แจ้งเกิดกับรายการในเครือเวิร์คพ้อยท์ สำหรับตลกสาวหน้าตาย เพียงแค่เห็นหน้าก็ฮาแม้จะยังไม่เล่นมุกใดๆก็ตาม "ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน" หรือ "สุดารัตน์ บุตรพรหม" เด็กปั้นของ "หม่ำ จ๊กมก" ที่ใครต่อใครเรียกเธอว่าเด็กจากโครงการ "หม่ำโมเดลลิ่ง" อดีตจากการออกทีวีเพียงฉากสองฉากในรายการชิงร้อยชิงล้าน แต่ปัจจุบันเธอกลับได้รับโอกาสและแรงผลักดันให้เล่นหนัง ออกงาน และเรียกว่ากำลังมาแรงทีเดียวสำหรับตลกพ.ศ.นี้
กลางงานแถลงข่าวรอบสื่อมวลชนของหนังที่ตุ๊กกี้ร่วมแสดงอย่าง "วงษ์คำเหลา" ของค่ายสหมงคลฟิล์มและค่ายหนังของหม่ำ จ๊กมก แน่นอนว่าตลกหญิงวัย 30 อย่าง "ตุ๊กกี้ ชิงร้อยฯ" ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนหลายแขนง และโดดเด่นด้วยบทบาทการแสดง และมุกการแสดงที่นิ่ง เรียบเฉยแต่ขำด้วยกิริยาท่าทางของเธอเสียมากกว่า
ตุ๊กกี้เล่าว่าแท้จริงแล้วเธอไม่ใช่คนตลก แต่เป็นคนพูดเก่งที่แจ้งเกิดเพราะตลกเป็นผู้ผลักดัน และผันตัวเองจากคนดูแลเสื้อผ้าให้หม่ำ มาเป็นตลกเต็มตัว...
"เข้ามาคลุกคลีกับตลกประมาณ 6 ปี ตุ๊กกี้เป็นคอสตูมของพี่หม่ำ เป็นฝ่ายเสื้อผ้าของแก๊งสามช่า ได้บทที่หยิบยื่นมา อาทิตย์ต่ออาทิตย์ โผล่มั่งไม่โผล่มั่ง กระจายกันไป มาแสดงเต็มๆตัวเลยนี่ก็ประมาณ 3 ปีได้ เล่นทุกรายการของเวิร์คพ้อยท์ จะเห็นตุ๊กกี้อีกนานเป็นสิบปี เพราะเป็นเด็กของคุณปัญญา รับงานของพี่หม่ำก็คือสัญญาใจ แต่เวิร์คพ้อยท์ คือหลังคาใหญ่ ที่เราอยู่ในบ้านหลังนั้น"
เจ้าตัวเล่าว่าไม่ใช่คนตลก หากแต่เข้าวงการนี้ได้เพราะโอกาสที่ผู้ใหญ่หยิบยื่นให้
"ตุ๊กกี้เรียนวิทยาลัยนาฏศิลป์ ที่กาฬสินธุ์นะคะ จบม.6 ก็เอนทรานซ์ เข้ามหาวิทยาลัยมหาสารคาม เอกศิลปะการแสดง นาฏศิลป์ไทย แล้วก็ไปอยู่ภูเก็ตแฟนตาซีในตำแหน่งนักแสดง 2 ปี แล้วมาอยู่เวิร์คพ้อยท์นี่คือตำแหน่งคอสตูมค่ะ คุณปัญญาเพิ่งให้ออกพนักงานประจำเมื่อ 3 ปีที่แล้วค่ะ คุณปัญญา พี่เท่ง พี่โหน่ง ก็ค่อยๆเจียระไนว่าต้องไปทางไหน ปรากฏว่าเขาสนิทกับเรา ตุ๊กกี้เป็นคนไม่ค่อยอาย ให้ทำอะไรก็ทำ เป็นเด็กใหม่ที่เทิร์นโปร แล้วพี่หม่ำก็ให้ลองมาเล่นชิงร้อยชิงล้านดู ออกไปไม่ทันพูดอะไรแค่ทำหน้านิ่งคนก็ฮากันแล้ว เป็นผู้ใหญ่ก็เลยคุยกัน ดันเราขึ้นมา"
"ที่จริงเป็นคนพูดเก่ง ไม่ตลก ไม่ค่อยเกี่ยงบทให้เล่นอะไรก็เล่น คุณปัญญา พี่หม่ำให้เล่นอะไรก็เล่น ไม่เกี่ยงว่าต้องบทอะไร ผู้ใหญ่ก็ชอบไม่หนักใจกับตุ๊กกี้ เราทำได้หมด"
เจ้าตัวเล่าถึงโอกาสที่ได้รับล่าสุดเธอได้รับการเชิญขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ของศิลปินโปเตโต้ ทำเอาฮือฮาด้วยมุกนิ่งๆสไตล์ตุ๊กกี้ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าภาคภูมิใจกับชื่อเสียงและการงานที่มีคิวแสดงถึงสิงหาคมไม่ว่างแม้แต่วันเดียว
"ภาคภูมิใจแล้วก็ตื่นเต้นมาก หลายๆอย่าง ได้ไปขึ้นคอนเสิร์ตของโปเตโต้ อยากถามน้องๆว่าคิดอะไรกันอยู่ แต่เขาก็บอกว่าตุ๊กกี้เป็นผู้หญิงตลกตอนนี้กำลังมาแรง ร้องเพลงไม่เพราะปั๊บไม่ว่า เต้นเก่งปั๊บยอม แต่อยากให้พี่ตุ๊กกี้มาเป็นเกียรติในคอนเสิร์ต เราก็เลยเต็มที่ ตอนนี้ยอมรับกับสภาพที่เป็นอยู่ทั้งชื่อเสียง แล้วก็ถือว่าเป็นคนของประชาชน จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และอยู่ในหน้าที่นี้ให้นานที่สุด ถึงแม้ว่าหัวโขนนี้ ที่สวมให้จะเป็นอะไรก็ช่าง แต่ความเป็นกำพืดของตุ๊กกี้ ตุ๊กกี้ก็ยังเป็นคนเดิมอยู่ค่ะ"
"เราก็ก้าวไปเรื่อยๆ ไม่ได้ลำบากมาก เพราะมีผู้ผลักดันที่ดี ตอนนี้มีเสี่ยเลี้ยงสองคนคือ คุณปัญญาแล้วก็พี่หม่ำผลงานก็ออกมาตามที่ผู้ใหญ่หยิบยื่นให้นะคะ ความฮาคือความแปลกของตุ๊กกี้ ความแปลกกำลังมาค่ะ.. (ยิ้ม) ถ้ามีคนมาแปลกกว่า ก็น่าจะไปได้ดี แต่ว่าตอนนี้ตุ๊กกี้แปลกที่สุดแล้วค่ะ ก็เลยยังคงที่หนึ่งอยู่ มุกก็ไม่มีอะไรมาก เป็นตัวของตัวเอง ตุ๊กกี้ตัวจริงกับในทีวี ก็เหมือนกันเนี่ยค่ะ ชีวิตจริงก็แปลก ในทีวีก็แปลกค่ะ"
หลากหลายรายการของเวิร์คพ้อยท์ ทั้งชิงร้อยชิงล้าน ตลก6 ฉาก และล้วงลับตับแตก เจ้าตัวบอกว่าเธอกวาดเรียบเธอบอกกับเราว่า แม้ว่าเธอจะมีงานเข้ามาและถือว่าอยู่ในช่วงกอบโกยแต่ อาชีพที่เธอใฝ่ฝันคือการเปิดร้านเช่าชุด หรือโรงเรียนสอนนาฏศิลป์ ตามที่เธอเคยร่ำเรียนมา
"มองอาชีพนี้เป็นแค่อาชีพรอง อาชีพหลักก็ยังอยู่ที่ปริญญาตรี ตุ๊กกี้จบนาฏศิลป์ไทย รำไทยมา หลักของนาฏศิลป์ก็คือไม่เป็นข้าราชการก็เปิดร้านเช่าชุด สอนรำไทยเป็นของตัวเองนั่นคือความใฝ่ฝันสูงสุด เมื่อมีเงิน คือเราเรียนเอกศิลปะการแสดงมา สิ่งที่เราเรียนมาที่ต้องทำคือกำกับเวที คอสตูม ออกแบบเสื้อผ้า ในสาขานี้วิชาชีพที่เรามาสมัครเวิร์คพ้อยท์ก็คือส่วนหนึ่งที่เรามาสมัครเช่นกัน"
"เวลานี้เป็นเวลาโกย ถามว่าเวลาเหนื่อยๆ ไม่มีใครให้กำลังใจตัวเองเท่ากับตัวเอง เหนื่อยมากจนหายใจไม่ออก ต้องถ่ายหนังเช้าอัดรายการ นอนอีกทีบนรถตู้ เหนื่อย หายใจไม่ทัน เราก็ให้กำลังใจตัวเองว่า เอาน่า ทำไมเวลารับเงินเราถึงยิ้ม"
ก่อนจะทิ้งท้ายกับเราบนเส้นทางตลกของเธอว่า จะคงยืนหยัดความฮาตามประสานิสัยเธอ และทุกครั้งในการทำงานจะให้คะแนนไว้พัฒนาตัวเองทุกครั้ง
"พี่เท่งบอกว่าตุ๊กกี้ที่มาเป็นตุ๊กกี้ทุกวันนี้ พี่เท่งบอกว่าคนเลียนแบบไม่ได้คือพรสวรรค์ ตุ๊กกี้เหมือนมีพรสวรรค์อยู่ในตัว ส่วนใครจะมองเห็นหรือเปล่าไม่รู้แต่ตอนนี้เวิร์คพ้อยท์มองเห็น ส่วนพี่หม่ำ ก็บอกว่าเราไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง เราร่าเริงสดใส บ้าบอ ถ้าเป็นแบบนี้ตลอดไปไม่มีคนไม่เอาหรอก คนจะแย่งกันด้วยซ้ำไป ตุ๊กกี้เป็นคนให้คะแนนตัวเอง อย่างเล่นหนัง จะบอกตัวเองว่ามีเต็ม 10 เราได้กี่ดาว ชอบให้กำลังใจตัวเอง"