คุ้นหน้าคุ้นตากันดีกับสาวน้อยแนวหวานใสอย่าง "น้องวิว" พงศ์ชนก กันกลับ วัย 18 ปี ผู้คว้ารางวัลรองอันดับ 1 จากการประกวด Miss Photo Hitech 2009 รวมถึงตำแหน่งมิสมอเตอร์โชว์แปซิฟิก
แต่ด้วยความฝันและความสามารถที่ดูจะขัดกับภาพสาวหวานของเธออย่างจัง ทำให้น้องวิวในวันนี้มีตัวตนที่โดดเด่นเกินใคร
ด้วยความชอบทางด้านศิลปะการต่อสู้เทควันโด ในวันนี้เธอมีดีกรีถึงระดับสายดำ ทำให้น้องวิวได้แสดงฝีมือเป็นดาราสาวบู๊แหลกในละครโทรทัศน์เรื่อง พยัคฆ์ยี่เก ได้อย่างไม่มีที่ติ อีกทั้งล่าสุดน้องวิวได้เข้าสมัครคัดเลือกเป็นตัวแทนทีมชาติสู่การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ประเทศลาวในปลายปีนี้ ทำให้เป็นที่ฮือฮาในวงการกีฬาอยู่ไม่น้อย
ในวันนี้ M Lite มีโอกาสได้สัมภาษณ์สาวกล้ามากความสามารถคนนี้ กับความประทับใจแรกคือ เมื่อเห็นน้องวิวเดินมากับเพื่อนๆ ในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ไม่ได้รัดติ้ว สั้นเต่อเหมือนแฟชั่นสมัยใหม่จนน่ากลัวแบบที่มีให้เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ พร้อมรอยยิ้มสดใส และน้ำเสียงนุ่มชวนฟัง
แรงบันดาลใจ...สาวหน้าใสกับกีฬาสายบู๊
“วิวเริ่มเล่นเทควันโดมาตั้งแต่อยู่ ม.2 ก็ประมาณ 6-7 ปีแล้วค่ะ ฝึกอยู่ที่ยิมทวีศิลป์เทควันโด ซึ่งเป็นโรงยิมเฉพาะของสมาคมจังหวัดปทุมธานี โดยส่วนตัวคิดว่าการเล่นเทควันโดเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ รวมถึงเป็นการออกกำลังกายทำให้เรารู้สึกดีค่ะ”
“ตอนแรกเห็นพวกรุ่นพี่มาฝึกที่โรงเรียน เห็นเป็นเตะๆ ต่อยๆ ก็ชอบเลยสนใจอยากเล่นดูบ้าง แล้วชุดก็เท่ดี รวมไปถึงมองว่าเป็นการป้องกันตัวด้วย เพราะอันตรายข้างนอกตอนนี้มีเยอะมาก คิดว่าผู้หญิงสมัยนี้ควรจะเรียนไว้บ้างถ้าเป็นไปได้ก็ดีค่ะ”
ส่วนการสอบสายดำนั้นน้องวิวยอมรับว่า กว่าจะได้มาก็ยากอยู่เหมือนกัน ใช้เวลาฝึกประมาณเกือบปีถึงจะไปสอบเลื่อนขั้นได้ขนาดนั้น โดยสอบเลื่อนขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่สายสี ขาว เหลือง เขียว ฟ้า น้ำตาล แดง และดำ ซึ่งต้องจำท่าได้หมดถึงจะสอบได้ และต้องไปสอบที่สมาคมมวยโลก ซึ่งเพิ่งได้สายดำมาเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้วนี่เอง
น้องวิวจึงเล่าถึงบรรยากาศการคัดตัวทีมชาติที่ผ่านมาให้ฟัง
“คัดตัวทีมชาติก็คัดไปเรียบร้อยแล้วค่ะ มีผู้หญิงจากทั่วประเทศไทยที่ไปคัดก็ประมาณ 30 กว่าคน คัดให้เหลือ 8 คน ซึ่งวันที่ 14 สิงหาคมนี้วิวก็ต้องเข้าเก็บตัวซ้อมแล้ว ส่วนความรู้สึกตอนที่ไปคัดตัวรู้สึกตื่นเต้นมากๆ ค่ะ (หัวเราะ) เพราะเรียนในรูปแบบต่อสู้มาโดยตลอด แล้วเพิ่งมาเปลี่ยนเมื่อไม่นานมานี้”
