xs
xsm
sm
md
lg

ฟิตหุ่นเปรี๊ยะ สูตร “เจ้าชายไข่เจียว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ขอบคุณ: Fitness First (โรงแรม Platinum Landmark)
“แจ็ค AF4 ล่ำขนาดนี้แล้วเหรอ?” หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันเมื่อได้เห็นลุคใหม่ล่าสุดของเขาที่ออกมาถอดเสื้อโชว์ซิกซ์แพกให้เห็นกันจะจะ บนหน้าปกนิตยสารผู้ชาย เล่นเอาแม่ยกซึ่งตามเชียร์มาตั้งแต่สมัยยังเป็นหนุ่มหน้าละอ่อนตอนอยู่ในบ้านเอเอฟกลืนน้ำลายกันแทบไม่ทัน ยังสงสัยว่าอะไรทำให้เด็กผู้ชายตัวนิ่มๆ คนหนึ่งลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นชายหนุ่มหุ่นเซ็กซี่จนแทบไม่เหลือเค้าเดิม เจ้าของก้ามปูได้แต่ยิ้มบางๆ ด้วยท่าทีเขินๆ ว่า “คงเป็นเพราะตอนนี้ผมโตเป็นหนุ่มแล้วมั้ง”



ก้ามปูของผม
“เพิ่งเริ่มมาได้ประมาณปีหนึ่งครับ เล่นเพราะอยากสุขภาพดี รู้สึกว่าแต่ก่อนทำงานอย่างเดียว ไม่ได้ออกกำลังกายเลย กลับถึงบ้านก็นอนตลอด เลยลองออกกำลังกายดู เริ่มจากวิ่งอย่างเดียวก่อนให้หัวใจสูบฉีด ให้รู้สึกว่าได้ออกกำลังกายจริงๆ แต่พอวิ่งไปสักพัก เห็นคนอื่นเขายกเวตแล้วหุ่นดีเราก็อยากได้แบบเขาบ้าง ก็เลยเริ่มยกดูบ้าง สรุปคือเริ่มเพราะเกิดจากความอิจฉาล้วนๆ เลยครับ (หัวเราะ)” เมธัส ตรีรัตนวารีสิน หรือ “แจ็ค AF4” ย้อนพูดถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาเริ่มฟิตหุ่น
 
ด้วยความที่ยังเป็นมือใหม่ แจ็คจึงเล่นท่าผิดบ้างถูกบ้างตามประสา “พอเล่นไปสักพักเริ่มสงสัยว่า เอ๊ะ! เรายกผิดหรือเปล่า ทำไมมันไม่ค่อยได้ผล กล้ามไม่เห็นขึ้นเลย บางทียกไปก็เจ็บแปล๊บขึ้นมา เลยคิดเอาเองว่าเราน่าจะเล่นผิดแล้วล่ะ ก็เลยลองซื้อ Personal Trainer ดู ตอนนี้ก็เล่นไปได้ 2-3 คอร์สแล้วครับ ให้เทรนเนอร์ช่วยแนะนำแล้วดีขึ้นเยอะเลย เห็นผลเร็วมาก เดี๋ยวนี้ผมก็เริ่มรู้แล้วว่าต้องทำยังไงถึงจะถูก” ว่าแล้วแจ็คก็ช่วยบอกแนะทริกเล็กๆ แบบไม่หวงสูตร
 

“ช่วงแรกที่หัดเล่น เขาจะให้เริ่มจากกล้ามเนื้อชิ้นใหญ่ก่อนครับ อย่างช่วงหน้าอก หลัง แล้วก็ขา เพราะว่ากล้ามเนื้อชิ้นใหญ่เป็นส่วนที่แข็งแรงที่สุด พอเราขยายกล้ามเนื้อชิ้นใหญ่ได้ เดี๋ยวชิ้นเล็กๆ ก็จะตามมาเอง คือถ้าเล่นส่วนหลังก็อาจจะได้หลังแขนไปด้วย แต่ถ้าเน้นกล้ามเนื้อชิ้นเล็กอย่างเดียว เน้นยกแค่ช่วงแขน ก็จะไม่ได้ส่วนหน้าอกแล้วก็หลัง”
 

