ผ่านไปแล้วกับกระแสความดังของตุ๊กตาบลายธ์ที่เหล่านักสะสมผู้หญิงและผู้ชายก็ต้องหามาสะสม แต่วันนี้ที่จะพูดถึงนั้น ไม่ใช่ตุ๊กตาบลายธ์อีกต่อไป เราจะมาทำความรู้จักกับตุ๊กตารุ่นใหม่ที่ศิลปินชาวต่างชาติสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยผสมผสานไปกับศิลปะที่ซับซ้อน นั่นก็คือ ตุ๊กตา Reborn-baby (รีบอร์น เบบี้)
ความพิเศษของเล่นชนิดนี้คือ ถ้าใครเป็นคนรักเด็กคุณจะตะลึงกับความเหมือนของตุ๊กตาชนิดนี้ และยิ่งถ้าใครเป็นคนรักตุ๊กตาคุณจะได้สัมผัสกับตุ๊กตาที่ใครบางคนอาจคิดว่าเป็นมากกว่าตุ๊กตาเสียอีก ซึ่งรีบอร์นเบบี้เป็นตุ๊กตาที่มีความคล้ายคลึงกับเด็กทารกแรกเกิดวัย 1 เดือน ถึงประมาณ 3 ปี แถมยังมีกลิ่นเด็กที่เหมือนจริงด้วย
ในต่างประเทศ ผู้คนฮิตการสะสมหรือเล่นตุ๊กตารีบอร์นเบบี้มากพอๆ กับคนในบ้านเราฮิตซื้อตุ๊กตาบลายธ์มาสะสมกัน อย่างกับโอทอปบ้านเขา ตุ๊กตารีบอร์นเบบี้เป็นส่วนหนึ่งที่มีผลต่อจิตใจของคน เพราะเวลาจับตุ๊กตาทั่วไปนั้น คนส่วนใหญ่จะจับแขน จับขา แต่รีบอร์นเบบี้นี้คนจะอุ้มและจับเหมือนเด็กทารกคนหนึ่ง
ศิลปินและศิลปะ
ในปัจจุบันรีบอร์นเบบี้นี้ไม่สามารถทำเลียนแบบเหมือนตุ๊กตาของเล่นทั่วไปได้ เนื่องจากการปราณีตในการผลิตผลงานออกมาจากมือของศิลปินทุกราย และศิลปินที่ผลิตตุ๊กตาเหล่านี้ออกมา ส่วนใหญ่จะเป็นแม่บ้านที่เรียนรู้วิธีทำอย่างชำนาญ ซึ่งต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะทำออกมาเป็นผลงานที่เหมือนจริงได้
ศิลปินเหล่านี้มีจากหลายประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ออสเตรเลีย เป็นต้น ศิลปินบางคนอาจมีประสบการณ์ในการทำตุ๊กตานี้มามากกว่า 20 ปีเสียอีก แต่จะยกตัวอย่างศิลปินทั่วไปที่ทำผลงานศิลปะนี้ขึ้นมา เช่น จูดี้ เจ้าของผลงาน Judy's Cuties Reborn Baby Dolls ซึ่งเธอได้สร้างสรรค์ผลงานตุ๊กตารีบอร์นเบบี้ มาได้ประมาณ 19 ปีแล้ว เธอรักที่จะทำตุ๊กตาเหมือนจริงเหล่านี้ โดยมีโครงหน้าแบบเบอร์เรนเกอร์, แอสช์ตัน เดรคดอล, มิดเดิลตัน, ลินด์ สเชอร์เลอร์ และเอลลี่ นอปส์ และเธอได้นำแต่วัสดุที่มีคุณภาพดีมาใช้ เช่น ขนจากลูกแกะเพื่อมาทำผม แก้วบางๆ อย่างดีเพื่อมาทำลูกตา
จันธิมา พงษ์สวัสดิ์หรือโอปอล ผู้นำเข้าตุ๊กตารีบอร์นเบบี้ บอกเกี่ยวกับผลงานของเหล่าตุ๊กตารีบอร์นเบบี้ว่า มีหลายโครงหน้าซึ่งเหล่านี้จะเรียกเป็นรุ่น เช่น ลูก้า ฮันนี่ แอสช์ตัน ฯลฯ และนี่คือตัวอย่างโครงหน้าเด็กที่ศิลปินแต่ละคนเลือกที่จะนำไปสร้างเป็นผลงานในแบบของตัวเอง
“อย่างศิลปินชาวอเมริกันคนหนึ่งเธอชื่อ อีฟ มิวซัมเป็นศิลปินที่เก่งคนหนึ่ง เคยออกรายการทีวีของที่อเมริกาด้วย ถือว่าเป็นศิลปินที่ฝีมือดีมาก”
ตุ๊กตาบินตรงข้ามทวีป
โดยสังเขปแล้ว ที่มาของตุ๊กตารีบอร์นเบบี้นั้น ผลิตขึ้นครั้งแรกในปี 1990 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และมีวางจำหน่ายในเว็บไซต์อีเบย์ราวๆ ปี 2002 ระยะแรกที่มีตุ๊กตาประเภทนี้ออกมานั้น โด่งดังแค่เพียงในวงการนักสะสมตุ๊กตาเท่านั้น
อันที่จริงแล้ว ตุ๊กตาเหล่านี้ค่อยๆ พัฒนาขึ้นจากการที่เป็นตุ๊กตาฝึกอุ้มในโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อทำให้คุณแม่ทั้งหลายได้ฝึกการอุ้มลูกได้อย่างถูกต้องจนมาเป็นรีบอร์นเบบี้อย่างที่เราเห็นกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีข่าวลงในหนังสือพิมพ์ของไทยฮือฮากันมากเกี่ยวกับตุ๊กตารีบอร์นเบบี้ ว่าคนเด่นคนดังในประเทศไทยหอบหิ้วรีบอร์นเบบี้นี้ เพื่อนำมาฝึกอุ้มลูกอุ้มหลาน และบางคนอาจตอบสนองความต้องการของตนเอง ซึ่งที่ต่างประเทศคนแก่บางคนอาจจะเหงาจึงซื้อมาเพื่ออยู่เป็นเพื่อน กระแสรีบอร์นเบบี้นั้น จะสามารถแทนตุ๊กตาบลายธ์ได้หรือไม่
โอปอล เล่าว่า ตอนแรกที่ได้เห็นข่าวในหนังสือพิมพ์ก็สนใจว่านี่คือตุ๊กตาอะไร คล้ายเด็กมาก จึงเปิดหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตและศึกษามาเรื่อยๆ จนสั่งซื้อจากศิลปินชาวต่างชาติทางอีเมลล์จนทำให้สั่งเข้ามาในที่สุด
“โดยส่วนตัวเป็นคนที่ชอบตุ๊กตาอยู่แล้ว และพอได้เห็นตุ๊กตารีบอร์นเบบี้ก็ยิ่งชอบมาขึ้นอีก เพราะอยากได้ตุ๊กตาที่หน้าตาเหมือนเด็กจริงๆ มาตั้งนานแล้ว พอมีออกมาแบบนี้เลยรีบหาข้อมูลแล้วตัดสินใจซื้อ จริงๆแล้วเขาไม่ได้เป็นเพียงตุ๊กตาตัวหนึ่ง แต่เขาเป็นตุ๊กตากอดบำบัด ทุกคนจะอุ้มเขาเหมือนที่อุ้มเด็กทารก จะมีความเอ็นดู รีบอร์นเบบี้สามารถที่จะดึงจิตใต้สำนึกของคนออกมา”
