พิช - วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล หลายคนอาจไม่คุ้นกับชื่อนี้ แต่เมื่อเอ่ยว่า “พิช วงออกัส” ทุกคนคงต้องร้องอ๋อ! กันเลยทีเดียว กระแสหนุ่มพิชกำลังเป็นที่ฮือฮาในกลุ่มแฟนคลับทั้งชาวไทยและชาวจีน การันตีด้วยการคลิก! 10 ล้านโหวตส่งให้เขาโกอินเตอร์ในชั่วข้ามคืน ครองอันดับ 1 ดาราไทยขวัญใจแฟนคลับชาวจีนไปในพริบตา
หนุ่มหน้าหวาน แต่งกายเสื้อผ้าสีเรียบ สะพายเป้สีเหลือง-น้ำตาล ในมือถือจานขนมปังปิ้งโรยน้ำตาล พร้อมเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดีครับ” ภายนอกเขาดูไม่ต่างอะไรกับเด็กหนุ่มธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาคือความสามารถของเขาที่ไม่เป็นสองรองใคร ทั้งงานแสดงและงานเพลง ในวันนี้ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักในวงการบันเทิงไทยและต่างชาติ ในฐานะนักร้องนำวงออกัส ที่มากับเสียงเพราะๆและเพลงความหมายดีๆ ลึกซึ้งกินใจ
ความหมายในเพลง
พิชเป็นอีกหนึ่งเด็กหนุ่มในวงการบันเทิงไทย ที่นำพาความสามารถหลายด้านให้แฟนๆ ได้เห็นกัน พรสวรรค์อย่างหนึ่งที่โดดเด่นในตัวเขา คงไม่พ้นเรื่องการแต่งเพลง เมื่อถามว่าเพลงที่เขาแต่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากไหน? “มีอะไรหลายๆอย่างผสมกัน มีทั้งเรื่องของตัวเอง เรื่องของคนอื่น อย่างเพลงที่เราได้ฟังๆกันนี้จะเป็นเรื่องของตัวเองครึ่งหนึ่ง ผสมกับเรื่องที่เราได้ยินจากคนอื่นครึ่งหนึ่ง คือเราไม่อยากเล่าในเรื่องของเราเพียงด้านเดียว อยากฟังมุมมองของคนอื่นๆด้วยแล้วเอามาผสมกัน เพราะรู้สึกว่าการที่เราได้ฟังความเห็นและเรื่องเล่าจากหลายๆคน ทำให้เจอบางอย่างในที่หลายๆ คนเจอเหมือนกัน และเราจะจับเรื่องราวตรงนี้มาพูดเพราะเรารู้สึกว่าถ้าคนหลายๆ คนฟังจะรู้สึกได้ว่าเป็นเรื่องของเขา”
“คิดว่าเรื่องการแต่งเพลงนี้ น่าจะซึมซับมาตั้งแต่เด็กๆมากกว่า ตอนเด็กๆแม่ขับรถไปส่งที่โรงเรียน ก็จะเปิดเทปฟังไป และก็ฝึกร้อง อีกอย่างเราอยู่โรงเรียนคริสต์ ก็จะมีการร้องเพลงมีพิธีมิสซา และเราชอบที่จะเอาเพลงมาร้องแก้กับเพื่อน สนุกสนานกันไป ทำให้เราเข้าใจว่าการแต่งเพลง คือการที่อยากจะพูดในสิ่งที่อยากจะเล่าแต่เล่าเป็นเพลง และเวลาเราอ่านหนังสือสอบ ก็จะชอบจำเป็นเพลง แต่งเอง โดยอาจจะใช้คำสั้นๆเพื่อให้จำได้
โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย เชียงใหม่ ในยุคของพิชตอนนั้น เขาจะเน้นไปในด้านวิชาการ กีฬา และดนตรี เป็นดนตรีเกี่ยวกับวงโยธวาทิต เพราะตอนนั้นเพิ่งมีเด็กนักเรียนศิษย์เก่าได้เข้าสู่วงการบันเทิง วงการเพลง ภาพยนตร์ ตอนนั้นเราก็เป็นแค่นักร้องที่ร้องตามวงของกลุ่มเพื่อนที่เราตั้งขึ้นเอง ก็ได้ไปร้องเพลงที่นั่น ที่นี่ ตามที่มีคนจ้างไป พอเราไปหลายๆครั้งเข้า คนก็เริ่มมองเราว่าคนคนนี้เป็นคนที่ร้องเพลงได้นะ ตอนนี้ที่โรงเรียนก็หันมาสนใจความสามารถของนักเรียนมากขึ้น และทุกปีจะมีการจัดประกวดร้องเพลง เฟ้นหาความสามารถของเด็กๆ ทำให้เด็กได้พัฒนาตัวเอง”
