xs
xsm
sm
md
lg

สุดยอดบูลด็อกแชมเปี้ยน เงินล้าน!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


จากการจัดงานสำหรับผู้รักสุนัขทั่วประเทศอย่าง Sport and service dog club pet expo เพื่อเฟ้นหาสุดยอดสุนัขในสายพันธุ์เดียวกันและสุนัขอันดับ 1 จากการประกวดทุกสายพันธุ์ ได้แก่ กลุ่มเทอเรียร์ ปอมเมอเรเนียน ไซบีเรียนฮัสกี้ บางแก้ว พันธุ์ไทยหลังอาน บีเกิ้ล และอีกมากมาย โดยสุนัขทุกตัวที่มาประกวดงานนี้จะต้องขึ้นทะเบียนกับสมาคมพัฒนาสุนัขแห่งประเทศไทย ไม่ใช่งานเปิดที่ใครก็สามารถลงประกวดได้

สุนัขที่คว้ารางวัลชนะเลิศหรือ Best in show ครั้งนี้ไปได้แก่... “ฮิวโก้” สุนัขหน้าย่นเนื้อแน่นพันธุ์ English bulldog อายุ 3 ปีครึ่ง ส่งประกวดโดยคุณภูสิต รัตนกุลเสรีเริงฤทธิ์ ผู้อยู่ในวงการพัฒนาสายพันธุ์และประกวดสุนัขกว่า 20 ปี และปัจจุบันได้เปิดฟาร์มสุนัข Winsan bulldogs เล่าว่า ในการลงประกวดต้องแน่ใจว่าสุนัขที่ลงมีโครงสร้างถูกต้อง เป็นไปตามมาตรฐานสายพันธุ์ ซึ่งในส่วนของฮิวโก้นั้นนับว่ามีโครงสร้างได้มาตรฐานอาจไม่ใช่ทุกจุด แต่โดยรวมแล้วก็เป็นสุนัขที่มีโครงสร้างที่ดีมากตัวหนึ่ง

ทุกสายพันธุ์จะมีการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานไว้ต่างกันออกไป แต่สายพันธุ์บูลด็อกจะเน้นเรื่องกะโหลกศีรษะเป็นสำคัญ รูปร่างต้องสวยมีความเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากตัวอื่น ส่วนโครงสร้างอื่นตั้งแต่จมูกจดหางคือต้องเป็นไปตามที่มาตรฐานโลกกำหนดไว้ อย่างลักษณะหาง เส้นหลัง การทำมุมของขา รวมไปถึงลักษณะของการเดินและวิ่ง มีความสำคัญมากเพราะในการประกวดกรรมการจะให้สุนัขวิ่งเพื่อดูลักษณะขาต้องไม่แกว่งหรือปัด ซึ่งสมาธิและความกล้าของสุนัขเป็นสิ่งสำคัญซึ่งต้องฝึกฝนและซ้อมทุกวัน

“ฮิวโก้” เป็นสุนัขที่รับเข้ามาจากประเทศอังกฤษจึงได้รับการฝึกฝนจากผู้เพาะพันธุ์มาในระดับหนึ่งแล้ว นับว่าเจนสนามมาพอสมควรจึงไม่ต้องใช้เวลาในการฝึกเพิ่มเติมมากนัก แต่หากเป็นตัวที่เพาะพันธุ์ขึ้นมาและฝึกเองเพื่อเข้าประกวด ก็ต้องเริ่มฝึกตั้งแต่อายุ 2-3 เดือน

ส่วนราคาสุนัขที่นำเข้ามีหลายระดับขึ้นอยู่กับคุณภาพ สถิติการประกวด ซึ่งฮิวโก้นั้นมีราคาอยู่ที่หลักล้านทีเดียว ได้ประกวดในเมืองไทยมาเกือบ 2 ปี ตามสถิติเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยปี 2551 โดยงานล่าสุดนี้ได้รับรางวัล Best in Show หรือสุนัขที่ดีที่สุดในงาน เป็นรางวัลที่ 13 ของฮิวโก้ในสายการประกวดแบบ all breed เป็นสถิติที่ยังไม่มีสุนัขบูลด็อกตัวไหนทำได้ รวมทั้งได้รับรางวัลที่ 1 ในสายพันธุ์บูลด็อกด้วยกันเองทั้งหมดกว่า 60 งาน

สุนัขพันธุ์บูลด็อกนับว่ามีคนนิยมเลี้ยงพอสมควร ขึ้นกับสภาพเศรษฐกิจและกลไกราคาด้วย แต่มองว่าคนที่เลี้ยงด้วยความชอบส่วนตัว ไม่ได้หวังผลทางธุรกิจมีไม่มากนัก ส่วนหนึ่งเพราะสายพันธุ์นี้ดูแลค่อนข้างยาก ซึ่งบอกตามตรงว่าอากาศเมืองไทยไม่เหมาะกับสุนัขพันธุ์นี้เนื่องจากสภาพอากาศร้อนชื้น บูลด็อกกับเรื่องความร้อนไม่ถูกกัน เนื่องจากมีโพรงจมูกสั้นเป็นจุดที่เปราะบางของสายพันธุ์นี้ หากนำเข้ามาจากต่างประเทศจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวด้วยการอยู่ในห้องแอร์ตลอด เรื่อง

อาหารการกินก็สำคัญมาก เพราะหากได้รับอาหารไม่ดี หรือคุณภาพไม่ถึงก็อาจไม่ได้โครงสร้างที่ถูกต้องเหมาะสม รวมทั้งพบปัญหาโรคผิวหนังมากเช่นกัน

คุณภูสิต ทิ้งท้ายว่าหากใครที่อยากเลี้ยงต้องถามตัวเองว่าเลี้ยงเพื่ออะไร ถ้าเลี้ยงเล่นเป็นเพื่อนก็สามารถศึกษาอย่างผิวเผินได้ไม่ยาก แต่หากเลี้ยงเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ ประกวดจะต้องมีความรู้เบื้องลึก รู้ถึงมาตรฐานสายพันธุ์อย่างดี เพื่อแนะนำได้อย่างถูกต้อง

ดังนั้น “การจะเป็นนักพัฒนาสุนัขได้...ก็ต้องพัฒนาตัวเองด้วย”



กำลังโหลดความคิดเห็น