“นางเอกคนใหม่ของเอ็กแซ็กท์” หลายคนเรียกเธอว่าอย่างนั้น ส่วนอีกหลายคนกำลังจับจ้องว่าเธอจะสามารถกอดตำแหน่งนี้เอาไว้ได้นานสักแค่ไหน วันนี้ “เอ้ก บุษกร ตันติภนา” ยินดีเคลียร์ทุกคำถามคาใจด้วยคำตอบที่ฟันธงกับตัวเองเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว
รุ่งหรือร่วง… มีเพียงสองทางเลือกเท่านั้นบนเส้นทางบันเทิง โดยเฉพาะบทสำคัญอย่างพระเอก-นางเอกแล้ว ถ้าไม่มีเสน่ห์ดึงดูดพอหรือแสดงไม่ถึงบทบาทจริงๆ คงยากที่จะมีโอกาสแบบนี้หยิบยื่นมาให้เป็นครั้งที่สอง “เอ้ก บุษกร ตันติภนา” คือหนึ่งในนักแสดงที่กำลังพิสูจน์ตัวเองบนเส้นทางนี้ พิจารณาจากละครเรื่อง “เรือนแพ” ซึ่งออกอากาศไปได้ระยะหนึ่ง หลายคนคงมีคำตอบในใจแล้วว่าเธอมีความสามารถพอสำหรับบทนางเอกของเรื่องหรือไม่ และดูเหมือนว่านางเอกคนนี้ก็ตอบตัวเองได้แล้วเช่นกัน
นางเอกสอบตก?
“ถ้าผลออกมาว่าความสามารถของเราไม่ถึง เอ้กก็คงต้องไปรับบทอื่นแทน เป็นเรื่องเข้าใจได้ค่ะ” นางเอกสาววัย 23 ให้คำตอบแก่ทีมงานด้วยท่าทีสบายๆ ไม่ต่างไปจากคำถามข้ออื่นๆ เอ้กบอกว่าเธอรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เป็นนางเอกเต็มตัวครั้งแรกหลังจากเซ็นสัญญากับค่ายเอ็กแซ็กท์และได้มีโอกาสแสดงนำในละครพีเรียดฟอร์มไม่เล็กอย่างเรือนแพ ถึงแม้ยังไม่แน่ใจว่าคนดูจะชอบเธอในบทนางเอกหรือไม่ แต่ก็ยืนยันว่าได้ทำเต็มที่แล้วและพร้อมรับผลที่จะตามมา
“ถ้าเป็นไปได้ เอ้กก็อยากให้คนดูเรือนแพเข้าใจตัววันเพ็ญ เข้าใจสิ่งที่เราแสดงออกไป อยากให้คนดูดูแล้วรู้สึกผูกพันกับตัวละครตัวนี้ อยากให้ดูแล้วสนุก รู้สึกว่าน่าติดตาม ขอแค่มีฟีดแบ็กที่ดีกลับมา เอ้กก็โอเคแล้ว แต่ถ้ามันไม่ได้ตามนั้นก็เป็นธรรมดาค่ะถ้าผู้ใหญ่จะไม่ให้เราเป็นนางเอกเรื่องต่อไป เพราะงานแบบนี้ก็เหมือนอุตสาหกรรมแบบหนึ่ง เป็นอาชีพอาชีพหนึ่งที่ต้องดูเรื่องผลตอบรับ ถ้าผลตอบรับไม่ได้ตามที่ผู้ใหญ่คาดหวัง ต่อไปเอ้กก็คงต้องรับบทอื่นค่ะ” เธอแนบรอยยิ้มเย็นๆ ตบท้ายก่อนอธิบายให้หายข้องใจว่าเหตุใดจึงไม่รู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนมากนักหากสอบไม่ผ่านบทนางเอกในครั้งนี้
“เอ้กไม่ได้ฟิกซ์ไงคะว่าต้องได้เล่นบทนางเอกตลอด ถ้าผู้ใหญ่เขาให้บทอะไรมาเอ้กก็เล่นได้หมด มันขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละโปรดักชัน ตอนนี้หลายคนเรียกเราว่าเป็นนางเอกแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วเอ้กไม่ค่อยอยากให้ใครเรียกแบบนี้เท่าไหร่ (ยิ้ม) เพราะเอ้กอาจจะไม่ได้เป็นนางเอกไปตลอด แค่อยากแสดง อยากสวมบทบาทเป็นตัวละครแต่ละตัว แล้วครั้งนี้เหมือนบทบาทที่ได้รับมันโตขึ้นจนได้เป็นตัวนำของเรื่องแค่นั้นเอง แต่ที่จริงเราก็เหมือนเพื่อนนักแสดงคนอื่นที่เขามารับบทนั่นแหละค่ะ อีกอย่างพอพูดถึงคำว่านางเอกทีไร จะรู้สึกเกร็งขึ้นมาเลย (หัวเราะ) เรียกว่าเป็นนักแสดงดีกว่าค่ะ”
