
- ได้รับการจัดลำดับให้เป็นนักกีฬาขี่ม้าอีเวนติ้งหญิง มือวางอันดับ 2 ของ USA ในปี 2011(Overall)
- ได้รับการจัดลำดับให้เป็นนักกีฬาขี่ม้าอีเวนติ้งหญิง อันดับหนึ่งในรุ่นเยาวชน (อายุไม่เกิน21 ปี) ของ USA ในปี 2011 จากการแข่งขันในระดับ Advanced (3 Star), ระดับ Preliminary (2 Star), และระดับ Intermediate (1 Star)
โอลิมปิก :
- ณีนารั้งอันดับที่ 56 ของโลกในปี 2011 (HSBC World Ranking)
- ปัจจุบัน ณีนารั้งตำแหน่งอยู่ในสุดยอดนักกีฬาขี่ม้าอีเวนติ้ง 40 คนแรกของโลก
- ณีนาเป็นหนึ่งในนักกีฬา 47 คนทั่วโลกที่ได้รับเชิญให้ไปร่วมแข่งขันในรายการ Greenwich Olympic Test Event เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2011 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อทดสอบสนามแข่งขันก่อนการใช้จริงในปีนี้
กีฬาขี่ม้าอีเวนติ้ง
กีฬาขี่ม้าอีเวนท์ติ้ง (Eventing หรือชื่อเดิมว่า 3-Day Event) ถือเป็นกีฬาขี่ม้าขั้นสูงที่ต้องใช้ทั้งทักษะ ความชำนาญ และความอดทนในการควบคุมม้าในรูปแบบต่างๆ โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 แบบทดสอบ ในระยะเวลา 3 วัน คือ การแข่งขันศิลปการบังคับม้า (Day 1: Dressage),การแข่งขันขี่ม้าข้ามภูมิประเทศ (Day 2: Cross Country) และการแข่งขันขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง (Day 3: Showjumping)
ระดับความยากของการแข่งขันกีฬาขี่ม้าอีเวนติ้งแบ่งตามระดับของดาว (*) หรือ Star โดยเริ่มต้นที่ 1 Star ที่มีความยากต่ำที่สุด ไล่ไปจนถึงระดับ 4 Star ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับสูงที่สุด และมักจะจัดในรายการแข่งขันขนาดใหญ่ระดับโลก อาทิ การแข่งขันชิงแชมป์โลก ชิงแชมป์ทวีปต่างๆ รวมถึงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกด้วย
ตามกฎแล้ว นักกีฬาที่สามารถลงแข่งขันขี่ม้าอีเวนติ้งได้ จะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ด้วยเหตุนี้นักกีฬาอีเวนติ้งที่ลงแข่งขันในโอลิมปิกส่วนใหญ่จะมีอายุเฉลี่ยเกินกว่า 30 ปีและมีประสบการณ์การแข่งขันในระดับอาชีพมากว่า 10-15 ปี
ข่าวโดย Manager Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
ขอบคุณภาพประกอบ : HorseMove Thailand, www.ninaligon.com