หนุ่มอารมณ์ดี น๊อต-อัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล พิธีกรรายการ Wake Club ผู้ชื่นชอบเรื่องของกีฬามากและได้ศึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะ ด้วยการเรียนวิทยาศาสตร์การกีฬาจากรั้วมหาวิทยาลัยจุฬาฯ อย่างจริงจัง เห็นหนุ่มน๊อตว่างเป็นไม่ได้ พอผละออกจากงานทีไร ก็กระโดดวิ่งเข้าสนามกีฬาทันที ถึงแม้ว่าคิวเวลาของหนุ่มหน้าใสคนนี้จะรัดตัวแทบหาเวลาว่างไม่ได้ แต่การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่เขาให้ความสำคัญมากและปฏิบัติอยู่เป็นประจำ ยิ่งได้ใช้เวลากับฟุตบอลกีฬาสุดโปรดด้วยแล้ว จึงไม่พลาดที่จะชวนแก๊งเพื่อนๆ ลงสนามแข่งทุกครั้งเมื่อมีโอกาส
วันนี้ M-healthy นัดพูดคุยกับน๊อตในวันสบายๆ เขามาในชุดเสื้อเชิ้ตสีอ่อนสบายตา เดินมานั่งที่โซฟาสีส้ม พร้อมพูดทักทายแล้วยิ้มให้ด้วยท่าทางเหนื่อยหอบ เพราะก่อนหน้านี้เขาได้วิ่งขึ้นบันไดมา 3 ชั้น น็อตบอกว่า “วิ่งขึ้นบันไดถือเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งครับ” แหม! สุดยอดหนุ่มเฮลตี้จริงๆ
โตมากับกีฬา
จากที่ได้เห็นและได้สัมผัสกับกีฬาชนิดต่างๆ ภายในสนามกีฬาแห่งชาติศุภชลาศัยตั้งแต่เล็กจนโต ทำให้น๊อตเกิดความชอบในเรื่องของกีฬา และมีความสนใจอยากจะศึกษาทางด้านนี้อย่างจริงจัง จนได้มีโอกาสศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลุ่มวิชาโค้ชและจิตวิทยาการกีฬา
“ต้องเล่าย้อนเท้าความไปตั้งแต่เด็กๆ เลย คือแม่ทำงานอยู่ที่สนามกีฬาแห่งชาติ ศุภชลาศัย เราจึงได้มีโอกาสไปที่นั่นตั้งแต่อายุยังไม่ขวบหนึ่งและคุ้นเคยกับที่นั่น ฉะนั้นมันจึงเป็นที่ปลูกฝังเพราะเราเห็นมาแต่เด็กมากกว่าในการที่เราได้ไปสนามกีฬา ได้อยู่กับกีฬา ได้อยู่กับเครื่องมือเครื่องไม้ รวมไปถึงได้อยู่กับบุคลากรทางด้านกีฬาหลายๆ คน ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าจริงๆ แล้วเราก็ชอบสิ่ง นี้เหมือนกัน”
“พอเข้าโรงเรียนชั้นประถมก็ได้เล่นกีฬาฟุตบอล จนกระทั่งอยู่ชั้น ป.3-4 จึงเริ่มเป็นนักกีฬาฟุตบอลโรงเรียน และตอนนั้นแม่ก็ยังทำงานอยู่ที่นั่นตลอด จึงมีพื้นที่ให้เล่น ให้ซ้อมกีฬา มันก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า โอ้โฮ...ชีวิตเรามันสนุกจังเลย ได้เล่นโน่น เล่นนี่ และบางทียังได้รู้จักกีฬาแปลกๆ ก่อนคนอื่นอีก อย่างเช่น วูดบอล (WOODBALL) หลายคนอาจไม่รู้จัก อย่างวูดบอลจะคล้ายกีฬาโปโล ที่ต้องตีลูกให้เข้าโกล ต่างกันตรงที่วูดบอลไม่ต้องขี่ม้า และอุปกรณ์กีฬาทุกชนิดจะทำด้วยไม้ทั้งหมด เหมือนเอากีฬาหลายชนิดมารวมกันนั่นเอง”
