ไม่ว่าเธอจะโผล่ไปงานที่ไหน “สุทธิวรรณ สินประมวญ” หรือ “พายไก่ สาระแน” กลายเป็นผู้หญิงที่คนบันเทิงหลายคนหวาดระแวงมากที่สุด หลายคนคุ้นเคยกับความฮา บ้าบอ ความเพี้ยนของเธอ กับวีรกรรมกลั่นแกล้งเหล่านักแสดง ในช่วง แคนดิต และช่วง ล้อโฆษณา ของรายการสาระแน และรายการ OHO Live ทางช่องสาระแน ชาแนล จากงานครีเอทีฟ งานเบื้องหลังสู่การเป็พิธีกร วันนี้ M- Lite จะพาไปรู้จักกับตัวตนของเธอ
* พายไก่ เข้าวงการได้อย่างไร
แรกเริ่มเดิมที จริงๆ แล้ว ก่อนหน้าพายไก่จะมาทำงานเป็นพิธีกร เราได้ทำงานเบื้องหลังของสาระแนค่ะ ได้ไปเล่นเทปแคนดิต ของพี่เชาเชา พอได้ไปแคนดิต เทปนั้นก็ไม่ได้ไปเบื้องหลังเลย เพราะว่าเทปนั้นมันสนุกมาก จากนั้นเลยพลิกผันตัวเองให้ไปทำเป็นพิธีกรภาคสนามของสาระแน จนพี่หอยก็ทำสาระแน ชาแนลขึ้นมา
* ชื่อ “พายไก่” มาจากอะไร
“พายไก่” มาจากแคนดิตของพี่เชาเชาเนี่ยแหละ ตอนนั้นเราไปเป็นหน้าม้า ไปแกล้งพี่เชาเชา เป็นนักเรียนคอนแวนต์ฯ เราก็อยากจะทำประชดเด็กสมัยนี้ไงค่ะ ว่าทำไมต้องใช้ชื่อสองพยางค์บางคนแค่ชื่อพยางค์เดียว แต่เพิ่มให้มันน่ารัก ก็เลยเอาพายไก่แล้วกัน เพราะเราคิดว่าฟังแล้วมันดูแรดๆ ดีนะ เราก็เคยเล่นกับเพื่อนไง “เฮ้ยๆ ชื่อไรอ่ะ เพื่อนก็บอกว่าชื่อ “ครัวซองต์” เฮ้ย! เราชื่อ “พายไก่” นะ ขำกันไปค่ะ
* จริงๆแล้วชื่ออะไร
ชื่อปอยส์ค่ะ เต็มๆ คือ “เวสปอยส์” เห็นมั้ย ก็เหมือนเด็กสมัยนี้ที่อยากชื่อเพราะๆ ก็เลยเติม เวส เข้าไป เป็น “เวสปอยส์”
* เข้ามาในวงการกี่ปี
ถ้าเริ่มมีคนรู้จักก็ประมาณ 2 ปีค่ะ ที่พอจะเริ่มมีชื่อเสียงบ้าง ก่อนหน้านั้นเราเคยทำเป็นครีเอทีฟ ของสาระแนคะ เสร็จแล้วก็เลื่อนมาเป็นโปรดิวเซอร์ ก็คอยดูงานห่างๆ เพราะเราเองก็เริ่มหันมาทำพิธีกรบ้าง
* งานเบื้องหน้า กับ เบื้องหลังต่างกันมั้ย
ต่างกันอยู่แล้วค่ะ เบื้องหน้าสบายกว่าอยู่แล้ว มีคนเอาสคริปต์ มาให้อ่าน แต่คนเบื้องหลังต้องคอยทำ คอยดูแลทุกอย่าง
* ทำไมอยากทำงานเบื้องหลัง
เราเคยเรียนทำภาพยนตร์ เบื้องหลังมา มันเป็นความฝันตั้งแต่เด็กมั้ย ฝันก็จริงๆ เราเรียนช่างภาพ เราอยากถ่ายภาพ พอเราเรียนเขียนบท เขียนภาพยนตร์ เราก็เลยมาสมัครงานเป็นครีเอทีฟ เพราะชอบขีดๆ เขียนๆ นะ ชอบคิด สร้างสรรค์เลยมุ่งเลยจบแล้วฉันจะเป็นครีเอทีฟ
* รู้ตัวได้ยังไงว่าตัวเองชอบครีเอทีฟ