ที่ผ่านมาเขามีเพลงที่แต่งเอง และหลายคนคงเคยได้ฟังกัน ซึ่งเป็นเพลงที่แต่งให้วงออกัส อย่าง “เพลงรู้สึกบ้างไหม” ประกอบภาพยนตร์เรื่องรักแห่งสยาม “เพลงดวงตะวัน” ที่ติดชาร์จอยู่นานเหมือนกัน และล่าสุดกับ “เพลงรักไม่ใช่ทุกอย่าง” และนอกจากนี้ก็มีงานแต่งเพลงโฆษณาร่วมกับ มะเดี่ยว - ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ผู้กำกับชื่อดัง
“ซิงเกิลล่าสุด “เพลงรักไม่ใช่ทุกอย่าง” เป็นการเล่าเรื่องของเราและคนใกล้ตัวที่เจอกับเหตุการณ์ที่เป็นประสบการณ์แง่ลบในเรื่องเกี่ยวกับความรักในมุมต่างๆ เป็นเพลงที่สื่อออกมาว่าเมื่อเราผ่านความผิดหวังต่างๆในเรื่องความรักไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว เราคิดได้ จึงอยากให้เพลงนี้ปลอบใจคนอื่นๆ ถึงแม้ว่าในแต่ละเรื่องราวของคนเราจะต่างกัน แต่จะมีอะไรบางอย่างที่เหมือนกันอยู่ เราจึงจับเอาแก่นตรงนี้มาตีความเป็นเพลงว่า เวลาคนมีความรักมันเป็นเหมือนทุกอย่าง เราขาดมันไม่ได้ มันสวยงามจังเลย แต่จริงๆแล้วมันมีอีกมุมหนึ่งนะที่แย่มาก และเรารู้สึกแย่กับมันสุดๆ แต่สุดท้ายแล้ว มันก็ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตตลอดไป เรายังอยู่ได้ด้วยตัวแปรอื่นๆ อีก”
10 ล้านโหวต! แฟนคลับชาวจีน
ถือว่าตอนนี้พิชกลายเป็นศิลปินไทยอันดับหนึ่งขวัญใจชาวจีนอย่างแท้จริง เมื่อเขาได้รับคะแนนโหวตจากหมู่แฟนคลับชาวจีนถึง 10,570,777 โหวต เป็นอันดับที่ 85 ของศิลปินดาราที่คนจีนชื่นชอบ บนเว็บ Baidu และเป็นศิลปินไทยที่คะแนนสูงที่สุด แซงหน้าหนุ่มเกาหลี Rain ไปแล้วอีกด้วย
“เราตะลึงเลยนะ ตะลึงมาตั้งแต่ที่คนจีนมาชอบหนังเรื่องรักแห่งสยามแล้ว เพราะหนังเรื่องนี้มันจะมีประเด็นที่เกี่ยวกับเกย์อะไรอย่างนี้ เราไม่คิดว่าคนจีนจะสนใจและรู้สึกชอบมันขนาดนี้ เพราะว่าแม้แต่ตัวหนังเองก็ไม่ได้ไปฉายที่นั่น เราเองก็แปลกใจเหมือนกัน แต่พอกระแสหนังค่อยๆซาลงไป มันมีกระแสของวงออกัสค่อยๆดังขึ้นมา เขาก็ตามมาสนับสนุน เราก็เห็นว่ามันเป็นทั้งเรื่องน่าแปลกใจและดีใจ และที่น่าดีใจกว่านั้นก็คือ แฟนคลับชาวจีนมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเขาให้การสนับสนุนเราตลอด เขาไม่ใช่แค่ชื่นชอบแล้วอยู่เฉยๆหรือหายไป แม้แต่เราไปเล่นคอนเสิร์ตที่ต่างประเทศ แฟนๆก็พยายามไปติดต่อกับสื่อต่างๆ เอาเราไปแนะนำให้กับคนอื่นๆได้รู้จักกับเราอีก จึงทำให้แฟนๆของวงออกัสมีมากขึ้นเรื่อยๆ
ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปร่วมคอนเสิร์ตเคานต์ดาวน์ปีใหม่ที่ประเทศจีน รู้สึกเป็นเกียรติมาก ในวันนี้เมื่อคนจีนพูดถึงศิลปินไทย วงดนตรีไทย วงออกัสคือชื่อหนึ่งในนั้น ก็ถือว่าเราประสบความสำเร็จมาจุดหนึ่งแล้ว รู้สึกดีใจและไม่รู้จะขอบคุณอย่างไร