สายที่เธอเปลี่ยนมาฝึกก็คือ พูมเซ(Poomsae) ซึ่งจะเกี่ยวกับพวกกระบวนท่ารำต่างๆ น้องวิวบอกว่า ส่วนหนึ่งที่เปลี่ยนเพราะไม่ค่อยมีเวลาว่างซ้อม ถ้าเล่นสายต่อสู้จะต้องใช้เวลาซ้อมเยอะกว่ามาก พร้อมทั้งยอมรับว่าเธอยังต้องพัฒนาในเรื่องความแข็งแรงของท่าร่ายรำอยู่ และความถูกต้องเป็นบางท่าด้วย ซึ่งเมื่อเข้าไปเก็บตัวก็จะมีเวลาซ้อมประมาณหนึ่งเดือน โดยมีโค้ชจากเกาหลีมาคอยคุมคอยสอนให้
“ส่วนไอดอลของวิวคือพี่แม็ก ชัชวาล เพราะว่าเป็นพี่ที่ยิมเดียวกันแล้วก็ พี่เขาเก่งแล้วขยันซ้อมดีค่ะ”
สิ่งสำคัญที่สุดคือกำลังใจเวลาที่ต้องฝึกซ้อมและทำในสิ่งที่ฝัน ก็คือ คุณพ่อคุณแม่ เพื่อนๆ แล้วก็ตัวน้องวิวเองด้วย และเชื่อว่าต้องทำทุกๆ วันให้ดีที่สุด โดยทุกวันนี้มีอาจารย์ทวีศิลป์ คำนวณ หรือ อ.เข้ม ที่ทวีศิลป์เทควันโดยิม ซึ่งฝึกซ้อมที่นี่เป็นประจำ คอยสอน แนะนำเทคนิคจนน้องวิวสามารถผ่านการคัดเลือกเป็นตัวแทนทีมชาติได้สำเร็จ
เด็กสาวคนหนึ่งที่ชื่อ ‘วิว’
น้องวิวบอกว่า นิสัยส่วนตัวเป็นคนห้าวๆ ร่าเริงสนุกสนาน ชอบอยู่กับเพื่อนๆ ส่วนข้อเสีย(ที่เราแอบถามเพื่อนๆ ของน้องวิว) ก็คือขี้ลืม ออกแนวโก๊ะๆ หน่อย ชอบลืมโน่นลืมนี่ แล้วก็พูดเร็ว พูดคำผิดบ่อยๆ ซึ่งก็เรียกเสียงหัวเราะจากกลุ่มเพื่อนได้บ่อยครั้ง แต่ข้อดีก็คือเป็นคนที่พูดเก่ง เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ได้ชื่อว่าเป็น ‘นางงามมิตรภาพ’ สำหรับเพื่อนๆ ในกลุ่มเลยทีเดียว
ปัจจุบันน้องวิวเรียนคณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิทยุและโทรทัศน์ ที่มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ที่เธอเลือกเรียนเพราะอยากเรียนรู้เบื้องหลังของการทำงาน แสงสีเสียง เบื้องหลังวงการบันเทิง น้องวิวยังบอกด้วยว่า ถ้าหากไม่ได้เข้าวงการบันเทิง หรือไม่ได้เล่นเทควันโดก็คงจะเลือกทำงานเบื้องหลังทางโทรทัศน์
“เวลาว่างๆ ก็ชอบดูหนังฟังเพลง มีหนังเรื่องโปรดคือ “ออสเตรเลีย” เพราะมีฉากบู๊เยอะดีค่ะ เวลาไปเที่ยวก็ชอบแต่งตัวสบายๆ แต่ก็ดูดี สปอร์ตๆ หน่อย แต่ก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เพราะไม่ค่อยว่าง ว่างเป็นซ้อมตลอดค่ะ แต่ถ้าไปเที่ยวกับเพื่อนก็จะไปดูหนังกัน หรืออาหารที่ชอบก็จะเป็นราดหน้าแถวบ้าน ก็ไม่ได้กินจุมาก ถ้ากินเยอะก็ 2 จาน แล้วก็ขนมอีก แต่ก็พยายามจะไม่กินของที่มีไขมันเยอะๆ บวกกับออกกำลังกายอยู่เรื่อยๆ ซึ่งนอกจากเข้ายิมฝึกเทควันโดแล้ว ก็จะวิ่งออกกำลังกายแถวบ้านด้วยค่ะ”
สองทางที่เลือกเดิน
“วิวได้รับตำแหน่งมิสมอเตอร์โชว์แปซิฟิกเมื่อปีที่แล้ว ในปีนี้ก็มีประกวดมิสโฟโต้ฮัทซึ่งได้ที่สองมา ถ้าถามว่าอยากมาทางนี้ไหม คือคิดว่าได้ทั้งสองทางค่ะ ถ้าว่างก็ไปประกวดด้วยก็ได้ แล้วก็แบ่งเวลามาซ้อมเทควันโดด้วย เพราะมันสนุกทั้งสองอย่าง เวลาทำงานได้เจอเพื่อนๆ คนอื่นเยอะแยะ แต่ถ้าเป็นเทวันโดก็ได้ออกกำลังกาย ได้เจอเพื่อนที่อยู่ในวงการเทควันโดด้วยกัน แต่ถ้าให้เลือกจริงๆ แล้ว หากวิวติดทีมชาติวิวก็จะทุ่มเท พยามให้เทควันโดเต็มที่ค่ะ เพราะอยากเป็นตัวแทนของชาติ ได้รับเหรียญทอง ไหนๆ ก็มาขนาดนี้แล้ว”