ก็รู้มาตั้งแต่ตอนเรียนแล้วล่ะ เพราะเราชอบครีเอตโฆษณา ชอบครีเอตหนัง เราเองก็ชอบคิดเรื่อยๆ แต่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้มาเป็นพิธีกรหน้าเวทีเลยนะ เราไม่คิดว่าตัวเองมาได้ขนาดนั้น มันก็ไม่ได้ยาก แล้วเราชอบ และเราถนัด เราแค่คิดว่าจะตอบโจทย์คนดูอย่างไรให้ชอบเราอย่างไรเท่านั้นเอง
* ตอนเด็กๆ ไฮเปอร์มั้ย
ตอนเด็กไม่ไฮเปอร์เลย เป็นคนขี้เกียจมาก ชอบอยู่กับเพื่อน ชอบสนุกสนาน ตอนเด็กไม่กิจกรรม ไม่ทำอะไรเลยนะ ต่างกับตอนนี้มากเลยนะ คนแถวบ้านก็ตกใจนะ ว่าเรามาอะเลิร์ท ขนาดนี้ได้ยังไง ตอนเด็กเราก็เป็นคนกล้าแสดงออกนะคือใครให้ทำอะไรก็ทำ แต่เราจะไม่แบบว่าไปขอทำ ถ้าไม่มีก็ไม่ทำ เป็นคนขี้เกียจเลยล่ะ
* ประสบการณ์ตอนแคนดิตครั้งแรก
ตอนนั้นตื่นเต้นมากค่ะ เพราะเราก็ไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เราคิดไปจะได้อย่างที่เราวางแผนหรือเปล่า ทุกอย่างตื่นเต้นตลอดเวลา เพราะเราต้องเป๊ะ คิวต้องเป๊ะทุกอย่าง ทำให้เนียนที่สุด เพื่อให้แกล้งชาวเขาได้ หน้าเนียน ตีเนียน ถ้าเขาจับได้ก็ต้องแถไปให้ได้ ต้องทำให้เขาจับไม่ได้นะ เคยมีประสบการณ์ที่มีคนจับได้นะ เราก็ต้องแถไปให้ได้ จนกว่าเขาจะจับไม่ได้ เราก็ต้องเบี่ยงเบนความสนใจให้ได้มากที่สุด คือเรียกว่าต้องหน้าด้านให้มากที่สุด
* ก่อนสถานการณ์จะออกมาฮาแบบนั้น เราต้องทำการบ้านเยอะมั้ย
คือเราต้องหาข้อมูลดาราคนนั้นมา ว่าเค้าชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร เราต้องเล่นให้โดนตรงนั้น ตอนนี้เราไม่ค่อยได้ทำตรงนั้นแล้วล่ะ จะไปทำส่วนของสกู๊ปมากกว่านะ ล้อโฆษณามากกว่าแล้ว เพราะคนเริ่มจำได้ ทีมงานก็บอกว่า ไม่ต้องเล่นแล้ว คนจำหน้าได้
แล้วมาเป็นพิธีกรแทน ดาราหลายคนก็จำได้ แค่เราเล่นแคนดิต พี่เชาเชา ก็มีคนจำได้แล้วนะ เหมือนกัน อย่างคนที่ไม่หน้าจะจำได้ก็คือ อ๊อฟ ปองศักดิ์ พอเราบอกว่ามาจากสาระแนก็จะสงสัยก่อนเลยว่าเราจะแกล้งอะไร เดี๋ยวนี้ คนไม่ค่อยเชื่อถือแล้วล่ะ เป็นรายการที่คนไม่เชื่อถือกันแล้วล่ะ ไม่มีใครอยากเชื่อ ทุกคนต้องคิดว่าต้องแกล้ง หรืออะไรที่ไม่ได้มาเป็นทางการแน่ๆ เลย
* จากงานแคนดิต สู่พิธีกร รู้สึกยังไง
ชอบเลยล่ะ คิดว่าการได้มาทำหน้าที่เป็นพิธีกร เราก็ชอบมากเลยมันท้าทาย แล้วรายการเป็นรายการสด ต้องแก้ไขสถานการณ์ทุกวัน เคยเจอเรื่องหนึ่ง จำได้แม่นเลย คือ แคนดี้มาเฟีย มาในรายการ OHO Live ที่ทำอยู่ น้องๆ ก็เข้ามา แล้วเราก็บอกว่าชอบมาเลยนะคะวงนี้ เพลงนี้อ่ะค่ะ “ชูการ์ ชูการ์ อายส์” เค้าก็บอกว่า มันใช่เพลงนู๋ค่ะ เราก็แถไปค่ะ ซึ่งเราก็ออกมาขอโทษ ตอนคั่นโฆษณา น้องก็บอกว่าไม่เป็นไรเพราะมีคนจำผิดบ่อยเหมือนกัน เราก็เลยคิดว่าหน้าแตกมากตอนนั้น มันสด แล้วเราแก้ไขสถานการณ์ได้
