เอาแล้วล่ะสิ! ช่วงฤดูกาลแห่งฝนมาเยือนแล้ว และทำท่าว่าจะโปรยลงมาแทบทุกวัน ทำเอาอากาศร้อนๆ หายไปเป็นปลิดทิ้ง
แต่อย่าพึ่งสบายใจกับอากาศในช่วงนี้ไป หันมาดูแลบ้านของคุณกันดีกว่า แม้ว่าความเชื่อในสมัยก่อนจะบอกเอาไว้ว่า ห้ามปลูกหรือซ่อมแซมบ้านในช่วงเดือนหก เพราะสร้างบ้านท่ามกลางสายฝนเป็นเรื่องยาก แต่ช่วงนี้ฤดูฝนกำลังเริ่มต้น เราก็ควรหาวิธีดูแลและแก้ไขก่อนสายฝนจะกระหน่ำลงมามากกว่านี้
วันนี้เรามีคำแนะนำดีๆ จาก คุณเจียรมัย พิทักษ์วงศ์ บรรณาธิการบริหารนิตยสารบ้านและสวน ถึงวิธีการในการดูแลบ้านของคุณ
ก่อนอื่นมาตรวจสอบดูรอบๆ บ้านของคุณก่อนว่า ท่อระบายน้ำ หรือรางน้ำที่บ้านคุณเอง มีเศษใบไม้ใบหญ้า หรือเศษดิน หินต่างๆ อยู่ในท่อหรือเปล่า เพราะสิ่งปฏิกูลเหล่านี้อาจทำให้ท่อระบายน้ำของคุณอุดตัน จนทำให้ระบายน้ำไม่ทัน เกิดท่ออุดตันได้ และทำให้น้ำฝนที่ขังอยู่ไหลย้อนเข้าสู่ตัวบ้านต้องทำความสะอาดและซ่อมแซมอยู่บ่อยๆ เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย ทางที่ดีควรหมั่นตรวจเช็dดูรางระบายน้ำฝนและท่อระบายน้ำทุก 3 เดือน เพื่อแก้ปัญหาไม่ให้เศษใบไม้หล่นเข้าไปในท่อ ควรหา ตะแกรง มากรองเพื่อไม่ให้เศษหญ้า ใบไม้ตกลงไปได้
และในช่วงฤดูฝนควรระวังพื้นรอบบ้านลื่น ให้หาน้ำยามาฆ่าเชื้อราและตะไคร่น้ำมาขัดมาล้าง ถ้าเป็นระเบียงพื้นกระเบื้องเซรามิกก็ควรหาน้ำยากันลื่นไว้ติดบ้าน และลงน้ำยาให้พื้นฝืดขึ้นซึ่งสามารถกันพื้นลื่นได้ประมาณ 3 เดือน ป้องกันการลื่นล้มของคนในบ้านได้
หากบ้านของคุณเป็นบ้านไม้ หรือมีบางส่วนของบ้านเป็นไม้ก็ควรลงน้ำยาเคลือบ หรือทาสีย้อมไม้ใหม่ ป้องกันไม่ให้สีหลุดลอก หรือทาสีย้อมไม้ใหม่ควรทำก่อนฝนมาจะดีมาก
สิ่งสำคัญที่สุดในช่วงฤดูฝน ควรตรวจดูผนังบ้านว่าบ้านมีรอยร้าว รอยรั่วตามบริเวณหน้าต่าง ประตู ผนังปูน และระวังน้ำฝนสาดเข้ามาในตัวบ้าน อาจติดกันสาดเพื่อป้องกัน หรือเปลี่ยนร่องยาแนวเสียใหม่ เพื่อไม่ให้น้ำซึมเข้ามาในตัวบ้าน
ในบางครั้ง ในช่วงนี้น้ำอาจถูกสะสมไว้ในชั้นใต้ดิน ซึ่งอาจจะซึมผ่านเข้ามาในตัวบ้าน ทำให้เกิดคราบดำของเชื้อราหรือน้ำเหนียวตามพื้นร่องของพื้นผิว ให้หายากันซึมมาฉาบหรือทาเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นซึมผ่านเข้ามา จะช่วยลดรอยแตกลายงาของคอนกรีตได้ดี และทำให้คอนกรีตดูแข็งแรงเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย และหากหมดช่วงหน้าฝนไปก็ให้ปูพื้นทับไปใหม่อีกที
นอกจากนี้ต้องสังเกตดูว่าส่วนไหนของบ้านที่เป็นบริเวณน้ำขังบ้าง เพราะในช่วงฤดูฝนอย่างนี้ บริเวณหลุม บ่อ กระถางต้นไม้ หรือสิ่งของที่เป็นที่ขังของน้ำ อาจเป็นที่วางไข่ของเจ้ายุงร้ายที่เป็นพาหะนำโรคต่างๆ มาให้คุณได้ โดยเฉพาะยุงลายที่ทำให้เกิดโรคไข้เลือดออก ควรคว่ำน้ำที่ขังนั้นทิ้งไปซะ เพื่อป้องกันก่อนจะเป็นอันตรายต่อคนในครอบครัว
นอกจากยุงที่เป็นสัตว์พาหะนำโรคแล้ว มด แมลงเม่า ก็จะพากันอพยพเข้าไปในบ้านของคุณ ควรหาชอล์กกันมดมาขีดตามประตูหน้าต่าง หรือบริเวณที่จะทำให้มดเข้ามาในบ้านของเราได้ หรือใช้ยาฆ่าแมลงเพื่อกำจัดมด และอย่าลืมสังเกตให้ดีว่า บริเวณใกล้บ้านมีแมลงเม่า เพราะเป็นสัญญาณที่บอกว่าบ้านของคุณปลวกเยอะ ควรรีบกำจัดปลวกก่อนจะทำบ้านคุณพัง
ในบริเวณสวนของคุณเองก็ควรดูแลต้นไม้ไม่ให้กิ่งของมันยื่นออกมาข้างนอกบ้านหรือขึ้นไปเหนือหลังคาบ้านมากจนเกินไป หากเกิดพายุลมพัดแรง อาจทำให้กิ่งไม้หักโคนลงมาใส่ตัวบ้านได้ และสวนสนามหญ้าก็ควรหมั่นกำจัดวัชพืช หรือหญ้าในสนามไม่ให้รกมากไปกว่านี้ อาจเป็นแหล่งอาศัยของ งู หรือสัตว์นานาชนิดได้
เพียงเท่านี้...คุณก็ดูแลรักษาบ้านของคุณให้มีสภาพดีและน่าอยู่ในช่วงฤดูฝนกันแล้ว แต่อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ
