บ้านสามชั้น สีขาวโพลน ตกแต่งเรียบง่ายด้วยเฟอร์นิเจอร์มือสองที่หาซื้อได้ตามสวนจตุจักรหรือบริเวณตลาดขายของมือสอง หรือสถานที่ใดก็ตามที่เจ้าของบ้านไปพบเจอแล้วบังเอิญชอบขึ้นมา มันจะถูกขนขึ้นมาบนรถ บางชิ้นถูกการนำมาตกแต่งทาสีใหม่ด้วยฝีมือของเจ้าของบ้านผู้รักงานศิลปะ อย่าง โอ๋- หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ หลายคนรู้จักเธอในนาม โอ๋-ฟูตอง มือเบสของวงฟูตองซึ่งตอนนี้เปลี่ยนชื่อวงเป็น Goo
บอกไปก็คงไม่มีใครเชื่อว่าย่านใจกลางเมืองบนถนนประดิพัทธ์ ที่เต็มไปด้วยรถราตลอดเวลาจะมีบรรยากาศของเสียงนกเสียงกา ลมพัดเย็น ในยามเช้า คงเพราะบรรยากาศเช่นนี้ที่ M- Lite กำลังได้สัมผัสอยู่ทำให้ โอ๋ ชื่นชอบ และตัดสินใจให้ตรงนี้เป็นบ้านของเธอ
“เรามาเจอบ้านหลังนี้ เพราะเพื่อนคนญี่ปุ่นที่อยู่ในวงฟูตองเป็นคนมาเจอก่อน เราก็งง ว่าเฮ้ย ! มีตรงนี้ด้วยหรอ แทบจะไม่มีใครรู้เลยว่ามีบ้านแบบนี้อยู่ตรงนี้ด้วย” นั่นคือเหตุเหตุผลที่ทำให้เธอชอบบ้านหลังนี้
ทว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่เธอขอแม่ออกมาอยู่คนเดียว นอกจากจะให้เหตุผลว่าใกล้ที่ทำงานแล้ว ที่ตัดสินใจออกมาเพราะว่าบ้านเดิมที่อยู่ไกลจากที่ทำงาน แต่เธอก็ยังไม่เคยลืมวีรกรรมเด็ดในบ้านที่ทำให้ไฟเกือบไหม้บ้านและเกือบเปลือยตายในบ้าน
“เคยทำบ้านเกือบไหม้ เป็นเด็กชอบเล่นไม้ขีดไฟ แล้วมันไปติดผ้าม่าน เ มีคนอยู่บ้านแต่เราไปแอบอยู่ ราก็ไม่มีใครจับได้ แล้ววีรกรรมเราเยอะนะ ก็มีครั้งหนึ่งย้ายบ้านไปใหม่ๆ แล้วในห้องน้ำ ท่อต่อเครื่องทำน้ำอุ่นแล้วมันยังไม่ได้ต่อคล้ายสายดินอ่ะ แล้วเราเอาของไปแขวน ก็โดนไฟดูด ตัวกะเด้งหงายตึง เราเปลือยเกือบตาย โง่ได้อีก (หัวเราะ)”
“ตอนนี้ย้ายมาอยู่ตรงนี้ก็จะมีเพื่อนๆ มาปาร์ตี้กัน ทำบาร์บีคิว โอ๋ชอบตรงนี้มากเลยนะ จะมีเสียงนกตลอดเวลา มันอยู่ใจกลางเมืองแต่ว่าเงียบมาก ไม่พลุกพล่าน เราเองก็ทำงานเป็นสไตลิสต์อยู่ที่ตึกทิปโก้ ใกล้ๆบ้าน จะเป็นคนชอบปั่นจักรยานไปทำงาน เดินไปบ้าง เพราะเราเป็นคนขี้เกียจขับรถ มันได้ความรู้สึกว่าได้ช่วยโลกนิดหนึ่ง”
นอกจากโอ๋จะมีผลงานเพลง และงานศิลปะให้ได้ฟังได้ชมกันอยู่เรื่อยๆ แต่สิ่งที่เธอชอบมากที่สุดคือการได้ออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศ
“ว่างไม่ได้ 1 อาทิตย์โอ๋จะเก็บกระเป๋าออกไปเที่ยวเลย ” สิ้นเสียงนี้ M-lite หันไปรอบๆ บ้านที่เต็มไปด้วยหนังสือ ท่องเที่ยววางไว้อยู่ทุกมุมบ้าน