“พอได้เห็น ได้ทำเราจึงรู้สึกสนุก และเป็นแรงบันดาลใจให้อยากเข้าเรียนคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาฯ ซึ่งคณะของมหาวิทยาลัยต่างๆ เพียงไม่กี่คณะที่อยู่ในพื้นที่สนามศุภชลาศัย มันจึงเหมือนทำให้เราได้เรียนอยู่ในบ้าน เพราะฉะนั้นคณะเดียวที่เราเลือกจะสอบตรงก็เป็นคณะนี้ เพราะปัจจัยทุกอย่างมันส่งหมดแล้ว จะให้เราไปเรียนบัญชี การตลาดเหมือนเพื่อนก็คงไม่ได้เพราะรู้สึกว่ามันไม่เป็นตัวเรา”
นักออกแบบอุปกรณ์กีฬาเป็นความฝันของน๊อตในการสอบตรงเข้าคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาฯ เขาจึงอยากเรียนทางด้านนี้ แต่พอเข้าไปเรียนจริงๆ เรื่องของเทคโนโลยีการกีฬาค่อนข้างยากมาก น๊อตถึงกับบอกว่า “มันต้องเรียนคล้ายๆ หมอ เราเลยรู้สึกว่ามันยากเกินไปแล้ว” ซึ่งตอนนั้นน๊อตได้ทำงานแล้วจึงไม่ค่อยมีเวลา จากนั้นจึงหาสิ่งชอบที่รองลงมาแต่ยังอยู่ในคณะเดียวกัน จึงย้ายมาเป็นวิชาโค้ชและจิตวิทยาการกีฬา ทำให้เขาได้พบสิ่งแปลกใหม่ที่ค่อนข้างท้าทายกว่าเดิม
“จิตวิทยามันเป็นส่วนสำคัญมากๆ ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ยิ่งพอเรียนเรายิ่งรู้สึกว่าสนุก ได้ค้นหา ได้ทำวิจัย ได้ทำโน่น ทำนี่มากมายเกี่ยวกับเรื่องของโค้ชและก็จิตวิทยาการกีฬา อย่างในการทำวิจัยอาจจะเป็นพื้นฐานเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย ว่าทำไมคนเราถึงเคลื่อนไหวแบบนี้ หรือบางทีเราถูกอะไรบางอย่างมากระแทกตัวเราแล้วทำไมถึงมีรีเฟลกซ์ออกไปแบบนั้นก็จะเป็นอย่างนั้นมากกว่า ซึ่งมันเป็นเรื่องใกล้ตัวเราที่บางครั้งเราไม่เคยรู้มาก่อน ส่วนเรื่องของโค้ชจะชอบรองลงมาซึ่งคล้ายกับการเป็นเทรนเนอร์แต่เราเน้นไปทางด้านจิตวิทยามากกว่าจึงลงวิชาเลือกเป็นจิตวิทยาเยอะๆ เราจะได้เรียนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติซึ่งคิดว่าเป็นเรื่องที่แปลกใหม่และค่อนข้างท้าทาย”
“ฟุตบอล” กีฬาโปรดยามว่าง
การเล่นฟุตบอลเป็นกีฬาที่น๊อตชอบมากที่สุด พอว่างจากงานเมื่อไหร่ต้องขอตัวลงสนามรวมทีมกับกลุ่มเพื่อนๆ ทันที การเล่นกีฬาสำหรับเขาจึงไม่ใช่แค่ได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพดี และได้เล่นสนุกสนานกับกลุ่มเพื่อนๆ เท่านั้น แต่ความสำคัญของการเล่นกีฬามันได้อะไรมามากมายกว่านั้นซึ่งหลายคนอาจมองข้าม
“น๊อตเตะฟุตบอลเป็นประจำ เพราะฟุตบอลเป็นกีฬาที่รวมกลุ่มเพื่อนกันได้ง่ายที่สุด ทำให้เรามีโอกาสเจอเพื่อนด้วย ตอนเด็กเราแทบจะเตะบอลทุกวัน วันละ 3 เวลาเลย เช้า กลางวัน เย็น เช้าไปเตะบอลก่อนเข้าเรียนสักชั่วโมงหนึ่งก่อน พักกลางวันก็เตะ เลิกเรียนก็ซ้อมบอลเพราะเราเป็นนักกีฬาของโรงเรียน”
“พอทำงานแล้วส่วนใหญ่จะเล่นฟุตบอลหลังเลิกงานประมาณ 2-3 ทุ่ม บางทีเที่ยงคืน ตี 1-2 ยังเตะบอลอยู่เลย พอเราเรียนจบไปแล้ว การหาเวลามารวมกลุ่มเพื่อนมันจึงค่อนข้างยาก จึงต้องหาเวลาที่ทุกคนเลิกงานกันแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะดึกสำหรับการออกกำลังกาย แต่ก็ต้องอาศัยช่วงเวลาเหล่านี้แหละ เราจะมีการรวมทีมแข่งบอลกับเพื่อนๆ โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ (กรุงเทพฯ) ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่า ก็จะมีชมรมทีมบอลศิษย์เก่าอัสสัมชัญอยู่แล้ว ในแต่ละปีจะมีการรวบรวมเอาทีมบอลประมาณ 10 รุ่นมาแข่งขันกัน ทำให้รุ่นน้องได้มีโอกาสพบรุ่นพี่และทำให้มีคอนเนกชันระหว่างกันซึ่งอาจมีประโยชน์ในการทำงาน
ดังนั้น การที่ได้เล่นฟุตบอลหนึ่งสุขภาพเราก็ได้ สองได้เจอคนมากมาย บางอย่างในชีวิตที่เราได้มาได้จากสิ่งเหล่านี้ทั้งนั้นเลยถึงแม้ว่าต้องไปซ้อมเหนื่อยหน่อย แต่ทุกอย่างมันก็ได้กับตัวเราทั้งนั้น ตอนนี้เราก็ไม่ได้เตะบอลไกลมาก บ้านน๊อตอยู่เจริญกรุง เลยไปหน่อยก็ไปเตะพระราม 3 ไกลหน่อยก็พระราม 2 ถ้ากลุ่มเพื่อนเขาไปสนามไหนเราก็ไปกับเขา แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสนามที่พระราม 3”
“ฟุตบอลจึงเป็นกีฬาที่เล่นอยู่เป็นประจำ นอกจากนี้ก็เล่นอย่างอื่นอีกเยอะ อย่างปิงปอง เทนนิส แบดมินตัน ดำน้ำ ว่ายน้ำ มีไม่กี่ชนิดที่ไม่ได้เล่น มีแค่กอล์ฟที่ไม่ได้เล่น แต่อนาคตก็คงจะเล่นเพราะคิดว่ากอล์ฟเป็นกีฬาที่คนโตหน่อยเล่นมันถึงจะดูดี แค่ตอนนี้เราเตะบอลทุกอาทิตย์ก็คิดว่ามันสนุกมากพอแล้ว”
สุขภาพดี งานดี
คนหนุ่มมากความสามารถเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่ใครๆ จะเข้ามาจีบ ชักชวนให้ทำงานโน่น งานนี้เป็นประจำ เรื่องเวลาว่างจึงหายากมากสำหรับหนุ่มฮอตคนนี้ แต่เขาก็ไม่เคยละเลยเรื่องของสุขภาพ น๊อตจึงมีเคล็ดลับ สำหรับการดูแลสุขภาพดีอย่างสม่ำเสมอ สำหรับคนทำงานที่ไม่ค่อยมีเวลาว่างก็สามารถนำเอาไปใช้ได้โดยไม่สงวนลิขสิทธิ์
“เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ คือ การกิน น๊อตจะหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลม เพราะน้ำอัดลมทำให้อ้วนง่ายซึ่งเราก็เป็นคนอ้วนง่ายอยู่แล้วด้วย การไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย พักผ่อนน้อย ไม่ได้กินวิตามินเสริมแล้วต้องใช้ร่างกายในการทำงานเยอะเกินไป จึงมีผลกระทบต่อร่างกายอย่างชัดเจน การออกกำลังเพื่อส่งเสริมบุคลิกภาพมันช่วยมากในเรื่องงาน บางทีคนทำงานต้องขายร่างกาย มันก็เลยค่อนข้างที่จะสำคัญ อย่างเราก็ขายหน้าตา ขายบุคลิก ขายตัว หมายถึงขายร่างกาย (หัวเราะ)”