ทุกวันนี้แจ็คพยายามปลีกตัวจากภาระอันวุ่นวายมาเข้าฟิตเนสให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละสามครั้ง แบ่งโปรแกรมการเล่นออกเป็นสัดส่วนชัดเจน คือวันแรกแค่เล่นกล้ามเนื้อส่วนหน้าอกและหลัง วันที่สองเน้นที่ไหล่และแขน และวันที่สามบริหารเฉพาะขาอย่างเดียว “เพราะส่วนนี้เป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ครับ (ชี้ไปที่ท่อนขาส่วนบนไปจนถึงบั้นท้าย) เราต้องให้ความสำคัญหน่อย” โดยเฉพาะช่วงท้องที่ต้องฟิตจริงๆ จึงจะเห็นร่องกล้ามที่เรียกกันว่า “ซิกซ์แพก”
 

“เป็นส่วนที่อยากได้มากสุด แต่ขึ้นช้าสุดเลยนะ (ยิ้มกว้าง) มันเล่นยากมากจริงๆ ครับ ไม่ใช่แค่ขยันเล่นบ่อยๆ แล้วกล้ามท้องมันจะขึ้นนะ แต่เราต้องเผาผลาญไขมันไปด้วย ต้องวิ่ง ต้องควบคุมอาหาร แค่ซิตอัพอย่างเดียวก็ไม่ขึ้นครับ เพราะซิกซ์แพกมันก็เหมือนเมล็ดที่อยู่ข้างใน ถ้ามีไขมันเป็นเปลือกมาคุมมันไว้ ยิ่งเปลือกหนามากเท่าไหร่ ต่อให้เล่นหนักขนาดไหนเราก็จะไม่เห็นเนื้อเมล็ดข้างใน คือไม่เห็นกล้ามท้องอยู่ดี แต่ถ้าเราค่อยๆ ลดเปลือกให้มันบางลง ลดไขมันลงเรื่อยๆ มันถึงจะเห็นซิกซ์แพกข้างในเอง
 

แต่กว่าจะเห็นผลได้อย่างทุกวันนี้ เล่นเอาแจ็คเกือบท้อไปหลายทีเหมือนกัน ทางที่ดีที่สุดจึงแนะนำให้มือใหม่หัดเล่นทั้งหลายอย่าเพิ่งโฟกัสไปที่ซิกซ์แพก เพราะมันขึ้นยาก แต่ควรเริ่มเพาะกล้ามส่วนอื่นให้ได้ก่อน แล้วกำลังใจจะตามมาเอง
 
“พอกล้ามเริ่มขึ้น เราจะรู้สึกดีนะ มีกำลังใจว่ามันขึ้นมาบ้างแล้ว (ยิ้ม) ทำให้อยากเล่นต่อ แต่ถ้าเล่นไปเท่าไหร่ก็ไม่มาสักที ก็จะรู้สึกท้อครับ แล้วถ้าหยุดเล่นไปก็คือจบเลย เพราะฉะนั้นถ้าเล่นแล้วยังไม่ขึ้น ต้องทนเล่นจนมันขึ้นให้ได้ครับ ถ้ามันมาได้ เดี๋ยวมันจะมาเรื่อยๆ เอง ผมว่าคนส่วนใหญ่เล่นแล้วขึ้นง่ายกว่าผมเยอะนะ เพราะว่าผมเป็นคนไม่กินเนื้อสัตว์ แล้วก็ไม่ได้กินไก่สร้างโปรตีนเหมือนคนอื่นเขา แต่ผมกินเฉพาะไข่ขาว นม แล้วก็น้ำเต้าหู้ มันช่วยแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้บ้าง แต่ก็ไม่ดีเท่าคนที่กินปกติอยู่ดี” เพราะฉะนั้นชายชาตรีกินเนื้อสัตว์ทั้งหลายย่อมฟิตหุ่นได้สบายๆ อยู่แล้ว แจ็ครับประกัน




บังเอิญสุขภาพดี
ไม่กินเนื้อสัตว์แบบนี้นี่เอง แจ็คจึงได้รับฉายานามว่า “เจ้าชายไข่เจียว” มาตั้งแต่สมัยอยู่ในบ้านเอเอฟ เพราะไข่คือเมนูหลักชนิดเดียวที่ช่วยให้เขาประทังชีวิตได้ท่ามกลางอาหารฟาสต์ฟูดทั้งหลายที่เข้ามาเป็นสปอนเซอร์ ถามว่าเหตุใดจึงเลือกที่จะเป็นมังสวิรัติ คู่สนทนาหัวเราะเบาๆ แล้วตอบว่า “ผมไม่ได้ตั้งใจจะไม่กินครับ แค่ผมไม่ชอบรสชาติของมันแค่นั้นเอง ไม่มีเหตุผลอะไรเลย”
 