เพลงที่เรียกกระแสแฟนคลับได้มากที่สุด คงจะเป็น “เพลงเพียงเธอ” และ “เพลงกันและกัน” ตั้งแต่หนังรักแห่งสยามตอนนั้น เพราะเพลงนี้เป็นเพลงที่เอาไปร้องที่เมืองจีนแล้วคนจีนร้องได้ ล่าสุดไปร้องที่ไต้หวัน เขาก็ร้องได้ เขาร้องเป็นภาษาไทยกับเรา รู้เลยว่าเขารักเพลงนี้มากๆ บางคนก็เขียนเพลงเป็นภาษาจีนกลับมาให้เราและร้องให้เราฟัง แต่ที่เป็นผลงานของเราเอง ก็จะเป็น “เพลงดวงตะวัน” เพลงนี้แฟนคลับก็ชอบมาก
“เพลงรักไม่ใช่ทุกอย่าง” มีแต่งเป็นทั้งภาษาไทยและภาษาจีนด้วย เนื้อร้องจีนนั้นแฟนคลับชาวจีนเขาแต่งมาให้เราเป็นกิจกรรมร่วมกันกับโครงการประกวดแต่งเพลงรัก กับวงออกัส (Sweet Words Project) เพื่อให้แฟนคลับได้มีส่วนร่วมกับอัลบั้มชุดนี้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งแฟนคลับชาวไทยและชาวต่างชาติ แฟนคลับต่างชาติหลักๆเลยจะเป็นประเทศจีน และไต้หวัน นอกนั้นก็เป็นฮ่องกง แต่ล้วนแล้วใช้ภาษาจีน เราก็เลยนำเพลงรักไม่ใช่ทุกอย่างนี้ให้แฟนคลับชาวจีนแต่งเป็นภาษาจีนกลางมาประกวด
มีอีกอันหนึ่งแต่งเป็นเมโลดีเปล่า เอาเมโลดีนี้ให้แฟนคลับไทยแต่งเนื้อมา ก็อยากเห็นเหมือนกันว่า แฟนๆอยากให้วงออกัสร้องเพลงแบบไหน โดยที่เราวัดผลด้วยการโหวต เพลงที่ชนะการประกวด ชื่อว่า “เพลงเจ้าหญิง” เป็นเพลงที่พูดถึงผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตเราแล้วทำให้เรามีความสุข ทำให้เรามีชีวิตที่ดี ทำให้เราเจอแต่สิ่งที่สวยงาม เปรียบเขาเป็นดั่งเจ้าหญิง แต่ก็มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งแต่งเข้ามาน่ารักมากๆ เป็นเรื่องของคนที่โทรมาหาเราทุกวัน โทรมาตอนอาบน้ำ หุงข้าว ซักผ้า ซึ่งมีคำเหล่านี้อยู่ในเนื้อร้องจริงๆ เพลงที่ชนะเลิศการประกวดจะนำมาใส่ในอัลบั้มของวงออกัสเลย ซึ่งจะมีเพลงรักไม่ใช่ทุกอย่างทั้งภาษาไทยและภาษาจีน และเพลงเจ้าหญิง ซึ่งอัลบั้มชุดนี้จะออกกลางเดือนพฤษภาคมนี้”
หนุ่มมากความสามารถ
ณ วันนี้ ความสามารถของพิชไม่ว่าจะเป็นทั้งนักแสดง นักร้อง นักแต่งเพลง ซึ่งทั้งหมดอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นสำหรับคนหนุ่มไฟแรงอย่างเขา ที่ยังก้าวเดินต่อไปในวงการบันเทิงอีกนาน รับรองได้ว่าความสามารถของเขาคงไม่หมดเพียงเท่านี้
“ตอนนี้มีหลายอย่างที่อยากทำ หลายอย่างที่น่าสนใจ และก็ถ้ามีโอกาสเราก็อยากจะลองทำดูทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเบื้องหน้า เบื้องหลัง หรืออะไรก็ตาม เรารู้สึกว่าการเข้ามาตรงจุดนี้ไม่ใช่การเข้ามาในวงการบันเทิง แต่เราเรียกว่าอุตสาหกรรมบันเทิงของเมืองไทย และรู้สึกว่าเราก็คือฟันเฟืองตัวหนึ่งของการทำงานในจุดๆนี้ เราก็เป็นคนคนหนึ่งที่อยากจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือเกิดการพัฒนาอะไรหลายๆอย่าง จึงไม่ได้มองแค่จุดของเราที่เราเล่นหนัง เล่นละคร ทำเพลง ทำจบและก็มีอัลบั้มใหม่ แต่เราอยากทำให้มันดีขึ้น เป็นที่พูดถึงมากขึ้นและสามารถที่จะไปถึงจุดที่เท่าเทียมกับที่อื่น
