เห็นชื่อ “ร้านฝรั่ง” หลายคนอาจจะเข้าใจว่าเจ้าของร้านเป็นฝรั่งหรือเปล่า แต่จริงๆ แล้วชื่อนี้มาจากฝรั่งผลไม้ไทยบ้านเรานี่แหละ เพราะเจ้าของร้านตั้งใจที่จะทำร้านอาหารสไตล์ฟิวชัน เน้นอาหารอิตาเลียนที่ปรับปรุงสูตรให้รสชาติอร่อยถูกปากคนไทย โดยเชฟที่มีประสบการณ์การทำอาหารอิตาเลียนมากว่า 10 ปี ซึ่งแต่ละเมนูของที่นี่ถูกนำมาจัดวางอย่างสวยงาม ให้ความรูสึกเหมือนรับประทานอาหารในโรงแรมหรู แถมวัตถุดิบที่ใช้ยังคัดสรรแต่ของดีๆ แต่ขายในราคาไม่แพง เรียกว่าอร่อย หรูแบบสบายกระเป๋า
ถ้าลองเสิร์ชชื่อร้าน Farang ใน Google จะเห็นว่ามีหลายร้าน หลายสาขา ซึ่งทางเจ้าของร้าน “เพียร-แสงเพียร อุตะมา” บอกว่าร้านฝรั่งที่เป็นสาขาแรกและสาขาที่ 2 นั้นอยู่ที่ภูเก็ต ในกรุงเทพฯ มีเพียงที่นี่ที่เดียว ส่วนสาขาอื่นถึงจะใช้ชื่อเดียวกัน เมนูอาหารหน้าตาคล้ายกัน แต่รสชาติจะแตกต่างกันเพราะเป็นคนละเจ้าของ
“แฟน (เชฟติ๊ก-ชิด รักงาม) เคยเป็นเชฟอาหารอิตาเลียนอยู่ 10 กว่าปี พอมาถึงจุดหนึ่งก็อยากเปิดร้านเป็นของตัวเอง และมีไอเดียอยากทำร้านอาหารฝรั่งสไตล์ไทยๆ ก็เลยลองเปิดร้านแรกที่ภูเก็ต เป็นร้านเล็กๆ มีประมาณ 5 โต๊ะ จนถึงวันนี้ก็เปิดมา 8 ปีแล้ว สาขาที่ 2 ก็อยู่ที่ภูเก็ตใกล้ๆ กับ Livining Mall ส่วนที่กรุงเทพฯ เปิดมา 4 ปีกว่าแล้ว เชฟติ๊กจะประจำอยู่ที่ภูเก็ต ส่วนเราก็ดูแลร้านที่กรุงเทพฯ จะบินไปภูเก็ตเดือนละ 2 ครั้ง
พอเราตั้งชื่อร้านว่าฝรั่ง คนส่วนมากจะถามว่าเจ้าของร้านเป็นฝรั่งหรือเปล่า แต่จริงๆ เราตั้งใจจะตั้งชื่อร้านให้ความหมายแบบไทยๆ ก็คือ "ฝรั่ง" ผลไม้ไทยบ้านเรานี่แหละ คอนเซปต์ของอาหารที่ร้านเราจะเป็นอาหารฝรั่งผสมไทย รสชาติเข้มข้นถูกปากคนไทย หอมเครื่องเทศ สูตรอาหารทุกเมนู จะคิดสูตรเองหมด ใช้น้ำซอสทำเอง เคี่ยวกระดูกหมู เราจะไม่ซื้อ จะไม่ใช้เป็นกระป๋อง”
ตัวร้านหาไม่ยากถ้ามาจากถนนวิภาวดีเข้ามาทางสนามกอล์ฟนอธปาร์ค พอเกือบถึงแยกที่จะไปทางม.ธุรกิจบัณฑิตย์ จะเห็นป้ายร้าน FARANG อยู่ทางขวามือ ร้านออกแบบและตกแต่งสไตล์โมเดิร์นน่านั่ง ผนังกระจกใสทั้งสองด้าน ให้บรรยากาศโปร่ง สบาย มีที่นั่งทั้งภายในและภายนอกร้าน มีพื้นที่จอดรถกว้างขวาง สังเกตเห็นที่ผนังของร้านจะมีภาพข่าวของร้านฝรั่งในหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ และที่สะดุดตาคือภาพทูลหม่อมอุบลรัตนฯ เมื่อครั้งเสด็จเยือนที่ร้านฝรั่งสาขาภูเก็ต ซึ่งเจ้าของร้านเล่าว่าพระองค์เอ่ยปากว่าอาหารอร่อย และโปรดเมนู "สลัดปลาแซลมอน" ของทางร้าน
เมนูอาหารสไตล์ฟิวชันหลากหลายทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่งกว่า 10 รายการบนเมนู แต่ที่โดดเด่นของร้านนี้คืออาหารฝรั่งที่ผ่านการปรับปรุงสูตรให้รสชาติแบบไทยๆ อย่างสลัดราดซอสผสมน้ำยำ, สปาเก็ตตี้ผสมเครื่องเทศแบบไทยรสชาติเข้มข้น
“อาหารของที่นี่จะราคาไม่แพง เพราะอยากให้ลูกค้าได้ลองหลายๆ อย่าง เน้นคุณภาพมากกว่ากำไร บริการอย่างเป็นกันเอง สบายๆ สิ่งที่เราเน้นคือเรื่องของแม่ซอส จะใช้ซอสหลายอย่าง น้ำสลัดทุกตัว น้ำราดสเต็ก ซอสไวน์แดง บาซ่ามิค ไอโอรีซอส วัตถุดิบที่ใช้ก็ไปซื้อที่วิลล่า กับแมคโคร สลัดต่าง ๆ ของที่นี่ก็ใช้ผักสดๆ ปลอดสาร แม้ว่าราคาจะสูงหน่อย แต่เราเน้นคุณภาพและขายราคาไม่แพง”