“บางคนอาจจะไม่กินเนื้อเพราะกลัวบาป แต่ผมแค่ไม่กินเพราะไม่ชอบครับ เหมือนเด็กที่ไม่ชอบกินผักนั่นแหละ เขาอาจจะคีบแครอตออกเพราะไม่อยากกิน แต่ของผม ถ้าสั่งบะหมี่หมูแดงมา ผมจะคีบหมูแดงออกให้เพื่อน แล้วกินแค่บะหมี่กับผักกวางตุ้งแทน ผมว่ารสชาติของเนื้อมันแปลกๆ ยังไงไม่รู้ ไม่ค่อยชินเท่าไหร่ แต่ก็ดีนะ เพื่อนเลยรักเราเลย เพราะผมให้เพื่อนกินหมูแทนตลอด (หัวเราะ)”
 
“อย่างเวลาไปกินข้าวกับเพื่อน เพื่อนสั่งสเต๊กมาวาง ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะรู้สึกอยากกินหรือต้องกลืนน้ำลายเลย แต่เชื่อไหม ผมเห็นแล้วผมเฉยๆ นะ เหมือนเห็นกระดาษวางอยู่บนจาน ไม่ได้รู้สึกอยากลองหรืออยากกินเลยแม้แต่นิดเดียว
 

ถ้าวัดจากเมนูที่แจ็คกินอยู่เป็นประจำ คนที่ไม่รู้อาจจะคิดไปว่าเขาเป็นคนดูแลสุขภาพอย่างมาก ทั้งที่ความจริงแล้ว แจ็คมองว่าตัวเองแค่โชคดีที่ไม่ชอบกินเนื้อสัตว์เท่านั้นเอง ส่วนเรื่องกินก็ไม่ได้พยายามเลือกเมนูสุขภาพแต่อย่างใด “ผมไม่เคยคิดว่าเมนูไหนกินแล้วสุขภาพดีนะ ผมแค่กินตามที่ผมชอบ แต่มันคงได้สุขภาพไปเองโดยที่ผมไม่รู้ตัว (ยิ้ม) ผมชอบกินสลัดแล้วก็ชอบกินผักเยอะๆ จริงๆ แล้วแม่ผมเป็นห่วงด้วยซ้ำว่าผมจะขาดสารอาหาร เคยพาไปตรวจกับคุณหมอด้วยว่ามีสารอาหารในร่างกายครบหรือเปล่า แต่ผลออกมาก็เห็นว่าไม่ขาดอะไรนะ”
 

หนึ่งเหตุผลที่ทำให้ร่างกายของแจ็คมีครบห้าหมู่ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเขาโตมากับ “ข้าวกล้อง” กินมาตั้งแต่ตอนประถมฯ จนถึงทุกวันนี้ และดูเหมือนเขาจะรู้อย่างลึกซึ้งด้วยว่ามันดีอย่างไร
 

“ผมว่าข้าวกล้องมันดีมากนะ มันมีวิตามินที่ข้าวขาวสีทิ้งไปอยู่เยอะมาก มีกากใยไฟเบอร์ด้วย ถ้าเทียบกันแล้ว ข้าวขาวมันก็เหมือนแป้งที่ถูกย่อยมาแล้วน่ะครับ พอเรากินเข้าไปปุ๊บก็ดูดซึมได้เลย พอดูดซึมเร็ว ร่างกายเราก็จะเอาไปเก็บเป็นไขมัน ไม่ได้ใช้พลังงานในการเผาผลาญ ไม่เหมือนข้าวกล้องหรือพวกขนมปังโฮลวีตที่ไม่ได้ขัดสี มันเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ย่อยยากกว่า มันเลยใช้พลังงานหลังจากกินไปแล้วเยอะกว่า เพราะฉะนั้นถ้าเลือกได้ ผมเลยเลือกกินพลังงานเชิงซ้อนดีกว่า มันทำให้เราผอม สุขภาพก็ดี แถมยังมีวิตามินครบอีก”
 

