“วิว พงศ์ชนก” ...นางงามสายดำ

     4-5 ปีก่อน คนไทยรู้จัก “น้องวิว เยาวภา” นักกีฬาเทควันโดหญิง ทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองแดง การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2004 ณ เวลานี้อีกหนึ่ง “วิว พงศ์ชนก กันกลับ” ที่อยู่สมาคมเดียวกันแต่เป็นการร่ายรำในท่าต่างๆ ที่เรียกว่า พูมเซ (Poomsae) ชีวิตเด็กสาววัย 18 จากนักกีฬาเทควันโดทีมชาติ สู่เวทีขาอ่อน โอกาสเดินถนนทั้งสองสาย “สายดำ” และ “สายบันเทิง” วันนี้ทำให้เรากลับมาคุยกับเธออีกครั้ง ท่ามกลางภารกิจที่หนาแน่น ก่อนไปแข่งขันนางงามโลก โดยมีอาวุธสำคัญคือ “รอยยิ้ม” และหัวใจที่สู้ทุกเวทีเพื่อ “ชาติ”

ชีวิตนางงาม : ตื่นเต้นจนหูอื้อ

เสียงประกาศชื่อตำแหน่ง มิสไทยแลนด์เวิลด์คนล่าสุด หลุดจากปากพิธีกร ชื่อของ หมายเลข 14 “วิว พงศ์ชนก กันกลับ” เธอคือผู้ชนะ แม้ว่าจะผ่านเวทีประกวดมาหลายครั้ง และลงสนามเทควันโดจนติดทีมชาติไทย แต่การได้รับตำแหน่งครั้งนี้ทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไปตั้งแต่คืนแรก

“ช่วงนี้เหนื่อยหน่อยค่ะ แต่วิวก็สู้ วันหนึ่งเดินทางหลายที่ เดินทางขอบคุณสปอนเซอร์ ออกรายการทีวี ถ่ายรายการ เยอะมาก”.... นั่นคือเช้าวันแรกๆ ของการได้เป็นนางงาม เพิ่งเริ่มต้นแม้เสียงจะดูห้าว ตามสไตล์สาวชอบเตะต่อย แต่ดูเหมือนเจ้าของเสียงจะยินดีกับรางวัลที่ได้ไม่น้อย พร้อมเล่าถึงเหตุการณ์บนเวทีว่าตื่นเต้นจนหูอื้อทีเดียว

“ตอนแรกตกใจ ที่วิวร้องไห้เพราะตกใจ (หัวเราะ) มันตื้นตัน มันไม่คิดว่าจะได้ นึกถึงหน้าพ่อ กับแม่เลย ลูกทำได้แล้ว ลูกได้ที่หนึ่ง ตอนแรกคิดว่าพี่คาร์ล่าได้ค่ะ เขาโตกว่า ประสบการณ์ก็มากกว่าวิว วิวหันไปถามเขาว่าเขาประกาศรางวัลอะไร น้องได้เหรอ หันไปถามพี่คาร์ล่า พี่เขาก็บอกว่าน้องได้แล้ว คือเราฟังค่ะ แต่ว่าในหูเนี่ยอื้อไปหมดว่าตำแหน่งที่ 1 หรือรอง วิวหวังแค่ 1 ใน 5 ก็พอใจแล้ว ไม่ต้องที่หนึ่งก็ได้ แต่ขอแค่ติดเข้ามาก็พอใจแล้ว มาไกลกว่าที่คิดมากค่ะ”

ชุดว่ายน้ำ : อกเล็ก แต่ใจใหญ่

ในการประกวดครั้งนี้ ชุดว่ายน้ำตัวจิ๋วที่บรรดาสาวงามต้องใส่อวดเรือนร่างบนเวที ก็ทำเอาสาวงามสุดห้าว ชื่อวิว ขาสั่นได้เหมือนกัน แม้หน้าอกหน้าใจจะไม่ใหญ่ตู้มต้าม เจ้าตัวติดตลกว่าอาจต้องเรียนรู้การโกย (นม) เพิ่ม

“ตอนแรกตื่นเต้นมาก เขินค่ะ (หัวเราะ) แต่ในใจก็คิดว่า เฮ้ย! นี่มันการประกวดคนเขาคงไม่มองอะไรแง่ลบหรอก พวกพี่เขาเดินกันได้ ทำไมเราจะเดินไม่ได้ ใส่มาตั้งแต่รอบซ้อม พอเดินแล้วก็ไม่มีอะไรนะแต่ตอนแรกเลยขาสั่นเหมือนกัน (ยิ้ม)”

