ทุกวันนี้วงการฟุตบอลในบ้านเราถือได้ว่าคึกคักเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศการแข่งขันหรือการเชียร์ล้วนแต่กลายเป็นที่สนใจของคอบอลในประเทศมากกว่าที่แล้วๆ มา
อาจจะกล่าวได้ว่าความพยายามที่จะทำให้ฟุตบอลไทยกลายเป็นฟุตบอลอาชีพเต็มรูปแบบได้เดินทางมาเป็นความจริงแล้ว
ย้อนไปเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ก็มีคนอยู่คนหนึ่ง ที่มีความฝันที่จะเป็นฟุตบอลอาชีพในไทย แน่นอนเขาไม่ได้ฝันเพียงอย่างเดียว แต่เขายังลงทุนลงแรงปลุกปั้นสโมสรธำรงไทยขึ้นมาโลดแล่นในวงการ โดยสโมสรธำรงไทยนับเป็นทีมเอกชนทีมแรกๆ ที่ลงทุนทำสนามเป็นของตนเอง
คนบ้าบอลคนนั้น คือ สุเมธ แก้วทิพยเนตร ซึ่งมีดีกรีด้านการฝึกสอนฟุตบอลมาจากทั้งประเทศอังกฤษและเยอรมัน ซึ่งผลงานที่ผ่านมาของธำรงไทย ก็ไม่ใช่ย่อย เพราะเขาได้นำทีมยุวชนไปคว้าตำแหน่งแชมป์ถึงเมืองนอกเมืองนากว่า 20 ครั้ง
แต่เป็นเรื่องน่าแปลก ทุกวันนี้ที่อยู่ที่ยืนของสุเมธ กลับไม่ใช่พื้นที่ของวงการฟุตบอลอาชีพประเทศไทย แต่เขากลับกลายเป็นคนนอกไปอย่างสมบูรณ์
นั่นอาจจะเป็นเพราะความเป็นคนยอมหักไม่ยอมงอของเขาเอง ที่ผลักไสให้เข้าไม่สามารถยืนอยู่ในปริมณฑลของวงการฟุตบอลไทย
คุณชอบฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กเลยไหม
ผมเป็นลูกตำรวจที่ซื่อสัตย์ ไม่เคยตามน้ำ เลยทำให้ผมเรียนรู้มาจากพ่อ พวกลูกๆ ของพ่อต้องอดนมตั้งแต่ยังไม่ถึงหนึ่งขวบดีด้วยซ้ำ เพราะพ่อมีลูกหกคนเลยไม่สามารถซื้อนมเลี้ยงทุกคนได้ แต่ด้วยที่พ่อผมต้องไปรับราชการที่อื่น ผมก็ต้องอยู่กรุงเทพฯ กับตาและยาย นั่นทำให้ผมกับพี่ชายเริ่มสนใจฟุตบอล เริ่มตั้งแต่เตะกระป๋อง เตะลูกเทนนิสกัน จนสุดท้ายก็มีเงินซื้อลูกฟุตบอลมาเล่น
โรงเรียนที่ผมเรียน (สามเสนวิทยาลัย) ก็เป็นโรงเรียนที่สนับสนุนการเล่นฟุตบอล เราก็ได้เล่นฟุตบอลเพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ซึ่งถ้าผมไม่เลือกตรงนั้นผมก็อาจจะกลายเป็นนักเลงไปแล้ว เพราะลูกตำรวจนี่มันไม่กลัวใคร ผมรักเพื่อนนะ ไม่ค่อยหาเรื่องใครแต่ใครจะมารังแกเพื่อนเราไม่ได้
วงการฟุตบอลสมัยที่คุณยังเป็นเด็กๆ เป็นอย่างไรบ้าง
เป็นเพราะผมอาศัยอยู่ใกล้สนามกีฬา ทำให้ผมได้เห็นการแข่งขันมาตั้งแต่เด็ก ก็ฝังใจนะ ก็เลยตั้งใจแล้วว่าจะเล่นฟุตบอล ก็เล่นจนติดทีมชาติไปแข่งที่เวียดนาม ปีสองพันห้าร้อยสิบ ผมเล่นทีมชาติมาตั้งแต่รุ่นเยาวชน รุ่นยี่สิบเอ็ด ปีและชุดใหญ่ แต่ผมไม่ได้ไปแข่งรายการใหญ่ๆ อย่างเอเชี่ยนเกมส์ เพราะผมคิดว่ามันไม่ใช่ทาง จริงๆ แล้วผมอยากเป็นครู ผมอยากสอนเด็กๆ ผมมองไปอีกสามสิบปีข้างหน้า ผมว่าถ้าเด็กๆ เริ่มตั้งแต่วันนี้อนาคตวงการจะดี