“ส่วนเรื่องต่อไปเอ้กจะได้เล่นเป็นนางเอกอีกหรือเปล่าหรือจะได้บทอื่น คงแล้วแต่ผู้ใหญ่ดีกว่า ถ้าเขาวางใจให้เราเล่นบทไหน เอ้กก็น้อมรับทุกอัน ให้กลับไปเล่นบทร้ายอีกก็ได้ มันอยู่ที่ว่าเรามีความสุขที่ได้แสดงบทนั้นหรือเปล่า เอ้กว่าได้เปลี่ยนบทบาทบ่อยๆ ได้เล่นแหวกแนวบ้างก็ดีนะ ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ” แสดงว่าถ้าเรื่องหน้าไม่ได้เห็นเอ้กในบทนำก็ยังฟันธงไม่ได้ว่าเธอสอบตกบทนางเอกในครั้งนี้ เพราะทั้งหมดอาจเป็นความต้องการของเธอเอง
ไม่ใช่ง่ายๆ!
ดูเผินๆ แล้วเหมือนว่าชีวิตของเอ้กจะโรยด้วยกลีบกุหลาบมาตลอด หากมองย้อนกลับไปจะเห็นว่าโอกาสดีๆ มักเข้ามาหาเธอเสมอๆ ตั้งแต่ก้าวแรกในวงการบันเทิง เธอได้งานโดยบังเอิญเพราะไปดูพี่สาวและกลุ่มเพื่อนแคสต์โฆษณา กระทั่งผู้ใหญ่ส่งให้ได้ลองงานพิธีกร ได้เล่นละครหลายต่อหลายเรื่องจนก้าวสู่ระดับนางเอกอย่างที่เห็น ด้วยโอกาสที่ได้รับทั้งหมดทำให้หลายคนมองว่าเส้นทางชีวิตของเธอช่างเรียบง่ายและราบรื่น ทั้งที่ความจริงแล้วเอ้กยืนยันว่าเธอต้องผ่านการพิสูจน์มาหลายครั้งหลายหนเช่นกัน
“ทุกอย่างที่ได้มาเอ้กว่ามันก็ไม่ใช่ง่ายๆ เหมือนกันนะ ต้องผ่านเรื่องลำบากหลายอย่างเหมือนกันค่ะ อย่างเรื่องการวางตัวแสดงก็เป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา จากที่เคยตกลงกันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าเราจะได้เล่นบทนั้น แต่สุดท้ายไม่ได้เล่นก็มีบ่อยๆ ด้วยเหตุผลที่ว่าเรายังไม่พร้อม คุณสมบัติไม่พอจะได้เล่น เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะปรับปรุง ไปทำตัวเองให้พร้อมก่อน ขนาดว่าเข้าเอ็กแซ็กท์แล้วก็ยังโดนดุโดนว่าเรื่องการแสดงอยู่ตลอดเลย เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่ได้มามันคือความตั้งใจ ต้องพิสูจน์ตัวเองทุกครั้ง ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ เลยค่ะ”
ถ้าจะบอกว่าเอ้กเป็นคนโชคดี มีแต่โอกาสดีๆ เข้ามาในชีวิต เธอก็พร้อมยอมรับ เพียงแต่เธอเชื่อว่าโชคของเธอไม่ได้เกิดจากดวงชะตาฟ้าลิขิต แต่เกิดจากผู้คนที่แวดล้อมตัวเธอมากกว่า
“เอ้กว่าเอ้กไม่ได้โชคดีเหมือนบุญหล่นทับ ไม่ใช่ว่าเดินผ่านหน้าบริษัท เขาเห็นแล้วดึงตัวมาเซ็นสัญญาเลย แต่เอ้กโชคดีที่ถูกแวดล้อมไปด้วยคนดีๆ มีเพื่อนที่ดี พ่อแม่ที่เข้าใจ และได้เจอกับผู้ใหญ่ที่ให้โอกาส ช่วยสอนให้เรามีแง่คิดในการใช้ชีวิต ทำให้รู้จักพยายาม มีความมุ่งมั่น แล้วสุดท้ายความมุ่งมั่นก็ทำให้เราไปถึงเป้าหมายที่วางไว้”
“เอ้กโชคดีที่ได้เจอคนดีๆ หยิบยื่นโอกาสดีๆ ให้ ส่วนตัวเราเองก็ไม่ได้ยืนรอรับโอกาสอยู่เฉยๆ เอ้กพยายามทำตัวเองให้พร้อม ทำให้ตัวเองควรค่าแก่การได้รับโอกาสนั้น เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่ได้มา พูดได้เลยค่ะว่าเอ้กใช้ความพยายามของตัวเองเยอะเหมือนกัน” ไม่ใช่น้ำเสียงโอ้อวดจากคนตอบ แต่คือน้ำเสียงเนิบช้าที่ส่งออกมาพร้อมแววตาภาคภูมิใจในตนเอง
เฉื่อยแต่ชัวร์
ให้คำตอบด้วยแววตามุ่งมั่นขนาดนี้ ผู้สัมภาษณ์เชื่อไปเกินครึ่งแล้วว่าเอ้กเป็นคนกระตือรือร้นและจริงจังกับการทำงาน แต่เมื่อถามเจ้าตัวชัดๆ จึงได้ความรู้ใหม่ว่า “จริงๆ แล้วเอ้กเป็นคนเฉื่อยๆ นะ แต่จะจริงจังกับบางเรื่องที่สนใจแค่นั้นเอง”
“ปกติแล้วก็เป็นคนง่ายๆ เรื่อยๆ ค่ะ แต่ถ้าเจอเรื่องที่อยากทำ รู้สึกว่าต้องทำให้ได้ เอ้กก็จะมุ่งมั่นมากๆ พยายามไปให้ถึงให้ได้ อย่างเรื่องเรียนก็เป็นอีกเรื่องที่เอ้กให้ความสำคัญมาก คงเพราะคุณพ่อห่วงเรื่องนี้มากด้วยค่ะ ยกตัวอย่างสมัยมัธยม กลัวเอ็นท์ไม่ติดก็เลยอ่านหนังสือเยอะมาก อ่านจนพักเที่ยงไม่ได้กินข้าวเลย นั่งทำข้อสอบอย่างเดียว แต่สุดท้ายก็ได้เข้ามหาวิทยาลัยที่อยากเรียน ได้เรียนบัญชี จุฬาฯ อย่างที่ฝันไว้” เอ้กค่อยๆ รื้อฟื้นเหตุการณ์ต่างๆ ให้ฟังเพิ่มอีก เพื่ออธิบายตัวตนของเธอ
“ตอนอยู่ ม.5 ก็ขออาสาเป็นหัวหน้าชมรมภาษาพาสนุกเองเลย เป็นชมรมสอนภาษาอังกฤษให้แก่น้องๆ ม.ต้น ตอนนั้นเริ่มทำพิธีกรรายการสตรอเบอร์รี่ชีสเค้กแล้วค่ะ เหนื่อยบ้างแต่ก็ยังทำเพราะได้ฟอร์มทีมกับเพื่อนทำชมรมที่อยากทำขึ้นมา รู้สึกว่าสนุกดี นี่ถ้าถูกบังคับให้เข้าชมรมอื่นคงโดดอย่างเดียว อยู่เฉยๆ ดีกว่า เพราะปกติก็ไม่ใช่คนขยันอะไรมากอยู่แล้ว (ยิ้ม)”
“หรืออย่างตอนที่เข้าไปเล่นเรื่องบ้านนี้มีรักใหม่ๆ ก็เครียดมากเหมือนกัน เพราะเอ้กเพิ่งเข้าไปเล่นปีที่ 6 คิดดูว่านักแสดงคนอื่นเขาเล่นด้วยกันมา 5 ปีแล้ว รับส่งมุก เข้าขากันมากๆ เราก็ต้องพยายามปรับตัว คิดหนักเลยตอนนั้นว่าทำยังไงไม่ให้เราเข้าไปเล่นแล้วทำให้จังหวะของคนอื่นพัง เพราะเล่นซิตคอมนี่ เรื่องจังหวะสำคัญมาก แต่เอ้กก็พยายามบอกตัวเองว่าเราต้องทำให้ได้ ตอนนี้ก็แสดงได้แบบไม่หนักใจแล้วค่ะ”
ถึงแม้นิสัยมุ่งมั่นของเอ้กจะถือเป็นข้อดีที่ทำให้เธอผ่านอุปสรรคต่างๆ มาได้ แต่บางครั้งก็กลายเป็นด้านมืดของชีวิตได้เหมือนกัน เพราะทุกครั้งที่มุ่งมั่นจนเกิดเหตุ เธอมักเครียดเกินไปจนทำทุกอย่างพังอยู่เสมอๆ