คนทำงานอย่างน๊อตเป็นทั้งพิธีกร นักแสดง วีเจ และยังมีงานเดินแบบบ้างเป็นบางครั้ง ด้วยอาชีพแล้วการเป็นหนุ่มสุขภาพดี บุคลิกดีย่อมมีผลต่องานอย่างแน่นอน
“บางทีอาชีพของการทำงาน พิธีกร ดารา นักแสดง บางคนอาจคิดว่าเป็นอาชีพที่สบาย มันอาจสบายกว่าอาชีพอื่นแต่ไม่ได้มีเวลาเหมือนคนอื่น อย่างเวลานอนเราทำงาน คนอื่นทำงานเรานอน ชีวิตจึงเหมือนต้องปรับอยู่ตลอด ภายใน 1 อาทิตย์ อาจนอนในช่วงเวลาที่ไม่ซ้ำกันเลยจึงบั่นทอนต่อสุขภาพได้ เห็นชัดเจนเวลาเราไม่ได้ออกกำลังกาย พอต้องเจอสถานการณ์นอนไม่เป็นเวลา เราจะไม่สบายง่ายมาก ตอนนี้ก็เริ่มไม่สบายอีกแล้ว เพราะนอนน้อย”
น๊อต Wake Club หลายคนอาจเคยเห็นหนุ่มหล่อคนนี้ผ่านหน้าจอทีวีมาบ้างแล้ว ด้วยบุคลิกที่สดใสร่าเริง ช่างพูด หน้าทะเล้นและดู Alert ตลอดเวลาตามคอนเซ็ปต์ของรายการ ซึ่งหนุ่มน๊อตบอกว่าจริงๆ แล้วเขามีบุคลิกตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง แต่ด้วยการทำงาน ทำให้เขาต้องใช้พลังมากเพื่อพัฒนาตัวเองตลอดเวลา
“น๊อตคิดว่าเราเป็นคนใช้ร่างกายเยอะ เพราะด้วยธรรมชาติของเราแล้วจะเป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยพูด ชอบฟังมากกว่า แต่พอมาเริ่มทำงานทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่เราต้องทำคืออะไร มันก็เหมือนต้องปรับเปลี่ยนเพื่อพัฒนาตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ อาจต้อง Alert ตลอดเวลา จึงต้องใช้พลังเยอะกว่าคนอื่นในสิ่งที่คนอื่นเขาเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว มันจึงตรงกันข้ามกับตัวเราเอง จริงๆ เราเป็นคนชอบนั่งหายใจแล้วอยู่กับตัวเองมากกว่า”
ไม่อยากเชื่อเลยว่าหนุ่มน๊อตที่ดูสดใสร่าเริงอยู่ตลอดเวลา เมื่อถึงเวลาที่เครียดก็เป็นคนคิดมากเหมือนกัน จึงต้องมีวิธีการจัดการความเครียดด้วยการดูหนัง ฟังเพลง และชอปปิ้ง กีฬาฟุตบอลก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่กำจัดความเครียดได้ดีสำหรับน๊อต เพราะเขาเชื่อว่าการอยู่กับตัวเองเยอะเกินไปทำให้เราย้ำคิดจนเกิดเป็นความเครียดสะสม
“บางทีเราอยู่กับตัวเองเยอะเกินไปทำให้เรายิ่งรู้สึกว่าเราต้องคิด ต้องแก้ปัญหา เหมือนเป็นคนอยากเอาชนะปัญหาตลอดเวลา และถ้าเราแก้ไม่ออกก็ต้องนั่งคิดอยู่อย่างนั้น คิดแล้วคิดอีก คิดเอาชนะให้ได้เพราะเราไม่อยากเครียด แต่พอยิ่งคิดกลับต้องยิ่งเครียด”
ดังนั้นการหากิจกรรมต่างๆ ทำจึงเป็นวิธีคลายความเครียดสำหรับน๊อตได้ นอกจากการเล่นฟุตบอลแล้ว การเดินซื้อของก็เป็นอีกวิธีที่ทำให้เราผ่อนคลายได้และมีสุขภาพดีด้วย ซึ่งแหล่งชอปปิ้งสุดโปรดของเขาก็คือ ตลาดนัดสวนจตุจักร สถานที่เที่ยวของคนทุกวัย มีของกินของใช้มากมายให้เลือกซื้อ
คำนึง 3 ปัจจัยห่างไกลโรค
