จำได้หรือไม่ว่าคุณรับประทานขนมไทยครั้งล่าสุดเมื่อไหร่...
หากเอ่ยถึงขนมไทยที่คุณรู้จัก และคุ้นหู ในสมัยนี้อาจจะมเพียงไม่กี่อย่าง แต่สำหรับการหาขนมไทยโบราณที่หารับประทานได้ยากในปัจจุบันที่ร้าน “หวานดำรงค์” อาจจะทำให้คุณย้อนรำลึกถึงขนมไทยหายากอีกหลากหลายชนิด
ถามถึงชื่อร้านพี่แอ๋ว “ สิริลักษณ์ บุญสมบัติ” เจ้าของร้าน “หวานดำรงค์” เล่าให้ฟังว่า เป็นชื่อที่คุณพ่อตั้งให้ ซึ่งไม่ได้คล้องกับชื่อคุณพ่อสไว หรือ คุณแม่บุญช่วย เลยแม้แต่น้อย เพราะเราทำขนมหวาน คุณพ่อเลยตั้งว่า หวาน และเพื่อจะให้ร้านอยู่ได้นานจึงลงตัวที่ “หวานดำรงค์” ที่ยังคงความหวาน มัน อร่อย มากว่า 50 ปี
“ตอนเกิดมาก็จำความได้แล้วว่าคุณแม่ทำขนม พี่แอ๋วเองก็ต้องช่วยแม่ทำก่อนไปโรงเรียนทุกเช้า มันฝังอยู่ในหัวตลอดตั้งแต่เด็ก แต่เดิมร้านอยู่ที่เจริญผลในช่วงที่คุณแม่ทำอยู่ ขายกันอยู่ในตลาด พอพี่มาทำเองลูกค้าก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยมีความตั้งใจทำให้ดูดีขึ้นจากเดิม เริ่มที่การมีสูตรการทำขนมที่ตายตัวและเป็นมาตรฐาน”
จากร้านเล็กในย่านเจริญผลสูตรต้นตำรับคุณแม่บุญช่วย (ปี 2508) ถ่ายทอดมาสู่รุ่นลูกอย่างพี่แอ๋ว (ปี 2539) ในซอยรามคำแหง 39 (ซอยเทพลีลาแยก 14) นอกจากขนมไทยที่คุณแม่บุญช่วยทำเอาไว้ พี่แอ๋วเองก็ได้พัฒนาทำขนมไทยเพิ่มเติม เช่น ถั่วแปบ โสมนัส สัมปันนี และอีกมากมาย
นอกจากจะการันตีความอร่อยที่อยู่มายาวนาน ทางร้านหวานดำรงค์เองต้องคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพด้วยตนเองทุกวัน
“ที่ร้านเราคำนึงถึงความสะอาดตั้งแต่อุปกรณ์ในการทำ ถาด หม้อกวน ต้องสะอาดและการใช้วัตถุดิบที่นำมาทำขนมก็ต้องเลือกเอง อย่างมะพร้าวที่นำมาทำกะทิจะไม่ทิ้งไว้ค้างคืน ซึ่งจะปอกสดและทำกะทิเองทุกวัน ยิ่งไปกว่านั้นขนมไทยมีความเด่นอยู่ที่กลิ่นหอมของขนม ซึ่งจะใช้ดอกมะลิ และดอกไม้ที่นำมาทำสีสันของขนมนั้นทางร้านจะปลูกและคั้นเองกับมือ ภาชนะที่ใส่ขนมนั้นอย่างเปียกปูน และตะโก้
ต้องเลือกใช้ใบตองเท่านั้นเพราะนอกจากจะได้ถึงความหอมของใบตองเองแล้วยังได้อรรถรสในการรับประทานขนมไทยแท้ๆ ส่วนไข่ที่นำมาทำขนมนั้นต้องเป็นไข่ที่คัดมาจากจังหวัดอ่างทองเท่านั้นเพราะเป็นไข่ที่ไม่มีกลิ่นคาวเวลานำมาทำขนม”
