“จัดแท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์ให้แก่นักเรียน นักศึกษา” 1 ในนโยบาย 29 ข้อ ของพรรคเพื่อไทย ว่าที่รัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังเข้าทำหน้าที่ในอีกไม่ช้านี้...
นโยบายเพื่อการศึกษานี้ ยิ่งดึงกระแสความสนใจในเทคโนโลยี “แท็บเล็ต” มากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ผู้ (อยาก) ใช้ซึ่งพอจะมีกำลังซื้อได้ ต่างจ้องจับจองคนละเครื่อง สองเครื่อง เด็กไทยยุคนี้ชอบเห่อเทคโนโลยีใหม่ๆ และหวังที่จะได้ใช้ด้วยเหมือนกัน
เมืองไทยยังอยู่ในยุคของการพัฒนาไม่จบสิ้น คงจำกันได้ดีเมื่อประมาณ 5 ปีก่อนหน้านี้ เด็กๆ จะอ้อนขอเงินพ่อแม่ซื้อโทรศัพท์มือถือ เพราะอยากได้ อยากมีเหมือนเพื่อนคนอื่น ประกอบกับช่องว่างของสังคมที่เพิ่มขึ้นจึงทำให้เกิดความจำเป็นต้องใช้ ต้องมี
ประโยคที่ว่า “หนูอยากได้โทรศัพท์มือถือ” พ่อแม่หลายคนคงคุ้นเคย
แต่ปัจจุบันนี้ มีประโยคใหม่ที่ว่า “หนูอยากได้ไอแพด”
Tablet PC หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า แท็บเล็ต (Tablet) แต่ที่เด็กไทยรู้จักกันดีคือ I-Padของแอปเปิล ได้เรียกกระแสนิยมของจำนวนผู้ใช้แท็บเล็ตในเมืองไทยอย่างมหาศาล จนมียี่ห้ออื่นเข้ามาตีตลาดในราคาที่จับต้องได้แบบสบายกระเป๋า
เด็กๆ ที่อยากได้ แต่ยังไม่มีทุนทรัพย์ส่วนตัวก็ต้องเดือนร้อนเงินพ่อแม่ พอไม่ได้ก็โวยวาย ร้องไห้ ฟูมฟายจะเป็นจะตาย พ่อแม่ที่พอจะมีตังค์ก็ต้องยอมควักเงินซื้อให้ลูก...
เพราะเด็กสมัยนี้แค่มือถือคงไม่พอแล้ว
เมื่อมีนโยบายแจกแท็บเล็ตให้เด็กนักเรียนชั้นป.1 คนละเครื่อง ซึ่งมีเป้าหมายให้เยาวชนของชาติเข้าถึงแหล่งความรู้ที่กว้างขึ้นในโลกโซเซียลเน็ตเวิร์ก แต่ไม่มั่นใจว่าแหล่งที่เด็ก (ชอบ) เข้าถึงจะเป็นสาระความรู้จริงหรือเปล่า?
เทคโนโลยีเมื่อมีข้อดีก็ย่อมมีข้อเสีย ความต้องการใช้แท็บเล็ตเข้ามาแทนที่หรือเสริมแหล่งความรู้เดิมโดยไม่มีข้อจำกัด และสะดวกรวดเร็ว แต่ทว่าเมื่อมองในมุมของผู้ใช้ซึ่งเป็นเด็ก เชื่อได้อย่างไรว่าจะเกิดประโยชน์ทางการเรียนมากกว่าการเล่นเกม
เพราะแค่นี้เทคโนโลยีซึ่งเป็นที่มาของการติดต่อบนโลกออนไลน์ก็แย่งพื้นที่การมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างไปเกือบ 50% แล้ว ไม่ว่าจะเป็น MSN, Facebook, BB ฯลฯ ที่ผ่านมาก็เป็นปัญหาสังคมเพราะใช้กันในทุกกิจวัตร และเล่นอย่างบ้าคลั่ง
ขนาดเด็กบรรลุนิติภาวะแล้วยังติดกับดักเทคโนโลยี บางคนหลงระเริงจนแยกไม่ออกระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงกับโลกในอินเทอร์เน็ต แล้วยิ่งวุฒิภาวะของเด็กชั้นป.1ซึ่งมีอายุแค่ 7 ขวบย่อมตกเป็นเหยื่อและยึดติดกับอะไรได้ง่ายกว่า แอปพลิเคชันที่ล่อตาล่อใจในแท็บเล็ต จึงไม่พ้นที่จะดึงเกมนั้นเกมนี้มาจิ้มเล่นกันให้เมื่อยนิ้วไปเลย
และยิ่งแย่ไปกว่านั้น เด็กติดเกมไม่พอ ยังโหลดหนังโป๊มาดูกันจนตาแฉะ ส่งต่อกันไปให้กระจายทั้งโรงเรียน แล้วจะมานั่งสั่งปิดคงทำไม่ไหวและช้าไปเสียแล้ว
จะว่าไปวงการการศึกษาไทยกำลังนิยมนำเทคโนโลยีมาใช้ในระบบการเรียนการสอน มหา'ลัยเอกชนแห่งหนึ่งก็แจกไอแพดเป็นเรื่องเป็นราวอย่างนี้มาก่อนแล้ว วันๆ หนึ่งก็ไม่พ้นที่นักศึกษาจะใช้โหลดคลิปโป๊ หนังเปลือยมาแชร์กัน กลายเป็นที่เก็บภาพวาบหวิว แชตหาคู่ และเล่นเกมฆ่าฟัน สารพัดความบันเทิงอัดแน่นอยู่ในนั้น จึงเกิดคำถามที่ว่า มันจำเป็นมากขนาดนั้นเลยเหรอ? เน็ตบุ๊ก E-learning ก็ทำได้ แต่ถ้าดึงดันทำต่อไปคงต้องฝังระบบการจัดการสื่อใหม่ ควบคู่กับนโยบายแจกแท็บเล็ต ก่อนที่จะยุ่งเหยิงไปมากกว่านี้...
ข่าวโดย Manager Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์