ที่รู้เยอะจนอธิบายออกมาเป็นฉากๆ ได้ขนาดนี้ เป็นเพราะแจ็คชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับอาหารการกินและสุขภาพเป็นประจำ ถ้าให้เลือกแนะนำเมนูสุขภาพสักรายการเพื่อเป็นวิทยาทานแก่คนอื่น แจ็คขอเสนอเมนูง่ายๆ ที่ทำกินได้ทุกวันจะดีกว่า
 
“ผมเป็นคนชอบกินอะไรง่ายๆ ครับ บางทีอยู่บ้านก็ทำแซนด์วิชกินเอง แต่ต้องไปซื้อขนมปังโฮลวีตหรือขนมปังข้าวกล้องมากินนะ ไม่งั้นก็เป็นพวกโฮลเกรนที่รวมเมล็ดโน่นนี่ทั้งหลาย ไส้ในแซนด์วิชก็จะเป็นผักกาด มะเขือเทศ พยายามใส่ผักให้ครบหลายๆ สีครับ กินแล้วรู้สึกว่าสารอาหารครบดี (ยิ้ม) แล้วก็อาจจะโปะไข่ดาวลงไปตรงกลาง เติมชีสบ้างเล็กน้อย ผมชอบกินชีสมาก ถึงใครบอกว่าอ้วน แต่ผมชอบ ผมก็กินนะ”




สลัดไขมันใน 20 นาที!
“ยิ่งอดก็ยิ่งอยาก” แจ็คถือคติเช่นนี้เสมอ เขาจึงไม่มานั่งทรมานตัวเองว่าห้ามกินนั่นกินนี่ จะกินเมื่ออยากกิน แต่ก็ไม่ลืมตั้งเป้าหมายให้ตัวเองบ่อยๆ เพื่อเป็นการควบคุมน้ำหนักทางอ้อมด้วย
 

“ผมเคยอดอาหารตอนถ่ายหนังสือเหมือนกัน พอถ่ายเสร็จเท่านั้นแหละ กลับมากินเยอะกว่าเดิมอีก น้ำหนักขึ้นเลย ทีหลังผมเลยไม่อดแล้วครับ แต่จะแก้ด้วยการตั้งเป้าหมายให้ตัวเอง เช่น อีกสองเดือนจะไปเที่ยวทะเลกับเพื่อน เราก็ตั้งใจไว้เลยว่าจะลดพุงให้ได้ จะได้ใส่ชุดว่ายน้ำแล้วมั่นใจ อันนี้แนะนำสำหรับคนที่ปกติบังคับตัวเองไม่ค่อยได้ครับ มันอาจจะยากถ้าจะให้มานั่งบังคับตัวเองทุกวัน แม้แต่นักเพาะกายเขายังมีช่วงแข่งขันกับช่วงนอกฤดูเลย เพราะฉะนั้นผมว่าคนเราต้องมีช่วงพักบ้างครับ จะให้มานั่งคร่ำเคร่งรักษาหุ่นตลอดมันคงอึดอัดเกินไป”
 

อีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญคือ “การเบิร์น” ให้เป็นกิจวัตร โดยเฉพาะคนที่รักการกินจริงๆ จงท่องไว้ว่า “กินไปเท่าไหร่ ต้องเบิร์นออกให้ได้เท่านั้น” ไม่อย่างนั้นเตรียมตัวอวบไว้ได้เลย โดยเฉพาะช่วง 20 นาทีแรกของการออกกำลังกายที่ต้องอดทนผ่านไปให้ได้ เพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินที่เพิ่งแอบเข้าไปสะสมอยู่ในร่างกายจากอาหารมื้อที่แล้ว
 

“20 นาทีแรก ร่างกายเราจะเผาผลาญแค่เฉพาะน้ำตาลที่เราเพิ่งใส่ลงไปในท้องเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนครับ ยกตัวอย่างเมื่อเช้าเรากินข้าวไป อีกสองชั่วโมงต่อจากนั้นเราไปวิ่งเบิร์น 20 นาทีแรกที่เราวิ่ง มันจะเบิร์นได้แค่ข้าวมื้อนั้นแหละ นอกนั้นต้องให้เลย 20 นาทีไปถึงจะเอาไขมันส่วนอื่นๆ ที่สะสมอยู่ในตัวเราออกมาใช้ได้ เพราะฉะนั้นมาแต่ละครั้งต้องเบิร์นให้ได้อย่างต่ำ 30-40 นาทีครับ ผมก็ทำอย่างนั้นตลอด จะวิ่ง จะเต้น หรือปั่นจักรยานก็ได้ อะไรที่ทำแล้วได้เหงื่อได้หมด กีฬาทุกอย่างที่ไม่ใช่ยกเวตถือว่าเป็นการเบิร์นหมดครับ”
 