การที่ได้รับบทมิวในเรื่องรักแห่งสยาม ถือว่าประสบความสำเร็จ คือทำให้คนดูกลับไปคิดต่อว่าเขาเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งมันได้ทำหน้าที่ของมันแล้ว ตอนนี้เราก็ได้กำลังก้าวสู่บทบาทใหม่ หน้าที่ใหม่ ทั้งบทบาทการแสดงและก็บทบาทการทำงานในวงการนี้ด้วย”
พิชชอบบทบาทไหนในวงการ? “จริงๆแล้วงานการแสดงกับงานเพลง สำหรับพิชคิดว่ามันคนละหน่วยวัดกัน คิดว่าชอบมันทั้งคู่นะ อย่างการร้องเพลงก็เหมือนกับการแสดงอย่างหนึ่งแต่เป็นการแสดงที่เราเล่าเรื่องของเรา เราใช้ความเป็นตัวเราถ่ายทอดมันออกมา แต่การแสดงมันเป็นการถ่ายทอดบทบาทนั้นออกมา มันก็สนุกทั้งสองอย่าง ไม่ว่าตอนนี้จะเป็นพิช ออกัสแบรนด์หรือเป็นนักแสดง สิ่งที่เราตอบได้ก็คือต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ไม่ว่าวันข้างหน้าเราอาจจะไปเป็นคนทำเบื้องหลังหรือไปเป็นอะไรก็แล้วแต่ แต่สิ่งสำคัญที่สุดไม่ได้อยู่ที่ว่าเราชอบอะไรมากกว่ากัน แต่อยู่ที่ว่าเมื่อเราสวมบทบาทนั้นแล้วเราจะทำได้ดีแค่ไหน
การเรียนตอนนี้ก็เรียนจบแล้วทางด้านภาพยนตร์ วารสารศาสตร์ จริงๆแล้วเราอยากเรียนทางด้านสื่อมวลชน และศิลปะมากกว่า แต่คิดว่าถ้าเลือกเรียนที่เกี่ยวกับศิลปะจะกลัวตัวเองติสต์แตก เพราะไปแล้วคงกู่ไม่กลับ ก็เลยคิดว่าเรียนอะไรที่มีหลักการมีทฤษฎีให้ยึดเกาะด้วยจะดีกว่า จึงตัดสินใจเลือกเรียนที่เกี่ยวกับนิเทศศาสตร์ เพราะว่าเป็นศาสตร์ที่ได้ใช้ทั้งศิลปะและตรรกะต่างๆ ด้วย และเหตุที่เราเลือกเจาะจงเรียนภาพยนตร์ เนื่องจากเพราะช่วงนั้นได้ถ่ายหนังเรื่องแรก คิดว่าเรามาตรงนี้แล้วเราทำตรงนี้ได้ และเราน่าจะอยู่กับมันได้ คิดว่าเรียน 4 ปีแล้วคงไม่เบื่อ จนต้องเปลี่ยนไปเรียนอย่างอื่นหรือว่าต้องทนเรียนจนกว่าจะจบ พอมาเรียนภาพยนตร์แล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้อาจจะมีอะไรที่เราชอบมากกว่า แต่เราเข้ามาเรียนด้านนี้ก็ไม่ได้ผิดหวังอะไร เราอยู่กับมันได้จนมาถึง 4 ปี
สิ่งที่ชอบพิเศษคือการเขียนบทหนัง พวกโปรดักชันดีไซน์ จะถนัดตรงนี้มากกว่า แต่ที่จริงแล้วในวงการภาพยนตร์ยังมีหน่วยย่อยอีกหลายหน่วยซึ่งเป็นอาชีพที่น่าสนใจ และตัวเราเองก็สนใจเหมือนกัน”
โลกส่วนตัวของพิช
พิชมีความเป็นตัวเองสูง จึงหล่อหลอมเป็นบุคลิกของเขา บางครั้งเหมือนเป็นคนดูเข้าไม่ถึง แต่จริงๆแล้วก็เข้ากับคนอื่นได้ไม่ยาก และเขาก็มีความสุขง่ายๆที่หลายคนมองข้าม ในมุมส่วนตัวของพิช