จะการันตีในเรื่องความสะอาดและความอร่อยด้วยตัวเองไม่ได้ ระหว่างพูดคุยกับเจ้าของร้านอยู่ลูกค้าเจ้าประจำยังแวะมาการันตีถึงความอร่อยของขนมและความน่ารักของเจ้าของร้านอีกด้วย
“ขนมของหวานดำรงค์สามารถรับประทานได้ทุกอย่าง ไม่ต้องสงสัยหรือไม่ต้องมองว่าจะปลอดภัยไหม รสชาติอร่อยไหม” ถ้อยคำที่ทำให้พี่แอ๋ว เจ้าของร้านได้ยินจากปากลูกค้าที่มาซื้อขนมตั้งแต่สมัยยังเด็กและจนกระทั่งเรียนจบ แต่งงานไปก็ยังแวะมาที่ร้านเป็นประจำ
รสชาติของขนมไทยอาจจะมองว่าเป็นขนมที่มีความหวานหากแต่ที่หวานดำรงค์เองจะมีสูตรที่ทำให้มีความหวานที่พอดี กะทิจะไม่มันจนเกินไป ถือเป็นรสชาติที่พอดี แต่สิ่งที่เน้นมากที่สุดคือเรื่องของความสะอาด
ใครที่เคยแวะมาหรือผู้ที่กำลังจะแวะไปชิมขนมไทยของที่ร้านหวานดำรงค์ล่ะก็ อย่าพลาดชิม ขนมชั้น ตะโก้ วุ้นกะทิ และขนมเปียกปูน ซึ่งเป็นขนมที่ขึ้นชื่อของทางร้านอย่างมาก อีกทั้งข้าวเหนียวแก้ว ข้าวเหนียวตัด ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง มีให้เลือกรับประทานจนคุณหลงรักขนมไทยเลยทีเดียว
กว่า 50 ปีที่พี่แอ๋วยังคงความอร่อยมาจนถึงทุกวันนี้เพราะความรักที่จะทำขนมไทย และทุกครั้งที่ลงมือทำทุกๆ ขั้นตอนต้องทำด้วยความละเมียดละไม เอาใจใส่ให้มาก เพราะขนมไทยถือเป็นขนมที่ต้องใช้ใจทำอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน
ยังไงถ้าคุณอยากลองลิ้มชิมรสขนมไทยโบราณที่หาได้ยากจากท้องตลาดแล้ว ไม่ควรพลาด ร้าน “หวานดำรงค์” และขนมไทยจะยังดำรงค์คู่คนไทยไปอีกแสนนาน
ล้อมกรอบ 1
สนนความหวาน อร่อย
ขนมชั้น ตะโก้ เปียกปูน วุ้นกะทิ เริ่มต้นที่ชิ้นละ 6 บาท 1 กล่อง มี 10 ชิ้น ราคา 60 บาท
ขนมไทยที่บรรจุลงในกล่องราคาเริ่มต้นราคา กล่องละ 35 บาท และขึ้นอยู่ที่ขนาดของกล่อง
ล้อมกรอบ 2
ส่งต่อความหวาน
สามารถเลือกซื้อเลือกชิมได้ 3 ช่องทาง ได้แก่
ร้านหวานดำรงค์ (แม่บุญช่วย) ซอยรามคำแหง 39 (ซอยเทพลีลา แยก 14) ตัดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม เข้าซอย 100 เมตร จะพบตึกเขียว โทร. 02-559-0677 หรือ www.wandamrong.com
บูธทางออก ตรงข้ามโรงแรมเอเซีย สามารถโทรสั่งทางร้านและไปรับที่นี้ได้
ไม่ว่าจะคุณอยู่ในส่วนไหน สามารถโทรสั่งขนมกับทางร้านได้ โดยบริการจัดส่งเดลิเวอรี่ คิดค่าส่งตามระยะทาง
*****************************
ภาพโดย พลภัทร วรรณดี