น้องวิวเล่าว่า ในการประกวดมิสมอเตอร์โชว์ จะมีส่วนที่ให้แสดงความสามารถพิเศษด้วย ก็จะได้เปรียบตรงที่ว่าโชว์เทควันโด ไม่ค่อยมีผู้หญิงคนอื่นเขาทำกัน ถามว่าถนัดอย่างอื่นนอกจากเทควันโดไหม เธอพยายามคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้าและบอกว่า “คงไม่มีค่ะ เตะต่อยอย่างเดียว (หัวเราะ) แต่ก็ไม่เคยไปมีเรื่องอะไรกับใคร เคยโดนมีหาเรื่องบ้าง แต่ก็ลืมๆ หายๆ กันไป เพราะเขารู้ว่าวิวเล่นเทควันโดเขาก็ไม่ยุ่ง ยิ่งเป็นสายดำก็ยิ่งไม่ยุ่งใหญ่”
“ถ้าถามว่าอยากเป็นนักเทควันโดมืออาชีพไหมก็คิดเหมือนกัน แต่เราก็ต้องแบ่งเวลาให้ถูกค่ะ เพราะก็ยังมีงานเข้ามาเรื่อยๆ คือเพิ่งแสดงละครช่อง 7 เรื่อง พยัคฆ์ยี่เก ไป แล้วตอนนี้ก็กำลังจะมีภาค 2 ต่อด้วย”
การบริหารเวลานั้นน้องวิวต้องแบ่งเวลาทั้งซ้อมเทควันโด เรียน หรือทำงาน ด้วยการแบ่งจัดตารางเป็นไดอารีว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง แล้วถ้าวันไหนว่างก็ต้องไปซ้อม ซึ่งในสัปดาห์หนึ่งเธอซ้อมประมาณ 3-4 วัน โดยส่วนใหญ่เป็นเวลาตอนเย็นหลังเลิกเรียน
“การซ้อมหนักๆ นี่ไม่ได้กระทบต่อการเรียน เพราะว่าหากต้องไปเก็บตัวซ้อมก็ต้องมีใบรายงานให้มหาวิทยาลัยทราบด้วย”
ฝันของน้องวิวนั้นอยากให้ไปไกลแค่ไหน เธอตอบว่า หากเป็นในวงการเทควันโดก็อยากไปให้ไกลถึงโอลิมปิก แต่ถ้าในวงการบันเทิงนั้นเป็นแค่นักแสดงทั่วไปก็พอแล้ว ไม่ต้องดังมากมาย
“ถ้าจะเป็นนางเอกคงต้องดูก่อนว่าหน้าตาเข้าขั้นหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นได้ก็ดี (หัวเราะ) ซึ่งถ้าแสดงเชิงบู๊ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นพวกบทหวานๆ ก็คงต้องเรียนการแสดงเพิ่มอีกทีค่ะ แต่วิวจะถนัดแนวบู๊มากกว่า”
ส่วนคุณพ่อคุณแม่จะคอยสนับสนุนน้องวิวทั้งสองอย่าง คือไม่ว่าจะเป็นเทควันโด หรือทางวงการบันเทิง การแสดง มีไปส่งที่กองถ่ายด้วย แล้วแต่ว่าจะเลือกเดินทางไหน ก็จะคอยสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้เต็มที่เสมอ แต่เพื่อนๆ จะมองว่า “นี่จะเอาทางไหนกันแน่“
พอถามเรื่องความรักวัยรุ่นของน้องวิวเป็นอย่างไรบ้าง กลับได้รับคำตอบที่แสดงถึงความคิดที่เติบโต
“ในเรื่องความรักก็มีคุยกันบ้างค่ะ เป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ถ้าเป็นเรื่องความรักกับการงาน วิวก็เลือกเรื่องงานไว้ก่อนดีกว่า คิดว่าเรื่องความรักนี่มันต้องอีกนาน ตอนนี้ก็คุยๆ กันไปก่อนค่ะ”
“สุดท้ายก็อยากจะบอกว่า วิวจะทำให้เต็มที่ทั้งสองทางทั้งบันเทิงและเทควันโด โดยเฉพาะในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ ก็อยากให้ทุกคนช่วยเชียร์วิวด้วยค่ะ”