อย่างแจ็คเอง ไม่ว่าจะเหนื่อยจากการยกเวตมาขนาดไหน แต่เขาบังคับตัวเองเลยว่าต้องต่อด้วยกระบวนการเบิร์นทุกครั้ง ห้ามเหนื่อยห้ามท้อ “เพราะผมไม่อยากมาวิ่งอีกวันพรุ่งนี้ (ยิ้ม) ถือว่าอีกวันก็พักไปเลย ไม่ต้องมาแล้ว เอาเวลาไปทำอย่างอื่นบ้าง สรุปแล้วคือเข้าฟิตเนสครั้งหนึ่งผมใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง ชั่วโมงแรกเล่นเวต ชั่วโมงที่สองค่อยเบิร์น เพราะถ้าเบิร์นก่อน จะไม่มีแรงยก (หัวเราะ)”
 

ทุกวันนี้ถ้ามีเวลาว่างเมื่อไหร่แจ็คจะเจียดเวลามาเข้าฟิตเนสทันที อย่างน้อยสามครั้งต่อสัปดาห์ ถ้าเป็นไปได้ก็จะมาปลดปล่อยเหงื่อให้ได้วันเว้นวัน เพราะทำแล้วมันดีขึ้นจนเห็นผลได้จริงๆ
 

จากที่เป็นหวัดบ่อยๆ เพราะเป็นโรคภูมิแพ้ เดี๋ยวนี้ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลแล้ว ไม่ได้ไปหาหมอเลย แค่มีจามๆ บ้าง กินยาแก้แพ้ก็หาย แต่ก่อนนี่ตื่นมาก็จาม กินยาแก้แพ้ก็ไม่หาย เป็นเรื้อรัง ต้องหาหมอตลอด ก็ถือว่าแข็งแรงขึ้นมากเลยครับ แถมมาเล่นแล้วหายเครียดด้วย มันเหมือนได้หลุดมาอยู่อีกโลกหนึ่งเลยนะ โดยเฉพาะตอนยกน้ำหนัก มันต้องใช้สมาธิมากในการโฟกัสกล้ามเนื้อว่าต้องกล้ามเนื้อมัดนี้นะ ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้ตรงจุด”

สำหรับคนที่คิดว่าผู้ชายหุ่นดีมีแค่ “ดารา” และ “เกย์” เท่านั้น ขอให้คิดใหม่ เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว “คนทั่วไปก็ดูดีได้ อยู่ในออฟฟิศก็สาวกรี๊ดได้ (หัวเราะ) หรือถ้าไม่มองเรื่องหุ่นดีไม่ดี อย่างน้อยสิ่งที่ได้แน่ๆ คือเรื่องสุขภาพ หัวใจเราสูบฉีดดีขึ้น ระบบร่างกายดีขึ้น ส่วนเรื่องหุ่นจะตามมาทีหลังเองครับ ผมว่าคนเราถ้าดูแลตัวเองดีๆ มันช่วยให้ดูดีได้ตลอดเลย ถึงจะแก่แต่ก็จะเป็นคนแก่ที่ดูดีสมวัย ตอนผมอายุสัก 50 ผมอาจจะเป็นเหมือนอาแอ๊ด สมบัติ (เมทะนี) ก็ได้นะ” ผู้ชายวัย 22 อย่างแจ็คตบท้ายบทสนทนาด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ




---ล้อมกรอบ---
อย่าบ้าพลัง
ถึงจะบอกว่า “กล้ามขา” เป็นกล้ามเนื้อมัดสำคัญที่ต้องใส่ใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องฟิตให้ล่ำจนใหญ่เกินพอดี “ผมชอบใส่กางเกงขาเดฟครับ ผมเลยจะไม่เล่นให้ขาใหญ่เกินไป เพราะรู้สึกว่าถ้าขาใหญ่มากๆ แล้วใส่เดฟไม่สวย เล่นแค่ให้กระชับ ให้ดูมีกล้ามก็พอแล้ว ผมว่านะ”
 