“คือมาประกวดนี่ก็ต้องรักษาหุ่น เพราะว่าวิวเป็นนักกีฬาวิวกินแหลก พอมาเป็นนางงามกินน้อย กินมากไม่ได้เลย ถามว่าหุ่นได้อย่างใจมั้ยก็พอใจในสิ่งที่มีอยู่ค่ะ ไม่ได้แอนตี้การศัลยกรรมนะ แต่ว่าวิวเป็นนักกีฬา กลัว ไม่อยากทำ หน้าอกวิวว่า มันดันได้มั้งคะ (หัวเราะ)”

สวยไร้ (เส้น) สาย

ทันทีที่นักกีฬาเทควันโดสาว ได้รับตำแหน่ง กระแสข่าวแรกคือการ “ล็อก” วิว โดนวิพากษ์วิจารณ์สารพัดทีเดียวท่ามกลางกลุ่มคนอีกหลายคนที่ให้กำลังใจ แต่ดูเจ้าตัวจะไม่ยี่หระต่อกระแสข่าวใดๆ

“ถ้าให้พูดจริงๆ คือ วิวไม่มีเส้นไม่มีสาย วิวได้เพราะว่าความสามารถของวิวมากกว่า มันทำให้เราเตรียมใจตรงนี้เยอะนะ แต่พ่อแม่ไม่ห่วงเรื่องข่าวเลย เขาบอกให้เราเป็นตัวเองดีที่สุด เขารู้อยู่แล้วว่าไม่ได้ล็อก เรามาสมัครกับแม่ข่าว อ่านข่าวบ้างแล้วก็มีหนังสือพิมพ์ลงว่าน้องวิวมึนเลือกทางไหนดี ก็จริงๆก็แค่ตกใจไม่ได้มึน แต่งงว่าทำไมเราได้ที่หนึ่งเลยเหรอ ก่อนหน้านี้ยังไม่มีการแพลนมาเลย มันตื้อไปหมด น้ำตาไหล”

“คือถ้าคนชมวิวก็ขอบคุณค่ะ แต่ถ้าคนติ วิวก็รับฟังค่ะวิวไม่ซีเรียสนะ มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด เป็นเรื่องธรรมดา เราต้องทำใจ อย่าไปคิดอะไร ทำให้ดีที่สุด”

“กีฬา” กับ “ขาอ่อน”

ท่ามกลางชื่อเสียงและเงินทองที่ได้จากการประกวด และโอกาสที่มาพร้อมกันอย่างเช่นซีเกมส์ และเส้นทางสายนางงาม ทั้งสองเวทีที่วิวจะต้องเลือก แน่นอนจากปากเธอแล้วว่า เธอเลือกทั้งสองอย่าง และหลังจากการประกวดนางงามโลกที่แอฟริกาใต้ครั้งนี้ เธอจะกลับสู่เวทีกีฬาที่เธอรักอีกครั้ง

“ถามตอนนี้วิวชอบทั้งสองอย่างนะคะ แต่ว่าตอนนี้มันจะมีมิสเวิลด์จะไปวันที่ 5 พ.ย. นี้แล้ว ทางสมาคมเทควันโด กับ บีอีซีฯ คุยกันเรียบร้อยแล้วว่าให้วิวไปประกวดก่อน ทางผู้ใหญ่เขาให้ไปประกวดก่อน เพราะประกวดจริงๆ อีกที 12 ธันวาฯ เก็บตัวเป็นเดือนเลยที่อังกฤษ แล้วไปประกวดที่แอฟริกาใต้ เพราะว่าเขาตกลงกันแล้ว ว่าคือไปทำชื่อเสียงของประเทศไทยเหมือนกัน ทางสมาคมเทควันโดเขาก็บอกว่าประกวดเสร็จเรียบร้อยกลับมาก็ค่อยมาเก็บตัวที่เทควันโด”

“ส่วนวงการบันเทิงก็อยากเป็นนักแสดง ชอบค่ะ เราเคยเล่นมาแล้ว (ละครพยัคฆ์ยี่เก) อยากลองทำค่ะ ชอบทั้งสองด้าน แต่เทควันโดนี่วิวรักมาก อย่างไรเสียวิวก็ไม่ทิ้ง เพราะที่วิวมาประกวดนางงามวิวคิดว่าอยากมาหาประสบการณ์ที่แปลกๆใหม่ๆ แล้วยิ่งพอมาได้รางวัลพ่อกับแม่ก็จะยิ่งดีใจ เอามาช่วยเหลือ น้องสาววิวเรื่องเรียน เพราะที่บ้านวิวก็ไม่ใช่ว่าจะรวย”

