เชื่อว่าถ้าคิดถึงหัวปลาหม้อไฟ คุณจะคิดถึงร้าน “หัวปลาช่องนนทรี” เจ้าดัง ที่มีตำนานมากว่า 29 ปี เล่าถึงความเป็นมาของร้านนี้ จุดต้นกำเนิดของร้านหัวปลาหม้อไฟนั้น เริ่มต้นกันริมถนนมาก่อน จากรุ่นคุณพ่อ คุณแม่ ลงมาสู่ทายาทรุ่นถัดมาที่ยังคงความอร่อยให้คนหลายรุ่นได้ลิ้มรสมาจนถึงปัจจุบัน
“คุณวิทยา ลิมป์รัตนกาญจน์” หรือ “คุณโบ๊ท” เจ้าของร้าน เล่าถึงตำนานของร้านหัวปลาช่องนนทรี ที่เขาเป็นทายาทที่กำลังสืบทอดมาจากรุ่นคุณพ่อและคุณแม่ ว่า ตนเองนั้นเห็นพ่อแม่เปิดร้านนี้ตั้งแต่ยังเด็กเมื่อครั้งที่ร้านยังอยู่ริมถนน เป็นร้านขายข้าวต้มปลาเล็กๆ ในร้าน มีโต๊ะเพียง 2 ตัวในร้าน ถือว่าเป็นร้านเล็กๆ ที่ขอแบ่งมาจากร้านอาหารข้างๆกัน หลังจากนั้นก็เริ่มขายดีมากขึ้น มีการเริ่มขยายกิจการ ในปี 2529 จนมาและเริ่มเป็นที่รู้จักกันและขยายมาเป็นร้านหัวปลาหม้อไฟ จนลูกค้าที่มาแวะเวียนรับประทานต่างก็ตั้งชื่อให้ว่า “ร้านหัวปลา”
“จุดที่ทำให้ร้านอาหารเล็กๆ กลายมาเป็นร้านหัวปลาช่องนนทรี ก็เริ่มพัฒนาจากร้านขายข้าวต้มปลามาเป็นร้านที่มีอาหารมากมายเพราะเกิดจากที่ลูกค้าต่างติดใจในรสชาติของปลา ทางคุณพ่อและคุณแม่จึงพัฒนาให้มีอาหารที่สามารถมารับประทานกันได้หลายๆ แบบครับ”
ถึงปัจจุบันร้านนี้ได้เพิ่มขยายสาขาไปอีก 5 สาขา ทั้ง ศรีนครินทร์ ,ช่องนนทรี, กม.8 บางนาตราด,พุทธมณฑลสาย 2 , และ รามอินทรา กม.13 ส่วนสาขาจรัญสนิทวงศ์ ที่หลายคนอาจจะงงว่าหายไปไหน เพราะตอนนี้ทางร้านได้ปรับให้เป็นโกดังเพื่อเก็บวัตถุดิบแล้ว
พูดถึงเรื่องเมนูกันบ้างกับเมนูที่ทำให้ทางร้านเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง คือ เมนู หัวปลาหม้อไฟ ซึ่งต้องบอกว่า หัวปลาของร้านนี้มีให้เลือกหลากหลายชนิด คุณสามารถเลือกชิมได้ทั้ง ปลากระพง,ปลาเก๋า,ปลาหิมะ และเด็ดสุดที่อยากจะแนะนำให้รับประทานเลยคือ ปลาจีน ซึ่งการันตีได้เลยว่า ปลาจีนเมื่อนำเอามาปรุงเป็นเมนูหัวปลาหม้อไฟ จะได้รสชาติของปลาและเนื้อจะนิ่มกว่า เนื้อแน่น มีให้เลือกทั้งต้มยำ ต้มจืด ต้มบ๋วย เป็นต้น
ร้านนี้ไม่ต้องกลัวว่ารสชาติของหม้อไฟจะจืดชืดเหมือนกันทุกหม้อ เพราะหม้อไฟทุกหม้อนั้น เขาปรุงกันหม้อต่อหม้อ รสชาติจึงเข้มข้นถึงใจแถมยังคงความร้อนได้นานไม่เย็นจืดชืด แม้ว่าจะทิ้งไว้นานก็ตาม
นอกจากเมนูหัวปลาแล้ว เมนูเด่นๆ ที่อยากให้ลองชิมกันเลยคือ ปูผัดผงกระหรี่ ปูก้ามใหญ่ เนื้อแน่นๆ ผัดกับผงกระหรี่ให้เข้ากับน้ำพริกเผาจะได้รสชาติเข้มข้น หรือใครที่ไม่อยากแกะปูก็มีเนื้อปูล้วนๆ มาเสิร์ฟให้อีกด้วย , หอยเชลล์เผา หอยเชลล์สดๆ เผาให้สุกพอดี รับประทานกับน้ำจิ้มรสเด็ดจัดจ้าน , หมูร้องไห้ เมนูนี้ดัดแปลงมาจากเสือร้องไห้ เหมาะกับใครที่ไม่รับประทานเนื้อ และเมนูกุ้งอบวุ้นเส้น กลิ่นหอมของเครื่องเทศไทย อบกับกุ้งและวุ้นเส้นเหนียวนุ่ม เมนูเหล่านี้จะทำให้ติดใจอย่างแน่นอน
คุณโบ๊ทยังบอกอีกว่า ร้านนี้ใช้วัตถุดิบของเมืองไทยทั้งสิ้น ปลาจีนก็คือปลาที่ถูกเลี้ยงโดยคนไทย การคัดสรรคุณภาพของวัตถุดิบจึงสด ใหม่และสะอาดทุกวัน ขนาดของวัตถุดิบก็จะได้ขนาดมาตรฐานที่ทางร้านเลือกสรรมาเอง บรรยากาศในการมานั่งรับประทานก็อบอุ่น เหมือนได้มารับประทานอาหารกับครอบครัว มีห้องจัดเลี้ยง สังสรรค์ ห้องคาราโอเกะเปิดให้ท่านที่อยากมารับประทานอาหารและเพิ่มความสนุกสนานไปด้วยได้
ใครอยากมาลองความอร่อยของหัวปลาหม้อไฟในตำนานสามารถไปตามสาขาที่ใกล้บ้านได้เลยทั้ง 5 สาขา เปิดตั้งแต่เวลา 11.00น.-23.00 น. และสามารถแวะไปรับประทานอาหารหม้อไฟกันตามห้างสรรพสินค้าได้แล้วเร็วๆ นี้
เมนูแนะนำ
- หัวปลาหม้อไฟ
- หมูร้องไห้
- หอยเชลล์เผา
- เอ็นหอยย่าง
- กุ้งอบวุ้นเส้น
ข่าวโดย Manager Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
ภาพโดย อดิศร ฉาบสูงเนิน