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนเรามีสุขภาพที่ดีได้นั้น ต้องเกิดจากการพักผ่อนให้เพียงพอ การกินอาหารที่เป็นประโยชน์ และการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ซึ่งปัจจัยทั้ง 3 อย่างนี้ หนุ่มน๊อตก็ไม่ละเลยที่จะใส่ใจเพราะล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้คุณภาพชีวิตเราดีขึ้น
“อย่างการพักผ่อน ถ้าเรากินอาหารดี ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ถ้าไม่ได้รับการพักผ่อน ร่างกายก็เสื่อมโทรมเหมือนกัน ซึ่งทั้ง 3 อย่างนี้ ถ้าเราขาดอะไรไปอย่างหนึ่ง มันก็ค่อนข้างที่จะสำคัญเหมือนกัน แต่สำหรับน๊อตเองเรื่องการพักผ่อน ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดถ้าเรานอนไม่พอ ก็จะมีกินวิตามินเสริมเพื่อช่วยให้ร่างกายรู้สึกดีขึ้น ปกติน๊อตเป็นคนกินวิตามินเป็นประจำ เนื่องจากรู้สึกว่าร่างกายเราต้องการตลอดเวลา สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะเราใช้พลังมากกว่าคนอื่นในเรื่องการทำงาน”
ท้ายที่สุดแล้วน๊อตจึงอยากชักชวนให้ทุกคนเห็นความสำคัญของการออกกำลังกายว่า ถึงแม้เราจะรู้สึกว่าชีวิตประจำวันของเราเร่งรีบ มันไม่มีเวลา ดูทุกสิ่งทุกอย่างมันรัดตัว พอมีเวลาว่างเราอยากพักผ่อนอยู่เฉยๆ แต่น๊อตรู้สึกว่าการออกกำลังกายถึงแม้จะทำนิดทำหน่อย แค่ได้เดินขึ้นบันได หรือวิ่งจ็อกกิ้งเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายแล้ว
“สำหรับตัวน๊อตเอง เราเรียนวิทยาศาสตร์การกีฬามา ทุกวันนี้ใช้ร่างกายเยอะแล้วก็มีหลายโรคเหมือนกันที่รุมเร้า จนบางทีเรารู้สึกว่านี่ขนาดเราได้ออกกำลังกาย แต่โรคต่างๆ ที่ลอยอยู่ตามอากาศมันเข้ามาโดยเราเองไม่รู้ตัวเลย อาจเป็นเชื้อไวรัสหรืออะไรก็ไม่รู้ ซึ่งปกติเป็นคนแพ้ฝุ่นอยู่แล้ว และตอนนี้เป็นกระดูกทับเส้นประสาทอีก อยู่ดีๆ มือ เท้าชา เพราะเป็นคนชอบหักคอ สะบัดคอ แล้วก็เป็นโพรงจมูกอักเสบ ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสรอบๆ ตัวเรา น๊อตก็เลยรู้สึกว่านี่ขนาดเราออกกำลังกาย เรายังเป็นขนาดนี้แล้วคนที่ไม่เคยออกกำลังกายเลยล่ะ”
ตอนนี้คนหนุ่มคนสาววัยแข็งแรงร่างกายอาจยังไม่เป็นอะไร แต่ในอนาคตอันใกล้ข้างหน้านี้ ไม่มีใครรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา อย่างน้อยการออกกำลังกายมันก็ช่วยให้เรามีภูมิต้านทานเพื่อป้องกันโรคได้บ้าง เพราะฉะนั้นแล้วควรเสียสละเวลาอาจเพียงเล็กน้อยสำหรับการออกกำลังกาย เพราะสุดท้ายแล้วก็เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเราเอง
ข่าวโดย M-Lite/ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
ภาพโดย อดิศร ฉาบสูงเนิน