* ปกติเป็นคนฮามั้ย
ก็เฮฮา บ้าบอ คอแตกไป แต่วันนี้ไม่ค่อยสบาย เสียงอาจจะบู้บี้ๆ หน่อยนะ จริงๆ ฮา ไร้สาระตลอดเวลา ชีวิตก็ไม่รู้จะเครียดไปทำไม ปล่อยมันไป อยู่กับเพื่อนสนุกๆ ดีกว่า เป็นคนฮา เสียงดัง คนจะจำเสียงได้ ว่าเสียงดังมานู้นล่ะ
เคยเจอดา เอนโดฟิน ก็จะฝากความคิดถึงมาให้ตลอด เพราะเค้าชอบเลียนเสียงไง “ช่วงนี้สนับสนุนโดย” ดาก็จะชอบแซว ก็ทักทายกัน ทีมงานไปสัมภาษณ์ก็มีฝากความคิดถึงมาบ้าง
* เริ่มมีคนรู้จักมากขึ้นรู้สึกยังไง
รู้สึกดีนะ ไปไหนก็มีคนทัก “พายไก่” เป็นไง ไปไหนมา บางทีก็มาขอให้เราพูด “ช่วงนี้สนับสนุนโดย” ให้ฟังหน่อย เราก็แบบ คิดในใจให้พูดเพื่ออะไร แต่เราก็คิดว่า เขาทักเราก็ทักทายดีดีกลับไป นอกจากงานที่นี่ ก็มีงานอีเวนต์บ้างนิดหน่อย รับงานมากจนป่วย
* แบ่งเวลาชีวิตตัวเองยังไงบ้าง
ช่วงเช้าก็อยู่ที่ตึก ช่วงบ่ายสองก็จะตัดขาดทุกสิ่งในโลก เพราะเราก็จะต้องมาสแตนด์บายอยู่ที่สตูดิโอนี่แหละค่ะ เพราะต้องมาทำรายการสด ทุกวันบ่ายสามถึง 6 โมงเย็น จันทร์-ศุกร์ แล้วบางทีก็ต้องมาแทนพี่เฮียๆ พี่วิลลี่ พี่เปิ้ล พี่หอยไง จัดรายการติดกัน 4 ชั่วโมง จัดตั้งแต่บ่ายสามถึง 1 ทุ่มเลย เพราะเราพูดมาตลอดแล้ว
* ในรายการเป็นตัวของตัวเองมาก
เวลาหัวเราะก็เป็นแบบนั้น เป็นคนร่าเริงเวอร์ เฮฮาสนุก เสียงดัง บางทีมีคนมาทัก ตอนนั้นเราไปกินข้าว แล้วมีพนักงานเสิร์ฟ มาทักว่านี่ใช่พายไก่หรือป่าว เขาาจำเสียงเราได้ มาทักเพราะจำเสียงเราได้ เสียงเป็นเอกลักษณ์นะ
* แรงบันดาลใจในการครีเอตงาน
ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้ครีเอตนะ เพราะเราเลื่อนมาเป็นโปรดิวเซอร์แทน แต่ว่าเมื่อก่อน ความคิดที่ได้มากก็ไปดูงาน ชอบดูหนัง ชอบดูงานศิลปะ ดูงานแปลก ก็จะได้ไอเดียมา และก็มีพี่เปิ้ลเป็นไอดอลในเรื่องของการสร้างสรรค์ แล้วก็มีพี่หอยเป็นไอดอลเรื่องของการตรงต่อเวลา และพี่วิลลี่ก็จะเป็นคนมองปัญหาอย่างมีสตินะ
* ตอนล้อโฆษณาเราคิดได้ยังไง
คือมันมีมาอยู่แล้วเราก็ทำให้มันตลกกว่าเขา เราก็เอาสถานการณ์ที่ฮิตๆ อยู่ตอนนั้น หรือหนังที่กำลังฮิตก็เอามาดัดแปลง ให้มันสนุก หรือมีคำอะไรที่คนใช้กัน ก็ให้พี่เปิ้ล พี่หอย ช่วยคิดบ้าง
