ในโอกาสที่เจ้าพระคุณ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งได้รับสถาปนาเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2532 นับเป็นเวลา 2 ทศวรรษ (20 ปี) และทรงเจริญพระชนมายุครบ 8 รอบ (96 ปี) ในวันที่ 3 ตุลาคม 2552 จึงถือได้ว่าเป็นปีมหามงคลอย่างยิ่งที่โอกาสอันสำคัญได้เวียนมาบรรจบในปีเดียวกัน
ตลอดระยะ 20 ปี ที่ดำรงตำแหน่ง สมเด็จพระสังฆราช เจ้าพระคุณ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นพระมหาเถระที่ทรงพระเกียรติคุณพร้อม ทั้งในด้านปริยัติหรือคันถธุระและในด้านปฏิบัติหรือวิปัสสนาธุระ พร้อมทั้งทรงปฏิบัติพระศาสนกิจที่เป็นประโยชน์ต่อศาสนาเป็นอย่างมาก เช่น ศาสนกิจทางด้านการศึกษา การเผยแผ่ การปกครอง และสาธารณูปการ ด้วยการก่อสร้างปฏิสังขรณ์พุทธศาสนสถานและสาธารณสถานอันเป็นประโยชน์แก่พระศาสนาและประชาชนไว้เป็นจำนวนมาก
ในปีมหามงคลนี้ ทางรัฐบาลจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการ โดยในงานได้มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในที่ประชุมเพื่อหารือจัดงานฉลองพระชันษา ครบ 96 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก การจัดงานครั้งนี้จะจัดขึ้นทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค
กิจกรรมในส่วนกลางได้จัดขึ้น 2 แห่ง สถานที่แรก ณ พุทธมณฑล ระหว่างวันที่ 29 กันยายน 2552 ถึงวันที่ 3 ตุลาคม 2552 ซึ่งงานนี้มีสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักในการจัดกิจกรรมร่วมกับคณะสงฆ์ มหาวิทยาลัยสงฆ์ องค์กร มูลนิธิ ส่วนราชการและสถานศึกษา
การจัดกิจกรรม ณ พุทธมณฑล ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการเกี่ยวกับพระประวัติ พระศาสนกิจ พระเกียรติคุณ มีการให้พุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมกันตักบาตรพระสงฆ์ 967 รูป และการถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์ นอกจากนี้ยังมีการปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์ จำนวน 500 รูป รวมถึงการปฏิบัติธรรมของฆราวาส จำนวน 1,000 คน ร่วมกันสนทนาธรรม อภิปรายธรรม และการแสดงพระธรรมเทศนา
นอกจากนี้ กิจกรรมส่วนกลางยังจัดขึ้นภายในบริเวณ วัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งมีการแยกออกเป็นกิจกรรมพิธีสงฆ์ ระหว่างวันที่ 1-3 ตุลาคม 2552 ในส่วนนี้มีกิจกรรมที่ประกอบไปด้วย การเตรียมงานพระราชพิธี ทางศาสนพิธี มีการเจริญพระพุทธมนต์ และการแสดงพระธรรมเทศนา ตักบาตรและถวายสังฆทานแด่ พระสงฆ์ และการจัดแสดงงานนิทรรศการ ระหว่างวันที่ 1-31 ตุลาคม 2552 เกี่ยวกับพระประวัติ พระศาสนกิจ พระเกียรติคุณ นอกจากนี้ยังมีการจัดทำหนังสือพระประวัติ พระศาสนกิจ พระเกียรติคุณ พระนิพนธ์ในสมเด็จพระสังฆราช
ในส่วนของสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อเทิดพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสดังกล่าว ซึ่งประกอบไปด้วยการจัดจุดลงนามถวายพระพร, มีการแจก “น้ำพระพุทธมนต์ 8 รอบสมเด็จพระสังฆราช” เพื่อความเป็นสิริมงคล, การแจก “พระสมเด็จกลีบบัว” ที่จัดสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2511 จำนวน 84,000 องค์แก่พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมในงาน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
พุทธศาสนิกชนที่สนใจในกิจกรรมดังกล่าวของสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชสามารถมาร่วมงานได้ตั้งแต่วันที่ 1-11 ตุลาคม พ.ศ. 2552 เวลา 09.00-18.00 น. ณ บริเวณหน้าพระตำหนักสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร
ทางด้านพุทธศาสนิกชนที่อยู่ต่างจังหวัด สามารถมีส่วนร่วมในงานฉลองได้ในวันที่ 3 ตุลาคม 2552 โดยมีสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทุกจังหวัดเป็นผู้จัดกิจกรรมขึ้น ประกอบด้วย กิจกรรมตักบาตร เจริญพระพุทธมนต์ ร่วมเข้าฟังธรรมเทศนา ปฏิบัติธรรม และมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับพระประวัติ ศาสนกิจ พระเกียรติคุณ โดยสามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่างทั้งหมด ได้ที่จังหวัดและวัดต่างๆ ทั่วประเทศ
นอกจากกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นเพื่องานฉลองเทิดพระเกียรติแด่เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในวโรกาสพิเศษเช่นนี้ได้มาบรรจบกัน ทางสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช จึงได้จัดทำโครงการ “สายรัดข้อมือมหามงคล สมเด็จพระสังฆราช” มีการออกแบบให้เป็นสายรัดข้อมือ 3 สี 3 เส้น สีเหลือง สีขาว สีฟ้า ซึ่งเป็นสีประจำตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ สมเด็จพระสังฆราช โดยสายรัดข้อมือได้ผ่านพิธีมังคลาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร ซึ่งถือได้ว่าเป็นสิริมงคลของชีวิต เพราะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่จัดทำขึ้น
ทั้งนี้ สมเด็จพระสังฆราช ได้ทรงจัดตั้งกองทุนในชื่อว่า “ทุนสมเด็จพระญาณสังวร” เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมงานวิชาการทางด้านการศึกษา โดยทุนดังกล่าว นำมาจากการจำหน่าย “สายรัดข้อมือมหามงคลสมเด็จพระสังฆราช” ได้มีการมอบให้แก่คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนคริทรวิโรฒ เพื่อสนับสนุนงานด้านวิชาการและเป็นทุนภัตตาหารเพลสำหรับพระภิกษุ สามเณร ที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นแห่งแรก นอกเหนือจากการจัดพิมพ์หนังสือพระนิพนธ์ ซึ่งเป็นจุดประสงค์หลักของโครงการนี้
ยิ่งไปกว่านั้นพุทธศาสนิกชนทุกท่านสามารถร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดพิมพ์หนังสือพระนิพนธ์ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่อร่วมเผยแพร่พระพุทธศาสนาโดยการแจกจ่ายเป็นธรรมทานแก่วัดและสถานศึกษาทั่วประเทศผ่านทางโครงการ “สายรัดข้อมือมหามงคลสมเด็จพระสังฆราช”
พุทธศาสนิกชนท่านใดสนใจร่วมบริจาคและสนับสนุน โครงการดังกล่าว ในราคา 199 บาท ได้ที่สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร , ร้านจิตรลดาทั้ง 14 สาขา , ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ, ธนาคารไทยพาณิชย์ (ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล), ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ , โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และ สำนักงานบริการลูกค้าดีแทค เฉพาะกรุงเทพทั้ง 11 สาขา หรือ สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์ (02) – 281-2831-2 แฟกซ์ (02) – 281-2833
ในวาระอันเป็นสิริมงคล ขอเชิญชวนพุทธบริษัททุกหมู่เหล่า ร่วมกันตั้งจิตอธิษฐานน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรถวายพระกุศล ให้ทรงพระสุขพลนามัยสมบูรณ์ ทรงพระเจริญพระชนมายุยิ่งยืนนาน เสด็จสถิตเป็นสิริมิ่งมงคลแก่ปวงพุทธศาสนิกบริษัทและสาธุชนสืบไป
ไม่ว่าพุทธศาสนิกชนจะอยู่ ณ แห่งหนใดก็ตาม สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโอกาสสำคัญ ที่จะร่วมฉลองเพื่อเทิดพระเกียรติแด่ เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสที่ทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชเป็นเวลานานถึง 20 ปี และทรงเจริญพระชนมายุครบ 8 รอบ 96 พรรษา ได้พร้อมกันทั่วประเทศ