สู้เพื่อชาติ

ในแวดวงกีฬาเทควันโด คือศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว โดยไม่ใช้อาวุธของชาวเกาหลี แต่สำหรับสาวไทยใจรักเทควันโดอย่างวิว อาวุธที่น่ากลัวของเธอคือ “รอยยิ้ม” ที่พร้อมให้กับทุกคนด้วยความจริงใจ นอกนั้นคือมวยไทยที่เธอเตรียมไว้สู้กับนางงามเวทีโลก และหากครั้งนี้วิวบอกว่า หากไม่ได้รางวัลใดกลับมาเลย ก็จะขอสู้เพื่อชาติในการแข่งขันเทควันโดต่อไป

“เสน่ห์ของวิวน่าจะเป็นรอยยิ้มของวิวนะ จริงใจ และเป็นธรรมชาติ ไม่เสแสร้ง ถ้าถามถึงความสวย ก็ได้อยู่ (หัวเราะ) พวกพี่ๆ เขาก็สวยกันทุกคน ส่วนตัวของวิวคงเอารอยยิ้มไปสู้ แล้วก็เอาความสามารถที่เป็นนักกีฬาเนี่ยแหละค่ะ เขาจะมีรอบโชว์ความสามารถ อาจจะไม่เอาเทควันโดไปโชว์เพราะว่าเทควันโดเป็นของเกาหลี วิวอาจจะเอามวยไทยไป วิวเคยต่อยมาแล้ว”

“เป็นกำลังใจให้วิวด้วยในการประกวดมิสเวิลด์ครั้งนี้ค่ะ ไปทำเพื่อชื่อเสียงประเทศไทย แต่ถ้าเกิดวิวกลับมาไม่ได้ตำแหน่งอะไรเลยก็จะกลับมารับใช้ชาติ เล่นเทควันโดเหมือนเดิมค่ะ”

สวยส่งท้าย...หัวใจให้ครอบครัว

สวยแต่ยุ่งขนาดนี้ เรื่องหัวใจคงทิ้งไว้กับการประกวด และเทควันโด วิวจึงบอกว่าเรื่องหนุ่มตอนนี้ ยังไม่มีใครเข้ามาวุ่นวายในชีวิตได้แบบจริงจัง เพราะภาระหน้าที่ที่หนักอึ้ง และส่วนหนึ่งหัวใจของเธอหลักๆแล้วอยู่ที่ครอบครัวเสียมากกว่า…“เรื่องหนุ่มมาอยู่ในกองประกวดไม่ได้ไปไหนเลย เด็กหรือผู้ใหญ่ ไม่มีเข้ามาค่ะ ใจวิวตอนนี้อยู่ที่การประกวด เทควันโด แล้วก็ครอบครัว”

“สวยต้องสวยจากข้างใน งามจากภายใน กิริยา วาจา แล้วก็มีสมอง” ...สวยในความคิดของวิว

ประวัติ
ชื่อ พงศ์ชนก กันกลับ (วิว)
อายุ 18 ปี
น้ำหนัก 57.2 กิโลกรัม
ส่วนสูง 174.5 เซนติเมตร สัดส่วน 33 - 26 - 37
การศึกษา กำลังศึกษาระดับอุดมศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะ นิเทศศาสตร์มหาวิทยาลัย เกษมบัณฑิต
ภาษาที่พูดได้ ไทย, อังกฤษ
ความสามารถ นักกีฬาเทควันโดทีมชาติ
ประวัติการประกวด มิสมอเตอร์โชว์แปซิฟิก ตำแหน่งที่ได้รับ รอง 2 พ.ศ. 2551

“วิว”...ลูกสาวที่ได้ดั่งใจ

“รู้สึกดีใจ ปลื้มใจ และตื้นตันใจมากๆ เพราะน้องเขาเก่งและพยายามมาอย่างดีที่สุด และยังชนะเลิศด้วย ซึ่งตอนแรกพ่อคิดว่าน้องวิวน่าจะติดอันดับ 1 ใน 5 แต่นี่กลับได้ถึงที่ 1 รวมกับอีก 3 รางวัล ดีใจมากๆ ครับ” ...เสียงอันปีติจากใจคุณพงศ์เทพ กันกลับ คุณพ่อของน้องวิว พงศ์ชนก กันกลับ ผู้คว้าตำแหน่งอันดับ 1 มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2009 ควบดีกรีตัวแทนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติ

หลังจากการประกวดคุณพ่อเปิดใจว่า พร้อมจะสนับสนุนวิวทั้งด้านบันเทิงและกีฬา วิวมีจุดมุ่งหมายของตนเอง มีความตั้งใจสูง แต่ไม่ทิ้งเรื่องกีฬาเพราะวิวรักกีฬามาก มีสัมภาษณ์เมื่อใดจะต้องพูดถึงกีฬาตลอด เป็นความรักที่อยู่ในสายเลือด วิวเป็นคนที่เชื่อฟังและอยู่ในวินัย ซึ่งคุณพ่อเชื่อว่าเมื่อคนเรามีวินัย ก็จะสามารถไปถึงจุดหมายได้อย่างแน่นอน