เมนูขึ้นชื่อของทางร้านก็จะเป็น “สลัดปลาแซลมอน” ใช้ปลาแซลมอนย่างสุกปานกลาง เสิร์ฟบนผักราดด้วยซอสไอโอรีซอส น้ำสลัดเป็นสูตรเฉพาะของที่ร้าน เพิ่มรสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ ด้วยการราดน้ำยำ รสชาติเปรี้ยว เผ็ดกำลังดี ใช้ผักกรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค สองสีกรอบอร่อย มีให้เลือกทั้งสลัดคอหมูย่าง และเนื้อย่าง เป็นเมนูสุขภาพที่อร่อยถูกปากแถมยังไม่ทำให้อ้วนด้วย
สเต็กของที่นี่ก็คัดสรรแต่เนื้อชั้นดี อย่างเสต็กเนื้อใช้เป็นเนื้อสันในย่างสุกปานกลาง วางเนื้อสเต็กบนมันบด แครอท หัวไชเท้าผัด ราดซอสไอโอรีผสมซอสไวน์แดง เนื้อเสต็กนุ่มๆ เข้ากันดีกับมันบด และผักต่างๆ ตัวซอสก็ช่วยเพิ่มรสชาติให้อร่อยกลมกล่อมยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีสเต็กปลาแซลมอน เสิร์ฟพร้อมมันบด หัวไชเท้า ถั่วผัด จัดวางบนจานอย่างสวยงามเช่นกัน ราดด้วยไอโอรีซอสผสมกับเซลซ่าซอส
สปาเก็ตตี้มีให้เลือกทั้งเส้นกลมและเส้นแบน อาทิ "เฟตูชินีคาโบนาราผัดครีมซอส" รสชาตินุ่มเนียน เข้ากันดีกับเบคอนทอดกรอบ, "เฟตูชินีเนื้อปู" ผัดใส่ซอสมะเขือเทศผสมวิปปิ้งครีม ใส่พริกขี้หนูนิดหน่อย รสชาติเผ็ดนิดๆ สำหรับคนที่ไม่ชอบสปาเก็ตตี้แบบครีม ก็มีสปาเก็ตตี้ซีฟู้ดผัดโอลีฟออยล์ ใส่พริก กระเทียม เบซิล ให้รสชาติเข้มข้นอร่อยกลมกล่อมแบบไทยๆ หอมกลิ่นเครื่องเทศ
คนที่ไม่กลัวอ้วนแนะนำ “พิซซ่าแฮมชีส” แป้งพิซซ่าบางกรอบ เนื้อนุ่ม มีให้เลือกหลากหลายหน้าทั้ง ซีฟู้ด, แอนโชวี่ (ปลาร้าฝรั่งตัวเล็กๆ), ทูน่า, แฮมสัปปะรด, ผักขม, กระเพราะไก่ หากกลัวเลี่ยนบนโต๊ะจะมี “พริกสดในน้ำมันมะกอก” วางอยู่ข้างๆ ลองตักใส่อาหารก็ช่วยเพิ่มรสชาติให้อร่อยไปอีกแบบ
ใช่ว่าจะมีแต่อาหารฝรั่ง อาหารไทยของที่นี่ก็มีต้มยำกุ้ง, ต้มข่าไก่, แกงเขียวหวาน, คอหมูย่างจิ้มแจ่ว เลือกสั่งได้ตามใจชอบ
นอกจากเมนูจานหลักแล้ว ทางร้านจะมีเมนูพิเศษเขียนไว้บนกระดาน อย่างในวันนี้ก็จะมี หอยแมงภู่นิวซีแลนด์, เฟตูชินีผัดกับหัวผักกาด, อกเป็ดเชียร์ดักส์ หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันไป
อิ่มอร่อยกับอาหารจานหลักแล้ว ก็ตบท้ายด้วยของหวาน ด้วยเค้กโฮมเมดชิ้นใหญ่ เนื้อนุ่ม บลูเบอรร์รีชีสเค้ก, เค้กช็อกโกแล็ต,บราวนี แนะนำให้สั่งพร้อมไอศกรีมเอเต้ รสชาติอร่อย ไม่หวานมาก ส่วนเครื่องดื่มก็มีทั้งชา กาแฟ ไวน์ ที่เด่นๆ คือน้ำผลไม้คั้นสดๆ แบบแยกกากทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ
ลูกค้าประจำส่วนใหญ่จะเป็นคนทำงาน แวะมารับประทานช่วงเย็นคนจะเยอะเป็นพิเศษ โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ แนะนำว่าให้โทรมาจองโต๊ะก่อน ร้านเปิดเวลา 10.00-23.00 น. ปิดทุกวันจันทร์ ราคาเฉลี่ยประมาณ 100-200 บาท เบอร์ติดต่อร้าน โทร. 02-589-2947
ภาพโดย วรวิทย์ พานิชนันท์
ข่าวโดยทีมข่าว M-Lite/ASTV สุดสัปดาห์