* เคยเจอเจ้าของสินค้า หรือโฆษณา มาเตือนเรื่องการล้อเลียนบ้างมั้ย
เมื่อหลายปีก่อนก็มีนะ เพราะตอนนั้นเราเอามาทำไม่ได้ขออนุญาต เขาเองก็จะโทรมาบอกว่า มันแรงไปหรือเปล่า แต่ช่วงหลังๆ ก็เป็นสปอนเซอร์มาให้เราล้อเลย ก็อาจจะมีการตรวจจากลูกค้าก่อน ว่ามันแรงหรือเปล่า หรือต้องแก้ไขให้ได้แค่ไหน ก็เลยไม่ซีเรียส
* บางคนมองพายไก่เป็นไอดอล
เราว่าเขาาคิดผิดมากเลยนะ (หัวเราะ) คิดยังไงมีเราเป็นไอดอล มีน้องเข้ามาในแฟนเพจแล้วบอกว่า มีเราเป็นไอดอลของหนู อยากจะบอกว่า ไอดอลเรื่องอะไรเรื่องความบ้าบอหรอ แต่ถ้าเป็นเรื่องแบบการมองโลกในแง่ดี ร่าเริง มันก็ดี แต่ถ้าเป็นแบบบ้าบอก็ไม่น่านะ
* เคยมองโลกในแง่ดีแล้วคิดว่ามันไม่ใช่บ้างมั้ย
เราก็มีนะ เราไม่เคยคิดแง่ร้ายกับเค้า แต่เค้าก็คิดกับเรานะ เราเองก็ไม่ซีเรียส ปล่อยวางมากกับเรื่องต่างๆ นานา เหมือนเราต้องคิดว่ามีบางคนที่ทั้งชอบและไม่ชอบเรา เราเองก็ต้องไม่เก็บมาคิดอะไรมากมาย เราก็เลยไม่รู้จะทำยังไง ให้เขามารักเราหมด
* งานเยอะ ดูแลตัวเองยังไง
ไม่ดูแลตัวเองเท่าไหร่นะ 24 ชั่วโมงของพายไก่มีแต่งาน บ่ายๆ ก็อยู่กับงานจนเย็นเลยนะ ว่างๆ ก็แค่ไปเดินสวนจตุจักร ตลาดรถไฟ เป็นคนชอบของวินเทจ รักของวินเทจ ชอบอะไรไม่เหมือนใครเสื้อผ้าเราก็ชอบแบบที่มีของเราคนเดียว เราใส่แล้วเป็นของเรา งานวินเทจเป็นงานที่เนี๊ยบมาก ของหลายๆอย่าง มันดูละเอียดกับงานมาก หลงรักวินเทจมาก มีความสุขมาที่ได้ไปตลาดรถไฟ เจอของวินเทจจะเข้าหาก่อนเลยนะ มีความสุขกับการได้เลือก ชอบชอปปิ้ง เครียดแล้วชอป จะหายมีความสุข ได้ไปรื้อค้น เจออะไรที่คลาสสิกเราเป็นคนใส่อะไรไม่เหมือนใคร
* หลักในการเลือกแต่งตัวของพายไก่เป็นอย่างไร
เป็นคนเลือกเยอะ เพราะบุคลิกตัวเรามันไม่ได้ใส่อะไรแล้วสวย แล้วจะมาเลือกเยอะกับการแต่งตัวมากนะ ใครจะว่าอะไรไม่รู้นะ แต่ชุดที่ใส่ในรายการเราเลือกเองนะ ถ้าใครมาเลือกให้แล้วเราออกไปจัดรายการ มันรู้สึกเสียเซลฟ์นะ ฉันเลือกมาเรื่องการแต่งตัว แต่ก็แฮปปี้กับการทำงานนะ เรื่องเสื้อผ้าก็อยากเป็นตัวเราให้มากที่สุด เคยมีคนบอกว่าเราเพี้ยนมากกว่าติสต์นะบางที ร่าเริงเวอร์ มากไปมั้ยนะบางทีอ่ะ ถ้าเจอคนว่าเราแบบนั้นเราก็จะบอกเค้าว่า ก็ใช่นะฉันเป็นแบบนั้น
* ถ้าให้ “พายไก่” นิยามตัวเอง
ก็เป็นคนมองโลกในแง่ดี ร่าเริง อยากให้คนรอบข้างอยู่กับเราแล้วมีความสุขมากที่สุด
* สถานะความรักตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