“วันไหนเครียดมากๆ อยากจะเล่นให้ดีๆ ก็กลายเป็นว่าความกังวลนี่แหละทำให้เรายิ่งเล่นแย่ลงไปอีก บางทีการที่เรามุ่งมั่นกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไปมันก็เป็นข้อเสียเหมือนกันนะ อย่างช่วงเอ็นท์ที่เราอ่านหนังสือหนัก เครียดมากจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่น มันก็ทำให้ความสนุกสนานในวัยนั้นของเราหายไปด้วย เทียบกับเพื่อนคนที่เราเห็นว่าเขาวิ่งเล่น เขาก็เอ็นท์ติดเหมือนกับเรา แต่เขามีความสุขมากกว่า ตอนนี้ก็เลยพยายามบาลานซ์อยู่ค่ะ ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง ค่อยๆ เรียนรู้กันไป”
ไม่ได้เปิด แต่ไม่ปิด (ใจ)
“เรื่องอนาคตยังตอบไม่ได้ครับ วันนี้เป็นอะไรที่เริ่มรู้สึกดี คนเรารู้สึกดีต่อกันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร ทุกอย่างอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ คุณแม่ของน้องและทีมงาน” คือคำตอบของกัปตัน ภูธเนศ หงส์มานพ ซึ่งพูดถึงความสัมพันธ์กับเอ้กเอาไว้ หลังจากมีปาปาราซซีมือดีถ่ายภาพทั้งสองคนกินข้าวด้วยกันสองต่อสองได้ หากพิจารณาจากคำพูดฝ่ายชายแล้วตีความได้ชัดเจนว่ากำลังคบหาดูใจกันอยู่ แต่เพื่อความยุติธรรมจึงขอเปิดโอกาสให้ฝ่ายหญิงได้อธิบายในมุมมองของตัวเองบ้าง
“เอ้กไม่รู้ว่าพี่กัปตันเขาพูดแล้วคนไปตีความว่ายังไง แต่สำหรับเอ้กและพี่เขาเราเข้าใจตรงกันว่า พี่เขาเป็นพี่ชายที่น่ารัก เป็นพี่ที่คอยดูแล สำหรับตอนนี้แค่นี้ก็โอเคแล้ว เอ้กแฮปปี้ดีกับการทำงานตอนนี้ มีที่ปรึกษาที่ดี ก็ถือว่าโอเคแล้วค่ะ” สาวหน้าหมวยตอบพลางยิ้มไปพลาง คล้ายอาการของคนปิดความเขินไว้ไม่มิด
เมื่อถามว่าพร้อมหรือยังที่จะเปิดตัวว่ากำลังคบหาใครอย่างเป็นทางการ เอ้กตอบทันทีว่า “ยังไม่พร้อมค่ะ ยังไม่พร้อมที่จะเปิดให้ใครขนาดนั้น แค่พร้อมที่จะมีเพื่อน แต่ยังไม่พร้อมจะเปิดตัวว่าเป็นแฟนใคร มันค่อนข้างเกี่ยวกับสมาธิการทำงานนะคะ ถ้าต้องเป็นห่วงใคร ต้องระแวงว่าต้องเป็นข่าวกับใคร ต้องหลบๆ ซ่อนๆ กับใคร มันค่อนข้างรบกวนความคิด เอ้กไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นหรือเปล่า แต่เอ้กเป็นมากค่ะก็เลยยังไม่อยากคิดเรื่องนี้มาก”
เพื่อไม่ให้คนตอบอายม้วนไปมากกว่านี้ ผู้สัมภาษณ์จึงหันมาถามเรื่องสเปกของเธอกันบ้าง เอ้กนิ่งคิดเป็นระยะๆ ก่อนให้คำตอบทีละประโยคอย่างผ่านการกลั่นกรองมาดีแล้ว
“ชอบผู้ชายใจดีค่ะ ชอบผู้ชายใจเย็น เพราะเอ้กเป็นคนค่อนข้างใจร้อน ถ้าตกใจหรือตื่นเต้นจะขาดสติบ่อยๆ ออกไปในแนวลนๆ ถ้าได้น้ำเย็นมาทำให้เย็นขึ้นก็คงจะดี อายุจะมากกว่าน้อยกว่าก็ได้ บางทีคนอายุน้อยกว่าถ้านิสัยสุขุมเป็นผู้ใหญ่ก็โอเค ส่วนเรื่องหน้าตา ชอบคนน่ารักค่ะไม่ชอบคนหล่อ เพราะบางทีคนหล่อก็ไม่น่ารัก คนน่ารักไม่ว่าจะทำอะไรก็จะดูน่ารัก บางคนยิ้มน่ารัก กินข้าวน่ารัก เดินน่ารัก ขับรถน่ารัก ถ้าทำอะไรแล้วเรารู้สึกเอ็นดูก็จะชอบค่ะ”