ซูอี้ หวัง หรือไอวี่ ผู้นำเข้ารีบอร์นเบบี้ชาวไต้หวัน บอกว่า ก่อนหน้านี้เธอสนใจตุ๊กตาบลายธ์มาก่อน พี่สาวแนะนำมาจึงหันความสนใจมาเล่นตุ๊กตารีบอร์นเบบี้นี้ ตอนแรกก็ซื้อให้คนรู้จักก่อน พอได้เห็นเขามีความสุขกับตุ๊กตา และพอได้สัมผัสก็ทำให้รู้สึกเหมือนได้อุ้มเด็กจริงๆ ซึ่งก่อนหน้านี้เธอก็รักและชื่นชอบเด็กอยู่แล้ว
สรรสร้างรีบอร์นเบบี้
วิธีทำของตุ๊กตารีบอร์นเบบี้นั้น ต้องผ่านขั้นตอนที่ประหนึ่งการโคลนนิ่งหลายอย่างกว่าจะสำเร็จเสร็จสิ้นมาเป็นตัวที่เหมือนเด็กทารกได้ขนาดนี้ อาทิ การหล่อโครงหน้า ในแต่ละรุ่นจะมีทั้งคนหล่อโครงหน้า และมีทั้งศิลปินที่นำโครงหน้าเหล่านี้ไปทำเป็นเด็กที่จะมีความหลากหลาย อาจจะแตกต่างกันที่ ผม ตา และสีผิว
ส่วนวัสดุที่ใช้ทำแขน ขา และหัวนั้น จะมีหลายประเภท เช่น เมื่อก่อนอาจจะใช้แต่เรซินอย่างเดียวทำให้ไม่นิ่ม ปัจจุบันเปลี่ยนมาใช้ไวนิลเรซินจะนิ่มขึ้นแต่ไม่มาก และมีบางตัวที่เริ่มใช้ซิลิโคนเรซินแล้ว แต่จำทำยากและมีน้อยที่ผลิตออกมา ซึ่งซิลิโคนไวนิลนั้น การสัมผัสผิวจะมีเนื้อละเอียดมาก
ไอวี่บอกถึงวัสดุที่นำมาทำตาว่า มีสองแบบคือ แก้วและพลาสติก แต่ที่ดีนั้นต้องเป็นวัสดุจากแก้ว จะทำให้เขาดูมีน้ำในตา สายตาสื่อว่าน่าเอ็นดู น่าสงสารเหมือนเด็กทารกจริงๆ ส่วนขนาดของตุ๊กตานั้นจะมี 3 ขนาด คือ 15-18 นิ้ว 19-22 นิ้ว และ 23-28 นิ้ว และเล็บก็จะมีพวกอาคิลิค แต่ข้อเสียจะต้องรอให้แห้ง ไม่เช่นนั้นจะติดกับเสื้อผ้าและหลุดออกไป
“ในลำตัวของตุ๊กตารีบอร์นเบบี้นี้ จะทำจากฝ้ายอย่างดีผสมกับแกลสบีท คล้ายกับลูกแก้วเม็ดเล็กๆ ตัวของเขาจะถูกถ่วงเป็นน้ำหนักจริงของเด็กทารก และทุกส่วนก็จะมีน้ำหนักในตัวเอง แต่ความเหมือน ไม่เหมือนของแต่ละคนนั้น จะขึ้นอยู่กับศิลปินว่ามีความชำนาญมากน้อยแค่ไหน บางคนทำมา 2-3 ปี ก็อาจไม่เหมือนมากนัก”
จากนั้น จะมีขั้นตอนที่ทาสีซึ่งสามารถเลือกเพศ เลือกสีผิว สีตา สีผม ซึ่งผมของรีบอร์นเบบี้นั้นทำจากโมแฮร์ หรือ ขนจากลูกแกะที่ผลัดขน และต้องใช้กาวกันน้ำติดที่หัว หลังจากที่ทำสีผิวก็ต้องนำไปอบให้สีติดอยู่บนผิวทนทานมากขึ้น