คุณพ่อเลี้ยงดูและสอนน้องวิวมาโดยหลักของธรรมชาติ เป็นการคอยแนะนำว่าอะไรควรเป็นอย่างไรในการดำเนินชีวิต ส่วนเรื่องงานหากเป็นงานบันเทิงคุณพ่อจะเป็นคนสกรีนงานเอง เพราะตนอยู่ในวงการนี้มาเป็นช่างภาพก็จะรู้ แต่ถ้าเป็นเรื่องกีฬาก็จะให้วิวตัดสินใจ ส่วนพ่อจะเป็นฝ่ายสนับสนุนอย่างเดียวเท่านั้น

ตั้งแต่เด็กแล้ววิวเป็นคนรักสวยรักงาม แต่จะออกนิสัยห้าวๆ เหมือนหญิงแกร่ง แต่ถ้าเป็นเรื่องการประกวดต่างๆ คุณพ่อบอกว่าต้องยกให้คุณแม่ เพราะการไปสมัครแต่ละงาน วิวมักจะไปลงสมัครประกวดกับคุณแม่สองคน โดยที่คุณพ่อไม่รู้ มารู้อีกทีตอนลงเป็นข่าวหนังสือพิมพ์แล้ว คุณแม่ของวิวเป็นนางงามนพมาศ จ.นครพนมมาก่อน ก็ชักชวนน้องวิวไปประกวดโดยที่ไม่ได้บอกคุณพ่อก่อน เก็บไว้เป็นเซอร์ไพรส์บ่อยๆ

ส่วนสิ่งที่ทำให้วิวประสบความสำเร็จคุณพ่อมองว่า คือความกตัญญู แต่ก่อนคุณพ่อเป็นช่างภาพโฆษณา แต่หลังจากปี 2540 บริษัทประสบกับปัญหาเศรษฐกิจจึงออกมาเป็นช่างภาพอิสระ พร้อมกับทำงานเสริมขับรถบรรทุกส่งสินค้าจากกรมศุลกากร ซึ่งปีนั้นทำให้ครอบครัวต้องลำบากพอสมควร วิวจึงเริ่มทำงาน ประกวดเพื่อหาเงินมาช่วยครอบครัว นำเงินรางวัลมาให้คุณแม่ใช้จ่ายภายในบ้าน ซึ่งความกตัญญูของวิวน่าภูมิใจมากและเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้วิวมีวันนี้

“พ่อบอกวิวเสมอว่า จะทำอะไรแล้วต้องทำให้ดีที่สุด ไม่มีอะไรที่เกินความสามารถของมนุษย์ แม้ว่าจะทำดีที่สุดแต่ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นแข่งกีฬาหรือประกวดอะไรก็แล้วแต่ ต้องมีสมาธิ อย่างการประกวดครั้งนี้ วิวจะนิ่งมากเพราะได้ประสบการณ์จากกีฬา หากสามารถรวบรวมสมาธิแน่วแน่ สมองก็จะโล่งสามารถคิดอะไรได้ดีขึ้นก็สามารถเอาชนะได้”

นอกจากนี้ เวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2009 เป็นเวทีที่ทรงเกียรติ ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ เป็นสิ่งที่คุณพ่อภูมิใจมากที่สุดเช่นเดียวกับที่ติดทีมชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่หวังไว้ ก็พร้อมที่จะสนับสนุนตลอดไม่ว่าจะเลือกกีฬาหรือบันเทิงก็ตาม แต่ในทางบันเทิงนั้นค่อนข้างมายา คงต้องสกรีนงานอย่างดี เพื่อรักษาภาพลักษณ์ด้านกีฬา หรือในกรณีแบบอย่างตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ จะให้ไปถ่ายภาพแบบเซ็กซี่ก็ไม่เหมาะสม ไม่ให้ผ่านแน่นอน

ส่วนเครื่องรางหรือของนำโชคนั้นไม่มี คุณพ่อเพียงบอกว่า ก่อนออกจากบ้านยกมือไหว้เจ้าที่เจ้าทาง ผีบ้านผีเรือน ขึ้นรถก็ไหว้แม่ย่านางให้เดินทางปลอดภัยเท่านั้นเอง จะไหว้บนบานว่าวันนี้ต้องชนะนั้นไม่มี เพราะกีฬาคือกีฬา สามารถแก้มือกันได้ แต่พยายามให้ดีที่สุดทุกครั้งเพียงเท่านี้ก็สามารถไปถึงเป้าหมายได้สักวันหนึ่ง…

ติดตามเรื่องราว “สวยสายดำ (1)” ได้ที่<สวยสายดำ... พงศ์ชนก กันกลับ#>