(หัวเราะ)สถานะความรักตอนนี้คือว่า ยังไม่ชัดเจนในความสัมพันธ์ค่ะ ก็ชิลล์ คบไปชิลล์ สเปก ผมยาว เซอร์ มีเครา มีหนวด แต่ไม่ถึงกับสกปรกนะ คุยไม่รู้เรื่องเนี่ย ชอบมาก นี่คือสเปกนะ ชอบแบบนี้ ที่คุยกันอยู่ก็ใช่นะ แต่ว่าเขาขาวไป เราชอบคนแบบว่า คม เข้ม จมูกโด่ง ถ้าในวงการ ก็ชอบ ซันนี่ , พี่เรย์ แมคโดนัลด์ , อนันดา , โจ๊ก ธีรดนัย ชอบแบบพูดไม่รู้เรื่อง พอคุยกันจะได้ฮา เบลอๆ ใส่กัน
* นิยามความรัก
เมื่อก่อนเป็นคนที่เคยคบกับแฟนเก่ามา 6 ปีกว่า แล้วเราไม่เคยเข้าใจเขาเลย คือเขาต้องเข้าใจเราตลอด เหมือนเรางี่เง่ามาก ไม่เข้าใจว่าเขาไปจากเราเพราะอะไร จนเลิกกันไป เพราะเราไม่เคยเข้าใจเขาเลย
มองความรักตอนนี้ว่า เราคบกันด้วยความสบายใจ อย่าไปซีเรียส อย่าไปคาดหวัง ทำวันนี้ให้ดี อย่าคาดหวัง แล้วมันจะสบายๆ ไม่ซีเรียส เป็นครั้งเดียวที่อกหักเลยนะ เพราะตั้งแต่มีแฟนมาเราไม่เคยโดนทิ้งแบบนี้นะ เป็นครั้งแรกเลย ทั้งที่คบกันมา 6 ปี พอเค้าไป เราก็เพิ่งมาเข้าใจว่าทำไมเค้าถึงไป เราโตขึ้นเยอะเลยนะ เราเสียใจมาก
* มองอนาคตตัวเองยังไง
อยากทำงานเยอะๆ หางาน ได้เงินมาก็ให้พ่อแม่เที่ยวต่างประเทศ ไม่ได้ให้ทั้งหมด ก็ให้เค้าได้ไปเที่ยวบ้าง ทุกวันนี้ต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติ
* ฝากถึงคนที่อยากเป็นครีเอทีฟหน่อย
หลายคนมองว่าครีเอทีฟเป็นได้ไม่ยาก แต่จะเป็นครีเอทีฟที่ดียาก คือคุณต้องมีความสุขกับสิ่งที่จะทำ และมีความสุขกับการได้คิดแล้วถ้าคุณมีความสุขตรงนั้นกับงานที่ทำ คิดอะไรมาก็ดี แต่ว่าถ้าทำไปงั้นๆ ไม่ดีตามที่ต้องการ สิ่งที่ทำแล้วมีความสุขก็ทำ เราอยู่ที่นี่มา 5-6 ปีแล้ว มันสนุกมากเลยนะ แล้วทุกคนพูดว่าออกไปทำที่อื่นแล้วก็ไม่มีความสุขเท่ากับทำงานที่นี่นะ เพราะที่นี่มันคือบ้าน อบอุ่น
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ สุทธิวรรณ สินประมวญ
เกิด 14 กุมภาพันธ์ 2525
การศึกษา คณะครุศาสตร์เทคโนโลยี พระจอมเกล้าฯ ธนบุรี
ชื่อเล่น เวสปอยส์
ชื่อในวงการ พายไก่
อาชีพ ครีเอทีฟ , โปรดิวเซอร์ฝ่ายส่งเสริมการตลาดรายการสาระแน
ผลงาน พิธีกรภาคสนาม รายการสาระแน
ผลงานการแสดง สาระแนสิบล้อ , แต๋วเตะตีนระเบิด
ผลงานละครเวที สดใช่ป่ะ! , เคนลี่กะก๊วนขี้เล่น
พิธีกรเวที รายการ The master (Academy Fantasia) , รายการ โชว์เร่ ,รายการ OHO Live
ข่าวโดยทีมข่าว M-Lite/ASTV สุดสัปดาห์
ภาพโดย พงศ์ศักดิ์ ขวัญเนตร