อีกอย่าง ผู้สนใจยังสามารถสั่งได้ตามความต้องการของคุณอีกด้วยว่า อยากให้หายใจได้ อยากได้ยินเสียงหัวใจเต้น อยากให้ร้องไห้ได้ แม้กระทั่งอยากให้ดิ้นได้
โอปอลบอกว่า ส่วนราคาของตุ๊กตานี้ขึ้นอยู่กับศิลปินที่สร้างงานออกมาและดูว่ามีความเหมือนจริงมากแค่ไหน แล้วค่อยตั้งราคา ซึ่งราคานั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัสดุแต่ขึ้นอยู่กับความเหมือนของผลงาน แต่วัสดุบางอย่างก็มีราคาแพง ราคาเริ่มต้นที่ 10,000 บาท ส่วนแพงที่สุดที่เคยพบมา ก็เหยียบๆ 100,000 บาท แต่ราคานี้ เราสามารถสั่งได้ตามต้องการและขึ้นอยู่กับวัตถุดิบด้วย
“ระยะเวลาในการผลิตงานศิลปะนี้ ถ้าสั่งแบบมีโครงหน้าเดิมอยู่แล้วก็จะใช้เวลาในการทำออกมาเป็นตัวเพียง 2 สัปดาห์ แต่ถ้าส่งรูปมาแล้วให้ไปทำใหม่หมดเลยตามที่เราต้องการ จะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน”
การดูแลเอาใจใส่
การทำความสะอาด ตุ๊กตารีบอร์นเบบี้นั้นไม่สามารถอาบน้ำได้ จะทำได้ก็เพียงแค่ นำน้ำมาผสมเจลอาบน้ำเด็ก 2-3 หยด แล้วจึงเอาหวีซี่ห่างๆ จุ่มแล้วหวี
ส่วนร่างกายของตุ๊กตานั้นขึ้นอยู่กับอากาศ แต่ควรให้อยู่ในอุณหภูมิเดียวกับเด็กทารกทั่วไปที่เราเลี้ยงกันและเรื่องของขวดนมที่จัดมาในเซ็ตนั้น ไม่สามารถเปิดออกมาได้เพราะจะทำให้น้ำยาที่ผสมออกมาให้เหมือนนมที่อยู่ในขวดนั้นเสีย
ปัจจุบันมีตุ๊กตารีบอร์นเบบี้ที่เหมือนจริงเกิดขึ้นและสามารถจำลองการทำงานของร่างกายได้บางส่วนแล้ว ซึ่งศิลปะชนิดนี้ดูไม่ได้ต่างอะไรกับวิทยาศาตร์ที่เป็นคนละขั้วเลยจริงๆ แต่สำหรับนักสะสมอาจมองว่า นี่คือศิลปะของเหล่าศิลปินที่สรรสร้างออกมาด้วยความชำนาญและความปราณีตส่วนตัว
เริ่มไม่แน่ใจแล้วสิว่า ความเหมือนจริงของตุ๊กตารีบอร์นเบบี้นี้จะน่ารัก น่าเอ็นดูจริงหรือไม่ เพราะมันเหมือนจริงจนน่าใจหายว่า เทคโนโลยีที่ผสมกับศิลปะอีกแขนงหนึ่งในโลกเรานี้จะทำให้ตุ๊กตากลายเป็นคนเข้าไปทุกทีหรือว่าโลกเรานั้นกำลังจะเข้าใกล้คำว่า โคลนนิ่ง เพราะศิลปะและศิลปินเหล่านี้กันแน่
หากนักสะสมคนไหนสนใจเล่นตุ๊กตารีบอร์นเบบี้ เข้าไปที่ http://www.weloveshopping.com/template/a07/shop.php?shopid=190485
http://www.oneclickmarket.com/shop/opol48
ภาพโดย วรวิทย์ พานิชนันท์