“ถ้าถามว่าสะสมอะไร ก็ต้องบอกว่าเป็นหนังสือค่ะ เพราะเป็นสิ่งเดียวที่ซื้อแล้วไม่รู้สึกเสียดายเลยสักนิด ไม่รู้สึกผิดด้วย เพราะเวลาชอปปิ้งจะรู้สึกว่า เฮ้ย! ซื้ออีกแล้วหรอ แต่หนังสือนี่ต้องซื้อ จะชอบพวกหนังสือที่มีภาพเยอะมากกว่า จะเต็มตู้ ว่างอยู่บนโต๊ะบ้าง แล้วก็จะมีห้องหนังสือ แต่รกมาก”
เธอเล่าถึงประเทศที่ชอบตอนไปเที่ยวคือ อินเดียกับอัมสเตอร์ดัม อินเดียเป็นประเทศที่ค่อนข้างยากที่ไปแล้วจะรู้สึกสนุก เพราะอินเดียเป็นประเทศมีความสุดโต่งในหลายด้านทั้งวัฒนธรรม บ้านเมือง ผู้คน เลยรู้สึกว่าต้องใช้เวลานานถึงจะได้อะไรมา มันมีความหลากหลาย
อัมสเตอร์ดัม จะเป็นเมืองที่โอ๋จะเลือกอยู่ ถ้าโอ๋จะจากเมืองไทย ที่นี่จะเป็นตัวเลือกแรก เพราะชอบมาก เป็นเมืองที่มีคนใช้ชีวิตสบายๆ ชิลๆ เหมือนคน กรุงเทพ เป็นที่อยู่แล้วมีความสุข เป็นเมืองศิลปะ บ้านเมืองสวยมีรถไม่เยอะ เพราะเราชอบผู้คนไม่เยอะมาก
ไม่รู้ว่าเพราะการเป็นศิลปินหรือเปล่าที่ทำให้การตกแต่งบ้านของโอ๋ไม่มีสไตล์ที่แน่นอน โอ๋บอกว่าเธอชอบการแต่งบ้านแบบเรียบง่ายอยู่แล้วรู้สึกโปร่ง ไม่ต้องคิดว่าฉันจะซื้อนั่นนี่มาใส่บ้าน จนกลายเป็นว่าไม่ชอบอะไรที่ดูโมเดิร์นมากนัก
“โอ๋รู้สึกว่าการอยู่บ้านที่มีสไตล์โมเดิร์นมันทำให้โอ๋อึดอัด ไอเดียแต่งบ้านก็ไม่มีขอแค่ให้ลมโกรก เย็นสบาย แล้วเช้าๆ มามีแดดอ่อน เพราะโอ๋เป็นคนชอบแดดนะ ชอบมาก จะลงไปนั่งอ่านหนังสือตอนเช้าๆ ข้างล่างแล้วมีเก้าอี้คล้ายๆ เก้าอี้ตกปลาของแม่แล้วมีกาแฟสักถ้วย หนังสือสักเล่ม นั่งอ่านได้ทั้งวันเลย สบายมากๆ มุมโปรดของโอ๋เลยล่ะ ”
“เฟอร์นิเจอร์ที่เห็นเราเองก็เป็นคนไปซื้อเอง เลือกเอง เอามาเพนต์ใหม่ ทำสีใหม่ ตอนย้ายเข้ามาโอ๋อยากให้ข้างบนที่มีสองห้องแบ่งเป็นห้องนอนกับห้องวาดรูป แต่พอมาเห็นว่าข้างล่างดูโปร่งๆ เราเองก็เลยขนอุปกรณ์วาดรูปมานั่งวาดอยู่ข้างล่างซะเลย วันไหนโอ๋นอนไม่หลับก็มานั่งวาดรูป ”
นอกจากเธอจะรักงานศิลป์แล้ว การเลี้ยงต้นไม้ให้บ้านเต็มไปด้วยต้นไม้ ก็เป็นอีกหนึ่งงานอดิเรกที่เธอชอบทำ ระเบียงหลังบ้านโอ๋ล้วนเต็มไปด้วยต้นไม้
“โอ๋เป็นคนรักต้นไม้ อยากให้บ้านร่มรื่น แล้วมันจะทำให้รู้สึกเย็นนะเวลาอยู่บ้าน โอ๋ว่าบ้านก็คือถ้ำนะ เวลาเราไปเจอความวุ่นวายจากภายนอก เจอความเร่งรีบ กลับมาอยู่บ้านก็อยากให้มันเย็นๆ เป็นอีกหนึ่งอารมณ์ที่ทำให้รู้สึกว่ามีการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ สังเกตได้เลยนะว่าที่บ้านโอ๋จะไม่มีทีวี เวลาฟังเพลงก็จะเปิดแล็ปท็อป หรือว่าถ้ามีทีวีก็จะเอาไว้แค่ดูหนังอย่างเดียว”
****************************
ภาพโดย : ธัชกร กิจไชยภณ