แฟนคลับที่ลุ้นให้เกิดรักนอกจอคงได้แต่หวังว่าฝ่ายชายจะมีคุณสมบัติน่ารักๆ ติดตัวบ้างสักข้อสองข้อ เผื่อมีหวังจะได้เปลี่ยนจาก "น่ารัก" เป็น "ที่รัก" ในอนาคต
ลูกสาวพ่อหวง
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่เอ้กมักได้รับเล่นบทลูกสาวพ่อหวงอยู่บ่อยๆ จะเรียกว่าแทบทุกเรื่องที่เล่นก็ว่าได้ ทั้งที่ความจริงแล้วเธอกระซิบว่าพ่อของเธอไม่ได้หวงเหมือนในละครด้วยซ้ำ จะเป็นฝ่ายคุณแม่มากกว่าที่หวงลูกสาว ไม่เชื่อเดี๋ยวเธอจะสาธยายให้ฟัง
“ตอนที่เล่นเอ็มวีให้โตโน่ก็บทลูกสาวพ่อหวง ไปเล่นรับเชิญในเป็นต่อก็บทนี้ เล่นบ้านนี้มีรักก็เหมือนกัน แล้วยังเรื่องเรือนแพอีก (หัวเราะ) ป่าป๊าตัวจริงไม่เห็นหวงเหมือนในละครเลย ค่อนข้างให้อิสระเราทำอะไรๆ เองด้วยซ้ำ เหมือนกับเขาค่อนข้างไว้ใจในตัวเราในระดับหนึ่ง เขารู้ว่าเราไม่เละเทะ ตัวจริงเอ้กก็เลยไม่ใช่ลูกสาวพ่อหวงแต่เป็นลูกสาวพ่อห่วงมากกว่าค่ะ (ยิ้ม)”
“ส่วนใหญ่คุณพ่อจะเป็นห่วงเรื่องชีวิตเรื่องอนาคตมากกว่า ประมาณว่าเรียนจบแล้วจะทำงานอะไร จะเก็บเงินเองเป็นหรือเปล่า เอ้กเรียนจบมาร์เกตติ้งไงคะ คุณพ่อเขาก็จะถามตลอดว่าตกลงจะสมัครงานตามที่เรียนมาไหม ซึ่งตอนนี้เอ้กก็คิดๆ อยู่ แต่คงทำงานในวงการไปก่อนค่ะ เพราะงานมาร์เกตติ้งมันไม่ค่อยมีแบบพาร์ตไทม์ให้ทำค่ะ ถ้าทำก็ต้องเต็มวันทั้งห้าวัน ถ้าให้มารับละครแบบนี้ไปด้วยก็ไม่เหมาะ”
“ส่วนคนที่หวงจริงๆ น่าจะเป็นคุณแม่ ไปกองถ่ายทีไรหม่าม้าก็จะไปด้วยตลอด สนิทกับคุณแม่มาก มีเรื่องอะไรเขาก็จะรู้หมด บางทียังไม่ทันได้พูดอะไรเขาก็รู้แล้ว” เห็นทีว่าผู้จัดฯ คงต้องส่งบทลูกสาวแม่หวงมาให้เธอเล่นบ้างแล้ว
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ-สกุล : เอ้ก บุษกร ตันติภนา
วันเกิด : 7 ก.ค. 2531
ส่วนสูง : 160 เซนติเมตร
น้ำหนัก :43 กิโลกรัม
การศึกษา : บัณฑิตหมาดๆ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ภาควิชาการตลาด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผลงาน : พิธีกรรายการสตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก, ละครเรื่อง “รักริทึ่ม”, “ก๊วนกามเทพ”, “บ้านนี้ที่บางรัก”, “บ้านนี้มีรัก”, “เสแสร้งแกล้งรัก” และล่าสุดนางเอกเรื่อง “เรือนแพ” นอกจากนี้ยังมีงานโฆษณา ถ่ายแบบ และเล่นมิวสิกวิดีโออีกหลายชิ้น
ข่าวโดย Manager Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
ภาพโดย อดิศร ฉาบสูงเนิน