“เราค้นพบว่ามันมีความสุขเวลาว่างๆแล้วเราอยู่ที่บ้านได้ซักผ้า ชอบซักผ้ามาก หรือได้เคลียร์เรื่องของตัวเอง เพราะเวลาเราออกไปทำงาน เราก็ทำหน้าที่ตรงนั้นอยู่ แต่เวลาเรากลับมาบ้าน เราไม่ได้ทำหน้าที่อะไรที่เราต้องรับผิดชอบของตัวเองเลย หรือบางทีก็นั่งคิดทำอะไรใหม่ๆ อย่างเช่นคิดพล็อตหนัง เขียนบทหนัง เขียนเพลงเก็บไว้ แต่ก่อนเราเขียนไว้จะจำได้ในหัว พอนานไปไม่ได้ใช้ ไม่ได้จดก็ลืม จึงต้องกลับมารวบรวมงานที่เคยคิดไว้ นอกจากนี้ก็มีอ่านหนังสือทั่วๆไป เช่นแมกกาซีนเป็นส่วนใหญ่ และเรื่องสั้นซีไรต์ จริงๆเป็นคนอ่านหนังสือหลายแบบ หลายประเภท หนังสือประวัติศาสตร์ก็มีหรือหนังสือนิยายแปลก็ชอบ แต่ว่าหลักๆชอบอ่านเรื่องสั้นมากกว่า
ส่วนตัวแล้วพิชเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงมาก จริงแล้วชอบอยู่กับตัวเองมากกว่า ชอบเพ้อฝัน มีจินตนาการ จึงเอาความเป็นตัวเองส่วนนี้มาแต่งเพลงเป็นเรื่องเป็นราวได้
บทเพลงเป็นมุมมองความรักอย่างหนึ่ง อย่างเพลง รักไม่ใช่ทุกอย่าง เราจะมีมุมมองความรักเปลี่ยนไปตามช่วงวัย เราเจออะไรเรื่อยๆในทุกๆวันมากขึ้น อย่างทุกวันนี้เรารู้สึกว่าความรัก คือการที่เราทำให้เขามีความสุขได้ ความรักจึงเป็นเหมือนความรู้สึกๆ หนึ่งที่มันมีทั้งดีและไม่ดี อยู่ที่ว่ามันไปอยู่ในสถานการณ์แบบไหน บางคนทำอะไรบางอย่างเพื่อคนรักแล้วบอกว่าที่ทำไปเพราะรัก แต่บางครั้งมันไม่ใช่ คนที่ทำให้อาจมีความสุขที่ได้ทำไป แต่คนที่รับอาจไม่ได้มีความสุขเหมือนกันกับเรา ดังนั้นพิชมองว่าความรักก็คือการได้เห็นคนที่เรารู้สึกดีด้วยมีความสุข
ความรักมันไม่ได้เกิดขึ้นระหว่างบุคคลอย่างเดียว ความรักอาจมีในอะไรสักอย่างหนึ่งที่เรามีให้กับสิ่งต่างๆ รอบตัวเรา อย่างความรักในดนตรี ความรักในหนังสือ เรามีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำ สำหรับความรักระหว่างคนสองคน ถ้ามันบาลานซ์กัน นั่นก็คือความรักที่ดี”
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ : พิช - วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล
วัน/ เดือน/ ปีเกิด : 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2532 (จ.เชียงใหม่)
การศึกษา : มัธยมศึกษา - โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ ปริญญาตรี - ปัจจุบันกำลังศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาภาพยนตร์และภาพถ่าย คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผลงานเด่น : งานภาพยนตร์ - รักแห่งสยาม, 13 เกมสยอง, ฝัน หวาน อาย จูบ, เพื่อนไม่เก่า (ฉายปลายเดือนพ.ค.นี้) ละครโทรทัศน์ - “เตวิช” สายสืบดิลิเวอรี่ (2552) งานโฆษณา - บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “มาม่า” งานเพลง - รู้สึกบ้างไหม, ดวงตะวัน, เพียงเธอ, กันและกัน ซิงเกิลล่าสุด เพลงรักไม่ใช่ทุกอย่าง
ข่าวโดย M-Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