สมัยนั้นผมก็เห็นแต่บอลในบ้านเรา ส่วนบอลประเทศอื่นก็ได้ดู เอฟเอคัพ รอบชิงฯ บ้าง เพราะมันมีการถ่ายทอดทางช่องสี่บางขุนพรหม (ช่อง 9 อสมท ในปัจจุบัน)
ความที่อยากเป็นครูทำให้มาเรียนที่วิทยาลัยพลศึกษา
ใช่ ตอนนั้นผมโชคดีที่มีครูและมีเพื่อนที่ดีซึ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผม นอกจากฟุตบอลแล้วผมก็เล่นกรีฑาด้วย สมัยนั้นผมวิ่งหนึ่งร้อย เมตร ได้สิบจุดแปดวินาที ผมเลยกลายเป็นนักฟุตบอลที่วิ่งได้เร็วมาก
แต่พอเรียนไปสักสองปี ผมคิดว่ามันยังไม่ถึงเป้าที่เราตั้งไว้ ช่วงนั้นอังกฤษเขาได้แชมป์ฟุตบอลโลก ผมเลยคิดว่าน่าจะไปเรียนรู้กับเขาโดยตรง ปีสองพันห้าร้อยสิบสอง ผมก็ตัดสินใจไปเลย ไปเพื่อเรียนวิชาโค้ช
วิธีการไป...คือการปั่นจักรยานไป
ผมผจญภัยด้วยการขี่จักรยานข้ามทวีปอยู่ครึ่งปี พอถึงที่นั่น ผมก็ไปฝึกกับเชลซี ที่นั่นคนเขาชอบฟุตบอลกันจริงๆ พอมาเทียบกันผมเห็นหลายอย่างเลยที่บ้านเราไม่มี แต่เขามี แต่จะว่าไปสมัยนั้นนักฟุตบอลของเขาก็ยังมีรายได้ไม่มากเท่าไหร่นะค่าตัวที่แพงที่สุดก็แค่หนึ่งแสนปอนด์เอง พวกอิตาลีสมัยก่อนได้ค่าตัวเยอะกว่าอีก
ผมศึกษากับเชลซีจนจบ ก็ไปอบรมการเป็นโค้ชต่อในวิทยาลัยในประเทศอังกฤษที่เปิดสอนวิชานี้ ต่อมาไปศึกษาต่อที่เยอรมนี เพราะต้องการศึกษาฟุตบอลหลากหลายสไตล์ หลังจากเรียนที่เยอรมนีจนเสร็จ ผมก็กลับมาที่อังกฤษอีกรอบเพื่อเรียนด้านบริหารธุรกิจ ภาษาศาสตร์ และวิศวกรรมเครื่องยนต์ ซึ่งผมอยู่ที่อังกฤษต่ออีกสิบปี แต่เมื่อเกิดสงครามเวียดนามขึ้น ผมก็นึกถึงเมืองไทยขึ้นมา กลัวว่าไทยจะเป็นแบบนั้น นึกถึงเยาวชนไทย สุดท้ายผมก็กลับมา แต่ไม่ได้กลับมาเพื่อจะไปรบนะ แต่กลับมาเพื่อเป็นครู
คุณได้กลับมาสอนฟุตบอลอย่างที่หวังไว้
ตอนแรกมีแต่คนบอกว่าผมบ้าที่กลับมา เพราะตอนนั้น ผมเป็นประชากรอังกฤษมีบ้าน มีประกันสังคมอยู่ที่นั่นแล้ว แต่ผมก็จะกลับ ซึ่งขากลับนี่ผมก็ขับรถกลับมานะ เป็นการผจญภัยอีกครั้งหนึ่ง เมื่อถึงไทยก็เริ่มต้นกับการฝึกสอนทีมชาติไทย
แต่ตอนนั้นทีมชาติบ้านเรายังไม่มีงบฯ เท่าไหร่ เห็นสภาพตอนนั้นผมคิดว่าน่าจะไม่ไหวแล้ว เพราะผู้เล่นก็อายุมากกันหมด ผมเลยบอกว่า ถ้าจะให้ผมทำทีม เร็วที่สุดต้องใช้เวลาถึงสามปี ผมทำทีมเยาวชนเพื่อเตรียมตัวเป็นทีมชาติอยู่สี่ชุดด้วยกัน ตอนนั้นแม้แต่เสื้อผ้าที่จะใส่นี่ยังไม่มีเลย ประกอบกับหลายๆ อย่างเขายังไม่พร้อม ผมก็เลยเลิก
คนไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพยายามทำ
ก็ส่วนหนึ่ง อย่างตอนที่ผมซ้อมทีมเยาวชนโครงการทีมชาติที่สนามศุภชลาศัย โดยการให้ฝึกวิ่ง ก็มีคนตะโกนแซวขึ้นมาว่า จะฝึกเด็กให้เป็นนักวิ่งหรือไง ซึ่งตรงนี้แสดงให้เห็นเลยว่าเขาไม่เข้าใจว่าการเล่นฟุตบอลควรมีพื้นฐานอย่างไรบ้าง
ทุกวันนี้ผมดูฟุตบอลทีมชาติไทยเล่นได้ไม่ถึงห้านาที เพราะทีมขาดทักษะและวิธีการเล่นที่น่าดู เหมือนกับมวยไทยสมัยนี้ที่ชั้นเชิงลดไปมาก คือเราเล่นเหมือนกับนักฟุตบอลที่เป็นชาวอังกฤษที่ไม่ค่อยมีเชิง ไม่ใช่แบบนักฟุตบอลชาวอเมริกาใต้ที่มีเทคนิคส่วนตัวดี
การผิดหวังจากโครงการทีมชาติ ทำให้เกิดทีมธำรงไทยขึ้น
ผมคิดว่าผมมาทำเองดีกว่า ตอนแรกผมกัดฟันสู้ดิ้นไปวันๆ เพราะค่าใช้จ่ายมันมาก สนามก็ต้องสร้างเอง ตึกที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ก็ทยอยสร้างขึ้นมา ผมหวังไว้ว่าสิ่งที่ผมทำจะส่งผลให้เด็กที่เล่นฟุตบอลมีความหวังขึ้นมา สามารถเล่นบอลเป็นอาชีพได้ แต่เท่าที่ผ่านมาการแข่งขันในไทยนั้น ผมเจอมรสุมต่างๆ มาเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินไม่ยุติธรรม หรือเรื่องของการหารายได้มาประคับประคองทีม
แต่ผลงานของทีมเยาวชนของธำรงไทยในต่างประเทศก็ถือว่าดีมาก
ผลงานของธำรงไทยที่ผ่านมาในต่างประเทศ เราได้แชมป์ยุวชนโลกคลาสเอ 22 ครั้ง คลาสบี 2 ครั้ง ส่วนที่สามนั้นผมไม่ได้นับแล้ว คือเราส่งตั้งแต่รุ่นอายุแปดปีถึงสิบแปดปี คือมันไม่ใช่ยุวชนโลกอย่างเป็นทางการ แต่ก็เป็นการแข่งขันที่ทุกคนยอมรับและฟีฟ่าก็รับรอง
จุดเด่นของธำรงไทยก็คือ ทีมของเราใจสู้และมีกำลังแบบอังกฤษ มีวินัยแบบเยอรมัน และมีเทคนิคแบบบราซิล ซึ่งเท่าที่เล่นมาธำรงไทยไม่เคยแพ้บราซิลเลย
แล้วเด็กพวกนี้โตขึ้นแล้วหายไปไหนหมด
เราก็หวังจะให้ธำรงไทยรุ่นโตมาเล่นอาชีพ ความล้มเหลวมาเกิดตรงไทยแลนด์ลีกครั้งแรก ซึ่งมีข้อตกลงว่าไม่มีการตกชั้น เราก็เอาเด็กซึ่งยังเด็กจริงๆ ไปเล่น แล้วเจอวงจรอุบาทว์ในการทำร้ายร่างกายกัน ตอนนั้นแฟนของทีมตำรวจสามสิบสองคน ไล่ตีทีมธำรงไทยบาดเจ็บไปแปดคน คือตอนนั้นเราเอานักเตะชาวพม่ามาเสริมทีม ทีนี้พอมันอื้อฉาวมาก สปอนเซอร์ก็ถอนตัวกันหมด และจุดนั้นเราไม่ได้แก้ตัวอีกเลย
ผมก็เป็นหนี้เป็นสินกระเสือกกระสนเพื่อจะขึ้นมาใหม่ แต่พอมาพบกับระบบการตัดสินและการฮั้วต่างๆ ก็ไม่มีกำลังใจ เมื่อมีการแข่งขันดิวิชันสองเกิดขึ้น ผมก็พยายามเอาธำรงไทยเข้าไปเล่น แต่เขาบอกไม่ได้ เพราะผู้จัดบอกว่าเล่นได้แค่จังหวัดละทีม ซึ่งมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น ผมเห็นหลายๆ จังหวัดก็มีทีมมากกว่าหนึ่งทีม เรื่องเหล่านี้ผมฟ้องศาลปกครองนะว่า มีการทุจริตในนโยบาย เพราะมีการนำเงินของรัฐมาเพื่อสนับสนุนการเล่นฟุตบอลเป็นอาชีพ แต่นี่มันไม่ใช่ แต่ทุกวันนี้มันเป็นการสนับสนุนขอทานให้เป็นอาชีพมากกว่า เพราะเป็นการแบมือขอเงินแล้วได้มาเล่น ส่วนผมนั้นลงทุนสร้างสนาม หาเงินมาบริหารงานเอง ในขณะที่พวกคุณเอาเงินไปแจกพรรคพวกแล้วอ้างว่าเป็นอาชีพ