โดยเฉพาะอาชีพที่ต้องอยู่หน้ากล้อง ยิ่งต้องคอยส่องกระจกดูตัวเองอยู่บ่อยๆ “สังเกตง่ายๆ เลยคือน้ำหนัก ถ้าน้ำหนักเราขึ้นเยอะๆ โดยที่เราก็เล่นเวตอยู่ตลอด แสดงว่ามวลกล้ามเนื้อเราเพิ่ม ถ้าเป็นอย่างนั้น เราก็ต้องมาดูตัวเองแล้วว่าเราก้ามปูเกินไปแล้วหรือยัง ถ้ามันเกินไปแล้ว เราก็หยุดเล่นไปสักพักแล้วเปลี่ยนมาเบิร์นอย่างเดียว พอเบิร์นไปเรื่อยๆ ร่างกายจะดึงไขมัน ดึงกล้ามเนื้อส่วนที่มีอยู่ไปใช้เอง เราก็จะตัวเล็กลง ผอมลง แล้วก็ฟิตมากขึ้นเองครับ”

ส่วนคนที่ยิ่งเล่นยิ่งมันยิ่งบึ้กจนยั้งไม่อยู่ แจ็คขอเตือนว่าให้ใจเย็นๆ “เวลาเห็นคนอื่นเขายกน้ำหนักได้เยอะๆ เราอาจจะรู้สึกอยากทำได้อย่างเขาบ้าง แนะนำว่าอย่าไปบ้าพลังตามคนอื่นเขาครับ ไม่งั้นตัวเราจะใหญ่เกิน แต่ถ้าใครอยากให้ตัวล่ำๆ ก็แล้วแต่ครับ จัดหนักไปได้เลย แต่ผมตัวเท่านี้ก็พอแล้ว”



ผู้ชายก็ผู้ชายเถอะ!
ถึงจะเป็นผู้ชายก็ใช่ว่าจะปล่อยตัว ไม่ห่วงเรื่องหน้าตาผิวพรรณเลย โดยเฉพาะผู้ชายผิวแห้งควรรู้จักหยิบโลชั่นขึ้นมาทาบ้าง เช่นเดียวกับแจ็คที่ต้องทาเป็นประจำ “พยายามทากันแดด เพราะผมเป็นคนที่มีกระ ผิวค่อนข้างไวต่อแสง แล้วก็เป็นคนผิวแห้งมากด้วยเลยต้องทาครีมบ้างครับ อย่างวันนี้ผมลืมทาครีมทามือ ดูสิ (แบมือให้เห็นว่าลอกและสากมาก) ก็เลยต้องทาครีมเกือบทั้งตัวเลยครับ ถ้าไม่ทาก็จะเป็นอย่างนี้เลย” แจ็คกวาดตานึกถึงเคล็ดลับความหล่อของตัวเอง แล้วเริ่มอธิบายอย่างละเอียด
 

“อย่างเรื่องโกนหนวดก็ต้องขยันเปลี่ยนใบมีดบ่อยๆ หน่อย ไม่งั้นมันจะยิ่งทำให้ผิวหน้าสาก ผู้ชายหลายคนจะไม่ค่อยสนใจ แต่จริงๆ แล้วใบมีดเนี่ยใช้แค่เดือนเดียวมันก็จะเริ่มฝืดๆ แล้ว ถ้าผู้ชายคนไหนนอนดึกบ่อยๆ อย่างผม แนะนำให้ดื่มน้ำเยอะๆ แล้วก็กินวิตามินเสริม พวกวิตามินอี โคเอนไซคิวเท็นช่วยบำรุงผิว แล้วก็ไบโอติน บำรุงผมและเล็บ น้ำมันตับปลาช่วยเรื่องความจำ วิตามินซีก็สำคัญครับเพราะผมเป็นโรคภูมิแพ้

“แต่ถ้าจะให้ชัวร์ว่าแต่ละคนต้องกินวิตามินตัวไหนถึงจะเหมาะ แนะนำให้ไปลองตรวจเลือดดูครับ พอผลออกมาเราจะรู้เองว่าเลือดเราขาดอะไรบ้าง กินอะไรเยอะไปหรือเปล่า แล้วก็เลือกเสริมวิตามินตามนั้นเลย” เอาล่ะ หนุ่มๆ ผู้รักสุขภาพทั้งหลายทราบแล้วปฏิบัติ

ข่าวโดย Manager Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
ภาพโดย... อดิศร ฉาบสูงเนิน







ปฏิบัติการ เบิร์น




บอกทริกแบบไม่หวง

โชว์ซิกซ์แพกได้สบายๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น