ทุกวันนี้ฟุตบอลบ้านเราล้มเหลว เพราะเป็นการแบมือขอเงินจากรัฐ ถ้าวันหนึ่งรัฐไม่ให้ก็จะเลิกแน่นอน
ในสายตาคุณ บอลอาชีพไทยทุกวันนี้เป็นอย่างไร
ทุกวันนี้ต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่ประโคมข่าววงการฟุตบอลให้มีความตื่นตัว แต่ก็มีหลายอย่างที่ผมยังเห็นว่ามันไม่แฟร์ เช่น การเปลี่ยนทีมโรงงานยาสูบเปลี่ยนเป็นทีมพิจิตร การไฟฟ้าเปลี่ยนไปเป็นทีมบุรีรัมย์ หรือกรุงไทยเปลี่ยนเป็นบางกอกกลาส
จะเห็นได้ว่าทีมไม่ถูกสร้างขึ้นตามขั้นตอนไม่มีการสร้างคน มันมีการซื้อด้วยเงินและสุดท้ายก็มีหลายๆ ตัวอย่างที่เอาทีมไปเป็นฐานเสียงด้านการเมือง ถ้าคุณรักกีฬาเราไม่ว่า แต่อย่าเอามาใช้หาผลประโยชน์อื่น เรื่องนี้ผมสอบถามไปทาง กกต. (คณะกรรมการการเลือกตั้ง) แล้ว ว่านักการเมืองมีสิทธิ์มาเป็นประธานสโมสรหรือผู้จัดการทีมได้หรือไม่ ผมได้คำตอบมาแล้วว่า ห้ามเอาไปใช้หาเสียง ห้ามซื้อตั๋วไปแจกเพื่อหาเสียง
ข้อต่อมาผมเห็นว่าควรจะมีกฎหมายที่ออกมาจัดการกับวงการบอลอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคนตีกัน เรื่องของการตัดสิน และเรื่องของมาเฟียในวงการฟุตบอลไทย
แล้วทีมชาติไทยในสายตาคุณล่ะ
ผมไม่โทษคุณวรวีร์ มะกูดี หรอกที่ไทยไม่ได้ไปบอลโลก เพราะชาตินี้ไทยไม่ได้ไปบอลโลกอยู่แล้ว โอลิมปิกผมก็ยังไม่พูดถึง เพราะมันห่างไกลเกินไปสำหรับคนไทย แต่ผมขอติงเรื่องซีเกมส์ เรื่องซูซูกิคัพ ไอ้สองรายการที่ตกรอบทั้งๆ ที่ไม่น่าเป็นเช่นนั้น ทีนี้เมื่อผลมันออกมา คุณก็ต้องมีสปิริต คุณต้องพัก
เอาเข้าจริงความล้มเหลวของทีมชาติไทย เริ่มมาจากการปลอมแปลงเอกสารไปขอหนังสือเดินทาง ทำแบบนี้มาเป็นเวลากว่าสี่สิบปีแล้ว เราไม่ได้มุ่งไปที่การพัฒนาเด็ก ผิดทั้งกฎหมายบ้านเมือง และกฎฟีฟา การล้มบอลในการแข่งขันระดับโลกก็มี ถ้าเรื่องเหล่านี้ไปถึงฟีฟาเมื่อไหร่ก็จบกัน
ผมรักเมืองไทยนะ แล้วก็ทำเพื่อประเทศไทยตลอดมา ถ้าใครทำให้ประเทศไทยเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นการล้มบอลที่ผมขอสาปแช่ง แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีหลายคนได้ดิบได้ดี การเอาเซียนพนันมาคุมเยาวชน ถ้าใครอยากมีชื่อติดในทีมก็ต้องเอาเงินมายัด หรือกรณีมาเฟียในวงการบอลอื่นๆ อีกมาก ซึ่งถ้าผมพูดไม่จริงมาฟ้องสุเมธได้เลย แล้วเจอกันที่ศาล
>>>>>>>>>>
……….
เรื่อง : เอกชาติ ใจเพชร
ภาพ : พลภัทร วรรณดี